Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน – ตอนที่ 1327 จดหมายท้าทาย

เทพปีศาจหวนคืน  บทที่  1327 จดหมายท้าทาย

 

แปลโดย  iPAT   

 

 

ฟางหยวนกวาดตามองบัญชี  สิ่งนี้ช่วยให้เขาเข้าใจกองกำลังรอบตัวได้มากขึ้น  จากนั้นเขาก็บอกให้วูอันและเทพธิดากระต่ายขาวออกไป

 

 

“นายท่าน  มีเรื่องหนึ่งข้าไม่รู้ว่าควรกล่าวดีหรือไม่ ?” ก่อนออกไป  วูอันกล่าวด้วยความลังเล

 

 

“พูด ” ฟางหยวนกล่าวอย่างตรงไปตรงมา

 

 

วูอันรายงานฟางหยวนเกี่ยวกับข่าวลือที่เกิดขึ้นเร็วๆนี้ว่าผู้อมตะจื่อซานกำลังจะมาตรวจสอบค่ายกลวิญญาณ

 

 

ฟางหยวนเข้าใจความหมายของวูอันทันทีและโบกมือให้เขาออกไป

 

 

‘เฉียวซื่อหลิวมีผู้ชายหมายปองมากมาย  จื่อซานเป็นหนึ่งในคนสำคัญ ’

 

 

‘เขาไม่เคยมีความคิดที่จะมาตรวจสอบค่ายกลวิญญาณ  คราวนี้เขาต้องตั้งใจมาสร้างปัญหาให้ข้า ’

 

 

ผู้อมตะฝ่ายธรรมะจะไม่ต่อสู้จนตัวตายแต่พวกเขาจะใช้วิธีสร้างปัญหาและทำลายชื่อเสียงของฝ่ายตรงข้าม

 

 

‘ข้าสามารถหลีกเลี่ยงการต่อสู้และไม่สนใจชื่อเสียง ’ ฟางหยวนลูบคาง  ‘แต่ข้าจำเป็นต้องป้องกันไม่ให้ความลับถูกเปิดเผย  ท้ายที่สุดค่ายกลวิญญาณนี้ก็ถูกสร้างขึ้นโดยตระกูลจื่อ  พวกเขาเป็นกองกำลังใหญ่ของภาคใต้ที่มีความเชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งค่ายกล’

 

 

ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของตระกูลจื่อสร้างค่ายกลวิญญาณนี้ขึ้นมาด้วยตนเอง เขาเป็นปรมาจารย์เอกบนเส้นทางแห่งค่ายกล

 

 

การมาถึงของจื่อซานเร็วกว่าที่ทุกคนคาดหมาย

 

 

งานเลี้ยงต้อนรับเขาเป็นสิ่งสำคัญ

 

 

เนื่องจากจื่อซานเป็นตัวแทนของตระกูลจื่อ  เขามีหน้าที่ตรวจสอบค่ายกลวิญญาณทั้งหมด

 

 

ระหว่างงานเลี้ยงมีคลื่นใต้น้ำเกิดขึ้น

 

 

คนฉลาดจะรู้ว่านี่ไม่ใช่หน้าที่ของจื่อซานแต่เขากลับเดินทางมาที่นี่ ขณะที่ทุกคนในภาคใต้รู้ว่าจื่อซานกำลังไล่ตามเฉียวซื่อหลิว  แต่ในช่วงเวลาที่ผ่านมามีข่าวลือว่าวูอี้ไห่สนิทสนมกับเฉียวซื่อหลิวเป็นอย่างมาก

 

 

วัตถุประสงค์ของจื่อซานในการเดินทางมาที่นี่ในครั้งนี้ชัดเจนมาก

อ่านิยาย

 

แต่น่าเสียดายที่ฟางหยวนไม่ได้เข้าร่วมในงานเลี้ยงต้อนรับคนผู้นี้

 

 

เขายังสำรวจอาณาจักรแห่งความฝันต่อไปอย่างเงียบๆ

 

 

