เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1272 มันคือสิ่งใด
แปลโดย iPAT
หลังการต่อสู้บนภูเขาอี้เทียน ฟางหยวนได้ทดสอบขีดความสามารถของร่างกายนี้มาแล้ว
เขาไม่ได้ใช้วิญญาณแต่เขายังรวดเร็วเหมือนม้า
เพียงกระโดดเบาๆ เขาก็สามารถทะยานไปได้ไกลมากกว่าสิบเมตร
การกระโดดลงจากความสูงหนึ่งร้อยแปดสิบเมตรโดยใช้ศีรษะปะทะพื้นทำให้เขารู้สึกวิงเวียนเล็กน้อยเท่านั้นและมันยังเกิดขึ้นเพียงสามลมหายใจก่อนจะหายไปอย่างรวดเร็ว
ร่างกายของเขามีความแข็งแกร่งและความทนทานสูงมาก เขาวิ่งเป็นเวลาหลายชั่วโมงโดยไม่รู้สึกเหนื่อย
ประสาทสัมผัสทั้งห้าและการมองเห็นของเขาน่าอัศจรรย์มาก วิสัยทัศน์ของเขากว้างไกลและสามารถมองเห็นทุกสิ่งในระยะหนึ่งหมื่นก้าวได้อย่างชัดเจน
การเต้นของหัวใจของเขากลับมาเป็นปกติแทบจะทันทีหลังจากออกกำลังกายอย่างหนัก
ความคิดของเขารวดเร็วมากโดยไม่ต้องพึ่งแสงแห่งปัญญา
ไม่เพียงต้นไม้ กระทั่งเนินเขาจะพุ่งชนเขา ร่างกายของฟางหยวนก็ไม่บุบสลาย
นี่คือร่างทารกอมตะ มันไม่เกี่ยวกับวิญญาณ มันเกี่ยวกับร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋า !
‘ในแม่น้ำหวนคืน ข้าไม่สามารถใช้วิญญาณ แต่คนอื่นๆก็เช่นกัน !’
‘อย่างไรก็ตามร่างกายของข้าแข็งแกร่งมาก พลังงานแห่งเต่าของข้าก็มีมากมายเช่นกัน ’
ฟางหยวนคิดเกี่ยวกับมันและรู้สึกตื่นเต้น
‘อิงอู๋เซี่ย !’
ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้นขณะที่เขาเริ่มว่ายน้ำไปข้างหน้า
แม่น้ำหวนคืนไหลเร็วมากแต่ทิศทางการเคลื่อนที่ของมันถูกบังคับโดยค่ายกลวิญญาณ มันไหลย้อนกระแสน้ำไปทางผู้อมตะดำและผู้อมตะคลื่นสมุทร
“โฮก !”
เสือตัวหนึ่งพยายามปีนขึ้นไปบนแผ่นไม้ด้วยขาของมัน
ฟางหยวนว่ายเข้าไปหาเสือตัวนั้นแต่มันไม่ขยับ ฟางหยวนปีนขึ้นไปและพักอยู่บนแผ่นไม้
แต่ไม้แผ่นนี้ไม่สามารถรับน้ำหนักของมนุษย์และเสือ มันเริ่มจมลง
เสือกระวนกระวายและต้องการกัดฟางหยวน แต่ฟางหยวนกลับใช้มือข้างหนึ่งคว้าศีรษะของมันเอาไว้และใช้มืออีกข้างชกเสือตัวนี้จนตาย
“โชคดีที่มันไม่ใช่สัตว์อสูรแต่เป็นสัตว์ป่าทั่วไป ”
ร่างทารกอมตะไม่แข็งแกร่งพอที่จะต่อสู้กับสัตว์อสูรเดียวดายด้วยเพียงร่างกาย
แดนศักดิ์สิทธิ์ภูเขาหิมะไม่ขาดแคลนสัตว์อสูร แต่เพื่อหลอมรวมวิญญาณอมตะโชคชะตาท้าทายสวรรค์และกระตุ้นใช้งานค่ายกลวิญญาณชะตากรรมพลิกผัน มันทำให้แดนศักดิ์สิทธิ์ภูเขาหิมะเกิดการเปลี่ยนแปลง ดังนั้นพวกเขาจึงต้องเก็บสัตว์อสูรของตนไว้ในมิติช่องว่างและไม่ปล่อยให้ศัตรูสังหารสัตว์อสูรเดียวดายของพวกเขา
ฟางหยวนว่ายไปในแม่น้ำหวนคืนเพื่อค้นหาอิงอู๋เซึ่ย
แดนศักดิ์สิทธิ์ภูเขาหิมะพังทลาย แม่น้ำหวนคืนไหลออกมา ขณะที่ฟางหยวนไม่รู้ว่าราชันภูเขาม่วงตื่นขึ้นแล้ว
เขายังคิดว่าปีศาจอมตะเซี่ยหูเป็นศัตรูที่แข็งแกร่งที่สุด เขาคาดเดาว่าอิงอู๋เซี่ยมีความสัมพันธ์กับกองกำลังพันธมิตรภูเขาหิมะ แต่พวกเขาอาจไม่มีความใกล้ชิด มิฉะนั้นเหตุใดปีศาจอมตะเซี่ยหูไม่ไปช่วยพวกเขาที่ภูเขาอี้เทียน ?
