เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1516 ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์แห่งชะตากรรม
แปลโดย iPAT
ขณะที่ฟางหยวนกำลังถูกไล่ล่าโดยวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ ผู้อมตะที่ดูเยาว์วัยนั่งไขว้ขาอยู่บนพื้นในสถานที่ห่างออกไป
เขาอยู่ในชุดคลุมสีเขียวและดูราวกับบัณฑิตที่ฉลาดเฉลียว
มันคือผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาที่ถูกส่งมาโดยเทพธิดาจื่อเว่ย ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของนิกายบัวสวรรค์ เฉินอี้
ตอนนี้เขาราวกับหลอมรวมเป็นหนึ่งกับสวรรค์พิภพ
เขากระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะและปล่อยควันสีเขียวลอยออกมา
ควันสีเขียวค่อยๆก่อตัวเป็นรูปต้นไม้ใหญ่ที่มีผลไม้จำนวนมาก
แต่ผลไม้เหล่านี้มีรูปร่างที่แปลกประหลาดและแตกต่างกัน บางผลเหมือนลูกพืชสีดำ บางผลใหญ่โตเหมือนอ่างน้ำสีชมพู บางผลมีหนามแหลมอยู่รอบๆ บางผลโปร่งแสง
ครู่ต่อมาเฉินอี้ก็หยุดใช้ท่าไม้ตายของเขาขณะที่ต้นไม้ที่สร้างจากควันสีเขียวจางหายไป
เขาเปิดเปลือกตาขึ้นอย่างช้า “เป็นเช่นนั้น”
เขาเข้าใจสถานการณ์ทั้งหมดแล้ว
เทพอมตะบัวสวรรค์เป็นเทพอมตะรุ่นหลังเทพปีศาจบัวแดงแต่เป็นรุ่นก่อนหน้าเทพปีศาจปล้นสวรรค์
สามแสนปีก่อนเทพอมตะบัวสวรรค์เดินทางมายังทะเลทรายตะวันตก ในช่วงเวลานั้นเขากลายเป็นผู้อมตะระดับเก้าแล้วแต่เขาปลอมตัวเป็นผู้ใช้วิญญาณและเดินทางไปทั่วโลก
ครั้งนั้นเขามาที่โอเอซิสแห่งหนึ่งและได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากผู้คนในหมู่บ้าน
เขาพบเด็กผู้หนึ่ง เด็กผู้นั้นขอให้เขาชุบชีวิตมารดาที่เสียชีวิตไปของเขา
“ผู้คนไม่สามารถฟื้นคืนจากความตาย” เทพอมตะบัวสวรรค์ปฏิเสธและปลอบใจเด็ก
“หากไม่ช่วยก็ลืมมันไปซะ!” เด็กจากไปพร้อมกับความเกลียดชัง
เทพอมตะบัวสวรรค์ไม่สนใจ แต่ทันใดนั้นควันสีเขียวก็ลอยขึ้นจากศีรษะของเขา
เขาตกใจมาก “ข้าสร้างท่าไม้ตายอมตะระดับเก้าต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์แห่งชะตากรรมนี้หลังจากได้รับแรงบันดาลใจจากมรดกของเทพปีศาจไร้ขอบเขต ข้าใช้โชคชะตาเป็นรากและใช้โชคเป็นสารอาหาร ข้าสามารถใช้มันเพื่อค้นหาสาเหตุและผลกระทบของเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้”
“ข้าปฏิเสธเด็กผู้นั้น มันอาจดูเหมือนเรื่องเล็กน้อย แต่ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์แห่งชะตากรรมกลับเกิดปฏิกิริยาต่อมัน นี่แสดงให้เห็นว่าสาเหตุเล็กน้อยนี้จะส่งผลกระทบร้ายแรงในอนาคต”
แม้เทพอมตะบัวสวรรค์จะรู้เรื่องนี้แต่เขาก็ไม่ได้ฆ่าเด็กผู้นั้นทันที
“ทุกสิ่งในโลกนี้เปรียบเหมือนเมล็ดพืชที่ปลูกอยู่ในดิน เมื่อเวลาผ่านไปมันจะเติบโตขึ้นเป็นต้นไม้ใหญ่ ด้วยการคงอยู่ของสิ่งมีชีวิตจำนวนนับไม่ถ้วน มันจะกลายเป็นป่าแห่งโชคชะตา”
“การปล่อยให้ต้นไม้เติบโตขึ้นตามธรรมชาติโดยไม่รบกวนเป็นวิถีแห่งธรรมชาติที่ดีที่สุด มันจะทำให้โลกเจริญรุ่งเรืองและอุดมสมบูรณ์”
“หากข้าเข้าไปยุ่ง มันก็เหมือนกับการขัดขวางลิขิตสวรรค์และกลายเป็นการสร้างปัญหาให้กับตนเอง”
เทพอมตะบัวสวรรค์เป็นผู้นำวังสวรรค์ เขาปฏิบัติตามลิขิตแห่งโชคชะตาอย่างเคร่งครัด
มนุษย์ที่ตายแล้วไม่อาจฟื้นคืนสู่ชีวิต นี่คือกฎที่ถูกกำหนดโดยชะตากรรม แม้เทพอมตะบัวสวรรค์จะทำได้ แต่เขาก็จะไม่ชุบชีวิตคนตาย
