เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1321 ใช้งานได้แต่ไม่สามารถเชื่อใจ
แปลโดย iPAT
เทศกาลไหว้พระจันทร์ผ่านไปแต่ฟางหยวนยังอยู่ข้างนอก
เขาเริ่มเข้าหาเฉียวซื่อหลิว แม้ฝ่ายหลังจะไม่เต็มใจ แต่เมื่อมันเป็นคำสั่งของตระกูล นางจึงไม่สามารถปฏิเสธฟางหยวน
ข่าวลือเริ่มแพร่กระจายออกไปทีละเล็กทีละน้อย
วูอี้ไห่กับเฉียวซื่อหลิวสนิทสนมกันมากและมักจะไปเดินเล่นชมทิวทัศน์กันเสมอ
ไม่ว่าจะเป็นวูอี้ไห่น้องชายของวูหยงหรือเฉียวซื่อหลิวหนึ่งในสามเทพธิดาของภาคใต้ พวกเขาต่างมีชื่อเสียงโด่งดังทั้งคู่
การกระทำของพวกเขาถูกพูดถึงในวงกว้าง
กลุ่มชายที่ชื่นชอบเฉียวซื่อหลิวไม่พอใจ แต่พวกเขาก็ต้องยอมรับว่าวูอี้ไห่เป็นคู่แข่งที่น่ากลัว โดยไม่ต้องกล่าวถึงสิ่งใด เพียงความสัมพันธ์ของตระกูลวูและตระกูลเฉียว วูอี้ไห่ก็มีข้อได้เปรียบมากแล้ว
ในความเป็นจริงฟางหยวนไม่ต้องการมีชื่อเสียง มันจะดีที่สุดหากเขาสามารถกดชื่อเสียงของวูอี้ไห่ให้อยู่ในระดับต่ำที่สุด
น่าเสียดายที่สถานการณ์ไม่เป็นไปตามความปรารถนาของเขา เนื่องจากเฉียวซื่อหลิว ชื่อเสียงของฟางหยวนจึงขจรขจายออกไป
สถานการณ์นี้ส่งผลต่อฟางหยวนในไม่ช้า
มีผู้คนพยายามอนุมานเกี่ยวกับเขามากขึ้น
มันยากที่จะจัดการสถานการณ์นี้ด้วยเพียงวิญญาณอมตะขีดจำกัดความมืด
ฟางหยวนมักวางมิติช่องว่างลงและเข้าไปซ่อนตัวอยู่ที่นั่น
มิติช่องว่างแยกออกจากโลกภายนอกอย่างสมบูรณ์ ตราบเท่าที่ฟางหยวนไม่ออกมา การอนุมานจะเป็นเรื่องยาก
เว้นเพียงบางคนจะมีวิธีการพิเศษเช่นท่าไม้ตายอมตะสัมผัสแห่งโชคของฟางหยวน
อย่างไรก็ตามนี่ทำให้ฟางหยวนสามารถวางมิติช่องว่างลงได้บ่อยครั้งและค่อยๆดูดซับปราณสวรรค์พิภพทีละเล็กทีละน้อยเพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับมิติช่องว่างจักรพรรดิ
นอกจากนั้นฟางหยวนยังใช้ช่องทางของตระกูลวูเพื่อสืบข้อมูลของลั่วมู่ซือและหลุนเฟย
มันยังไม่ใช่เวลาที่เขาจะเคลื่อนไหว แต่มันไม่เสียหายที่จะรวบรวมข้อมูลของเป้าหมายเอาไว้ล่วงหน้า
ผู้อมตะมีวิธีการที่ลึกลับมากมาย หากประมาทเพียงเล็กน้อย พวกเขาอาจล้มเหลวอย่างน่าสังเวช
ฟางหยวนระวังตัวเสมอ แม้เขาจะมีแผนปลิดชีพลั่วมู่ซือและหลุนเฟย แต่เขาก็จะเริ่มหลังจากเข้าใจเป้าหมายอย่างถ่องแท้แล้วเท่านั้น
สิ่งสำคัญอีกประการก็คือเขาต้องสะสมความแข็งแกร่งสำหรับช่วงเวลาสำคัญ
ราชสีห์จะทุ่มเทพละกำลังทั้งหมดเพื่อล่ากระต่าย
ครึ่งเดือนผ่านไป วูหยงเรียกฟางหยวนเข้าพบอีกครั้ง
“น้องชาย ข้ามีงานเล็กน้อย เลือกสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ” วูหยงกล่าวอย่างตรงไปตรงมา
“ท่านพี่ โปรดออกคำสั่ง มันเป็นหน้าที่ของข้าที่จะช่วยเหลือตระกูล ” ฟางหยวนตอบ
วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลบินออกมา ฟางหยวนเห็นภารกิจสามอย่าง
เมื่อเร็วๆนี้มีคนค้นพบว่าในส่วนลึกของภูเขาซวนหมิงดูเหมือนจะมีกลิ่นอายของวิญญาณอมตะป่า
ข้อมูลนี้ดึงดูดความสนใจของผู้บ่มเพาะสันโดษมากมายให้เดินทางไปที่นั่น
สิ่งสำคัญก็คือกองกำลังตระกูลหยางได้ส่งคนออกไปเช่นกัน
หากข้อมูลเป็นความจริง กองกำลังที่ได้รับวิญญาณอมตะ รากฐานของพวกเขาจะแข็งแกร่งขึ้น ตระกูลวูย่อมไม่ปล่อยโอกาสนี้ที่หลุดมือ
ปัจจุบันสถานการณ์ของตระกูลวูกลับสู่เสถียรภาพแล้ว
นอกจากนั้นภูเขาซวนหมิงยังอยู่ใกล้กับอาณาเขตของตระกูลวู แม้มันจะไม่ได้อยู่ในอาณาเขตของพวกเขา แต่มันก็มีอาณาเขตติดกัน
หากตระกูลวูไม่ส่งผู้อมตะออกไป กองกำลังอื่นอาจคิดว่าตระกูลวูอ่อนแอลง
ดังนั้นวูหยงจึงต้องเคลื่อนไหว หากพวกเขาไม่ได้รับวิญญาณอมตะ พวกเขาก็ต้องทำลายมันและไม่ปล่อยให้มันตกอยู่ในมือของตระกูลหยาง
ภารกิจที่สองคือระดับน้ำในแม่น้ำมังกรแดงเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อไม่นานมานี้ หากไม่สามารถควบคุม มีเแนวโน้มที่มันจะทำให้เกิดอุทกภัย
หากเกิดอุทกภัย ทรัพยากรที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงจะถูกทำลาย สภาพแวดล้อมจะเปลี่ยนไปอย่างสมบูรณ์
กองกำลังใหญ่ที่อยู่ใกล้แม่น้ำมังกรแดงให้ความสนใจกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก
ส่วนหนึ่งของแม่น้ำมังกรแดงไหลผ่านอาณาเขตของตระกูลวู
พวกเขาต้องส่งผู้อมตะไปตรวจสอบสถานการณ์และพยายามป้องกันไม่ให้เกิดอุทกภัย
สำหรับภารกิจที่สาม ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่สองของตระกูลอี้กำลังจัดงานเลี้ยงวันเกิดครบรอบหนึ่งพันสองร้อยปีของเขา
ตระกูลวูจำเป็นต้องส่งผู้อมตะไปเป็นตัวแทนเพื่อมอบของขวัญวันเกิด
ตระกูลอี้เป็นตระกูลที่มีอำนาจ ฐานทัพใหญ่ของพวกเขาอยู่ที่ภูเขาหลินจือซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของภาคใต้และติดกับทะเลตะวันออก
ในความเป็นจริงตระกูลอี้มีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับกองกำลังของทะเลตะวันออก
สำหรับตระกูลวู ฐานทัพใหญ่ของพวกเขาตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของภาคใต้ อาจกล่าวได้ว่าพวกเขาอยู่ทางใต้ที่สุดของบรรดากองกำลังใหญ่ทั้งหมด
ตำแหน่งที่ตั้งของทั้งสองกองกำลังทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลอี้และตระกูลวูอยู่ในระดับที่ดีมาตลอด
ผูกมิตรกับศัตรูที่อยู่ห่างไกลและโจมตีศัตรูที่อยู่ใกล้ นี่เป็นหลักการพื้นฐาน
แม้หลายกองกำลังจะสร้างความยากลำบากให้แก่ตระกูลวู แต่ตระกูลอี้ไม่เคยเข้าร่วม เพื่อรักษาความสัมพันธ์นี้ ตระกูลวูต้องส่งผู้อมตะไปร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่สองของตระกูลอี้
“เจ้าตัดสินใจหรือยัง ?” หลังจากไม่นาน วูหยงก็เปิดปากถาม
ฟางหยวนพยักหน้า “ข้าตัดสินใจแล้ว ข้าจะเลือกงานที่สอง ความแข็งแกร่งของข้าไม่สูงมากนัก การเลือกไปภูเขาซวนหมิงอาจทำให้ข้าต้องต่อสู้กับผู้อมตะของตระกูลหยาง ตระกูลหยางมีความเชี่ยวชาญด้านจิตวิญญาณขณะที่ข้าไม่เก่งเรื่องนี้”
“แล้วเหตุใดไม่เลือกภารกิจที่สาม ?” วูหยงถามด้วยรอยยิ้ม “แท้จริงแล้วสถานะของเจ้าเหมาะสมที่สุดสำหรับงานนี้ เพราะเจ้าเป็นน้องชายของข้า เจ้าจะได้รับการต้อนรับที่อบอุ่นจากตระกูลอี้ ”
ฟางหยวนส่ายศีรษะและเผยรอยยิ้มขมขื่น “พี่ชายโปรดเห็นใจ งานเลี้ยงวันเกิดย่อมต้องมีตัวแทนจากกองกำลังมากมาย ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันของตระกูลวู หากข้าไปร่วมงานเลี้ยง ผู้อมตะคนอื่นๆจะต้องสร้างปัญหาให้ข้าอย่างแน่นอน ข้าไม่สามารถจัดการพวกมันได้ทั้งหมด ความยากลำบากของข้าไม่ใช่สิ่งใด แต่สิ่งสำคัญกว่านั้นคือข้าอาจทำให้ตระกูลสูญเสียใบหน้า นั่นจะเป็นบาปที่ใหญ่หลวงของข้า ”
วูหยงหัวเราะ “ในเมื่อเจ้าไตร่ตรองแล้ว เราก็จะทำตามความต้องการของเจ้า ”
“ท่านพี่ หากไม่มีเรื่องอื่นอีก ข้าขอลา ”
“ไปเถอะ ” วูหยงโบกมือ
ฟางหยวนกล่าว “หากแม่น้ำมังกรแดงล้นและกลายเป็นภัยพิบัติ มันจะทำให้สิ่งมีชีวิตจำนวนนับไม่ถ้วนต้องพบกับความทุกข์ทรมาน นี่เป็นเรื่องสำคัญ หลังจากเตรียมตัว ข้าจะรีบไปที่นั่นทันที ”
“ดี พักผ่อนได้ตามสบาย เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับเจ้า เจ้าต้องตัดสินใจให้ดี ” วูหยงแสดงออกด้วยความมั่นใจในตัวฟางหยวน
“ข้าจะทำให้ดีที่สุด ” ฟางหยวนยืนยันก่อนจะจากไป
อย่างไรก็ตามฟางหยวนไม่เห็นว่าหลังจากที่เขาจากมา รอยยิ้มของวูหยงกลับเลือนหายไปและถูกแทนที่ด้วยความผิดหวัง
‘สำเร็จ !’ หัวใจของฟางหยวนสั่นสะท้านขึ้นด้วยความยินดี แต่เขาไม่ได้แสดงออกมา
เขาเก็บของบางอย่างและรีบออกเดินทางไปทางเหนือทันที
ฟางหยวนเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วแต่เพียงเมื่อเขาบินข้ามแม่น้ำมังกรเหลือง ผู้อมตะวูฝาก็เรียกเขาเอาไว้ “ท่านวูอี้ไห่ ช้าก่อน ข้ามีคำสั่งใหม่จากผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่ง ”
ฟางหยวนลอบหัวเราะอยู่ภายใน ‘มาแล้ว !’
อย่างไรก็ตามภายนอกเขายังแสดงออกด้วยความประหลาดใจ เขาหยุดกลางอากาศและถามวูฝา “ผู้อาวุโสวูฝา เกิดสิ่งใดขึ้น ?”
“เห้อ …” วูฝาถอนหายใจและแสดงออกด้วยความกังวล “มีคำกล่าวที่ว่าเมื่อฝนตกลงมา อุบัติเหตุมักเกิดขึ้นเสมอ ที่ค่ายกลวิญญาณ ตระกูลปาสร้างปัญหาให้กับพวกเรา ผู้อาวุโสวูเป่ยที่ประจำการอยู่ที่นั่นได้รับบาดเจ็บและไม่สามารถรักษาสถานการณ์ต่อไป ไม่ใช่ว่าท่านต้องการไปที่นั่นงั้นหรือ ? ตอนนี้โอกาสมาถึงแล้ว !”
“ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งตัดสินใจเปลี่ยนผู้อาวุโสวูเป่ยกับท่านเพื่อให้ผู้อาวุโสวูเป่ยกลับมารักษาอาการบาดเจ็บ ท่านวูอี้ไห่โปรดกลับไปประจำการที่ค่ายกลวิญญาณด้วย ”
ฟางหยวนขมวดคิ้วลึกราวกับเขาไม่ได้เตรียมใจกับเรื่องนี้เอาไว้ “สิ่งนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ? ข้ายัง …”
ขณะที่กล่าวเช่นนี้เขาชำเลืองมองไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือโดยไม่รู้ตัวและกล่าวด้วยความลังเลา “แต่ปัญหาของแม่น้ำมังกรแดงค่อนข้างรุนแรง เราต้องรีบแก้ไข ”
“ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งจัดการเรื่องนี้อย่างเหมาะสมแล้ว ท่านวูอี้ไห่ไม่จำเป็นต้องกังวล ตอนนี้ท่านต้องรีบไปยังค่ายกลวิญญาณ นี่คือจดหมายของท่านวูหยง ท่านสามารถไปยังภูเขาอี้เทียนโดยตรงและไม่จำเป็นต้องกลับไปที่ตระกูลวู” วูฝามอบวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับฟางหยวน
ฟางหยวนรับจดหมายและอ่านมัน
เนื้อหาในจดหมายเป็นเสียงของวูหยงที่บอกถึงสถานการณ์เลวร้ายที่ค่ายกลวิญญาณและต้องการให้ฟางหยวนไปที่นั่นทันที
ฟางหยวนถอนหายใจลึก “ดูเหมือนข้าจะไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องไป ”
“โปรดรีบไป ท่านวูอี้ไห่ ” วูฝากล่าวด้วยความกังวล
ฟางหยวนส่ายศีรษะก่อนจะบินไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
วูฝามองฟางหยวนกระทั่งเขาหายตัวไปจากขอบฟ้า
จากนั้นเขาก็เผยรอยยิ้มเย้ยหยัน ทุกคนรู้ว่าภูเขาที่อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือคือภูเขาต้าเผิงซึ่งเป็นที่ตั้งของตระกูลเฉียว
วูฝากลับไปที่ตระกูลวูและรายงานวูหยง “ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่ง ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ท่านวูอี้ไห่เดินทางไปยังค่ายกลวิญญาณแล้ว ”
วูหยงกำลังเขียนข้อความบนกระดาษอยู่บนโต๊ะทำงาน
เขาพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะหยุดสิ่งที่ทำอยู่ตรงหน้า
มีถ้อยคำเขียนไว้บนกระดาษ “ใช้งานได้แต่ไม่สามารถเชื่อใจ ”
“นานมาแล้วเมื่อข้ายังเด็ก ท่านแม่ถามความคิดเห็นของข้าเกี่ยวกับตระกูลเฉียว ข้าตอบด้วยห้าคำนี้ ข้ายังจำรอยยิ้มของท่านแม่ได้อย่างชัดเจน ” วูหยงถอนหายใจ “น่าเสียดายที่น้องชายของข้าไม่เข้าใจเรื่องนี้ ”