Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน – ตอนที่ 1563 เมิ้งตู๋

บทที่ 1563 เมิ้งตู๋

 

ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของแดนน้ําแข็ง ทางทิศเหนือของเมืองหมึก ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของทุ่งพิษ และทางใต้สุดของเผ่าเมิ้งมีสถานที่ที่เรียกว่าทุ่งใบมีดร่วงโรย

 

มันเป็นที่ราบที่ไม่มีต้นหญ้าเติบโตขึ้น

 

เมิ้งตู๋เดินหน้าไปทีละก้าวบนทุ่งใบมีดร่วงโรย

 

คนผู้นี้มีรูปร่างสูงใหญ่และมีผิวสีทองแดง เขาสวมชุดเกราะที่เผยให้เห็นไหล่ กางเกงของเขาม้วนขึ้นเผยให้เห็นต้นขา

 

เขากําลังเดินด้วยเท้าเปล่า

 

พื้นดินดูธรรมดาแต่มันคมราวกับใบมีด ขณะที่เมิ้งตู๋เดินอยู่บนพื้นเหล่านี้ ทุกย่างก้าวของเขาจะทิ้งรอยเลือดเอาไว้เบื้องหลัง

 

แต่การแสดงออกของเขาไม่มีการเปลี่ยนแปลง เขาปิดเปลือกตาและขมวดคิ้วเล็กน้อยขณะครุ่นคิดถึงความสงสัยที่อยู่ในใจ

 

“ทุ่งใบมีดร่วงโรยเต็มไปด้วยร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งใบมีด ข้าเดินด้วยเท้า เปล่าอยู่ที่นี่มานานหลายปีแต่สิ่งที่ข้ายังขาดคือระดับความสําเร็จบนเส้นทางแห่งกระบี่ของข้างั้นหรือ?”

 

เส้นทางแห่งกระบี่เป็นเส้นทางสายเล็กๆ มันไม่สามารถเปรียบเทียบกับเส้นทางสายหลักเช่น เส้นทางแห่งโลหะ เส้นทางแห่งไฟ เส้นทางแห่งปฐพี และอื่นๆ

 

เส้นทางแห่งกระบี่ เส้นทางแห่งดาบ และเส้นทางแห่งใบมีดเป็นเส้นทางที่มีความใกล้ชิดกันอย่างมาก

 

เพราะพวกมันมีที่มาเดียวกันคือวิญญาณใบมีด

 

เกี่ยวกับวิญญาณใบมีด มันถูกบันทึกไว้ในตํานานมนุษย์คนแรก เมื่อมนุษย์คนแรกติดอยู่ในเหวธรรมดา ในสถานที่แห่งนี้บางแห่งเป็นโคลนที่เน่าเหม็น บางแห่งเต็มไปด้วยหนามแหลม บางแห่งยังมีวิญญาณใบมีดอยู่บนพื้น เมื่อมนุษย์คนแรกเหยียบลงไป ฝ่าเท้าของเขาจะได้รับบาดเจ็บจากความแหลมคมของใบมีด บางแผลของเขาใหญ่ขึ้นเรื่อยๆและมีเลือดไหลออกมา มันเป็นความเจ็บปวดที่ฝังลึกอยู่ในใจของเขา

 

วิญญาณใบมีดเป็นต้นกําเนิดของเส้นทางแห่งใบมีด เส้นทางแห่งดาบ และเส้นทางแห่งกระบี่

 

วิญญาณใบมีดเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ทุ่งใบมีดร่วงโรยเป็นหนึ่งในสถานที่เพียงไม่กี่แห่งใน ห้าภูมิภาคที่ผลิตวิญญาณชนิดนี้ขึ้นมาและมันอยู่ภายใต้การปกครองของเผ่าเมิ้ง

 

เมิ้งตู๋เป็นผู้อมตะระดับเจ็ดที่บ่มเพาะบนเส้นทางแห่งกระบี่ เขาเป็นอัจฉริยะตั้งแต่เด็กและ เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียงของภาคเหนือและเป็นหนึ่งในเสาหลักของเผ่าเมิ้ง

 

หลายปีก่อนเขาขออนุญาตจากผู้อาวุโสสูงสุดของเผ่าเพื่อมาที่ทุ่งใบมีดร่วงโรยแห่งนี้ ด้านหนึ่งเขาต้องการดูแลแหล่งทรัพยากรของเผ่า อีกด้านเขาทําสิ่งนี้โดยคํานึงถึงการบ่มเพาะของเขา

 

ความสําเร็จบนเส้นทางแห่งกระบีของเขาติดอยู่ในระดับถึงปรมาจารย์เอก เขาเลียนแบบมนุษย์คนแรกโดยหวังว่าจะใช้ทุ่งใบมีดร่วงโรยเพื่อก้าวเข้าสู่ระดับปรมาจารย์เอก

 

แต่ตลอดหลายปีที่ผ่านมา แม้เขาจะได้รับกําไรอยู่บ้าง แต่เขาก็ยังถูกม่านบางๆขวางไว้จากการก้าวเข้าสู่ระดับปรมาจารย์เอก

 

เมิ้งตู๋เป็นคนมุ่งมั่นและแน่วแน่ เขาปฏิเสธที่จะยอมแพ้แม้มันจะไร้ประโยชน์มานานหลายปีแล้วก็ตาม

 

‘เห้อ…การก้าวเข้าสู่ระดับปรมาจารย์เอกช่างยากลําบากนัก! ผู้อาวุโสสูงสุดของเผ่า ต่างยกย่องข้าว่าเป็นอัจฉริยะบนเส้นทางแห่งกระบในรอบพันปี แต่ข้ายังติดอยู่ในระดับกึ่งปรมาจารย์หลังจากผ่านไปหลายร้อยปี’

 

“แม้ข้าจะสัมผัสได้ถึงม่านบางๆที่กีดขวางอยู่แต่ขากลับรู้สึกราวกับมันอยู่ไกลยิ่งกว่าขอบฟ้า และยากลําบากเหมือนการปืนปานขึ้นสู่สรวงสวรรค์

 

‘แต่ข้าต้องเดินต่อไป วิธีนี้ยังมีผลอยู่บ้าง สักวันข้าจะกลายเป็นปรมาจารย์เอกบนเส้นทางแห่งกระบี่ได้อย่างแน่นอน!’

 

“หือ? ผู้ใด?”

 

เป็นเพียงเวลานี้ที่ค่ายกลวิญญาณที่ปกป้องทุ่งใบมีดร่วงโรยอยู่ถูกทําลายลงอย่างกะทันกัน และเผยให้เห็นท้องฟ้าที่สดใส

 

ร่างหนึ่งปรากฏขึ้นและพุ่งเข้าโจมตีเมิ้งตู๋ทันทีโดยไม่กล่าวสิ่งใด

 

“ช่างกล้าหาญ” เมิ้งตู๋คํารามด้วยความโกรธ เขาไม่ได้หลบแต่ตอบโต้โดยตรง

 

การปะทะทําให้เมิ้งตู๋ถูกส่งกลับหลังขณะที่อีกฝ่ายทรงตัวได้อย่างมั่นคง

 

‘ท่าไม้ตายอมตะของข้าเต็มไปด้วยพลังทําลายล้าง ข้าสามารถทําลายการป้องกันของผู้อมตะ ระดับเจ็ดทั่วไปได้อย่างง่ายดาย แต่คนผู้นี้กลับไม่ได้รับบาดเจ็บหลังจากถูกโจมตีโดยตรง! นี่คือศัตรูที่แข็งแกร่ง!’

 

เมิ้งตู๋ประหลาดใจ เขาตั้งหลักและตะโกนเสียงดัง “เจ้ากล้าบุกรุกอาณาเขตของเผ่าเม็งของข้าบอกชื่อของเจ้ามา!”

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า” ฟางหยวนหัวเราะอย่างบ้าคลั่งและกล่าวด้วยน้ําเสียงที่เปลี่ยนไป “เมิ้งตู๋ เจ้าจําข้า ไม่ได้แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาเพราะคนตายไม่จําเป็นต้องรู้มากเกินไป!”

 

เคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณอมตะหมื่นตัวตนต้องใช้วิญญาณใบมีดจํานวนมาก ยิ่งไปกว่านั้นมันยังต้องใช้ทรัพยากรอมตะระดับเจ็ดชนิดพิเศษที่อยู่ในทุ่งใบมีดร่วงโรยที่มีชื่อว่าสุราใบมีด

 

สุราชนิดนี้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ มันเป็นสิ่งผิดปกติที่เกิดจากคราบเลือดที่เมิ้งตู๋ทิ้งไว้ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เลือดของเขาซึมลึกลงไปใต้ดินและผสานเข้ากับร่องรอยของพลังงานแห่ง เต๋าบนเส้นทางแห่งใบมีของสถานที่แห่งนี้จนเกิดเป็นสุราใบมีด

 

ฟางหยวนรู้เรื่องนี้จากความทรงจําในชีวิตก่อนหน้า เขารู้ว่าเมิ้งตู๋ฝึกฝนอย่างขมขึ้นอยู่ที่นี่เพื่อ ยกระดับความสําเร็จของเขาแต่กลับไม่ประสบความสําเร็จ

 

หลังจากล้มเหลว เมิ้งตู๋้เปลี่ยนวิธีโดยการส่งวิญญาณใบมีดเข้าไปในหัวใจของตนเพื่อ ทําควมเข้าใจเส้นทางแห่งกระบี่ ท่าไม้ตายที่เขาสร้างขึ้นไม่สมบูรณ์และมีผลข้างเคียงที่ร้ายแรง จิตใจของเขาค่อยๆได้รับผลกระทบ บ่อยครั้งที่เขาตกอยู่ในสภาพบ้าคลั่ง

 

เมิ้งรู้ดีว่านี้ไม่ใช่วิธีการที่ถูกต้อง แต่เขายังยืนกรานที่จะฝึกฝนต่อไปอย่างไม่ลดละและ ซ่อนผลข้างเคียงของมันจากผู้คน

 

เมื่อสงครามห้าภูมิภาคเริ่มขึ้น เมิ้งตู๋เข้าร่วมในการต่อสู้ อย่างไรก็ตามผลข้างเคียงของมัน เกิดขึ้นระหว่างการต่อสู้เขากลายเป็นปีศาจที่คลุ้มคลั่งและสังหารผู้อมตะจากเผ่าเดียวกัน

 

หลังจากเลิ้งตู้ฟื้นคืนสติ เขาปกปิดร่องรอยทั้งหมดและยังสร้างเหตุผลเท็จเพื่อปกปิดสิ่งนี้จากเผ่า

 

อย่างไรก็ตามเมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง สุดท้ายผู้อมตะภาคเหนือจึงสังเกตเห็นความผิดปกติ และค้นพบความจริงในที่สุด

 

เมิ้งตู๋เผชิญหน้ากับแรงกดดันมหาศาล วังสวรรค์ยังมาหาเขาและยุยงเขา

 

เมิ้งรู้สึกโชคดีในตอนแรกและต้องการใช้ประโยชน์จากวังสวรรค์เพื่อชดเชยความผิดพลาดของเขา แต่เขาจะสามารถวางอุบายต่อวังสวรรค์ได้อย่างไร เขาเป็นเพียงผู้อมตะบนเส้นทางแห่งกระบี่ที่โดดเดี่ยว

 

เมิ้งตู๋ทําผิดพลาดซ้ําแล้วซ้ําอีกกระทั่งเขาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องเข้าข้างวังสวรรค์

 

เพื่อสนับสนุนตัวหมากเบี้ยชิ้นนี้ วังสวรรค์ช่วยอนุมานวิธียกระดับความสําเร็จให้เขา มันคือสุราใบมีดที่อยู่ลึกลงไปใต้ดินของทุ่งใบมีดร่วงโรยแห่งนี้

 

เมิ้งตู๋ทําตามคําแนะนําของวังสวรรค์และขุดสุราใบมีดจํานวนมากขึ้นมาดื่ม

 

เมื่อเขาจิบสุราเล็กน้อย อวัยวะภายในของเขาราวกับถูกใบมีดกรีดเฉือน เมื่อเขาดื่ม มากขึ้น เขารู้สึกเจ็บปวดจนแทบอยากตาย เมื่อเขาดื่มต่อไป เขากลายเป็นปรมาจารย์เอกบนเส้น ทางแห่งกระบี่!!

 

จากนั้นเป็นต้นมาเขาก็อุทิศตนให้กับวังสวรรค์และกลายเป็นสายลับที่มีสถานะสูง เป็นอันดับสองในภาคเหนือรองจากองค์ชายฟงเซี่ยน

 

ต่อมาเป็นเพราะความโชคดีของหม่าหงหยุน เมิ้งตู้จึงถูกเปิดเผย

 

ฟางหยวนอนุมานและยืนยันว่าสถานที่แห่งนี้มีสุราใบมีดอยู่จริง แม้ปริมาณของมันจะไม่มาก แต่เขาต้องการเพียงเล็กน้อยเท่านั้น สําหรับเมิ้งตู๋ ฟางหยวนเลือกเขาอย่างระมัดระวังเพื่อทดสอบท่าไม้ตายอมตะราชันภูต

 

ฟางหยวนไม่สามารถหาผู้อมตะระดับแปดเพื่อทดสอบพลังอํานาจของท่าไม้ตายราชันภูต สําหรับผู้อมตะระดับเจ็ดทั่วไป พวกเขาไม่มีประโยชน์สําหรับฟางหยวน อย่างไรก็ตาม เมิ้งตู๋เป็นผู้อมตะระดับเจ็ดบนจุดสูงสุดและมีชื่อเสียงในฐานะกึ่งปรมาจารย์เอกบนเส้นทางแห่งกระบี่ นี่เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด

 

ดังนั้นฟางหยวนจึงเดินทางมายังทุ่งใบมีดร่วงโรยและท้าทายเมิ้งตู๋โดยตรง

 

การโจมตีก่อนหน้านี้เป็นท่าไม้ตายลับของเมิ้งตู๋ พลังของมันเหนือกว่ามาตรฐาน แต่ข้าสามารถป้องกันมันได้ด้วยราชันภูต การป้องกันของมันค่อนข้างดี”

 

ฟางหยวนลอบประเมินอยู่ภายในใจ

 

เขากระตุ้นใช้งานท่าไม้ตายอมตะราชันภูตมานานแล้ว

 

ร่างของฟางหยวนถูกปกคลุมไปด้วยชุดเกราะทองสัมฤทธิ์ที่สง่างาม บนศีรษะสวมมงกุฎทองคํา ใบหน้าถูกปกคลุมไปด้วยชั้นเมฆหมอกสีดําที่ดูคลุมเครือ

 

การโจมตีของเมิ้งตู๋ไม่สามารถสร้างความเสียหายใดๆให้ฟางหยวน เกราะทองสัมฤทธิ์บนหน้าอกของเขามีรอยขีดข่วนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

 

แต่ด้วยการใช้รากฐานบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณของฟางหยวน รอยขีดข่วนเหล่านี้ก็หายไป อย่างรวดเร็ว

 

นี่คือความพิเศษของราชันภูต!

 

ท่าไม้ตายอมตะผนึกภูตผีระดับเก้าไม่มีค่าใช้จ่าย มันทํางานด้วยตัวของมันเอง ขณะที่อาภรณ์ วิญญาณอาศัยรากฐานบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ

 

ราชันภูตเป็นการผสมผสานระหว่างท่าไม้ตายอมตะทั้งสอง มันไม่ต้องใช้พลังงานอมตะแต่ พึ่งพาเพียงรากฐานบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณของฟางหยวน

 

“เมิ้งตู๋ เจ้าฝึกฝนอยู่ที่นี่มานานหลายปี เจ้าสามารถสร้างท่าไม้ตายใหม่ๆ แต่น่าเสียดา ยที่เจ้าจะไม่ได้ใช้มันก่อนตาย!” ฟางหยวนยั่วยุ

 

เมิ้งตู๋หัวเราะด้วยความโกรธและมองฟางหยวนด้วยสายตาเย้ยหยัน “ไม่ว่าเจ้าจะเป็นผู้ ใดเจ้าก็กําลังรนหาที่ตาย เคยมีค่ายกลวิญญาณอมตะขนาดใหญ่อยู่ที่นี่ แต่เจ้ารู้หรือไม่ ว่าเหตุใดข้าถึงโน้มน้าวให้เผ่านํามันออกไป?”

 

“เพราะตราบเท่าที่มีข้าอยู่ที่นี่ มันก็ไม่จําเป็นต้องมีกําลังเสริมใดๆเพื่อปกป้องสถานที่แห่งนี้!”

 

เมิ้งตู๋กระทืบเท้าขวาลงบนพื้น

 

ในเวลาต่อมาพื้นดินก็เกิดการสั่นสะเทือนขณะที่แสงกระบี่จํานวนนับไม่ถ้วนพุ่งขึ้นมาล้อมรอบ ฟางหยวนเอาไว้ทุกด้าน

Reverend Insanity

Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบของวิญญาณซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา! Humans are the spirit of all living beings, Gu are the essence of heaven and earth. With his three views* unrighteous, a demon is reborn. Former days are but an old dream, an identical name is made anew. The story of a time traveller who keeps on being reborn. A unique world that nurtures, refines, and uses Gu. Spring Autumn Cicada, Moonlight Gu, Liquor Worm, Great Qi Golden Light Worm, Slender Black Hair Gu, Hope Gu… And a great demon of the world that acts as his heart pleases! A story of a villain, Fang Yuan who was reborn 500 years into the past with the Spring Autumn Cicada he painstakingly refined. With his profound wisdom, battle and life experiences, he seeks to overcome his foes with skill and wit! Ruthless and amoral, he has no need to hold back as he pursues his ultimate goals. In a world of cruelty where one cultivates using *Gu – magical creatures of the world – Fang Yuan must rise up above all with his own power. Notes : *Gu is a legendary venomous insect, often used in black magic practices. It can take on the form of several insects, usually snakes, crickets, worms etc. *Three views = one’s world view, values of worth, and philosophy on life.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset