ฟางหยวนนั่งไขว้ขาอยู่บนพื้นและนำร่างผีดิบอมตะของเขาออกมาจากมิติช่องว่าง
ภายใต้การจ้องมองของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา เขาย้ายดวงวิญญาณเข้าสู่ร่างผีดิบอมตะ
ร่างผีดิบอมตะค่อยๆเปิดเปลือกตาและลุกขึ้นยืน
ฟางหยวนชำเลืองมองร่างทารกอมตะก่อนจะเดินเข้าไปหาวิญญาณสติปัญญา
“วิญญาณสติปัญญา” เขากล่าวด้วยน้ำเสียงแหบพร่าและไม่พอใจ “เจ้ายังจำข้อตกลงของเราได้หรือไม่?”
วิญญาณสติปัญญาที่กำลังเล่นอยู่รอบๆหยุดเคลื่อนไหวและมองฟางหยวนอย่างเงียบๆ
เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ ฟางหยวนลอบกลั้นหายใจแม้ร่างผีดิบอมตะจะไม่ต้องหายใจก็ตาม
วิญญาณสติปัญญาบินวนรอบๆฟางหยวนด้วยความไม่แน่ใจ
มันบินวนเวียนไปรอบๆและสังเกตฟางหยวนซ้ำแล้วซ้ำอีกก่อนจะกลับไปพักอยู่บนต้นไม้
จากนั้น…
แสงแห่งปัญญา!
“สำเร็จ! ในที่สุดข้าก็ทำสำเร็จ!” ฟางหยวนไม่สามารถกลั้นเสียงหัวเราะเอาไว้ได้
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาตกตะลึง นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นฉากนี้
“แสงแห่งปัญญา! นี่คือแสงแห่งปัญญาจริงๆ!” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยามองแสงแห่งปัญญาและตระหนักถึงสิ่งนี้ได้ทันที
เขากลายเป็นอัจฉริยะ
แต่เขาค่อยๆถอยห่างจากแสงแห่งปัญญาและมองดูฟางหยวนจากระยะไกลด้วยความอิจฉา
‘ฟางหยวนประสบความสำเร็จในการเรียกแสงแห่งปัญญา น่าทึ่งนัก เด็กคนนี้น่าทึ่งจริงๆ!’
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยามองฟางหยวนด้วยความรู้สึกซับซ้อน
แม้จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาจะมีสองบุคลิกแต่ทั้งสองมีความทรงจำเดียวกัน
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยายังจำช่วงเวลาเมื่อหลายปีก่อนได้ดี เวลานั้นฟางหยวนยังเป็นเพียงผู้ใช้วิญญาณตัวเล็กๆที่เข้ามายังแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาเป็นครั้งแรก
แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาฟางหยวนไม่เพียงกลายเป็นผู้อมตะแต่ชื่อของเขายังโด่งดังไปทั่วทั้งห้าภูมิภาคด้วยพลังการต่อสู้ระดับแปด
และตอนนี้เขายังสามารถเรียกแสงแห่งปัญญาออกมาใช้งาน!
เขาเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว
หากฟางหยวนไม่ได้รับมรดกของนิกายเงาและมีเพียงแสงแห่งปัญญา เขาอาจถูกมองว่าเป็นเสือติดปีกแต่ฟางหยวนที่ครอบครองมรดกของนิกายเงาและยังได้รับความช่วยเหลือจากแสงแห่งปัญญา นี่ทำให้ฟางหยวนก้าวไปถึงระดับที่ไม่สามารถจินตนาการถึง
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยามีชีวิตอยู่มานานและเคยเห็นตัวละครมาทุกประเภทแต่ตอนนี้เขากลับไม่สามารถประเมินความสำเร็จในอนาคตของฟางหยวนได้อีกต่อไป
ไม่มีทางที่จะประเมินมันได้
เขาไม่สามารถคาดเดาความก้าวหน้าในอนาคตของฟางหยวน
ความสำเร็จใดๆที่ฟางหยวนสร้างขึ้นหลังจากนี้สามารถเข้าใจและยอมรับได้ทั้งสิ้น
ฟางหยวนหัวเราะ
เขาสงบจิตใจลงก่อนจะกล่าวกับวิญญาณสติปัญญา “เอาล่ะ วิญญาณสติปัญญา โปรดให้ข้าหยุดพัก”
แสงแห่งปัญญาค่อยๆเลือนหายไป
ฟางหยวนสูดหายใจลึกก่อนกล่าวต่อ “วิญญาณสติปัญญามาต่อกันเถอะ”
ในเวลาต่อมา แสงแห่งปัญญาก็ส่องสว่างขึ้นอีกครั้ง
ฟางหยวนกำหมัดแน่นด้วยความตื่นเต้น
ข้อเท็จจริงนี้พิสูจน์ได้ว่าแสงแห่งปัญญากลับมาแล้ว! จากนี้ไปเขาจะสามารถใช้แสงแห่งปัญญาได้ชั่วนิรันดร์!
จากนั้นฟางหยวนก็หันหน้ามายิ้มให้จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา “ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่ง เรามาแลกเปลี่ยนมรดกกันเถอะ”
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยายอกย่องอยู่ในใจ ‘จิตใจของฟางหยวนยังคมชัด’
“ตกลง” เขาตกลงโดยปราศจากความลังเล
หากเป็นจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาคนก่อนหน้า เขาอาจปฏิเสธเพราะเขาชอบการหลอมรวมวิญญาณเท่านั้น แต่จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาคนปัจจุบันต้องการยึดครองโลก ดังนั้นเขาจึงต้องทำทุกอย่างเพื่อยกระดับนิกายหลางหยา
นิกายหลางหยาต้องการมรดกทุกประเภท ด้วยเหตุนี้จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาจึงต้องการมรดกที่อยู่ในการครอบครองของฟางหยวน
โดยเฉพาะมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจจิตวิญญาณ
เทพปีศาจจิตวิญญาณเข่นฆ่าสิ่งมีชีวิตจำนวนนับไม่ถ้วน ทักษะบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณของเขาน่าอัศจรรย์มาก หากนิกายหลางหยาได้รับสิ่งนี้ มันจะสามารถเติมเต็มข้อบกพร่องของนิกายหลางหยา
ทั้งสองฝ่ายแลกเปลี่ยนกันอย่างรวดเร็ว
ฟางหยวนได้รับมรดกเกือบทั้งหมดของนิกายหลางหยารวมถึงมรดกที่แท้จริงโชคของตนเองและมรดกที่แท้จริงของบรรพชนผมยาว
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาได้รับมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจจิตวิญญาณ มรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจไร้ขอบเขต มรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดง มรดกที่แท้จริงของเทพอมตะสวรรค์พิภพ ตลอดไปถึงมรดกอีกนับไม่ถ้วน
ทุกมรดกที่นิกายเงารวบรวมมาล้วนเป็นมรดกที่โดดเด่นทั้งสิ้น
ดังนั้นเมื่อพิจารณาจากมูลค่า ฟางหยวนจ่ายมากกว่านิกายหลางหยา
เพื่อชดเชยช่องว่างนี้ จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาต้องมอบหุบเขาเหล่าโปคืนให้กับฟางหยวน
ปัจจุบันฟางหยวนเป็นศัตรูกับคนทั้งโลกรวมกับการกระทำก่อนหน้าของเขา จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาจึงมีความเชื่อมั่นใจตัวฟางหยวนมากขึ้น
‘ฟางหยวนเป็นหนึ่งในพวกเรา สมาชิกนิกายหลางหยาของข้ายังสามารถใช้งานหุบเขาเหล่าโปแม้ข้าจะมอบมันคืนให้เขาก็ตาม’ นี่คือความคิดของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา
ด้านฟางหยวน เขาได้รับหนึ่งในสามมรดกที่แท้จริงโชคของตนเองที่สมบูรณ์แบบของเทพอมตะตะวันเดือดมาแล้ว
สำหรับมรดกที่แท้จริงของบรรพชนผมยาว ส่วนใหญ่มันกล่าวถึงวิธีการหลอมรวมวิญญาณของมนุษย์ขนซึ่งไม่ได้ช่วยฟางหยวนมากนัก
ในการทำธุรกรรมครั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายแลกเปลี่ยนเพียงมรดก มันไม่เกี่ยวกับวิญญาณอมตะใดๆ
โดยธรรมชาติแล้วฟางหยวนย่อมต้องการวิญญาณอมตะของนิกายหลางหยาเช่นวิญญาณบัวสวรรค์อมตะ
น่าเสียดายที่จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาไม่ต้องการขายวิญญาณอมตะเหล่านี้ออกไป
ฟางหยวนยังไม่ได้จากไปทันที เขายังอาบแสงแห่งปัญญาและเริ่มคิดถึงปัญหาทุกประเภท
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาต้องจากไปด้วยความโศกเศร้า
ตอนนี้ฟางหยวนแตกต่างจากก่อนหน้าอย่างสิ้นเชิง
ด้วยวิธีบนเส้นทางแห่งปัญญาผสานกับวิญญาณอมตะความใคร่และวิญญาณอมตะรักตัวเอง ทั้งหมดอนุญาตให้ฟางหยวนสร้างกลุ่มความคิดได้อย่างไม่รู้จบสิ้น
เขาสามารถใช้งานแสงปัญญาได้อย่างเต็มที่และได้รับคำตอบในการแก้ปัญหาต่างๆอย่างรวดเร็ว
ท่าไม้ตายอมตะอาภรณ์วิญญาณ!
นี่เป็นท่าไม้ตายจากมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจจิตวิญญาณ พลังอำนาจของมันคือการป้องกันเจตจำนงสวรรค์และการอนุมานจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา
กล่าวได้ว่ามันเป็นท่าไม้ตายสายป้องกัน
การป้องกันนี้แบ่งออกเป็นสี่ระดับที่สอดคล้องกับผู้อมตะระดับหก ระดับเจ็ด ระดับแปด และระดับเก้า
ด้วยรากฐานของฟางหยวน เขาประสบความสำเร็จในการดัดแปลงท่าไม้ตายอมตะนี้ แม้จะไม่มีวิญญาณอมตะที่จำเป็น เขาก็ยังสามารถใช้วิญญาณอมตะดวงอื่นทดแทน