เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1305 ความคิดวัชระ
แปลโดย iPAT
วิญญาณอมตะความคิดวัชระอยู่ในรูปลักษณ์ของวัชระสีทองขนาดเท่ากำปั้นมนุษย์
ฟางหยวนถือมันไว้ในมือและรู้สึกถึงความหนักราวกับกำลังถือก้อนทองคำ
ขั้นตอนการเปลี่ยนเจ้าของเป็นไปอย่างรวดเร็ว
หลังจากฟางหยวนประสบความสำเร็จในการปรับแต่งวิญญาณอมตะความคิดวัชระ วูอวี้ป๋อก็จากไปอย่างรวดเร็ว
ฟางหยวนไม่แปลกใจกับเรื่องนี้
เพราะเขามีบุญคุณ !
ฟางหยวนช่วยชีวิตวูอวี้ป๋อเอาไว้ แม้มันจะเป็นการฝ่าฝืนกฎและทำให้ตระกูลวูสูญเสียใบหน้า แต่พวกเขาก็ยังสามารถรักษาพลังการต่อสู้ระดับเจ็ดที่สำคัญเอาไว้ เห็นได้ชัดว่าความดีความชอบของเขาเหนือกว่าปัญหาที่เขาก่อ
แม้วูหยงจะลงโทษฟางหยวน แต่ฟางหยวนเข้าใจ นี่เป็นวิธีของฝ่ายธรรมะ มันเป็นเพียงการแสดงเท่านั้น
ตระกูลวูต้องให้รางวัลกับฟางหยวน แต่วูหยงไม่สามารถทำได้ด้วยตนเอง
หากเขาทำ มันจะก่อให้เกิดปัญหาทางการเมือง คนอื่นๆจะใช้เรื่องนี้เพื่อโจมตีชื่อเสียงของเขา
ดังนั้นวูอวี้ป๋อจึงต้องเป็นคนออกหน้า
วิญญาณอมตะความคิดวัชระดวงนี้ถูกส่งมอบโดยวูอวี้ป๋อแต่ในความเป็นจริงมันเป็นรางวัลจากตระกูลวู
“วิญญาณอมตะอีกดวง ” ฟางหยวนเผยรอยยิ้มขมขื่น
ผู้อมตะทั่วไปอาจมีความสุข แต่สำหรับฟางหยวน ความหมายนั้นแตกต่างออกไป
เขามีวิญญาณอมตะมากเกินไป !
พวกมันเป็นภาระที่ยิ่งใหญ่
“แต่วิญญาณอมตะความคิดวัชระเป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา ข้าสามารถใช้มันชดเชยจุดอ่อนของข้า ”
ฟางหยวนไม่ได้ขาดแคลนความสำเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญา เขาขาดเพียงวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาเท่านั้น
ในอดีตเขามีวิญญาณทัศนคติและวิญญาณคลี่คลายปริศนา แต่ตอนนี้เขามีวิญญาณความใคร่และวิญญาณความคิดวัชระ
วิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาสี่ดวงเพียงพอแล้ว ด้วยความสำเร็จระดับปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งปัญญา เขาสามารถใช้งานพวกมัน
ฟางหยวนใช้ลูกพลัมแดงอมตะเพื่อกระตุ้นใช้งานวิญญาณความคิดวัชระ
ทันใดนั้นความคิดสีทองก็ปรากฏขึ้นในใจของเขา พวกมันเหมือนโลหะที่แข็งแกร่งและส่องประกายงดงาม
ฟางหยวนพยายามใช้ความคิดวัชระอนุมานและพบว่ามันมีประสิทธิภาพไม่สูงนัก
แต่ฟางหยวนไม่แปลกใจ ทั้งหมดอยู่ในการคาดเดาของเขา
วิญญาณอมตะความคิดวัชระไม่ได้มีไว้เพื่อการอนุมานแต่มีไว้สำหรับต่อสู้
ฟางหยวนสร้างความคิดวัชระขึ้นในใจอีกครั้งก่อนจะส่งพวกมันออกมายังโลกภายนอก
ฟางหยวนนั่งอยู่บนเบาะขณะที่วัชระสีทองนับร้อยเล่มลอยอยู่รอบตัวเขา
ด้วยหนึ่งความคิด พวกมันบินออกไป
“ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว …”
เร็วมาก !
ความคิดเคลื่อนไหวเร็วกว่าแสง !
แม้ความคิดวัชระจะเคลื่อนไหวในโลกภายนอกได้ช้ากว่าในจิตใจ แต่มันยังถือว่ารวดเร็วมาก
‘ความเร็วนี้เท่ากับครึ่งหนึ่งของวิญญาณดาบทะลวงมิติ ’ ฟางหยวนพอใจมากกับความเร็วนี้
วิญญาณดาบทะลวงมิติเป็นวิญญาณอมตะระดับเจ็ดและเป็นหนึ่งในวิญญาณที่มีความเร็วสูงที่สุดในโลก ขณะที่วิญญาณความคิดวัชระเป็นเพียงวิญญาณอมตะระดับหก แต่มันกลับรวดเร็วถึงครึ่งหนึ่งของวิญญาณดาบทะลวงมิติ
แน่นอนว่าหากวิญญาณความคิดวัชระก้าวเข้าสู่ระดับเจ็ดหรือแปด ความเร็วของมันจะไม่เพิ่มขึ้น มีเพียงปริมาณเท่านั้นที่จะแตกต่างออกไป
ตามทฤษฎี วิญญาณความคิดวัชระระดับห้าสามารถสร้างความคิดวัชระได้ประมาณหนึ่งร้อยเล่มต่อครั้ง วิญญาณอมตะความคิดวัชระระดับหกสามารถสร้างความคิดวัชระได้หนึ่งหมื่นเล่มในครั้งเดียว
แล้วพลังของความคิดวัชระเป็นอย่างไร ?
ฟางหยวนยิงวัชระสีทองเล่มหนึ่งลงบนพื้น
“บึม !”
วัชระสีทองเจาะแผ่นกระเบื้องและทะลวงลึกลงไปถึงชั้นใต้ดิน
ฟางหยวนพยักหน้า
พลังจัดว่าดี
สถานที่แห่งนี้คือคฤหาสน์วิญญาณระดับมนุษย์ พลังป้องกันของมันไม่สามารถเปรียบเทียบกับผู้อมตะ
แต่ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นยังถือว่าใช้ได้
ฟางหยวนคิดว่ามันรุนแรงกว่ากระสุนปืนอยู่มากนัก
‘วิญญาณอมตะความคิดวัชระสามารถสร้างความคิดวัชระได้หลายพันเล่ม หากพวกมันถูกยิงออกไปพร้อมกัน ผลลัพธ์ของมันจะแตกต่างออกไป ’
‘เดี๋ยว !’
ฟางหยวนเกิดแรงบันดาลใจใหม่ๆ
เขานึกถึงผู้อมตะสองคน หนึ่งคือตงฟางชางฟาน และอีกหนึ่งคือเย่หลิวชุนซิง ท่าไม้ตายอมตะของพวกเขา หนึ่งคือหมื่นหิ่งห้อยดาราและอีกหนึ่งเลียนแบบมาจากหมื่นหิ่งห้อยดารา
‘เหตุใดข้าไม่เลียนแบบท่าไม้ตายอมตะหมื่นหิ่งห้อยดารา ?’
ฟางหยวนพิจารณาเกี่ยวกับมัน
ความสำเร็จระดับปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งปัญญาทำให้เขารู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่ยาก
ดังนั้นฟางหยวนจึงหยุดใช้วิญญาณความคิดวัชระและเริ่มอนุมานท่าไม้ตายใหม่
เขาพยายามเลียนแบบท่าไม้ตายอมตะหมื่นหิ่งห้อยดาราโดยใช้วิญญาณอมตะความคิดวัชระเป็นแกนกลาง
กระบวนการเป็นไปได้อย่างราบรื่นและรวดเร็ว มีปัญหาเล็กน้อยแต่ทุกอย่างสามารถแก้ไขตามสัญชาตญาณของฟางหยวน
หนึ่งชั่วโมงต่อมา ท่าไม้ตายใหม่สำเร็จไปครึ่งหนึ่ง
ฟางหยวนยังอนุมานอย่างไม่หยุดยั้ง ในที่สุดไม่กี่วันต่อมาท่าไม้ตายอมตะที่สมบูรณ์แบบก็ประสบความสำเร็จ
ฟางหยวนยังไม่ได้ตั้งชื่อท่าไม้ตายนี้เพราะเขาได้รับแรงบันดาลใจใหม่
‘วิญญาณอมตะความคิดวัชระเป็นเพียงวิญญาณอมตะระดับหก มันยังไม่ทรงพลังมากพอ บางทีข้าอาจใช้มันร่วมกับท่าไม้ตายอมตะเปลี่ยนเป็นเต่าพยากรณ์เพื่อเพิ่มพลังทำลายล้าง!’
การปรับเปลี่ยนนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย
แม้เขาจะเป็นปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งปัญญาและการเปลี่ยนแปลง แต่การผสานสองเส้นทางเข้าด้วยกันไม่ใช่เรื่องง่าย
มันต้องใช้เวลา
แต่ฟางหยวนไม่กังวล
สถานการณ์ภายนอกยังค่อนข้างสงบ
แม้นิกายเงาจะอยู่ใกล้ๆ แม้วังสวรรค์และถ้ำสวรรค์นิรันดรจะต้องการจับตัวเขา แต่ตราบเท่าที่เขาสามารถฉกฉวยผลประโยชน์จากอาณาจักรแห่งความฝัน รากฐานของเขาจะเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว
ด้วยเกราะหวนคืน ความมั่นใจของเขาเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก
สามวันต่อมา การดัดแปลงท่าไม้ตายก็ยังไม่เสร็จสิ้น มันเหลืออีกสามสิบส่วน แต่ในเวลานี้วูหยงกลับเรียกวูอี้ไห่เข้าพบ
ในห้องโถง สองพี่น้องพูดคุยกัน วูหยงบอกฟางหยวนว่า หากเขาไม่พอใจวิญญาณอมตะความคิดวัชระ เขาสามารถเปลี่ยนวิญญาณอมตะระดับหกที่อยู่ในคลังสมบัติของตระกูล
เหตุผลคือหลังจากฟางหยวนได้รับวิญญาณอมตะความคิดวัชระ เขาไม่ได้เคลื่อนไหว วูหยงคิดว่าวูอี้ไห่เป็นผู้บ่มเพาะสันโดษและไม่รู้วิธีการของฝ่ายธรรมะ ดังนั้นเขาอาจคิดว่ามันเป็นของขวัญจากวูอวี้ไห่จริงๆ
แต่มันไม่ใช่
วูหยงเรียกฟางหยวนเข้าพบและบอกเป็นนัยว่าวิญญาณอมตะดวงนี้เป็นของขวัญจากพี่ชายผู้นี้ เขายังใช้ข้ออ้างเรื่องการเปลี่ยนวิญญาณอมตะเพื่อแสดงความปรารถนาดีต่อฟางหยวนอีกด้วย
วูหยงไม่รู้ว่าฟางหยวนเข้าใจสถานการณ์ทั้งหมด เขาเพียงแสร้งเป็นไม่รู้เท่านั้น
‘ดูเหมือนตระกูลวูกำลังมีปัญหา พวกเขากำลังขาดกำลังคน ดังนั้นวูหยงจึงต้องการใช้ประโยชน์จากข้า ’ ฟางหยวนเข้าใจเจตนาของวูหยงทันที
ไม่นานมานี้กองกำลังใหญ่ร่วมมือกันกดดันตระกูลวู วูหยงต้องจัดการปัญหามากมาย
ที่อาณาจักรแห่งความฝัน ตระกูลปาเริ่มสร้างปัญหาให้กับตระกูลวูเช่นกัน
เดิมทีวูหยงต้องการส่งฟางหยวนไปที่นั่น แต่ตระกูลปากำลังสร้างปัญหาขณะที่วูหยงไม่ต้องการเสี่ยงเปลี่ยนคนดูแลของตระกูลวูในเวลานี้ ดังนั้นแผนการส่งฟางหยวนกลับไปที่ค่ายกลวิญญาณจึงหยุดชะงัก
“ขอบคุณสำหรับความห่วงใย ท่านพี่ ข้าขอดูสมบัติในคลังก่อนได้หรือไม่ ?” แม้ฟางหยวนจะสร้างท่าไม้ตายใหม่ที่ใช้วิญญาณอมตะความคิดวัชระเป็นแกนกลางสำเร็จแล้ว แต่เขายังอยากเห็นวิญญาณอมตะในคลังสมบัติของตระกูลวู
ในฐานะกองกำลังอันดับหนึ่งของภาคใต้ สมบัติในคลังของพวกเขาย่อมสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับฟางหยวน
มีวิญญาณอมตะสองสามดวงในคลังสมบัติที่เหมาะสมกับเขา แต่ตอนนี้ฟางหยวนมีวิญญาณอมตะอยู่มากเกินไป ครั้งนี้เขาเพียงต้องการสำรวจรากฐานของตระกูลวูเท่านั้น