การเผชิญหน้าของเขากับเด็กผู้นี้คือชะตากรรม ไม่มีสิ่งใดที่เขาต้องต่อต้าน
“อย่างไรก็ตามเมื่อต้นไม้เติบโตและสร้างผลไม้ที่ไม่ดี เราต้องตัดมันทิ้งและหยุดยั้งความชั่วร้ายไม่ให้มันแพร่กระจายออกไป ผู้อมตะก็เป็นเพียงยาฆ่าแมลงของโลกนี้เท่านั้น”
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เทพอมตะบัวสวรรค์ก็ถอนหายใจและทิ้งวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์เอาไว้เบื้องหลัง
เขาไม่ได้มอบมันให้เด็กผู้นั้นแต่โยนวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ลงไปในบ่อน้ำของหมู่บ้าน
แต่ในภายหลัง วังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ได้ตกไปอยู่ในมือของมนุษย์และถูกส่งต่อไปจนถึงตระกูลชิง
ตระกูลชิงตระหนักว่ามันเป็นสมบัติของเทพอมตะบัวสวรรค์ พวกเขามีความสุขมากและเริ่มหยิ่งผยอง แต่สุดท้ายพวกเขาก็ถูกกวาดล้างโดยเทพปีศาจจิตวิญญาณและทำให้โลกทั้งใบตกตะลึง
ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของตระกูลชิงเก็บมรดกของตระกูลไว้ในวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์และพยายามหาโอกาสรอดชีวิต
ตระกูลชิงถูกลบออกไปแต่ความแค้นและความเกลียดชังของพวกเขายังอยู่ ดวงวิญญาณของผู้อมตะจำนวนมากถูกดึงเข้าไปในวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์
เมื่อเวลาผ่านไปทะเลทรายผีเขียวก่อตัวขึ้นขณะที่ดวงวิญญาณของคนตายกลายเป็นอสูรวิญญาณ
สุดท้ายอสูรวิญญาณแรกกำเนิดที่มีสติปัญญาของมนุษย์และเต็มไปด้วยความเกลียดชังต่อเทพปีศาจจิตวิญญาณก็ถือกำเนิดขึ้นในวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ มันยังเรียกตัวเองว่าชิงโจว
น่าเสียดายที่เทพปีศาจจิตวิญญาณกลายเป็นผู้อมตะระดับเก้าและจากไปในที่สุด
ชิงโจวต้องการแก้แค้นแต่ถูกขังไว้ในวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์
เดิมทีผู้อาวุโสสุงสูดลำดับที่หนึ่งของตระกูลชิงต้องการหาโอกาสในการเอาชีวิตรอด เขาพึ่งพาวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ แต่เขากลับไม่เข้าใจมันอย่างท่องแท้
ในความเป็นจริงเทพอมตะบัวสวรรค์ทิ้งวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์เอาไว้เพื่อกำจัดสิ่งชั่วร้ายที่จะเป็นภัยต่อโลกใบนี้
ต้นกำเนิดของสิ่งชั่วร้ายดังกล่าวคือการปฏิเสธการชุบชีวิตมารดาของเด็กที่เทพอมตะบัวสวรรค์พบในครานั้น
ชิงโจวถือกำเนิดขึ้นในวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์แต่มันก็ถูกขังอยู่ภายใน
มันใช้เวลาอย่างยาวนานพยายามปลดผนึกและควบคุมวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ ในที่สุดมันก็ได้รับผลลัพธ์บางอย่าง
มันสามารถบังคังวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์และเปิดทางเข้าให้กับคนนอก
ผีเฒ่าไป่จุนและสนมอินทรีย์เป็นผู้โชคร้ายที่บังเอิญเข้าไปในวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์และกลายเป็นทาสของมัน
“ชิงโจวผู้นี้ช่างโชคดีนัก มันเป็นอสูรวิญยาณแรกกำเนิดแต่สามารถบ่มเพาะและเลี้ยงดูวิญาณอมตะป่าจำนวนมากได้อย่างเป็นธรรมชาติ ท่ามกลางพวกมันยังมีกระทั่งวิญญาณอมตะป้ายคำสั่งอสูรวิญญาณระดับแปด”
“มันปรับแต่งวิญญาณอมตะดวงนี้และมอบให้ผีเฒ่าไป่จุน มันต้องการรวบรวมกองทัพอสูรวิญญาณเพื่อช่วยมันกำหราบวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์”
“น่าเสียดายที่ผีเฒ่าไป่จุนพบผู้อมตะตระกูลฟางและซวนปู้จิน นอกจากแผนการจะล้มเหลว เรื่องนี้ยังถูกเปิดเผยอีกด้วย”
“ตระกูลฟางต้องการมรดกของตระกูลชิงเช่นกัน ชิงโจวอาจสังเกตเห็นและซุ่มโจมตี”
สายตาของเฉินอี้สั่นไหวด้วยความไม่แน่ใจ
สถานการณ์ซับซ้อนกว่าที่เขาคิดไว้มาก
เดิมทีเขาต้องการยึดครองวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์โดยใช้มรดกของบรรพชน แต่ตอนนี้มันกลับมีกองกำลังใหญ่และอสูรวิญญาณแรกกำเนิดเข้ามาเกี่ยวข้อง
“น่าสมเพช”
“ท่าไม้ตายอมตะต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์แห่งชะตากรรมของข้ายังอยู่ในระดับแปด หากมันเป็นระดับเก้า ข้าจะเข้าใจทุกสิ่ง”
“หากเป็นเช่นนั้นข้าจะสามารถเก็บเกี่ยวผลไม้ชั้นเยี่ยมเพื่อตรวจสอบสาเหตุและสามารถแก้ปัญหาได้อย่างง่ายดาย”
เฉินอี้ถอนหายใจก่อนจะหายตัวไปจากจุดนั้น
เขาทำได้เพียงเฝ้ามองสถานการณ์และรอคอยโอกาส
ในสนามรบฝ่ายหนึ่งกำลังไล่ล่าขณะที่อีกฝ่ายวิ่งหนี
‘ศัตรูค้นพบร่างจริงของข้าได้อย่างไร?’ ฟางหยวนไม่สามารถตอบคำถาม
เขาไม่รู้ว่าเทพอมตะบัวสวรรค์ทิ้งวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ไว้เบื้องหลังเพราะมีเหตุผลใดอยู่เบื้องหลัง
อสูรวิญญาณแรกกำเนิดชิงโจวถือกำเนิดขึ้นจากอิทธิพลของต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์แห่งชะตากรรม
ดังนั้นชิงโจวจึงสามารถแยกแยะว่าผู้ใดเกี่ยวข้องกับเทพปีศาจจิตวิญญาณ
โดยพื้นฐานแล้วนี่ไม่ใช่วิธีบนเส้นทางแห่งปัญญาแต่เป็นวิธีบนเส้นทางแห่งไม้
มันเป็นท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งไม้ของเทพอมตะบัวสวรรค์
ในทางกลับกันฟางหวนเป็นผู้สืบทอดของเทพปีศาจจิตวิญญาณ
เทพปีศาจจิตวิญญาณกวาดล้างตระกูลชิงขณะที่ความเกลียดชังของตระกูลชิงถูกส่งต่อมายังฟางหยวน
อย่างไรก็ตามแม้การซ่อนตัวของฟางหยวนจะไม่สามารถหลอกลวงชิงโจวแต่เขายังสามารถซ่อนตัวจากเฉินอี้
‘แม้ข้าจะมีเกราะหวนคืน แต่ข้าไม่จำเป็นต้องต่อสู้กับศัตรูผู้นี้ มันเป็นศัตรูของตระกูลฟาง ข้าออกมาต่อสู้และเกือบตาย นี่เพียงพอแล้ว ตอนนี้มันเป็นปัญหาของตระกูลฟาง’ ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้น เขาบินกลับไปยังหอดอกไม้ร่วงโรยของตระกูลฟาง
ภายในหอดอกไม้ร่วงโรย ฟางอันเล่ยสูดหายใจลึก นางรู้สึกกดดันอย่างมากต่อวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์
แต่การแสดงออกภายนอกของนางยังดูแน่วแน่ นางออกคำสั่ง “ฟางหยุน ฟางเล้ง ช่วยข้าควบคุมหอดอกไม้ร่วงโรย เราจะช่วยซวนปู้จินและต่อสู้กับวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์!”
สถานการณ์ค่อนข้างน่าขัน
ชิงโจวต้องการฆ่าฟางหยวนแต่เขาไม่รู้เรื่องนั้น
ฟางหยวนคิดว่าชิงโจวไล่ล่าตระกูลฟาง
ตระกูลฟางก็คิดว่าชิงโจวต้องการโจมตีพวกเขา ซวนปู้จินช่วยเหลือพวกเขาด้วยความจริงใจ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องต่อสู้กับวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์
กระทั่งผู้อมตะระดับแปดของวังสวรรค์เฉินอี้ก็คิดเช่นเดียวกัน ในการรับรู้ของเขา ซวนปู้จินผู้นี้ค่อนข้างโชคร้าย เขาบังเอิญเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้โดยไม่ได้ตั้งใจ ทุกอย่างมีเหตุและผล ตัวละครต่างๆเคลื่อนไหวไปตามโชคชะตที่ไม่สามารถคาดเดา