เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1582 ถึงเวลาถอนตัว
“ผู้อาวุโสจิ้งหลาน!” เทพธิดาจื่อเว่ยกรีดร้องออกมาด้วยความโศกเศร้า
เฉินอี้และฟงจิวเก้อแสดงออกด้วยความเสียใจความเกลียดชังความโกรธและอีกหลากหลายอารมณ์
“ไม่ใช่ว่าเทพปีศาจปล้นสวรรค์กังวลว่าวิญญาณอมตะขโมยชีวิตจะสร้างความปั่นป่วนครั้งใหญ่ดังนั้นเขาจึงทําลายมันรวมถึงเคล็ดลับการหลอมรวมมันไปแล้วนั้นหรือ?” เทพธิดาจื่อเว่ยขมวดคิ้ว
เห็นได้ชัดว่านี่เป็นข้อมูลเท็จแต่วังสวรรค์คิดว่มันเป็นเรื่องจริง
หากเทพธิดาจื่อเว่ยต้องการทราบรายละเอียดนางต้องสอบปากคําจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเท่านั้น
ในอดีตเทพปีศาจปล้นสวรรค์ขอให้บรรพชนผมยาวช่วยหลอมรวมวิญญาณอมตะให้เขาไม่ว่าพวกเขาจะทําธุรกรรมส่วนตัวอย่างไรหรือปล่อยข้อมูลออกมาเพื่อหลอกลวงวังสวรรค์อย่างไรทุกอย่างก็มีเพียงคนทั้งสองเท่านั้นที่รู้
“ฮ่าฮ่าฮ่า” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาหัวเราะอย่างเต็มที่ “พวกเจ้าคิดว่าแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาสามารถรังแกได้โดยง่ายงั้นหรือ? ครั้งนี้พวกเจ้าต้องตายทั้งหมด!”
“ระวัง!” เป็นเพียงเวลานี้ที่ฟางหยวนตะโกนเดือน
“อันใด!?” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาอ้าปากค้าง
แม้จึงหลานจะเสียชีวิตแต่หัวใจของนางยังปลดปล่อยสายฟ้าออกมาในไม่ช้าร่างกายที่แก่ชราของนางก็สูญสลายไปเพราะพลังงานสายฟ้าที่ปะทุออกมาจากหัวใจของนาง
มันปลดปล่อยกลิ่นอายอันยิ่งใหญ่ที่สามารถสั่นคลอนสวรรค์พิภพออกมา
“นางยังไม่ตายอีกงั้นหรือ?”
“ไม่ดีแล้ว!”
ผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์อ้าปากค้างด้วยความกลัวและตกใจ
ฟางหยวนแสดงออกอย่างเคร่งขรึม เขากล่าว “จักรพรรดินีอสูรสายฟ้าเสียชีวิตไปแล้ว แต่เก ราะสีดําของนางคล้ายเจตจํานงสิ่งสําคัญที่สุดคือหัวใจของนางดูเหมือนจะเป็นไพ่ตายสุดท้ายที่ นางทิ้งไว้ มันมีพลังมหาศาล เราต้องระวังมัน!”
ทันใดนั้นเกราะสีดําของจักรพรรดินีอสูรสายฟ้าก็ระเบิดและส่งดาวตกสายฟ้าพุ่งเข้าโจมตียักษ์ สวรรค์
รวดเร็วมาก!
แม้ฟางหยวนจะกล่าวเตือนไปแล้ว แต่ผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนไม่สามารถตอบสนองได้ทันเวลาพวกเขาไม่สามารถหลบเลี่ยงหรือใช้ท่าไม้ตายใดๆ
เพราะมันเร็วเกินไป!
จักรพรรดินีอสูรสายฟ้าเชี่ยวชาญด้านการเคลื่อนไหวมากที่สุด พลังทําลายล้างของนางอยู่ใน ระดับมาตรฐานของระดับแปดแต่ความเร็วของนางอยู่บนจุดสูงสุดของระดับแปด
อย่างไรก็ตามดาวตกสายฟ้ากลับพุ่งเข้ามาด้วยความเร็วที่เหนือกว่าจุดสูงสุดของระดับ แปด มันเทียบเท่ากับระดับเก้า!
ยักษ์สวรรค์ไม่สามารถหลบการโจมตีนี้
“เราจะถอนตัว!” เปลือกตาของเทพธิดาอเว่ยกระตุกนางต้องการหลบหนีแต่มันสายเกินไป
“บึม!”
เกิดการระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง
สายฟ้าระเบิดออกไปทุกหนทุกแห่ง
โลกกลายเป็นสีขาว แสงสว่างทําให้สายตาของทุกคนพร่ามัวผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนที่มองขึ้นไปบนท้องฟ้าถึงกับหลั่งน้ําตาก่อนจะกลิ้งไปมาอยู่บนพื้น มันทําให้พวกเขาตาบอดด้วยการชําเลืองมองเพียงครั้งเดียว!
เมื่อแสงจางหายคลื่นกระแทกก็ระเบิดออกไปทุกทิศทาง
กระทั่งกลุ่มของเทพธิดาจื่อเว่ยยังถูกผลักออกไป พวกนางไม่สามารถช่วยเหลือตนเองพวกนางเหมือนแพที่ลอยอยู่ท่ามกลางคลื่นยักษ์
ทวีปเมฆาทั้งหมดถูกเป่าเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
แดนศักดิ์สิทธ์หลางหยาเกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง เดิมทีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมยังส่องแสงอยู่อย่างหนาแน่น แต่ตอนนี้ภายใต้แรงระเบิดร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมในบริเวณที่เกิดการระเบิดถูกทําลายเกือบทั้งหมด
พื้นที่ใจกลางของการระเบิดกลายเป็นความว่างเปล่า มีเพียงผู้อมตะไม่กี่คนที่ยังเหลือรอด
“แค่ก แค่ก” ผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ระดับเจ็ดทั้งหมดกระอักเลือดและตกอยู่ในสภาพที่ น่าสมเพช
ร่างของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยากลายเป็นโปร่งแสง เขาเกือบเสียชีวิต ณ จุดเกิดเหตุ
มีเพียงฟางหยวนที่ไม่ได้รับอันตราย แต่การแสดงออกของเขายังมืดมนมาก เกราะหวนคืนใกล้ถึงขีดจํากัดแล้วแม่น้ําหวนคืนที่อยู่ในมิติช่องว่างจักรพรรดิเหลือมวลน้ําเพียงสิบส่วนหลังจากการโจมตีครั้งนี้
“สมบกับเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ครั้งหนึ่งเคยต่อต้านเทพปีศาจจิตวิญญาณ! แม้ตาย นางก็ยังสามารถตอบโต้ได้ในระดับนี้”
ท่าไม้ตายนี้เป็นการกระตุ้นร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งสายฟ้าที่นางเก็บไว้ในหัวใจให้เกิดการระเบิดในครั้งเดียวพลังทําลายล้างของมันจึงน่าสะพรึงกลัวมาก
“หลังจากการระเบิด ไม่มีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งสายฟ้าเหลืออยู่นี่แสดงให้เห็นว่าความสําเร็จบนเส้นทางแห่งสายฟ้าของนางต้องอยู่ในระดับปรมาจารย์เอก!”
ความคิดมากมายปะทุขึ้นในใจของฟางหยวน
แม้เขาจะไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่การสูญเสียของเขาก็รุนแรงมาก
ยักษ์สวรรค์พังทลายลงจากการระเบิดขณะที่ผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ครึ่งหนึ่งเสียชีวิตศพของพวกเขาถูกทําลายกระทั่งดวงวิญญาณยังแตกสลาย มีเพียงมิติช่องว่างของพวกเขาเท่านั้นที่ถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง
ผู้อมตะที่รอดชีวิตต่างได้รับบาดเจ็บสาหัส บางคนแสดงออกด้วยความตกใจ บางคนไร้อารมณ์ บางคนกลายเป็นผืนงง
การระเบิดครั้งสุดท้ายของจักรพรรดินีอสูรสายฟ้าสร้างความเสียหายครั้งใหญ่ต่อพันธมิตรเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ทั้งหมด
“ปกป้องจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา! เรายังมีวิญญาณอมตะขโมยชีวิต เรายังสู้ได้!” ฟางหยวนตะโกน ขณะเดียวกันเขาก็บินไปอยู่ด้านหน้าจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเพื่อปกป้องฝ่ายหลังในช่วงเวลาสําคัญฟางหยวนต้องเป็นผู้ควบคุมสถานการณ์
“ถูกต้อง เรายังมีวิญญาณอมตะขโมยชีวิต!” ตอนนี้เป็นช่วงเวลาอันตราย จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยารู้ว่าเขาไม่สามารถแสดงความโกรธหรือเสียใจออกมาในเวลานี้
“ลงมือเร็ว!” เทพธิดาจอเว่ยและเฉินอี้รีบเคลื่อนไหว
เมื่อเห็นวิญญาณอมตะขโมยชีวิตกําลังจะถูกใช้งานอีกครั้ง แล้วพวกเขาจะไม่กังวลได้อย่างไร?
ท่าไม้ตายอมตะต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์แห่งชะตากรรม!
ร่างของเฉินอี้สั่นสะท้านขึ้นก่อนที่ควันสีเขียวจะก่อตัวเป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ขนาดใหญ่
ในเวลาเดียวกันเทพธิดาอเว่ยก็โจมตีอย่างดุเดือด
ท่าไม้ตายอมตะความตายจากความโศกเศร้า!
นางใช้การโจมตีที่รุนแรงที่สุดของนางออกมาโดยตรง ความรู้สึกโศกเศร้ากระจายออกไปโดยปราศจากรูปลักษณ์และทําให้ผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ที่ปกป้องจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา อยู่เริ่มชักกระตุก พวกเขายกมือขึ้นกุมหัวใจของตนเองเอาไว้ก่อนที่พวกเขาจะล้มลงเสียชีวิต ณ จุดเกิดเหตุอย่างลึกลับ
“ผมที่หก!” ฟางหยวนกรีดร้อง การโจมตีของเทพธิดาจื่อเว่ยไม่สามารถป้อง กันได้ ผมที่หกแทบจะไม่สามารถรักษาชีวิตจากการระเบิดครั้งก่อนหน้าเขาอยู่ในสภาพปาน ตายดังนั้นเมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีของเทพธิดาจอเว่ยอีกครั้งเขาจึงไม่สามารถอดทนและเสียชี วิตในที่สุด
การแสดงออกของฟางหยวนเปลี่ยนไป แม้เขาจะไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่แม่น้ําหวนคืนก็สูญเสียมวลน้ําไปอีกมาก นี่แสดงให้เห็นว่าท่าไม้ตายของเทพธิดาจ๋อเว่ยไม่ด้อยกว่าการระเบิดครั้งสุดท้ายของจักรพรรดินีอสูรสายฟ้า!
“ไม่! ช่วยข้าด้วย!” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาคว้าแขนของฟางหยวนขณะที่เขาใช้ท่าไม้ตายสายป้องกันต่อต้านการโจมตีของเทพธิดาจื่อเว่ย
ฟางหยวนมองจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาด้วยความขมขึ้น
เนื่องจากเกราะหวนคืนสามารถปกป้องตัวเขาเองเท่านั้น มันไม่สามารถปกป้องจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา
“ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่ง ท่านไม่สามารถใช้วิญญาณอมตะขโมยชีวิตได้ในสถานการณ์นี้วิที่เดียวในตอนนี้คือย้ายแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาเข้ามาในมิติช่องว่างของข้านั่นคือทางเดียวที่เหลืออยู่!” ฟางหยวนกระตุ้นด้วยการแสดงออกที่จริงจัง
แต่จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาปฏิเสธ เขามองฟางหยวนด้วยความโกรธ “ไม่ วิธีนี้ทํา ไม่ได้! ข้ายังสู้ไหว!”
“บึม!”
อย่างไรก็ตามจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยากลับถึงขีดจํากัดในเวลานี้ ท่าไม้ตายสายป้องกันของเขาถูกทําลาย ร่างกายของเขาระเบิดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
เขาตายแล้ว!
“ฆ่าเขา!” เทพธิดาอเว่ยรู้สึกผ่อนคลายลงและเกือบหมดสติทันที
ท่าไม้ตายอมตะความตายจากความโศกเศร้าจะส่งผลกระทบต่อผู้ใช้งานเช่นกัน นั่นทําให้เทพธิดาจื่อเว่ยรู้สึกขมขื่นอยู่ในหัวใจหลังจากใช้มันครั้งนี้นางต้องพักฟื้นอีกนาน
“จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา บัดซบ!” ฟางหยวนขมวดคิ้วสาปแช่ง “แต่มันยังไม่จบ บางที่…”
ในเวลาต่อมาจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาอีกร่างหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้น
เขามีเส้นผม เครา และคิ้วสีขาว มันก็คือจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาผมขาวคนก่อนหน้านั้นเอง
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยามีสองเจตจํานง นั่นทําให้มันมีสองบุคลิก หนึ่งขาว หนึ่ง เมื่อจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาผมดําเสียชีวิตจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาผมขาวก็ปรากฏตัวขึ้นอีก
“อันใด! จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาอีกร่างหนึ่งนั้นหรือ?” เทพธิดาจื่อเว่ยขมวดคิ้ว นางรู้ความลับนี้ แต่นางมั่นใจว่าท่าไม้ตายอมตะความตายจากความโศกเศร้าสามารถกําจัดจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาทั้งสองคน
แต่ความจริงก็คือจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาลึกลับกว่าที่นางคิด
แม้เทพธิดาอเว่ยจะสามรถใช้ท่าไม้ตายอมตะความตายจากความโศกเศร้าได้อีกครั้งแต่นางไม่มีเวลาแล้วนอกจากนั้นวิธีทั่วไปก็ไม่สามารถสังหารจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาที่ได้รับการปกป้องจากฟางหยวน
เทพธิดาจื่อเว่ยไม่หงุดหงิด ตรงข้าม ริมฝีปากของนางม้วนตัวขึ้นเป็นรอยยิ้ม นางเปลี่ยนกลยุทธ์เป็นป้องกันตัวเองและสหายร่วมศึก
สหายที่กล่าวถึงก็คือเฉินอี้
ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์แห่งชะตากรรมของเฉินอี้สร้างผลไม้ขนาดใหญ่ขึ้นมาแล้ว
“มีเหตุย่อมมีผล ผลสามารถกําจัดเหตุ!” เฉินอี้ตะโกนขณะยื่นมือขวาออกไปคว้าผลไม้ผลนี้และบีบทําลายมัน
“ผัวะ!”
ผลไม้ที่ถูกบีบระเบิดน้ําผลไม้สาดกระเซ็นลงบนใบหน้าและร่างกายของเฉินอี้ราวกับยาพิษ
“ซี่ ซี่ ชี่”
น้ําผลไม้กัดกร่อนร่างกายของเฉินอี้และทําให้เขารู้สึกเจ็บปวด เนื้อและชั้นผิวหนังของเขาเน่าเปื่อยและเผยให้เห็นกระดูกที่อยู่ภายใน
เฉินอี้จ่ายด้วยราคามหาศาลเพราะเขามีแรงจูงใจ
การแสดงออกของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเปลี่ยนไปขณะที่เขากล่าวด้วยความเคร่งขรึม“พวกเขาทําลายวิญญาณอมตะขโมยชีวิต!”
“เห้อ…” ฟางหยวนถอนหายใจและกระตุ้นอีกครั้ง “ตอนนี้ท่านสามารถรวมแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาเข้ากับ…”
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาผมขาวขัดจังหวะก่อนที่ฟางหยวนจะกล่าวจบประ โยค “ไม่แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยายังมีไพ่ตายเหลืออยู่! ในอดีตร่างหลักของข้าเคยทําข้อตก ลงกับเทพอมตะตะวันเดือดหากเราเผชิญหน้ากับอันตรายจากการทําลายล้างเราสามารถขอค วามช่วยเหลือจากถ้ําสวรรค์นิรันดรหลังจากนั้นเราจะหลอมรวมแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาเข้ากับถ้ําสวรรค์นิรันดรและอยู่ในสถานะที่เท่าเทียม!”
หลังกล่าวจบคํา ประตูบานหนึ่งก็ถูกเปิดออก
ไม่กี่ลมหายใจต่อมา สัตว์อสูรแรกกําเนิดในตํานานเหมาลีชิวก็ปรากฏตัวขึ้น
ด้านหลังมันยังมีผู้อมตะระดับแปดอีกหลายคนที่เต็มไปด้วยเจตจํานงแห่งการต่อสู้
“ตอนนี้แดนศักดิ์สิทธ์หลางหยาเป็นเขตปกครองของถ้ําสวรรค์นิรันดรแล้ว!”
“วังสวรรค์! กรงเล็บของพวกเจ้ายาวกว่าข้าเหมาลีชิว วันนี้ข้าจะช่วยตัดมัน ฮ่าฮ่าฮ่า”
“ฟางหยวนอยู่ที่นี้เช่นกัน ฆ่าเขา! เราจะแก้แค้นการล่มสลายของวังแปดสิบแปดเปลวเพลิงที่แท้จริงและทวงคืนมรดกที่แท้จริงบนเส้นทางแห่งโชค!”
เมื่อกําลังเสริมที่แข็งแกร่งมาถึง สถานการณ์พลิกกลับทันที
“เห้อ… ฟางหยวนสอบถอนหานยใจอยู่ภายใน ถึงเวลาถอนตัวแล้ว”