เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1173 ถ้ำปีศาจคลั่ง
แปลโดย iPAT
ถ้ำสวรรค์ไห่ฟาน
ร่างเทียมของจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูนับหมื่นร่างลอยอยู่กลางอากาศและมองไปที่ชูตู๋
การแสดงออกของจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูแตกต่างจากก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง ใบหน้าของเขาดูเคร่งขรึมมาก
“ชูตู๋! มอบตัวฆาตกรและส่งถ้ำสวรรค์ไห่ฟานให้ข้า ด้วยวิธีนี้ข้าอาจไว้ชีวิตเจ้า!”
ปากนับหมื่นกล่าวอย่างพร้อมเพรียง
ชูตู๋ยืนอยู่บนพื้นและเงยหน้ามอง
หากเปรียบเทียบกับร่างนับหมื่นของจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซู ชูตู๋ดูโดดเดี่ยวและอ่อนแอกว่ามาก
อย่างไรก็ตามร่างกายของเขายังตั้งตรงเหมือนหอกที่ไม่หวั่นไหว
“ฮืม! เจ้ากำลังบุกโจมตีถ้ำสวรรค์ของข้า แต่เจ้าต้องการให้ข้ายอมจำนนงั้นหรือ? หากคนเผ่าไป่ซูเสียชีวิต มันก็คือบทลงโทษและค่าตอบแทนที่เจ้าต้องจ่ายให้ข้า!”
ชูตู๋กล่าวเสียงดังอย่างไม่เกรงกลัว
จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูยังต้องการกล่าวต่อแต่ชูตู๋กลับกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะทันที
ความแข็งแกร่งของสวรรค์พิภพ!
ร่างเทียมทั้งหมดของจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูระเบิดในเวลาเดียวกันและสร้างเป็นฉากที่น่าประทับใจ
กองทัพศัตรูถูกทำลายโดยชูตู๋ในการโจมตีเดียว
“จักรพรรดิอมตะ!” ด้านนอกถ้ำสวรรค์ไห่ฟาน ร่างจริงของจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูขมวดคิ้วและกัดฟันแน่นด้วยความโกรธ
ไม่นานมานี้จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูได้รับจดหมายแจ้งการเสียชีวิตของไป่ซูเหว่ยจากเผ่าของเขา
จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูโกรธมาก
ไป่ซูเหว่ยเป็นเด็กที่เขาเลี้ยงดูมานานที่สุด
ผู้ใดจะคิดว่าหลังจากก่อตั้งเผ่าไป่ซูได้เพียงไม่นาน เขาจะเสียชีวิตอย่างรวดเร็ว นี่เป็นเรื่องที่น่าเสียใจอย่างยิ่ง
จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูตระหนักได้ทันทีว่าหากเรื่องนี้ไม่ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม มันจะเกิดวิกฤตครั้งใหญ่
‘หากข้าไม่ทำลายถ้ำสวรรค์ไห่ฟานและสังหารฆาตกร ชื่อเสียงของข้าจะพังพินาศ ผู้คนจะคิดว่าข้าอ่อนแอ เผ่าไป่ซูจะถูกผลักออกไป’
จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูไม่ยอมให้สิ่งนี้เกิดขึ้น
แต่การเรียกร้องให้ยอมจำนนก่อนหน้านี้ไม่ได้ผล
‘จักรพรรดิอมตะชูตู๋! คนผู้นี้แข็งแกร่งราวกับหินบนชายหาด คลื่นเพียงลูกเดียวไม่สามารถหยุดเขา เช่นนั้นข้าก็จะให้เจ้าพบกับคลื่นยักษ์!’ จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูตั้งใจแน่วแน่
ในถ้ำสวรรค์ไห่ฟาน
“จักรพรรดิอมตะ ข้า ห่าวเจิ้น รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รู้จักกับท่าน!”
“จักรพรรดิอมตะ ข้า เชาเหลาอู๋ จะเชื่อฟังท่านเพียงผู้เดียว!”
ก่อนหน้านี้ห่าวเจิ้นและเชาเหลาอู๋ถูกนำเข้ามาในถ้ำสวรรค์ไห่ฟาน
พวกเขาซ่อนตัวอยู่ใต้ดิน เพียงเมื่อชูตู๋กำจัดร่างเทียมทั้งหมดของจักรพรรดิสวรรค์ พวกเขาจึงปรากฏตัวขึ้น
แรกเริ่มพวกเขารู้สึกกังวล แต่ชูตู๋ปฏิเสธข้อเสนอยอมจำนนของจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น นั่นทำให้ความสงสัยของพวกเขาถูกปัดเป่าออกไปและรู้สึกยกย่องชูตู๋เป็นอย่างมาก
“พวกเจ้าทั้งสอง” ชูตู๋แสดงออกอย่างจริงใจ “พวกเจ้าพบปัญหาเพราะข้า หากข้ายอมแพ้ต่อการคุกคามของผู้อมตะระดับแปดและละทิ้งพวกเจ้า ข้าคงต้องทิ้งชื่อจักรพรรดิอมตะ และนั่นไม่ใช่นิสัยของข้า ชูตู๋!”
“จักรพรรรดิอมตะตอนนี้พวกเราจะทำอย่างไร?” เชาเหลาอู๋ถาม
ชูตู๋เผยรอยยิ้มบาง “อย่ากังวล ถ้ำสวรรค์ไห่ฟานไม่ธรรมดา ก่อนหน้านี้ข้าเพียงผู้เดียวยังสามารถปกป้องมันได้ ตอนนี้มีพวกเจ้าให้ความช่วยเหลือ พวกเราไม่จำเป็นต้องกังวล”
เชาเหลาอู๋และห่าวเจิ้นพยักหน้าแต่ยังกังวลอยู่ภายใน
ชูตู๋กล่าวต่อ “แน่นอนว่าในที่สุดพวกเราจะพ่ายแพ้ แต่ตอนนี้ข้าส่งจดหมายของกำลังเสริมไปแล้ว พวกเราจะต่อสู้กับจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูสักครั้ง!”
ห่าวเจิ้นและเชาเหลาอู๋โห่ร้องเรียกขวัญกำลังใจ
“จักรพรรดิอมตะ ท่านสามารถควบคุมสถานการณ์ได้อย่างมั่นคง พวกเราสบายใจแล้ว”
“ชื่อเสียงของท่านจะดึงดูดผู้คนมาที่นี่เพื่อเอาชนะผู้อมตะระดับแปด นี่จะเป็นความสำเร็จที่น่าทึ่ง”
ห่าวเจิ้นและเชาเหลาอู๋มองหน้ากันก่อนกล่าวต่อ “เราเต็มใจที่จะแบกรักค่าใช้จ่ายในการเชิญชวนสหายร่วมศึก!”
ชูตู๋หัวเราะ “ไม่จำเป็น นี่เป็นปัญหาของข้าตั้งแต่เริ่มต้น แล้วข้าจะไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายได้อย่างไร?”
หลังกล่าวจบคำ ชูตู๋จับมือห่าวเจิ้นและเชาเหลาอู๋ “โชคลาภและภัยพิบัติมาพร้อมกันเสมอ ไม่ว่ามันจะจบลงด้วยโชคลาภหรือภัยพิบัติ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการทำงานหนักของเรา หากเราสามารถปกป้องถ้ำสวรรค์ไห่ฟาน ข้ายินดีมอบพื้นที่หกสิบส่วนให้พวกเจ้าทั้งสอง มันเป็นโชคชะตาที่นำพวกเรามาพบกัน ตั้งแต่วันนี้ข้าหวังว่าพวกเราสามคนจะผ่านพ้นความยากลำบากไปด้วยกันไม่ว่าจะยากจนหรือร่ำรวย!”
ผลประโยชน์มหาศาล!
ชูตู๋สัญญาว่าหลังจากประสบความสำเร็จ เขาจะมอบพื้นที่หกสิบส่วนของถ้ำสวรรค์ไห่ฟานให้กับห่าวเจิ้นและเชาเหลาอู๋!
ดวงตาของห่าวเจิ้นและเชาเหลาอู๋ส่องประกายขึ้นทันที
นี่คือถ้ำสวรรค์ไห่ฟานที่ปราศจากภัยพิบัติใดๆทั้งสิ้น
ตราบเท่าที่พวกเขาสามารถปกป้องมัน ชูตู๋จะมอบส่วนแบ่งให้พวกเขาคนละสามสิบส่วน!
พวกเขารู้สึกว่านี่คือโชคลาภที่สวรรค์ประทานอย่างแท้จริง!
ร่างของห่าวเจิ้นสั่นสะท้านขึ้นด้วยความตื่นเต้น “ผ่านหนาวผ่านร้อนด้วยกันไม่ว่าจะยากจนหรือร่ำรวย!”
ดวงตาของเชาเหลาอู๋กลายเป็นสีแดง “การได้พบกับจักรพรรดิอมตะถือเป็นพรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของข้า!”
ชูตู๋ไม่เพียงรับพวกเขาเข้าร่วมแต่ยังให้ผลประโยชน์มหาศาล แล้วพวกเขาจะไม่ยินดีได้อย่างไร?
ทันใดนั้นห้วงมิติบนท้องฟ้าของถ้ำสวรรค์ไห่ฟานพลันเกิดการบิดเบี้ยว
ต่อมาเงาร่างจำนวนมากก็ปรากฏขึ้นไม่ว่าจะเป็นร่างเทียมของจักรพรรดิสรรค์ไป่ซูและสัตว์อสูรเดียวดายจำนวนมหาศาล
ใบหน้าของผู้อมตะทั้งสามเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม
จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งทาส เขาไม่สามารถเข้ามาในถ้ำสวรรค์ไห่ฟานแต่เขาสามารถส่งกองทัพสัตว์อสูรเข้ามา
ท่ามกลางพวกมันมีสัตว์อสูรบรรพกาลหลายตัว
พืชอสูรบรรพกาลหลั่งรากลงสู่พื้นดินและเริ่มเปลี่ยนแปลงภูมิประเทศ
“จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูใช้ทักษะที่แท้จริงออกมาแล้ว!”
“พวกเราต้องเคลื่อนไหว ฆ่าพวกมัน!”
ชูตู๋ตะโกนเสียงดัง “ดี พวกเจ้าไปฆ่าสัตว์อสูรเหล่านั้น ข้าจะควบคุมสถานการณ์และป้องกันไม่ให้ร่างจริงของจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูเข้ามา!”
หากร่างจริงของจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูเข้ามา พวกเขาจะไม่สามารถแข่งขัน
มีความแตกต่างขนาดใหญ่ระหว่างผู้อมตะระดับเจ็ดและระดับแปด
เหตุผลที่ชูตู๋สามารถต่อต้านจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูเพราะเขาใช้ถ้ำสวรรค์ไห่ฟานเป็นโล่ป้องกัน
…..
แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา
ในห้องลับของเมืองเมฆา ฟางหยวนนั่งอยู่โดยมีวิญญาณอมตะดวงหนึ่งเคลื่อนที่อยู่รอบๆ
มันคือวิญญาณอมตะคิ้วดาบระดับเจ็ด!
ฟางหยวนใช้มันเพื่อเพิ่มร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งดาบให้กับตนเอง
ห้องลับมืดมากแต่วิญญาณอมตะคิ้วดาบที่บินอยู่รอบๆทิ้งริ้วแสงสีเงินเอาไว้เบื้องหลัง
หลังจากไม่นานฟางหยวนก็หยุดการบ่มเพาะของเขา
ฟางหยวนใช้เวลาทุกวินาทีกับการบ่มเพาะไม่ว่าจะเป็นการบ่มเพาะจิตวิญญาณที่หุบเขาเหล่าโปหรือใช้วิญญาณอมตะคิ้วดาบเพิ่มร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งดาบให้กับตนเอง
โดยรวมแล้ววิญญาณอมตะคิ้วดาบมีประโยชน์มากแต่โชคไม่ดีที่มันเป็นวิญญาณอมตะระดับเจ็ด
ฟางหยวนเป็นผู้อมตะระดับหก การใช้วิญญาณอมตะระดับเจ็ดทำให้เขาต้องจ่ายด้วยองุ่นเขียวอมตะจำนวนมาก
ดังนั้นฟางหยวนจึงไม่สามารถใช้วิญญาณอมตะคิ้วดาบได้อย่างอิสระ มีเพียงหลังจากผ่านพ้นภัยพิบัติและสถานะทางการเงินอยู่สถานการณ์ที่ดี เขาจึงจะสามารถใช้วิญญาณอมตะดวงนี้
“หือ ชูตู๋ส่งจดหมายมา” ฟางหยวนเก็บวิญญาณอมตะคิ้วดาบเมื่อเขาได้รับข้อความ
ชูตู๋อธิบายเกี่ยวกับว่าสถานการณ์ในถ้ำสวรรค์ไห่ฟาน เขายังบอกฟางหยวนถึงทัศนคติที่มั่นคงของเขา
ขณะที่ชูตู๋เขียนจดหมายฉบับนี้ จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูยังไม่ได้ขอให้ชูตู๋ยอมจำนนและยังไม่ได้ส่งกองทัพสัตว์อสูรบุกถ้ำสวรรค์ไห่ฟาน อย่างไรก็ตามชูตู๋สามารถคาดการณ์ล่วงหน้า
จดหมายกล่าวว่า “พลังการต่อสู้ระดับแปดไม่ใช่สิ่งที่เขาสามารถต่อต้าน แม้จะได้รับการปกป้องจากถ้ำสวรรค์ไห่ฟาน แต่ความพ่ายแพ้ก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยง มันเป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้น”
“เขาตระหนักถึงสถานการณ์ของตนเองเป็นอย่างดี” ฟางหยวนชื่นชมและอ่านต่อ
ชูตู๋ขอความช่วยเหลือจากฟางหยวนและบอกแผนการต่อไปของเขา
การขอกำลังเสริมเพื่อปกป้องถ้ำสวรรค์ไห่ฟานและป้องกันไม่ให้จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูได้รับประโยชน์ใดไม่ใช่ประเด็นสำคัญ
สิ่งสำคัญคือกองกำลังอื่นๆและผู้อมตะที่ไม่พอใจเผ่าไป่ซู ตราบเท่าที่จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูตระหนักว่าเผ่าไป่ซูตกอยู่ในสถานการณ์อันตราย เขาจะหยุดโจมตีถ้ำสวรรค์ไห่ฟานและกลับไปรักษาเสถียรภาพของเผ่า
นั่นเป็นวิธีเดียวที่จะทำให้จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูจากไป
เดิมทีจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูไม่มีจุดอ่อนนี้แต่หลังจากเขาก่อตั้งกองกำลังและเข้าสู่ฝ่ายธรรมะ เขาจึงต้องปกป้องมัน
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าแผนนี้จะใช้ได้ผล มันเป็นวิธีเดียวที่สามารถจัดการจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซู
ฟางหยวนเคยคิดถึงวิธีนี้เช่นกัน
“ผู้ใดที่ชูตู๋ขอความช่วยเหลือ? ดูเหมือนเขาจะค่อนข้างมั่นใจ แต่เขาขอให้ข้าไปยังถ้ำปีศาจคลั่งเพื่อขอกำลังเสริมที่มีความสามารถเท่านั้น”
ถ้ำปีศาจคลั่ง!
หนึ่งในสิบเขตต้องห้ามของภาคเหนือ
ผู้บ่มเพาะสันโดษคนใดอยู่ที่นั่น ผู้ใดที่ชูตู๋คิดว่าสามารถสนับสนุนเขา?
ฟางหยวนเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น
ถ้ำปีศาจคลั่งแตกต่างจากเขตต้องห้ามอื่นๆ
หากเป็นไท่ชิว แม้มันจะอันตราย แต่ก็ยังสามารถเดินทางไปได้ มีผู้บ่มเพาะสันโดษบางคนบ่มเพาะอย่างลับๆอยู่ที่นั่น นิกายหลางหยาก็กำลังทำสิ่งเดียวกันนั้นอยู่ในขณะนี้
แต่ถ้ำปีศาจคลั่งถูกสร้างขึ้นโดยเทพปีศาจไร้ขอบเขต ถ้ำแห่งนี้เต็มไปด้วยเสียงปีศาจและผู้อมตะที่เสียสติ ในประวัติศาสตร์กระทั่งผู้อมตะระดับแปดก็ยังสูญเสียตัวตนและกลายเป็นคนบ้าเพราะถ้ำแห่งนี้