เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1536 ปราณทรายเหล็ก
แปลโดย iPAT
“ฟางหยวน ข้ารู้สึกเหมือนเคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน?”
“นั่นคือราชาอสูรน้อยที่หลอมรวมวิญญาณอมตะบนภูเขาซานชางั้นหรือ?”
“แม้ข้าจะเห็นเขาไม่ชัดแต่ก็เกรงว่าจะเป็นเขา!”
“เขากลายเป็นผู้อมตะไปแล้วงั้นหรือ? เขาต้องพบการเผิชญหน้าโดยบังเอิญ เห้อ…เหตุใดไม่ใช่ข้า?”
กลุ่มผู้ใช้วิญญาณเริ่มแตกตื่น
ทุกคนพูดคุยและระบายความอิจฉาริษยา สถานการณ์เริ่มเร้าร้อนขึ้นเรื่อยๆ
พวกเขายังติดอยู่กับข่าวเก่า ชื่อเสียงที่แท้จริงของฟางหยวนเป็นที่รู้จักในกลุ่มผู้อมตะเท่านั้น ผู้ใช้วิญญาณระดับมนุษย์แทบไม่รู้สิ่งใดเลย
ไท่รั่วหนานกำหมัดแน่น
ความขัดแย้งระหว่างนางกับฟางหยวนฝังรากลึกมาอย่างยาวนาน ความเกลียดชังไม่เคยลดลงแม้เวลาจะผ่านไป ตรงข้ามมันเหมือนสุราที่ยิ่งบ่มก็ยิ่งเข้มข้น
แต่ตอนนี้แม้ศัตรูจะอยู่ต่อหน้า ไท่รั่วหนานก็ไม่สามารถทำสิ่งใด
ฟางหยวนกลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว! หลังจากได้เรียนรู้กับไท่เมี่ยนเฉิน นางได้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างผู้ใช้วิญญาณกับผู้อมตะ ในฐานะผู้ใช้วิญญาณระดับมนุษย์ ไม่มีความหวังที่จะแก้แค้นผู้อมตะ
ตอนนี้ความหวังเดียวของไท่รั่วหนานคือไท่เมี่ยนเฉิน นางต้องการเห็นไท่เมี่ยนเฉินฆ่าฟางหยวนอย่างเปิดเผยและมอบความยุติธรรมให้แก่สหายและครอบครัวของนาง
ฟางหยวนมองสามผู้อมตะและหัวเราะ “ข้ามาที่นี่เพื่อนำสิ่งที่ข้าทำหายกลับคืน พวกเจ้าทั้งสามต้องการหยุดข้างั้นหรือ?”
เฉิงชิงชิงและฮั่วเหยาหัวใจเต้นแรก ฟางหยวนกล่าวเบาๆแต่มันกลับเต็มไปด้วยพลังอำนาจที่ทำให้ทั้งสองสูญเสียจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ไปทั้งหมด
ชื่อเสียงของฟางหยวนโด่งดังไปทั่วทั้งโลก แม้แต่วูหยงยังถูกเขาปั่นหัว วังสวรรค์ก็ไม่สามารถจับเขาได้หลังจากเวลาล่วงเลยมาอย่างยาวนาน พวกเขาเป็นเพียงผู้อมตะระดับหก มันเป็นเรื่องปกติที่พวกเขาจะรู้สึกเช่นนี้
ไท่รั่วหนานเต็มไปด้วยความโกรธ “ปีศาจ! แม้จะกลายเป็นผู้อมตะก็ยังคงเป็นปีศาจ! มันเป็นโชคร้ายของผู้คนที่เขาได้รับพลังอำนาจเช่นนี้ เขาสมควรตาย ปีศาจตนนี้ต้องตาย! ฝ่ายธรรมะควรกำจัดสิ่งชั่วร้ายนี้ ฆ่าปีศาจและปกป้องโลก!”
เมื่อคิดได้เช่นนี้ไท่รั่วหนานก็มองไปที่ไท่เมี่ยนเฉินด้วยความคาดหวัง
ในหัวใจของนาง ผู้อมตะของตระกูลไท่ดุจดั่งดวงดาวบนท้องฟ้าที่สามารถทำทุกสิ่ง นางคิดว่าไท่เมี่ยนเฉินสามารถสังหารฟางหยวนได้อย่างแน่นอน
ท้ายที่สุดฟางหยวนก็เป็นคนรุ่นเดียวกันกับนาง เขากลายเป็นผู้อมตะมานานเท่าใด? เขาจะเป็นคู่ต่อสู้ของไท่เมี่ยนเฉินได้อย่างไร? แต่ในเวลาต่อมาดวงตาที่กล้าหาญของไท่รั่วหนานก็เบิกกว้างขึ้น
ไท่เมี่ยนเฉินถอนหายใจกล่าว “โอ้ ฟางหยวน เจ้าอาละวาดไปทั่วทั้งห้าภูมิภาค เจ้ามีชื่อเสียงมาก ข้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเจ้า แต่ต่อให้ข้าตาย ข้าก็จะสู้ นี่คือปณิธานของข้าและตระกูลไท่!”