หลายคนให้ความสนใจกับเรื่องนี้และรู้สึกผิดหวังที่ไม่ได้เห็นละครฉากใหญ่

 

 

ปาเต๋อวางถ้วยชาลง  “หลานชายจื่อซาน  ข้าได้แนะนำผู้อมตะทั้งหมดแล้ว  พวกเขาล้วนเป็นชนชั้นสูง  แต่น่าเสียดายที่วันนี้มีบางคนยังไม่ปรากฏตัว  เขามาจากทะเลตะวันออกและเข้าร่วมกับกองกำลังของภาคใต้  เมื่อเร็วๆนี้เขาเอาชนะเซี่ยเฟยกุ้ยและสัตว์ประหลาดเฒ่าเคลื่อนภูเขา เขาคือผู้นำของตระกูลวูในค่ายกลวิญญาณแห่งนี้ ”

 

 

หัวใจของผู้อมตะทั้งหมดในงานเลี้ยงสั่นไหวเมื่อได้ยินถ้อยคำเหล่านี้

 

 

พวกเขารู้ว่าปาเต๋อกำลังกล่าวถึงผู้ใด

 

 

จื่อซานอยู่ในชุดคลุมสีขาว  เขามีใบหน้าที่หล่อเหลา  ดวงตาลึก  จมูกเรียวเล็ก  เขาอายุหนึ่งร้อยหกสิบปี

 

 

ปาเต๋ออาวุโสกว่าจื่อซานมาก  ตระกูลจื่อและตระกูลปาเป็นพันธมิตรผ่านการแต่งงาน  ดังนั้นปาเต๋อจึงเรียกจื่อซานว่าหลานชาย

 

 

จื่อซานยิ้ม  “ข้าเคยได้ยินชื่อเสียงของวูอี้ไห่มาก่อน  น่าเสียดายที่ข้าไม่สามารถพบเขาในวันนี้  แต่ข้าจะอยู่ที่นี่สักพัก  ระหว่างนี้ข้าหวังว่าจะได้พบกับวูอี้ไห่ ”

 

 

งานเลี้ยงสิ้นสุดลง  วูอันและวูเหลียวพบช่วงเวลาที่ยากลำบากในงานเลี้ยง

 

 

“โอ้  เนื่องจากเป็นกรณีนี้  เช่นนั้นพรุ่งนี้ข้าจะจัดงานเลี้ยงและส่งคำเชิญไปยังจื่อซาน ” ฟางหยวนคิดก่อนกล่าว

 

 

วูอันและวูเหลียวชำเลืองมองกันด้วยความตื่นเต้น

 

 

เมื่อทั้งสองจากไป  ฟางหยวนก็มองไปยังอาณาจักรแห่งความฝัน

 

 

ตอนนี้เขาผ่านฉากที่สาม  สี่  และห้าเรียบร้อยแล้ว

 

 

ตัวละครหลักของอาณาจักรแห่งความฝันยังเป็นตู้ซื่อเฉินที่สั่งสอนบุตรชายของเขาอย่างเหี้ยมโหด ฟางหยวนต้องพบกับความทุกข์ทรมานจากสิ่งนี้จนเขาไม่เหลือพลังงานที่จะสาปแช่งอีกต่อไป

 

 

สิ่งนี้ทำให้ความสำเร็จบนเส้นทางแห่งค่ายกลของฟางยวนเพิ่มขึ้นอีกครั้ง ตอนนี้เขากลายเป็นกึ่งปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งค่ายกลไปแล้ว

 

 

‘แต่ข้ายังห่างไกลจากระดับปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งค่ายกลที่แท้จริง’ ฟางหยวนรู้สึกอย่างชัดเจน

 

 

ยิ่งระดับสูงขึ้น  การบรรลุก็ยิ่งยากขึ้น

 

 

‘อาณาจักรแห่งความฝันยังไม่จบ  ตามขนาดของมัน  เหลืออีกอย่างน้อยสองฉาก !’

 

 

‘บุตรชายของตู้ซื่อเฉินผู้นี้น่าทึ่งมาก  ความสำเร็จของเขาต้องเหนือกว่าระดับปรมาจารย์อย่างแน่นอน ’

 

 

‘แต่ตอนนี้จื่อซานกำลังตรวจสอบค่ายกลวิญญาณที่อยู่รอบๆ  ข้าควรจะหยุดสำรวจอาณาจักรแห่งความฝันในช่วงเวลานี้ ’

 

 

ค่ายกลวิญญาณนี้ถูกสร้างขึ้นโดยตระกูลจื่อ  ฟางหยวนยังไม่เข้าใจรูปแบบของมันอย่างสมบูรณ์  ดังั้นั้นมันจะดีกว่าหากเขาระวังตัว

 

 

ฟางหยวนรู้ดีว่าหากความลับเรื่องการคลี่คลายอาณาจักรแห่งความฝันของเขาถูกเปิดเผย มันจะส่งคลื่นความปั่นป่วนและส่งผลกระทบต่อเขาเป็นอย่างมาก

 

 

ในเวลานั้นไม่เพียงภาคใต้แต่อีกสี่ภูมิภาคจะระดมกำลังกันเพื่อตามหาเขา

 

 

“วูอี้ไห่เชิญข้าไปงานเลี้ยงในวันพรุ่งนี้งั้นหรือ ?” จื่อซานกล่าวกับวูอันด้วยรอยยิ้ม

 

 

“ข้าซาบซึ้งในความตั้งใจของเขา  แต่ …ยกโทษให้ข้าด้วย  ข้ายุ่งมาก  ตอนนี้ข้ากำลังจัดการเรื่องสำคัญ  รอให้ข้าตรวจสอบค่ายกลวิญญาณให้เรียบร้อยก่อน  หลังจากนั้นข้าจะไปเยี่ยมเขา ” จื่อซานปฏิเสธคำเชิญของฟางหยวนด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า

 

 

วูอันรู้สึกหมดหนทางขณะที่ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความโกรธและอับอาย

 

 

การกระทำของจื่อซานคือการตบหน้าตระกูลวู  สิ่งนี้ทำให้วูเหลียวและวูอันไม่พอใจ

 

 

อย่างไรก็ตามผู้อมตะของตระกูลอื่นลอบหัวเราะกับเรื่องนี้และคิดว่ามันเป็นการแสดงที่ดี

อ่านนิยาย

 

แต่ฟางหยวนยังสงบนิ่ง

 

 

เขามองวูอันและวูเหลียวอย่างเฉยเมย  “ในกรณีนี้เราจะรอ ”

 

 

เขาไม่แสดงความโกรธออกมาแม้แต่น้อย

 

 

“แต่ …” วูอันและวูเหลียวกังวล  แต่เนื่องจากฟางหยวนดูเหมือนจะไม่กังวล  พวกเขาก็ไม่สามารถทำสิ่งใดนอกจากออกไป

 

 

แม้ฟางหยวนจะไม่สำรวจอาณาจักรแห่งความฝันแต่เขายังมีสิ่งอื่นอีกมากมายที่ต้องทำ

 

 

ตัวอย่างเช่นการสร้างถ้ำขดด้ายเพื่อขยายพันธุ์แมงมุมหน้าคน

 

 

นี่จะเป็นแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของมิติช่องว่างจักรพรรดิ

 

 

ฟางหยวนเตรียมความพร้อมเอาไว้แล้ว

 

 

ทั้งหมดคือการสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับแมงมุมหน้าคน

 

 

ตามวิธีของเผ่าตงฟาน  การสร้างถ้ำขดด้ายต้องจัดตั้งค่ายกลวิญญาณและทรัพยากรอมตะระดับหกและเจ็ด

 

 

ฟางหยวนรวบรวมทรัพยากรเหล่านั้นไว้แล้ว

 

 

ต่อไปคือการจัดตั้งค่ายกลวิญญาณ

 

 