การวิเคราะห์ของฟางหยวนไม่ผิด
แต่เขายังขาดวิธีการบนเส้นทางแห่งข้อมูลและมีข้อมูลที่ไม่เพียงพอ
‘ตอนนี้แม้ข้าจะพบปีศาจอมตะเซี่ยหู ข้าก็ยังสามารถรักษาชีวิต เพราะในแม่น้ำหวนคืน วิญญาณไม่สามารถใช้งาน มันเป็นสภาพแวดล้อมพิเศษ !’
‘เนื่องจากอิงอู๋เซี่ยมีความเกี่ยวข้องกับปีศาจอมตะเซี่ยหู หากข้าพลาดโอกาสนี้ พวกเขาจะเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วภายใต้การคุ้มครองจากเขา ’
‘หากข้าพลาดโอกานี้ ข้าอาจไม่มีโอกาสกำจัดพวกเขาอีก !’
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ฟางหยวนรีบว่างไปข้างหน้าหลังจากหยุดพักได้ไม่นาน
อย่างไรก็ตามคนที่เขาพบกลับเป็นไป่เฉินเทียน
ผู้อมตะระดับแปดของภาคกลาง !
ฟางหยวนตะลึง
‘เกิดสิ่งใดขึ้น ?’
‘ผู้อมตะระดับแปดผู้นี้ไม่ใช่ปีศาจอมตะเซี่ยหูแต่เป็นผู้อมตะภาคกลาง!?’
ไป่เฉินเทียนอยู่ในสภาพที่น่าอนาถมาก เขาได้รับบาดเจ็บขณะที่เขากำลังพักอยู่บนหลังเต๋าขนาดใหญ่
อาการบาดเจ็บของเขาไม่ได้มาจากแม่น้ำหวนคืนแต่มันเกิดจากการต่อสู้ก่อนหน้า
ก่อนหน้านี้เขาไม่มีเวลารักษาอาการบาดเจ็บ เมื่อถูกแม่น้ำหวนคืนพัดมา เขาก็ไม่สามารถใช้วิญญาณรักษาอาการบาดเจ็บของตนได้อีก
แต่โชคดีที่เขาพบเต่าตัวนี้และสามารถปีนขึ้นไปพักอยู่บนหลังเต่า
ฟางหยวนค้นพบไป่เฉินเทียน ไป่เฉินเทียนก็ค้นพบฟางหยวน
แต่ไป่เฉินเทียนไม่รู้จักฟางหยวน
เพราะฟางหยวนอยู่ในร่างทารกอมตะ ! รูปลักษณ์ดั่งเดิมของเขาถูกเผยแพร่ออกไปโดยวังสวรรค์แต่ไม่ใช่ร่างทารกอมตะ
แม้ไป่เฉินเทียนจะไม่รู้จักฟางหยวน แต่เขายังขมวดคิ้วและระวังตัวมาก
เพราะกลิ่นอายของฟางหยวนบ่งบอกว่าเขาเป็นคนเหนือ
นี่เป็นเพราะร่างทารกอมตะ
‘เขาคือผู้ใด ? เขาไม่ใช่หนึ่งในผู้นำยอดเขาหิมะ แต่เขาอาจเป็นพันธมิตรของปีศาจอมตะเซี่ยหู ?’
ไป่เฉินเทียนยืนขึ้นและมองทุกการเคลื่อนไหวของฟางหยวน
ในแม่น้ำหวนคืน โดยไม่สามารถใช้วิญญาณ พลังการต่อสู้ของไป่เฉินเทียนมีจำกัด
ฟางหยวนมองไป่เฉินเทียนอย่างระมัดระวังและไม่ได้เข้าไปใกล้
แม้ฟางหยวนจะมีร่างทารกอมตะ แต่เขาคงโง่มากหากคิดว่าตนเองเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในแม่น้ำหวนคืน
แม่น้ำหวนคืนไม่อนุญาตให้ใช้วิญญาณ แต่พลังงานแห่งเต๋ายังมีประสิทธิภาพ
ร่างทารกอมตะของฟางหยวนแข็งแกร่งเพราะมันมีพลังงานแห่งเต๋าอยู่บนร่างกาย
ในทำนองเดียวกันหากผู้ใช้วิญญาณใช้วิญญาณความแข็งแกร่งของหมูป่าเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับร่างกายของตน ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าจะสลักอยู่บนร่างกายของพวกเขา หากผู้ใช้วิญญาณผู้นี้ตกลงมาในแม่น้ำหวนคืนและไม่สามารถใช้วิญญาณ พวกเขาก็ยังสามารถพึ่งพาร่างกายของตนและโจมตีศัตรูด้วยความแข็งแกร่งของหมูป่า
สำหรับผู้อมตะที่บ่มเพาะมาอย่างยาวนาน พวกเขาจะไม่เคยใช้วิญญาณเช่นวิญญาณความแข็งแกร่งของหมูป่าเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับร่างกายของตนเองได้อย่างไร?
นี่เป็นเรื่องปกติมาก
ผู้ใดก็ตามที่ไม่ใช่คนโง่จะรู้ถึงข้อดีของพลังงานแห่งเต๋าดังกล่าว
ร่างกายของฟางหยวนมีข้อได้เปรียบ แต่ผู้อมตะคนอื่นๆก็มีบางสิ่งซึ่งจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล
สำหรับผู้อมตะระดับแปด พวกเขามีรากฐานที่ลึกซึ้ง ฟางหยวนไม่ต้องการต่อสู้กับไป่เฉินเทียนในเวลานี้
“เจ้าคือผู้อมตะภาคกลางใช่หรือไม่ ?”
“ข้าเป็นผู้อมตะภาคเหนือ แต่ข้าเป็นศัตรูกับปีศาจอมตะเซี่ยหู ”
“ข้าเห็นเขาพยายามหลอมรวมวิญญาณอมตะระดับแปดแต่ข้าไม่ต้องการให้เขาประสบความสำเร็จ ดังนั้นข้าจึงมาที่นี่และหาวิธีบุกเข้าไปในแดนศักดิ์สิทธิ์ภูเขาหิมะ”
“เจ้าช่วยเขาหลอมรวมวิญญาณงั้นหรือ ?”
ฟางหยวนตรวจสอบ
คิ้วของไป่เฉินเทียนคลายลงเล็กน้อย เขาตอบ “ปีศาจอมตะเซี่ยหูก็เป็นศัตรูของข้าเช่นกัน ”
“ไม่นานมานี้ข้ากำลังต่อสู้กับเขาในแดนศักดิ์สิทธิ์ภูเขาหิมะแต่มันกลับเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดนี้ขึ้นอย่างกะทันหัน”
“อาการบาดเจ็บของข้าล้วนมาจากฝีมือของปีศาจเฒ่าเซี่ยหู !”
ทั้งสองพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลกันเล็กน้อย
ฟางหยยวนตระหนักได้ในที่สุดว่าเกิดหลายสิ่งขึ้นในแดนศักดิ์สิทธิ์ภูเขาหิมะ
แต่ไป่เฉินเทียนกล่าวอย่างคลุมเครือในหลายประเด็น นั่นทำให้ฟางหยวนไม่ได้รับข้อมูลมากนัก
หลังจากทั้งหมดพวกเขาไม่เชื่อใจกันแม้แต่น้อย
นี่เป็นเรื่องธรรมชาติ
พวกเขาพึ่งพบกัน เป็นเรื่องยากที่จะบอกเจตนาของอีกฝ่าย
และในสถานการณ์ที่วิญญาณไม่สามารถใช้งาน ทั้งสองฝ่ายต่างต้องระวังตัว
ฟางหยวนรู้ว่าไม่สามารถรับข้อมูลเพิ่มจากไป่เฉินเทียน ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจจากไป
เขาทิ้งเต่าตัวใหญ่ไว้ด้านหลัง
กระทั่งช่วงเวลาที่พูดคุย เขาก็ยังไม่เข้าไปใกล้ ขณะเดียวกันไป่เฉินเทียนก็ไม่ได้เชิญฟางหยวนขึ้นไปพักบนหลังเต่าเช่นกัน
ไป่เฉินเทียนเห็นฟางหยวนกำลังจะจากไปและเริ่มผ่อนคลายลง
แต่ในจังหวะนี้สิ่งที่ไม่คาดคิดกลับเกิดขึ้น
“ตุบ ”
ด้วยเสียงอันแผ่วเบา
สิ่งของบางอย่างที่มีขนาดเท่ากำปั้นมนุษย์ถูกกระแสน้ำพัดมาและตกลงใบหน้าของฟางหยวน
มันอ่อนนุ่มราวกับแมงกะพรุนและติดอยู่บนหน้าผากของเขา
“มันคือสิ่งใด ?” ฟางหยวนตะลึง เขาต้องการดึงมันออกไป
แต่ในเวลานี้ไป่เฉินเทียนกลับตะโกนเสียงดัง “ใจเย็นๆ อย่าทุบมัน !”
“โอ้ ?” ฟางหยวนรู้สึกประหลาดใจ สิ่งใดที่สามารถทำให้ผู้อมตะระดับแปดรู้สึกประหม่า ?