“แต่ข้ามีเรื่องที่จะกล่าว เราทั้งคู่ต่างเป็นผู้อมตะ เราไม่ควรนำมนุษย์เหล่านี้เข้ามาเกี่ยวข้อง เหตุใดเราไม่ปล่อยพวกเขาไปก่อนและมาสู้กัน แม้ข้าจะตาย ข้าก็ไม่เสียใจ”
“อันใด? เขากล่าวสิ่งใดออกมา? ท่านไท่เมี่ยนเฉินยอมรับว่าเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฟางหยวนงั้นหรือ? นี่เป็นไปได้อย่างไร?” ไท่รั่วหนานเป็นคนปากแข็ง ข่าวนี้น่าตกใจเกินไปสำหรับนาง
มันทำให้โลกทัศน์ของนางถูกบดขยี้
“ปล่อยมนุษย์ไป? เหตุใดข้าต้องทำเช่นนั้น? ฮ่าฮ่า”
เขากวาดตามองไปรอบๆ
ความโกรธของไท่รั่วหนานไม่มีค่าให้เขาสนใจ ความโกรธของมดปลวกเป็นความโกรธที่ไร้นัยสำคัญ
แม้เขาจะเชื่อมโยงโชคกับเย่ฟาน แต่ตอนนี้เขาไม่ต้องการเย่ฟานอีกต่อไป การฆ่าคนผู้นี้จะเป็นประโยชน์ต่อเขามากกว่า ท้ายที่สุดทุกครั้งที่ฟางหยวนใช้ท่าไม้ตายอมตะผลาญวิญญาณระเบิดโชค เย่ฟานก็จะได้รับโชคส่วนหนึ่งไปจากเขา
และเหตุใดอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดถึงอยู่กับเย่ฟาน? ฟางหยวนอยากรู้เรื่องนี้มาก ดังนั้นเขาจึงต้องตรวจสอบ
สำหรับเฉิงซินซื่อ?
สายตาของฟางหยวนแสดงอารมณ์ที่แปลกประหลาดเล็กน้อย
เขาเข้าหาเฉิงซินซื่อก่อนหน้านี้เพื่อใช้ประโยชน์จากนาง แต่ตอนนี้ฟางหยวนตกตะลึงเมื่อพบว่าโชคของเฉิงซินซื่อนั้นน่าตกใจอย่างไม่น่าเชื่อ!
ฟางหยวนมีวิธีตรวจสอบโชค เฉิงซินซื่อเป็นเพียงมนุษย์ แต่โชคของนางชัดเจนมากในสายตาเขา
เหนือศีรษะของนางมีหมอกขาวหนาทึบที่ถักทอเป็นผ้าคลุมขนนกที่งดงาม ยังมีโชคที่อยู่ใกล้ๆที่เคลื่อนที่เข้ามาอยู่รอบๆผ้าคลุมขนนกของนางตลอดเวลา
‘โชคเช่นนี้ กระทั่งเย่ฟาน หงอี้ หรือฮันหลี่ก็ยังไม่สามารถเปรียบเทียบ เกิดสิ่งใดขึ้น? ด้วยโชคเช่นนี้เฉิงซินซื่อย่อมไม่ใช่คนธรรมดา นางต้องเป็นคนสำคัญในยุคที่ยิ่งใหญ่อย่างแน่นอน! แปลก…เหตุใดในชีวิตแรกของข้า เฉิงซินซื่อถึงเป็นเพียงผู้ใช้วิญญาณระดับมนุษย์?’
‘เว้นเพียงเจตจำนงสวรรค์จะเปลี่ยนความทรงจำของข้า หรืออาจเป็นเพราะข้าทำลายแผนการท้าทายสวรรค์ของเทพปีศาจจิตวิญญาณและกลายเป็นผู้นำนิกายเงาคนใหม่ มันทำให้หลายสิ่งหลายอย่างเปลี่ยนแปลงไปและเฉิงซินซื่อได้รับผลกระทบจากมัน แต่เหตุใดต้องเป็นเฉิงซินซื่อ? ข้าเกรงว่านางจะเป็นคนสำคัญของยุคที่ยิ่งใหญ่ที่แท้จริง!’
ฟางหยวนกำลังคิดเรื่องเหล่านี้ขณะที่เสียงกรีดร้องของนกอินทรีย์ดังขึ้น
ต่อมาผนึกที่พันธนาการอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดเอาไว้ก็อ่อนแรงลงจนถึงขีดสุดขณะที่มันกระโจนเข้าหาฟางหยวนด้วยดวงตาแดงก่ำ
‘หือ? แม้ข้าจะปลดปล่อยเจตนาสังหารออกมา แต่ข้าก็สามารถควบคุมมันด้วยวิธีบนเส้นทางแห่งปัญญา จิตสังหารของข้าจะไม่กระจายออกไป อินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดตัวนี้ถูกควบคุมจริงๆ พันธนาการนั้นยังส่งผลกระทบต่ออารมณ์ของมันและทำให้มันโจมตีข้า’
ฟางหยวนหัวเราะคิกคัก เขาไม่ตื่นตระหนกกับการโจมตีของสัตว์อสูรแรกกำเนิด
ท่าไม้ตายอมตะเกราะหวนคืน!
อินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดเป็นสัตว์อสูรแรกกำเนิดบนเส้นทางแห่งห้วงมิติ มันมาถึงด้านหน้าฟางหยวนในเสี้ยวพริบตา กรงเล็บอินทรีย์ฟาดไปที่ฟางหยวนด้วยความเร็วสูง
แต่ฟางหยวนไม่จำเป็นต้องหลบ
กรงเล็บอินทรีย์ปะทะร่างกายของเขาอย่างไร้ปรานี
เฉิงซินซื่ออ้าปากค้างขณะที่กลุ่มผู้อมตะทั้งประหลาดใจและคาดหวังกับผลลัพธ์
ฟางหยวนถูกส่งลอยกลับหลังแต่เขาไม่ได้รับอันตรายใดๆ ในทางตรงข้ามอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดกลับกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
“เราจะโจมตีตอนนี้ นี่คือโอกาสที่ดีที่สุด!” ไท่เมี่ยนเฉินตะโกนขณะพุ่งเข้าโจมตีฟางหยวน
เขากล้าหญามาก ด้วยมรดกที่แท้จริงหน้ากากเหล็ก เขากลายเป็นยักษ์เหล็กสูงสิบเมตร
ยักษ์เหล็ดผลักฝ่ามือและส่งปราณสีดำพุ่งออกไปราวกับกระแสน้ำ
“จะมีรูปแบบชีวิตใดที่ไม่ต้องการอิสรภาพ? อินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดตัวนี้ไม่ต้องการตกเป็นทาสของฟางหยวน มันต้องการหลบหนี เราจะฉวยโอกาสนี้โจมตีฟางหยวน”
“ฟางหยวนไม่ต้องการแม้แต่จะปล่อยมนุษย์ไป เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นปีศาจในหมู่ปีศาจ เขาไม่มีอุดมการณ์หรือหลักการใดๆ เราต่องต่อสู้เพื่อหาโอกาสรอดชีวิต!”
ฮั่วเหยาและเฉิงชิงชิงเลือกที่จะโจมตีเช่นกัน
พวกเขาปลดปล่อยท่าไม้ตายที่ทรงพลังที่สุดของตนเองออกมาตั้งแต่เริ่มต่อสู้
ฟางหยวนเผยรอยยิ้มบาง เขาไม่หลบและปล่อยให้ท่าไม้ตายทั้งสามปะทะร่างของเขา
ในเวลาต่อมาท่าไม้ตายทั้งสามก็สะท้อนกลับไปที่ไท่เมี่ยนเฉิน เฉิงชิงชิง และฮั่วเหยา
เฉิงชิงชิงและฮั่วเหยาตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากแต่พวกเขายังสามารถหลบได้
อย่างไรก็ตามไท่เมี่ยนเฉินกลับตะโกน “ข้าจะรับมันไว้!”
เขากระโดดเข้าไปในปราณสีดำที่สะท้อนกลับมา มันไม่ได้สร้างความเสียหายใดๆแก่เขา นอกจากนั้นเขายังสามารถควบคุมมันได้อย่างช้าๆ
“ฟางหยวน ลองอีกครั้ง!” ไท่เมี่ยนเฉินตะโกนและส่งปราณสีดำออกไปอีกครั้ง
ปราณทรายเหล็กสามารถโจมตีและป้องกัน แม้มันจะถูกสะท้อนกลับมา ไท่เมี่ยนเฉินก็ยังสามารถควบคุมมันได้
สิ่งนี้ทำให้ไท่เมี่ยนเฉินรู้สึกว่าเขามีโอกาสที่จะได้รับชัยชนะ