เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1522 เกราะสวนผัก (อ่านฟรี)
แปลโดย iPAT
นิกายบัวสวรรค์ถูกสร้างขึ้นโดยเทพอมตะบัวสวรรค์ในยุคของเขา มันเป็นนิกายอันดับหนึ่งของภาคกลางอย่างไม่ต้องสงสัย
แต่ตอนนี้สถานะของมันลดลงมาอยู่ในระดับกลางๆเท่านั้น
ยุคสมัยเปลี่ยนไป ไม่ว่าจะเป็นผู้คนหรือองค์กรย่อมไม่มีสิ่งใดคงอยู่ได้ตลอดไป ไม่มีกองกำลังใดแข็งแกร่งหรืออ่อนแอตลอดกาล
ในฐานะผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของนิกายบัวสวรรค์ เฉินอี้ได้รับมรดกที่แท้จริงของเทพอมตะบัวสวรรค์ เขามีความสามารถในการแทรกแซงวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์
เทพธิดาจื่อเว่ยเชี่ยวชาญในการใช้คนให้ถูกกับงาน นางรู้ว่าเฉินอี้สามารถยึดครองวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ได้เพียงลำพังและมีโอกาสสูงที่เขาจะประสบความสำเร็จในการกำจัดอสูรวิญญาณแรกกำเนิดในตำนาน
แต่มีอุปสรรคที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นระหว่างทาง
‘เพราะอสูรวิญญารแรกกำเนิดชิงโจวถือกำเนิดขึ้นในวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ มันได้รับพลังอำนาจบางส่วนมาจากต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์แห่งชะตากรรม ดังนั้นมันจึงสามารถสัมผัสได้ถึงบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับเทพปีศาจจิตวิญญาณ หากข้าสามารถจับมันได้ ข้าจะสามารถค้นคว้าและทำให้ข้าเข้าใจต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์แห่งชะตากรรมได้มากขึ้น สิ่งสำคัญที่สุดคือข้าจะสามารถใช้มันเพื่อค้นหาสมาชิกนิกายเงา!’
เฉินอี้ถูกล่อลวง
เดิมทีการยึดครองวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์และสังหารชิงโจวอาจมีปัญหาอยู่บ้างแต่ตอนนี้ชิงโจวอ่อนแอลงแล้วและยังถูกกำหราบโดยวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์อย่างสมบูรณ์ ขณะที่เฉินอี้เป็นผู้อมตะระดับแปดของนิกายบัวสวรรค์ เขาแข็งแกร่งมาก ดังนั้นการยึดครองวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์และกำจัดชิงโจวจึงไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป
อย่างไรก็ตามเฉินอี้ต้องไตร่ตรองอย่างรอบคอบ
เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของนิกายบัวสวรรค์ เขามีสถานะสูงที่สุดที่นั่น หากเขาประสบความสำเร็จในภารกิจนี้ เขาจะเข้าสู่วังสวรรค์ เขาจะไม่ใช่ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของนิกายบัวสวรรค์อีกต่อไป ขณะเดียวกันสถานะในวังสวรรค์ของเขาจะตกต่ำลงอย่างมาก
วังสวรรค์เป็นกองกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก หลังจากเฉินอี้เข้าร่วม เขาจะเป็นเพียงคนใหม่และมีสถานะต่ำที่สุด
เฉินอี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของนิกายบัวสวรรค์มานาน เขาเคยชินกับการเป็นผู้มีอำนาจสูงสุด เขารู้สึกไม่สบายใจหากสถานะของเขาจะตกต่ำลง เขาต้องการเปลี่ยนสิ่งนี้และยกระดับสถานะของตนเองหากเป็นไปได้
และเพื่อยกระดับสถานะของตนในวังสวรรค์ เขาต้องทำตัวให้เป็นประโยชน์
‘หากข้าสามารถควบคุมชิงโจว ข้าจะสามารถออกไล่ล่านิกายเงา ข้าจะกลายเป็นคนสำคัญของวังสวรรค์ สถานะของข้าจะพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ข้าจะไม่อยู่ในจุดที่น่าอึดอัดในฐานะคนใหม่อีก’
‘บรรพชนบัวสวรรค์มีต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์แห่งชะตากรรม แต่ท่าไม้ตายนี้เป็นเส้นทางแห่งไม้ ท่านอาจไม่ได้ทำนายสถานการณ์ในวันนี้เอาไว้ หากท่านรู้เกี่ยวกับสถานการณ์ในตอนนี้ ท่านจะเข้าใจว่าเหตุใดข้าถึงทำสิ่งนี้’ เฉินอี้ตัดสินใจ
หลังจากแทรกซึมเข้าสูงวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ เขาใช้มันกำหราบชิงโจว
แต่ในช่วงเวลาที่เขาพยายามปราบปรามอสูรวิญญาณแรกกำเนิดในตำนานตัวนี้ คฤหาสน์วิญญาณอมตะของตระกูลฟางกลับปรากฏขึ้นและจัดตั้งเขตแดนอมตะเขาวงกตดอกท้อ
เฉินอี้ตระหนักได้ทันที ‘พวกเขามาถึงแล้ว’
เขายังสามารถรักษาความสงบ เรื่องนี้เป็นไปตามความคาดหมายของเขา
“ไป!” เฉินอี้ที่ยืนอยู่ในวังหันหน้าเข้าหาชิงโจวและสะบัดแขนเสื้อออกคำสั่งผีเฒ่าไป่จุนและสนมอินทรีย์
ในช่วงเวลาที่ผ่านมา พวกเขาถูกกำหราบเรียบร้อยแล้ว
ผีเฒ่าไป่จุนและสนมอินทรีย์ต้องการต่อต้าน แต่หลังจากตระหนักถึงตัวตนของเฉินอี้และอำนาจในการสะกดข่มเจ้านายของพวกเขา ทั้งสองจึงกลายเป็นลูกน้อยของเฉินอี้ไปในที่สุด
“โฮก…”
ประตูวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์เปิดออกขณะที่อสูรวิญญาณจำนวนมากพุ่งออกมา
อีกด้านหนึ่ง ประตูทางออกของคฤหาสน์วิญญาณอมตะของตระกูลฟางก็เปิดออกเช่นกัน
ในฐานะปรมาจารย์เอกบนเส้นทางแห่งปัญญาและผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่สองฟางตี้เฉิงเป็นผู้นำของภารกิจนี้
เขาออกคำสั่งให้ผู้อมตะหลายคนออกไปต่อสู้
‘เขาวงกตดอกท้อช่างยอดเยี่ยมนัก ในความเป็นจริง วังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ควรจะอยู่ลึกลงไปใต้ทะลทราย แต่หลังจากเขาวงกตดอกท้อถูกจัดตั้งขึ้น วังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์กลับถูกเปิดเผยออกมาทันที’ ฟางหยวนที่ยังอยู่ในอู่เรือพิพากษายกย่องอยู่ในใจ
ท่าไม้ตายเขตแดนอมตะเขาวงกตดอกท้อเปลี่ยนสภาพแวดล้อมไปอย่างสมบูรณ์และยังเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ใช้งาน
ภูมิประเทศที่เปลี่ยนแปลงไปทำให้วังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ที่ซ่อนอยู่เผยตัวออกมา
ฟางหยวนไม่เข้าใจกลไกที่อยู่เบื้องหลังสิ่งนี้ เขาทำได้เพียงคาดเดาบางสิ่งเท่านั้น
คฤหาสน์วิญญาณอมตะทั้งสามหลังถูกซ่อนไว้ในขณะนี้ พวกมันเป็นแกนกลางที่ค้ำจุนท่าไม้ตายเขตแดนอมตะเขาวงกตดอกท้อ
ที่ใจกลางของเขาวงกตดอกท้อคือคฤหาสน์วิญญาณอมตะที่น่าเกรงขามวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์
ตอนนี้ประตูวังเปิดออกพร้อมกับอสูรวิญญาณจำนวนมากที่พุ่งออกมา ท่ามกลางพวกมันมีอสูรวิญญาณแรกกำเนิดสามตัว
อสูรวิญญาณแรกกำเนิดทั้งสามเป็นตัวที่ฟางอันเล่ยและฟางหยวนเคยต่อสู้มาก่อนหน้านี้ อสรพิษมีปีก กระทิงหางเสือดาว และยักษ์ตาเดียว
ด้านตระกูลฟาง พวกเขามีผู้อมตะหกคน ผู้อมตะระดับหกสองคน ผู้อมตะระดับเจ็ดสี่คน ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่สามฟางฮั่วเฉิงเป็นผู้นำกลุ่มบุกโจมตี
กองทัพอสูรวิญญาณไม่ได้โจมตีผู้อมตะตระกูลฟางแต่ยืนนิ่งอยู่รอบๆวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์
เมื่อการต่อสู้เริ่มขึ้น ผู้อมตะตระกูลฟางตกตะลึงเป็นอย่างมาก พวกเขาโจมตีอย่างรุนแรง แต่อสูรวิญญาณเหล่านั้นกลับได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยและสามารถฟื้นฟูตัวเองได้อย่างรวดเร็ว
“เกิดสิ่งใดขึ้น?”
“อสูรวิญญาณเหล่านี้ดูผิดปกติ พวกมันจัดขบวนรบได้อย่างเป็นระเบียบ”
ขณะที่ผู้อมตะตระกูลฟางรู้สึกสงสัย เฉินอี้ตะโกนและทำให้วังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ปลดปล่อยแสงสีเขียวออกมา
แสงสีเขียวควบรวมเป็นเกราะไม้ติดอยู่บนร่างของอสูรวิญญาณเหล่านั้นและปกป้องพวกมันตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า
ฟางหยวนไม่เข้าใจแต่การแสดงออกของฟางตี้เฉิงกลับเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียด เขาอุทาน “ท่าไม้ตายอมตะของวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ เกราะสวนผัก!”
“เกราะสวนผัก?” ฟางหยวนถาม
ฟางตี้เฉิงมองเขาและเผยรอยยิ้มขมขื่น “นี่คือข้อมูลทั้งหมดที่ตระกูลฟางมี เรารู้เพียงชื่อและลักษณะของมันแต่ไม่รู้ผลกระทบที่แน่ชัด”
ฟางหยวนมองไปที่สนามรบด้วยความสนใจ “สิ่งนี้เกี่ยวข้องกับเทพอมตะบัวสวรรค์ มันย่อมไม่ง่าย เราควรตรวจสอบมันก่อน”
ฟางตี้เฉิงพยักหน้า “ถูกต้อง”
—————-