โดยทั่วไปค่ายกลวิญญาณที่อาศัยทรัพยากรอมตะสามารถสร้างขึ้นโดยปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งค่ายกลเท่านั้น

 

 

ก่อนที่จะสำรวจอาณาจักรแห่งความฝัน  ฟางหยวนยังไม่เข้าใจค่ายกลวิญญาณดังกล่าว  แต่ตอนนี้เขาเข้าใจมันอย่างชัดเจน  ท้ายที่สุดตอนนี้เขาก้กลายเป็นกึ่งปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งค่ายกลไปแล้ว

 

 

นอกจากนั้นฟางหยวนยังได้รับแรงบันดาลใจบางอย่าง

 

 

‘บางทีข้าอาจสามารถพัฒนาค่ายกลวิญญาณนี้และเพิ่มวิญญาณความพยายามเข้าไป ตามหลักการของค่ายกลวิญญาณ  หากข้าเพิ่มวิญญาณความพยายามเข้าไป  ผลผลิตของแมงมุมหน้าคนจะเพิ่มขึ้นอย่างน้อยแปดเท่า !’

 

 

หัวใจของฟางหยวนเต้นแรงด้วยความตื่นเต้น

 

 

หากเขาสามารถบรรลุเป้าหมายนี้  ธุรกิจแมงมุมหน้าคนจะนำหน้าธุรกิจปลามังกร  ผลกำไรที่เขาได้รับอาจนำหน้ากระทั่งธุรกิจวิญญาณความเด็ดเดี่ยว

 

 

สิ่งนี้อาจฟังดูเหมือนเกินจริงแต่หากพิจารณาอย่างถี่ถ้วน  มันเป็นไปได้ !

 

 

วิญญาณความเด็ดเดี่ยวถูกจำกัดด้วยปริมาณดวงวิญญาณ  ปัจจุบันนิกายหลางหยากำลังพยายามฆ่าสัตว์อสูรเดียวดายที่ไท่ชิวและใช้ดวงวิญญาณของพวกมันผลิตวิญญาณความเด็ดเดี่ยว พวกเขายังนำดวงวิญญาณบางส่วนมาจากสวรรค์สีเหลืองและแดนน้ำแข็งของภาคเหนือ

 

 

ประเด็นสำคัญก็คือตระกูลเซียวของทะเลทรายตะวันตกมีกำลังซื้อแมงมุมหน้าคนทั้งหมด พวกเขามีความต้องการสินค้าชนิดนี้สูงมาก

 

 

ฟางหยวนเริ่มอนุมาน

 

 

แต่ในไม่ช้าเขาก็พบปัญหา

 

 

เขาไม่สามารถสร้างค่ายกลวิญญาณไม่ว่าจะใช้วิธีบนเส้นทางแห่งปัญญากี่วิธีก็ตาม

 

 

‘ข้าเป็นเพียงกึ่งปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งค่ายกล  หากข้าเป็นปรมาจารย์  ข้าจะสามารถพัฒนาค่ายกลวิญญาณนี้ได้อย่างสมบูรณ์ ” ฟางหยวนตระหนักถึงเรื่องนี้

 

 

“อย่างไรก็ตามแม้ข้าจะไม่ใช่ปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งค่ายกล  แต่มีบางคนแถวนี้ที่เป็น ”

 

 

คนผู้นี้ไม่ใช่ผู้ใดนอกจากจื่อซาน !

 

 

หลังจากจื่อซานปฏิเสธคำเชิญของฟางหยวน  เขาเริ่มลาดตระเวนไปรอบๆ

 

 

ผู้อมตะทุกคนในค่ายกลวิญญาณให้การต้อนรับเขาอย่างอบอุ่น

 

 

จื่อซานตั้งใจตรวจสอบค่ายกลวิญญาณอย่างช้าๆ  ทุกคนรู้ดีว่ายิ่งช้าเท่าใด  ใบหน้าของตระกูลวูก็ยิ่งเสียหายเท่านั้น

 

 

โดยธรรมชาติแล้วมันคือวูอี้ไห่ที่เป็นศัตรูของจื่อซาน  ไม่ใช่ตระกูลวู

 

 

คู่แข่งความรัก !

 

 

‘วูอี้ไห่  เจ้าคิดว่าตนเองสูงส่งและแข็งแกร่งมาก  เจ้าดูถูกข้า  เจ้าเชิญข้า  แต่คิดว่าข้าจะรีบไปหาเจ้างั้นหรือ ? ฮืม  ข้าจะให้เจ้ามาหาข้าด้วยตนเอง !’ จื่อซานมีความตั้งใจที่แน่วแน่

 

 

แต่ในไม่ช้าแผนของเขาก็ถูกทำลาย

 

 

เพราะจดหมายท้าทายของฟางหยวนมาถึงมือเขาแล้ว

 

 

ในจดหมายฟางหยวนเขียนว่า  ครั้งหนึ่งข้าเคยไปเที่ยวจุดชมวิวกับเทพธิดาซื่อหลิวและในเวลานั้นชื่อของเจ้าก็ถูกกล่าวถึง เทพธิดาซื่อหลิวยกย่องว่าเจ้าเป็นอัจฉริยะบนเส้นทางแห่งค่ายกล  แต่ข้าวูอี้ไห่ไม่ยอมรับเรื่องนั้น  ข้าได้สร้างปัญหาบนเส้นทางแห่งค่ายกลขึ้นมา  ลองดูว่าเจ้าจะสามารถแก้ปัญหานี้ได้หรือไม่ ? หากเจ้าทำได้  มันจะเป็นชัยชนะของเจ้า  หากเจ้าทำได้  มันจะเป็นความพ่ายแพ้ของข้า  ข้าจะแจ้งให้เทพธิดาซื่อหลิวทราบถึงผลลัพธ์นี้หลังจากนั้น

 

 

จื่อซานถูกล่อลวงอย่างสมบูรณ์ !

 

 

‘วูอี้ไห่  ดังคาด  เจ้าทนไม่ไหวแล้ว ’

 

 

‘แต่เจ้าต้องการใช้เส้นทางแห่งค่ายกลเพื่อสร้างปัญหาให้ข้าจริงๆงั้นหรือ?’

 

 

‘เจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงแต่กลับต้องการใช้ปัญหาบนเส้นทางแห่งค่ายกลเพื่อทำให้ข้าอับอายงั้นหรือ? สิ่งใดที่ทำให้เจ้ามีความกล้าถึงเพียงนี้ ?’

 

 

‘เจ้ากำลังร้องขอความอัปยศให้กับตนเอง ! ข้าจะบอกเทพธิดาซื่อหลิวเกี่ยวกับความพ่ายแพ้ของเจ้าอย่างแน่นอนและนี่จะพิสูจน์ให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของข้า จื่อซาน !’

 

 

———————–

 

วันนี้มีหนึ่งตอน

Reverend Insanity

Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบของวิญญาณซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา! Humans are the spirit of all living beings, Gu are the essence of heaven and earth. With his three views* unrighteous, a demon is reborn. Former days are but an old dream, an identical name is made anew. The story of a time traveller who keeps on being reborn. A unique world that nurtures, refines, and uses Gu. Spring Autumn Cicada, Moonlight Gu, Liquor Worm, Great Qi Golden Light Worm, Slender Black Hair Gu, Hope Gu… And a great demon of the world that acts as his heart pleases! A story of a villain, Fang Yuan who was reborn 500 years into the past with the Spring Autumn Cicada he painstakingly refined. With his profound wisdom, battle and life experiences, he seeks to overcome his foes with skill and wit! Ruthless and amoral, he has no need to hold back as he pursues his ultimate goals. In a world of cruelty where one cultivates using *Gu – magical creatures of the world – Fang Yuan must rise up above all with his own power. Notes : *Gu is a legendary venomous insect, often used in black magic practices. It can take on the form of several insects, usually snakes, crickets, worms etc. *Three views = one’s world view, values of worth, and philosophy on life.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset