Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน – ตอนที่ 1249 การกลับมาของใบหน้าภูตผี

เทพปีศาจหวนคืน  บทที่  1249 การกลับมาของใบหน้าภูตผี

แปลโดย  iPAT  

อิงอู๋เซี่ยรู้สึกถึงโชคที่สั่นสะเทือนขึ้น

ก่อนหน้านี้ฟางหยวนพัฒนาท่าไม้ตายอมตะสัมผัสแห่งโชคถึงระดับที่น่ากลัว แม้อิงอู๋เซี่ยจะซ่อนตัวอยู่ในมิติช่องว่าง  เขาก็ยังไม่สามารถหลบหนีจากการตรวจจับของฟางหยวน

แต่อิงอู๋เซี่ยไม่ใช่คนที่จะนั่งนิ่งเพื่อรอคอยความตาย  เขาคิดและตัดสินใจใช้ประโยชน์จากเรื่องนี้

อิงอู๋เซี่ยรู้ว่าเขาไม่สามารถหลบหนีจากการตรวจสอบ  ดังนั้นเขาจึงใช้วิธีเสริมความแข็งแกร่งให้กับการตรวจสอบของฟางหยวน

พวกเขามีโชคที่เชื่อมโยงถึงกัน  ฟางหยวนสามารถใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้เพื่อตามหาอิงอู๋เซี่ย  ดังนั้นอิงอู๋เซี่ยก็จะใช้ประโยชน์จากสิ่งเดียวกันแต่ทำในสิ่งตรงข้าม

อิงอู๋เซี่ยใช้วิญญาณบางดวงทำให้การสั่นสะเทือนของโชครุนแรงขึ้นเพื่อล่อลวงให้ฟางหยวนติดตามมา

ด้วยวิธีนี้ท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคยของฟางหยวนจะไม่สามารถหลอกลวงอิงอู๋เซี่ย

อิงอู๋เซี่ยเป็นร่างแยกของเทพปีศาจจิตวิญญาณ  แม้เขาจะสูญเสียความทรงจำมากมาย  แต่เขาก็ไม่ขาดแคลนความสำเร็จ

ระดับความสำเร็จเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

สิ่งนี้ทำให้อิงอู๋เซี่ยคิดวิธีการใหม่ๆได้ตลอดเวลา

“รวม กลุ่ม ! เราจะใช้กลยุทธ์ที่เคยคุยกันไว้เพื่อขับไล่ฟางหยวน ” เมื่อตระหนักถึงการคงอยู่ของฟางหยวน  อิงอู๋เซี่ยออกคำสั่งทันที

คนทั้งห้าหยุดเคลื่อนไหวและเริ่มจัดขบวนทัพ

หลังจากประสบความสำเร็จในการโน้มน้าวไป่หนิงปิงให้เข้าร่วมกองกำลังพันธมิตร มรดกในถ้ำสวรรค์ไป่เซียงยังทำให้กลุ่มของอิงอู๋เซี่ยแข็งแกร่งขึ้นอีกมาก

“เขามาแล้ว !” ไป่หนิงปิงกล่าว

ด้วยค่ายกลวิญญาณที่มีประสิทธิภาพ  พวกนางสามารถตรวจสอบการเคลื่อนไหวของฟางหยวนได้อย่างแม่นยำ

ผู้อมตะอีกสี่คนมองนาง

เป็นเพียงเวลานี้ที่มังกรดาบบรรพกาลทะยานร่างขึ้นจากมหาสมุทรและบินผ่านท้องฟ้า

กลุ่มของอิงอู๋เซี่ยกำลังเผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่ง

ไป่หนิงปิงก้าวออกมา  “เจ้ากล้าเข้าสู่ค่ายกลวิญญาณของเราหรือไม่ ?”

แม้ร่างกายของไป่หนิงปิงจะเปลี่ยนแปลงไป  แต่รูปลักษณ์โดยรวมของนางยังคล้ายกับก่อนหน้า  ฟางหยวนตะลึงเล็กน้อย  เขาไม่คิดว่าจะได้พบไป่หนิงปิงอีกครั้งในสถานการณ์นี้

ในความเป็นจริงฟางหยวนกับไป่หนิงปิงไม่ได้พบกันมานานแล้ว  กระทั่งการต่อสู้บนภูเขาอี้เทียน  ไป่หนิงปิงก็ไม่ได้เข้าร่วม

ไป่หนิงปิงทรยศฟางหยวนที่แดนศักดิ์สิทธิ์สามกษัตริย์  พวกเขาแยกทางกันตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาและนี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขากลับมาพบกันอีกครั้ง

แต่ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว  ผู้ใช้วิญญาณวัยเยาว์สองคนจากภูเขาชิงเหมากลายเป็นผู้อมตะสองคนไปแล้ว

ไป่หนิงปิงเป็นอัจฉริยะที่มีอนาคตมืดมนด้วยร่างสุดยอดกายาน้ำแข็งแห่งความมืด แต่ตอนนี้นางกลายเป็นผู้อมตะระดับหกและยังเป็นเจ้าของถ้ำสวรรค์ไป่เซียง

ขณะเดียวกันประสบการณ์ของฟางหยวนยิ่งมากกว่าเดิม  แรกเริ่มเขากลายเป็นเจ้าของแดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หู  หลังจากนั้นเขาทำลายวังแปดสิบแปดเปลวเพลิงที่แท้จริงของภาคเหนือ  เขาเดินทางไปทั่วทั้งห้าภูมิภาค  สุดท้ายเขาปรากฏตัวขึ้นระหว่างการต่อสู้บนภูเขาอี้เทียนและฉกชิงร่างทารกอมตะไปจากนิกายเงา

ด้วยร่างทารกอมตะ  การบ่มเพาะของฟางหยวนพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและกลายเป็นผู้อมตะระดับเจ็ดไปแล้ว ด้วยการคลี่คลายอาณาจักรแห่งความฝัน  เขากลายเป็นปรมาจารย์บนเส้นทางหกสาย

ทั้งสองได้รับฉายาว่าปีศาจดำขาวในช่วงเวลาที่พวกเขาอยู่ที่ภาคใต้ในฐานะผู้ใช้วิญญาณ พวกเขาทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดแต่ครั้งนี้พวกเขากลับพบกันในฐานะศัตรู

“ได้  เช่นนั้นข้าก็จะสังหารเจ้าอีกคน ” ฟางหยวนเต็มไปด้วยเจตนาสังหาร  เขาคำรามและส่งลมหายใจมังกรออกไป

ลมหายใจมังกรพุ่งเข้าโจมตีไป่หนิงปิง

แต่ไป่หนิงปิงกลับเผยรอยยิ้มบางและไม่หลบ

ในเวลาต่อมาลมหายใจมังกรก็ปะทะกับกำแพงพลังงานที่มองไม่เห็น  มันไม่สามารถสร้างความเสียหายให้กับนางได้แม้แต่น้อย

ค่ายกลวิญญาณของพวกนางไม่ใช่เรื่องง่าย

‘ค่ายกลวิญญาณ ?’ ฟางหยวนคิด

ฟางหยวนมีความรู้เกี่ยวกับค่ายกลวิญญาณไม่มากนัก  มันเป็นเช่นนี้มาตั้งแต่ชีวิตแรกของเขา

เพื่อทำลายค่ายกลวิญญาณ  เขาจำเป็นต้องมีความสำเร็จบนเส้นทางแห่งค่ายกลหรือใช้วิธีบนเส้นทางแห่งปัญญา

ฟางหยวนเป็นปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งปัญญาแต่เขาขาดวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาที่มีประโยชน์ การอนุมานจุดอ่อนของค่ายกลวิญญาณไม่ใช่เรื่องง่าย

มังกรดาบบรรพกาลบินขึ้นสู่ท้องฟ้า

อิงอู๋เซี่ยและคนอื่นๆอยู่ในค่ายกลวิญญาณเพื่อรอการโจมตีของฟางหยวน

ในใจของฟางหยวนเต็มไปด้วยความคิดมากมาย

‘อีกฝ่ายใช้ค่ายกลวิญญาณ  พวกเขารู้ว่าไม่สามารถซ่อนตัวจากข้า  ดังนั้นพวกเขาจึงเป็นฝ่ายตรวจสอบการเคลื่อนไหวของข้าและเตรียมตัวรับมือ’

‘เรือที่แตกยังดีกว่าไม้กระดาน  ในช่วงเวลาสั้นๆอิงอู๋เซี่ยกลับสามารถคิดค้นวิธีการนี้ ’

ฟางหยวนยังไม่โจมตี

เขาไม่สามารถถอดรหัสค่ายกลวิญญาณนี้  หากเขาโจมตีโดยประมาท  มันอาจไม่เป็นผลดี

ดังนั้นฟางหยวนจึงต้องตรวจสอบเป็นอันดับแรก

ขณะที่ฟางหยวนและกลุ่มของอิงอู๋เซี่ยกำลังต่อสู้กัน  เหตุการณ์ใน อุโมงค์มิติที่สวรรค์สีดำ  คฤหาสน์วิญญาณอมตะสามหลังกำลังเคลื่อนที่ไปข้างหน้าอย่างช้าๆ

นักรบหมื่นมังกรตื่นขึ้นแล้ว  เขามองอุโมงค์มิติและถอนหายใจ  “วิธีการของเทพปีศาจปล้นสวรรค์ช่างลึกลับนัก  เขาจากไปนานแล้วแต่สิ่งนี้ยังอยู่มานานหลายแสนปีและสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากข้าไม่เห็นกับตาของตนเอง  ข้าจะไม่เชื่อเรื่องนี้ ”

เว่ยหลิงหยางยิ้ม  “เมื่อเจ้าตื่นแล้ว  เราจะไม่รั้งรอต่อไปอีก  ไปกันเถอะ ”

ปรากฏว่าผู้อมตะภาคกลางสามารถออกจากอุโมงค์มิตินานแล้วแต่พวกเขารอให้นักรบหมื่นมังกรตื่นขึ้น

นักรบหมื่นมังกรใช้ท่าไม้ตายอมตะสายเคลื่อนไหวเพื่อหลบหนีจากอุปสรรคก่อนจะเข้าสู่ห้วงนิทรา

เมื่อเขาตื่นขึ้น  กองกำลังผู้อมตะภาคกลางจึงกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้งด้วยพลังอำนาจของผู้อมตะระดับแปดสามคน!

คฤหาสน์วิญญาณอมตะทั้งสามระเบิดความเร็วและพุ่งไปข้างหน้า

ที่นี่คือส่วนสุดท้ายของอุโมงค์มิติ

ผู้อมตะภาคกลางกำลังรอคอยการต่อสู้ในอนาคตอย่างกระตือรือร้น

‘หงหยุน  อดทนไว้  ข้ามาแล้ว !’ ดวงตาของจ้าวเหลียนหยุนส่องประกายขึ้นด้วยความมุ่งมั่นขณะที่นางเตรียมความพร้อมทางจิตใจ

แต่ที่ปลายอุโมงค์มิติกลับเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น

ทันใดนั้นใบหน้าภูตผีขนาดใหญ่พลันปรากฏขึ้นและกีดขวางเส้นทางของคฤหาสน์วิญญาณอมตะทั้งสามหลังเอาไว้

“เกิดสิ่งใดขึ้น ?”

“นี่คือเทพปีศาจจิตวิญญาณ …”

ผู้อมตะระดับแปดทั้งสามตกใจมากเมื่อเห็นใบหน้าภูตผีอ้าปากคำรามโดยไรีเสียง

เมื่อมันคำราม  อุโมงค์มิติทั้งหมดก็เริ่มพังทลายลง  ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าจำนวนนับไม่ถ้วนกระจัดกระจายออกไปทุกหนทุกแห่ง อุโมงค์มิติเกิดรอยแตกร้ายราวกับใยแมงมุม

“เพล้ง !”

ด้วยเสียงราวกับกระจกแตก  อุโมงค์มิติระเบิดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

“ป้องกัน !” นักรบหมื่นมังกรตะโกน

“อดทนไว้ !” ไป่เฉินเทียนและเว่ยหลิงหยางกระตุ้นใช้งานคฤหาสน์วิญญาณอมตะของพวกเขาจนถึงขีดสุด

อย่างไรก็ตามคฤหาสน์วิญญาณอมตะทั้งสามกลับเปราะบางราวกับไม้กระดานที่เผชิญหน้ากับคลื่นยักษ์ พวกมันไม่สามารถทำสิ่งใด

คฤหาสน์วิญญาณอมตะทั้งสามหลังถูกแยกออกจากกันในครั้งเดียว

ช่องว่างขนาดใหญ่กลืนกินทุกสิ่งเข้าไปราวกับปากของอสูรกาย

ศาลานกขมิ้นที่อยู่ภายใต้การควบคุมของนักรบหมื่นมังกรไม่สามารถต่อต้าน มันถูกช่องว่างของห้วงมิติกลืนกินและหายไปอย่างไร้ร่องรอย

หอคอยวายุและค่ายนักรบตกอยู่ในสถานการณ์สิ้นหวัง  พวกมันค่อยๆพังทลายลง

ผู้อมตะภาคกลางไม่คาดหวังว่าพวกเขาจะพบสถานการณ์นี้ในอุโมงค์มิติ

หลายแสนปีก่อน  เทพปีศาจปล้นสวรรค์เดินทางท่องเที่ยวไปในสวรรค์สีดำ

ต่อมาเทพอมตะตะวันเดือดพ่ายแพ้ต่อการปรับแต่งวิญญาณแห่งความรักและทิ้งวิธีการมากมายเอาไว้เบื้องหลัง

จากนั้นเทพปีศาจจิตวิญญาณได้วางแผนบางอย่างและทิ้งท่าไม้ตายอมตะเอาไว้ที่นี่

ราชันมังกรไม่รู้ความลับเหล่านี้  กระทั่งเทพธิดาจื่อเว่ยก็ไม่สามารถอนุมานสิ่งใด

ดังนั้นตอนนี้ผู้อมตะภาคกลางจึงต้องเผชิญหน้ากับภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่

‘ข้ากำลังจะตายงั้นหรือ ? ข้าจะตายที่นี่ไม่ได้ ! ไม่  ข้าต้องช่วยหงหยุน  ข้าจะตายอยู่ที่นี่ได้อย่างไร ?  ช่วยข้าด้วย  วิญญาณแห่งความรัก !’

จ้าวเหลียนหยุนกรีดร้องอยู่ในใจ

ราวกับสัมผัสได้ถึงความรักและความมุ่งมั่นของนาง  วิญญาณแห่งความรักเริ่มส่องแสงอันเจิดจ้าออกมา

“บึม !”

หอคอยวายุระเบิดและพังทลายลงอย่างสมบูรณ์  กลุ่มผู้อมตะกรีดร้องและกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะสายป้องกันของพวกเขา

แต่หลายคนไม่แม้แต่จะสามารถอดทนได้ถึงสองลมหายใจก่อนที่ร่างกายของพวกเขาจะถูกแยกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย มีเพียงจ้าวเหลียนหยุนเท่านั้นที่ปลอดภัยภายใต้ชั้นแสงบางๆที่ปกคลุมอยู่บนร่างกาย

ไม่เพียงเท่านั้น  ชั้นแสงนี้ยังขยายไปถึงผู้อมตะสี่คนที่อยู่รอบตัวนาง

ช่องว่างของห้วงมิติปรากฏขึ้นต่อหน้าจ้าวเหลียนหยุน

ในเวลาต่อมาวิญญาณแห่งความรักก็นำจ้าวเหลียนหยุนกับผู้อมตะอีกสี่คนพุ่งเข้าไปในช่องว่างของห้วงมิติดังกล่าว

วิสัยทัศน์ของพวกนางเปลี่ยนแปลงไป

“ที่นี่ที่ใด ?” จ้าวเหลียนหยุนตระหนักว่านางกำลังยืนอยู่บนพื้นที่มั่นคง

“แน่นอนว่านี่คือแดนศักดิ์สิทธิ์ภูเขาหิมะ ” เสียงหนึ่งดังขึ้น

Reverend Insanity

Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบของวิญญาณซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา! Humans are the spirit of all living beings, Gu are the essence of heaven and earth. With his three views* unrighteous, a demon is reborn. Former days are but an old dream, an identical name is made anew. The story of a time traveller who keeps on being reborn. A unique world that nurtures, refines, and uses Gu. Spring Autumn Cicada, Moonlight Gu, Liquor Worm, Great Qi Golden Light Worm, Slender Black Hair Gu, Hope Gu… And a great demon of the world that acts as his heart pleases! A story of a villain, Fang Yuan who was reborn 500 years into the past with the Spring Autumn Cicada he painstakingly refined. With his profound wisdom, battle and life experiences, he seeks to overcome his foes with skill and wit! Ruthless and amoral, he has no need to hold back as he pursues his ultimate goals. In a world of cruelty where one cultivates using *Gu – magical creatures of the world – Fang Yuan must rise up above all with his own power. Notes : *Gu is a legendary venomous insect, often used in black magic practices. It can take on the form of several insects, usually snakes, crickets, worms etc. *Three views = one’s world view, values of worth, and philosophy on life.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset