เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1266 ข้ารักเขา
แปลโดย iPAT
“เราชนะหรือไม่ ?” จ้าวเหลียนหยุนต้องใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อลุกขึ้นจากบ่อเลือด
อาการบาดเจ็บของนางรุนแรงมาก โชคดีที่จ้าวผูตายไปแล้ว ดังนั้นเลือดบนร่างกายของจ้าวเหลียนหยุนและอวี๋อี้เย่ซือจึงหยุดไหล
อีกด้านหนึ่งอวี๋อี้เย่ซือกำลังหอบหายใจอย่างหนักหน่วงและพยายามปีนกำแพงเพื่อยืนขึ้น
เมื่อเขาเห็นจ้าวเหลียนหยุน อวี๋อี้เย่ซือกลายเป็นมึนงง “เทพ …ธิดา …จ้าว …ใบหน้าของท่าน …ไม่ …ร่างกายของท่าน …”
ดวงตาของอวี๋อี้เย่ซือเบิกกว้างและกลายเป็นพูดติดอ่าง
จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกแปลก นางถาม “มีสิ่งใดผิดปกติกับข้า ?”
นางก้มหน้ามองตนเอง สิ่งแรกที่นางเห็นคือมือของนาง
มันเป็นมือที่เหี่ยวแห้งคู่หนึ่ง
หัวใจของจ้าวเหลียนหยุนกระตุกเมื่อนางพบว่าร่างกายของนางกลายเป็นหญิงชราไปแล้ว
ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยริ้วรอย สายตาพร่ามัว และเส้นผมเปลี่ยนเป็นสีขาว
“เกิดสิ่งใดขึ้น ?” จ้าวเหลียนหยุนตะลึง
นางพยายามรวบผม แต่เส้นผมสีขาวของนางก็ร่วงหล่นลงมาอย่างง่ายดาย
อวี๋อี้เย่ซือกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง “มันอาจเป็นเพราะวิญญาณแห่งความรัก มันกลืนกิอายุขัยของท่านเพื่อระเบิดพลังอำนาจอันน่าสะพรึงกลัวออกมาสังหารจ้าวผูโดยตรง!”
“เป็นเช่นนั้น ?” จ้าวเหลียนหยุนมึนงง
เป็นธรรมดาที่การเปลี่ยนจากวัยหนุ่มสาวเป็นวัยชราอย่างกะทันหันจะทำให้นางรู้สึกตะลึงและไม่สามารถยอมรับได้ในทันที
“ถูกต้อง ” อวี๋อี้เย่ซือพยักหน้าและปลอบใจ “แต่ท่านไม่จำเป็นต้องกังวล ท่านสามารถฟื้นฟูความอ่อนเยาว์ได้โดยใช้วิญญาณอายุยืน ผู้อมตะทั่วไปอาจไม่สามารถครอบครองวิญญาณอายุยืน แต่ท่านแตกต่างออกไป ท่านเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณ นิกายสามารถมอบวิญญาณอายุยืนให้ท่าน ”
จ้าวเหลียนหยุนไม่ตอบ
นางรู้สึกซับซ้อน ทั้งตกใจ ผิดหวัง ไม่อยากจะเชื่อ และงุนงง
นางเป็นปีศาจต่างโลก ก่อนกำเนิดใหม่ นางไม่เคยมีประสบการณ์เป็นคนแก่เช่นนี้มาก่อน
หลังจากเงียบไปชั่วครู่ จ้าวเหลียนหยุนก็ฟื้นจากอาการตกใจ
“ข้าต้องเดินหน้าต่อไป ”
“อายุไม่สำคัญ หงหยุนยังรอข้าอยู่ !”
จ้าวเหลียนหยุนมองไปยังยอดเขาที่หนึ่งด้วยสายตาแน่วแน่
“ไปต่อไม่ได้ !” อวี๋อี้เย่ซือตกใจและรีบเดินเข้าไปคว้าแขนของจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้
“วิญญาณแห่งความรักทรงพลังแต่มันไม่เสถียร บางทีมันอาจกลืนกินอายุขัยของท่านอีกในครั้งต่อไป หากเป็นเช่นนั้น ท่านจะต้องตายอย่างแน่นอน !” อวี๋อี้เย่ซือโน้มน้าว
“ตายแล้วอย่างไร ?” จ้าวเหลียนหยุนมองอวี๋อี้เย่ซือและเผยรอยยิ้มเล็กน้อย แต่ตอนนี้รอยยิ้มของนางไม่เหลือความงดงามอีกต่อไป
อวี๋อี้เย่ซืองุนงง
จากนั้นจ้าวเหลียนหยุนก็ดึงแขนของนางกลับเบาๆ
เห็นได้ชัดว่านางไม่ได้ใช้พละกำลังมากนักแต่อวี๋อี้เย่ซื่อรู้สึกถึงความแน่วแน่ของนางและต้องต้องแขนนางไป
เขายืนมองหลังค่อมของจ้าวเหลียนหยุนและเฝ้ามองนางเดินออกไปนอกห้องโถงอย่างเงียบๆ
ฉากที่ดูไม่พิเศษนี้กลับทำให้หัวใจของอวี๋อี้เย่ซือสั่นสะท้านขึ้นอย่างรุนแรง
เขายังกลั้นหายใจโดยไม่รู้ตัว
‘วิญญาณแห่งความรัก !?’
‘เพียงเพื่อความรัก นางเต็มใจที่จะเสียสละและไม่เกรงกลัวแม้แต่ความตาย ’
‘จ้าวเหลียนหยุน ข้าคงตายอยู่ในมือของจ้าวผูหากปราศจากเจ้า ’
‘เอาล่ะ ข้าจะตามเจ้าไป ขั้นเลวร้ายที่สุดข้าก็จะจ่ายหนี้คืนให้เจ้าด้วยชีวิตของข้า !’
อวี๋อี้เย่ซือตัดสินใจและเดินตามจ้าวเหลียนหยุนไป
มีพลังงานอมตะเหลืออยู่ในมิติช่องว่างเทียมของจ้าวเหลียนหยุนไม่มาก นางยังกังวลว่าวิญญาณแห่งความรักจะกลืนกินอายุขัยที่เหลือของนางเข้าไปอย่างรวดเร็ว ดังนั้นนางจึงรีบเดินออกจากยอดเขา
ภายใต้พลังอำนาจของค่ายกลวิญญาณชะตากรรมพลิกผัน จ้าวเหลียนหยุนและอวี๋อี้เย่ซือถูกแยกจากกัน
จ้าวเหลียนหยุนไปถึงห้องโถงที่เงียบสงบแห่งหนึ่งเพียงลำพัง
“เกิดการต่อสู้ขึ้นที่นี่ !” จ้าวเหลียนหยุนค่อยๆเดินเข้าไปในห้องโถงและพบร่องรอยของการต่อสู้
“เทพธิดาจ้าว ?” ทันใดนั้นเสียงสายหนึ่งก็ดังเข้าหูจ้าวเหลียนหยุน
จ้าวเหลียนหยุนมึนงงเล็กน้อยยก่อนจะจำได้ว่ามันเป็นเสียงของผู้อมตะบนเส้นทางแห่งวารีมู่หลิงหลาน
“นี่คือยอดเขาที่แปด ข้าต่อสู้กับผู้นำยอดเขาเซียวเฟยเฟย ตอนนี้เราทั้งคู่ต่างได้รับบาดเจ็บสาหัส ”
“เรากำลังซ่อนตัวและรักษาอาการบาดเจ็บของตนเองอย่างรวดเร็วที่สุด ”
“เจ้า ต้องระวัง เซียวเฟยเฟยมีท่าไม้ตายอมตะที่ทำให้เป้าหมายสูญเสียความทรงจำ ”
เพียงเมื่อเขากล่าวจบประโยค รัศมีแสงที่แปลกประหลาดก็พุ่งเข้าปะทะหน้าผากของจ้าวเหลียนหยุน
“ไม่ !” มู่หลิงหลานอุทาน “เจ้า จะค่อยๆสูญเสียความทรงจำ ใช้วิญญาณอมตะปกป้องตนเอง อย่าใช้ท่าไม้ตายอมตะ นั่นจะยิ่งอันตราย หากเจ้าลืมท่าไม้ตายอมตะอย่างกะทันหัน เจ้าจะได้รับผลกระทบย้อนกลับ อดทนและรอจนกว่าข้าจะฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บ !”
จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้าและซ่อนตัวอยู่ที่มุมหนึ่งโดยใช้วิญญาณอมตะป้องกันตัว
“บัดซบ !” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกไม่สบายใจ นางรู้สถานการณ์ของตนเองเป็นอย่างดี นางพึ่งกลายเป็นผู้อมตะ หากนางถูกโจมตี ความทรงจำในช่วงเวลาของการฝึกฝนเพียงเล็กน้อยของนางจะถูกลบทิ้งทั้งหมด
ความทรงจำในอดีตค่อยๆปรากฏขึ้นในใจของจ้างเหลียนหยุนอีกครั้ง
ภาคเหนือ
เผ่าหม่าพ่ายแพ้ต่อเผ่าไห่
“ข้าไม่คิดว่าเราจะรอดชีวิตมาได้ คุณหนูเสี่ยวหยุน !” หม่าหงหยุนจับมือจ้าวเหลียนหยุนและหมุนไปรอบๆ “ฮ่าฮ่าฮ่า ”
“ปล่อยข้า คนโง่ !” จ้าวเหลียนหยุนตะโกน
…..
แดนศักดิ์สิทธิ์เมืองหลวงของภาคเหนือ
“เด็กน้อย เจ้าช่างโชคดีนัก เจ้าได้เป็นบุตรเขยของเผ่าจางจริงๆ ฮ่าฮ่าฮ่า ” จ้าวเหลียนหยุนวางมือบนไหล่ของหม่าหงหยุน
หม่าหงหยุนเกาศีรษะ “คุณหนูเสี่ยวหยุน อย่ากังวล ท่านช่วยข้าไว้มาก ข้าจะปฏิบัติต่อท่านอย่างดี ”
จ้างเหลียนหยุนพยักหน้า “เช่นนั้นข้าก็จะพึ่งพาเจ้า ”
แต่ในใจนางรู้สึกแปลกๆ ‘เหตุใดข้าจึงรู้สึกสูญเสียและขมขื่น ?’
…..
ในวังแปดสิบแปดเปลวเพลิงที่แท้จริง
“เจ้าเป็นปีศาจต่างโลก ! เจ้าซ่อนตัวอยู่ข้างกายหม่าหงหยุน ! ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้าช่างกล้าหาญนัก น่าเสียดายที่เจ้าพบข้า ” เจตจำนงของเทพอมตะตะวันเดือดปลดปล่อยเจตนาสังหารออกมาอย่างชัดเจน
จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกราวกับตกลงไปในถ้ำน้ำแข็ง นางตะโกนอยู่ในใจ ‘บัดซบ ! ยังมีสิ่งกีดขวางเช่นนี้อยู่ ? ปีศาจต่างโลกงั้นหรือ ? โลกใบนี้เป็นกับดักขนาดใหญ่ ครั้งนี้ข้าจะตายที่นี่จริงๆงั้นหรือ ?’
แต่หม่าหงหยุนกลับก้าวออกไปยืนด้านหน้าจ้าวเหลียนหยุน
เขากางแขนออกและปกป้องนาง
“เจ้าหนู เจ้าต้องการปกป้องปีศาจต่างโลกงั้นหรือ ?” เจตจำนงของเทพอมตะตะวันเดือดกล่าวด้วยใบหน้าเย็นชา
“ปีศาจต่างโลกใดข้าไม่รู้จัก ! ข้ารู้เพียงว่านางคือคุณหนูเสี่ยวหยุน หากปราศจากความช่วยเหลือจากนาง ข้าคงตายไปนานแล้ว ” หม่าหงหยุนพยายามปกป้องจ้าวเหลียนหยุนอย่างเต็มที่
รูม่านตาของจ้าวเหลียนหยุนหดเล็กลงขณะที่นางมองหม่าหงหยุนด้วยความงุนงง
“แม้ต้องต่อต้านเทพอมตะตะวันเดือด แต่เจ้ายังยืนหยัดเพื่อข้างั้นหรือ ?”
“เพราะเหตุใด ?”
“เห็นได้ชัดว่าข้าเป็นปีศาจต่างโลกและไม่ใช่คนของโลกใบนี้ !”
“เจ้า โง่ เจ้ากำลังจะตาย การปกป้องข้าจะทำให้เทพอมตะตะวันเดือดโกรธ นั่นคือบรรพบุรุษของเจ้า เจ้าโง่ !”
ไห่ลั่วหลันมองจ้าวเหลียนหยุนและเริ่มแสดงเจตนาสังหาร
“ไม่ คุณหนูเสี่ยวหยุนเป็นผู้บริสุทธิ์ พวกเจ้าอย่าทำร้ายนาง !” หม่าหงหยุนแสดงทัศนคติที่มั่นคง
อย่างไรก็ตามเจตจำนงของเทพอมตะตะวันเดือดไม่สนใจหม่าหงหยุนและโจมตีจ้าวเหลียนหยุนทันที
“ไม่ !” หม่าหงหยุนตะโกนออกมาในช่วงเวลาแห่งความสิ้นหวัง เขาสวมกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้ในอ้อมอก
เวลาราวกับเดินช้าลง
จ้าวเหลียนหยุนขดตัวอยู่ในอ้อมกอดของหม่าหงหยุนด้วยหัวใจที่สั่นไหว
ความรู้สึกปลอดภัยและอบอุ่นพุ่งเข้าโอมอุ้มหัวใจของนางเอาไว้
นางตื่นตระหนกแต่มันไม่เกี่ยวกับสถานการณ์ที่ชีวิตของนางแขวนอยู่บนเส้นด้าน มันเป็นความตื่นตระหนกที่เกิดจากความรู้สึกแปลกๆจากส่วนลึกในหัวใจของนาง
จ้าวเหลียนหยุนพบว่าแท้จริงแล้วนางตกหลุมรักคนโง่หม่าหงหยุนอย่างหมดหัวใจ
หม่าหงหยุน !
คนที่พานางไปดูดาว คนที่พานางไปตะโกนที่หุบเขา คนที่รักษานาง และมอบดอกไม้ให้นาง
นอกจากนั้นเขายังยินดีสละชีวิตเพื่อนาง !
ในโลกที่ปีศาจต่างโลกถูกไล่ล่าโดยผู้อมตะที่ยิ่งใหญ่ ผู้ใดจะโง่พอที่จะก้าวออกมาปกป้องนาง ?
หม่าหงหยุน !
…..
ความทรงจำต่างๆปรากฏขึ้นในใจของจ้าวเหลียนหยุน
จากนั้นพวกมันก็เริ่มเลือนหายไป
“ไม่ หยุด !” น้ำตาไหลลงมาอาบแก้มของจ้าวเหลียนหยุน
เสียงของเซียวเฟยเฟยดังขึ้น “ฮิฮิ เมื่อเจ้าถูกโจมตีโดยท่าไม้ตายอมตะของข้า เจ้าจะสูญเสียความทรงจำที่ล้ำค่าที่สุด มันไม่สำคัญว่าตอนนี้เจ้าจะเจ็บปวดหรือไม่ เพราะอีกไม่นานเจ้าก็จะลืมทุกสิ่งและรู้สึกผ่อนคลายลง บางทีเจ้าอาจสามารถยิ้มได้ ฮ่าฮ่าฮ่า ”
รอยยิ้มค่อยๆปรากฏขึ้นบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน
“อย่ายิ้ม นี่คือท่าไม้ตายอมตะของเซียวเฟยเฟย มันจะฆ่าผู้คนในขณะที่พวกเขายิ้ม ยิ่งเจ้ายิ้มนานเท่าใด เจ้าก็จะเสียชีวิตเร็วเท่านั้น !” มู่หลิงหลานรีบส่งเสียงเตือน
อย่างไรก็ตามตอนนี้จ้าวเหลียนหยุนดูเหมือนคนโง่ที่กำลังยิ้มกว้าง
“บัดซบ !” มู่หลิงหลานตระหนักว่าเขาต้องลงมือ
เขาปลดปล่อยท่าไม้ตายอมตะออกมาหลังจากเตรียมตัวเป็นเวลานาน
“อา …เจ้าอยู่ที่นั่น …” เซียวเฟยเฟยเปิดเผยตัวขณะโจมตีจ้าวเหลียนหยุน ดังนั้นนางจึงถูกท่าไม้ตายอมตะของมู่หลิงหลานโจมตีและเสียชีวิตอย่างน่าสังเวช ณ จุดเกิดเหตุ
“เทพธิดาจ้าว เจ้าต้องอดทน !” มู่หลิงหลานรีบวิ่งเข้าไปช่วยจ้าวเหลียนหยุน
จ้าวเหลียนหยุนยังยิ้มแต่นางไม่มึนงงอีกต่อไป
น้ำตาไหลออกมาจากดวงตาของนาง
“ข้าควรทำอย่างไร ?”
“ข้าลืมเรื่องของเขาไปแทบหมดสิ้น แม้แต่รูปร่างหน้าตาของเขา ข้าก็ไม่สามารถจดจำ ”
“ข้าจำได้เพียงชื่อของเขา ”
“ข้าจำได้เพียงว่า …”
“ข้ารักเขา ”