บทที่ 1651 หอคอยเกียรติยศ
“บึม!”
บอลสายฟ้าขนาดเท่าโม่หินพุ่งปะทะแผ่นหลังของเมียวหมิงเฉินและทําให้เกิดการระเบิดที่รุนแรง
“พรวด!”
เมี่ยวหมิงเฉินกระอักเลือดคําโตออกมา ใบหน้าของเขากลายเป็นซีดขาว เขาพยายามใช้ท่าไม้ตายอมตะและล่าถอยออกไปหลายพันก้าว
แต่ถึงกระนั้นสถานการณ์ของเขาก็ยังเลวร้ายอย่างที่สุด
“ผู้ใดจะคิดว่าข้าจะมาตายที่นี่!” เสี่ยวหมิงเฉินรู้สึกสิ้นหวัง
มรดกที่แท้จริงของเทพอมตะสวรรค์พิภพไม่ควรมีอันตรายถึงชีวิต แต่เหตุใดที่นี่ถึงอันตรายนัก?
อย่างไรก็ตามมันไม่มีประโยชน์ที่จะคิดถึงคําถามนี้อีกต่อไป
หลังจากทั้งหมดทุกคนตายไปแล้ว เสี่ยวหมิงเฉินเป็นคนสุดท้ายที่เหลืออยู่
หากข้ารู้เรื่องนี้ ข้าจะไม่มาสํารวจมรดกที่แท้จริงของเทพอมตะสวรรค์พิภพ ข้าตายโดยไม่แม้แต่จะได้เห็นวาฬมังกรฟ้า ฮ่าฮ่าฮ่า เหรินซิ่วผิงคงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งหากได้ยินเรื่องนี้ เมี่ยวหมิงเฉินรู้สึกขมขื่น
ไม่มีผู้ใดรู้ทุกสิ่งในอนาคต กระทั่งผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเช่นเทพอมตะกลุ่มดาวก็ไม่สามารถทํานายทุกอย่าง
“เข้ามา!” เสี่ยวหมิงเฉินถอนหายใจขณะเผชิญหน้ากับกรงเล็บของวิหคสายฟ้าแรกกําเนิด
ด้วยความเจ็บปวดที่รุนแรง วิสัยทัศน์ของเขากลายเป็นมืดมิด
ข้าตายแล้วงั้นหรือ?” เมี่ยวหมิงเฉินรู้สึกมึนงง
เป็นเพียงเวลานี้ที่เสียงสายหนึ่งดังขึ้น “ท่านเมียวหมิงเฉิน ตื่นเถิด ตื่นเร็ว”
เมี่ยวหมิงเฉินเปิดเปลือกตาขึ้น
เขาเห็นฮวาแสดงออกด้วยความกังวล ด้านข้างนางมีกุ้ยฉีเย่ เฟิงเจียง และคนอื่นๆ รวมถึงชูอิงที่เสียชีวิตเป็นคนแรก
ทุกคนเผยรอยยิ้ม
“พวกเจ้า…เกิดสิ่งใดขึ้น?” เมี่ยวหมิงเฉินกระพริบตา “เดี๋ยว! นี่คือการทดสอบงั้นหรือ?”
“ถูกต้อง เราได้ข้อสรุปเช่นเดียวกัน” ถูเทาเทาหัวเราะเสียงดัง
“ผู้ใดจะคิดว่าการทดสอบแรกจะเริ่มขึ้นก่อนที่เราจะเข้ามาในวาฬมังกรฟ้า มันอันตรายจริงๆ” เสี่ยวหมิงเฉินส่ายศีรษะก่อนจะตรจสอบอาการบาดเจ็บของตน
แต่เขากลับตกตะลึง
ปรากฏว่าอาการบาดเจ็บทั้งหมดของเขาหายไปหมดแล้ว วิญญาณของเขาไม่ได้รับความเสียหายใดๆ กระทั่งพลังงานอมตะยังกลับคืนสู่สภาพเดิม
“นี่!?” เมี่ยวหมิงเฉินเงยหน้าขึ้น “มันคือภาพลวงตางั้นหรือ?”
“ถูกต้อง”
“เทพอมตะสวรรค์พิภพช่างอัศจรรย์นัก พวกเราไม่ตระหนักถึงสิ่งใดเลย พวกเรารู้ตัวหลังถูกสังหาร”
“เทพอมตะสวรรค์พิภพสามารถสร้างสนามรบกลับชาติมาเกิด ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เราจะพบการทดสอบเช่นนี้”
“ในประวัติศาสตร์ เทพอมตะสวรรค์พิภพสร้างท่าไม้ตายเขตแดนอมตะสนามรบกลับชาติมาเกิดเพื่อจัดการปีศาจอมตะระดับแปด หลังจากหลายปี นิกายโบราณทั้งสิบของภาคกลางสามารถใช้มันหล่อเลี้ยงผู้อมตะจํานวนนับไม่ถ้วน!”
เมี่ยวหมิงเฉินถอนหายใจขณะที่จิตใจของเขากลับมากระจ่างชัดอีกครั้ง
“ข้าคิดว่านี่เป็นคําเตือนของเทพอมตะสวรรค์พิภพ หลังจากได้รับประสบการณ์ของความตาย เราอาจละวางความโลภในหัวใจ”
“นายท่านกล่าวได้ถูกต้องแล้ว ความรู้สึกของความตายยากที่จะลืมเลือน” เฟิงเจียงถอนหายใจ
“ในขณะเดียวกันนี่คือการทดสอบพลังการต่อสู้ของพวกเรา เสี่ยวหมิงเฉิน ข้าต้องยอมรับว่าเจ้ายอดเยี่ยมมาก เราเห็นการต่อสู้ของเจ้า ท่ามกลางพวกเรา เจ้าอยู่ได้นานที่สุด” ตงฮัวยิ้ม
เสี่ยวหมิงเฉินเผยรอยยิ้มแต่ในใจยังกังวล
เขายินดีที่คนเหล่านี้เห็นความแข็งแกร่งของเขา แต่เขากังวลเพราะไม่ตายของเขาถูกเปิดเผย
เมี่ยวหมิงเฉินนึกถึงชอิงก่อนที่เขาจะเปิดปากกล่าว “ชูอิง ข้าเป็นห่วงและรู้สึกเสียใจกับเจ้ามาก แต่ผู้ใดจะคิดว่าเจ้าจะเป็นคนที่ประหยัดพลังงานมากที่สุด”
คํากล่าวของเขามีความหมายที่ลึกซึ้ง
ฟางหยวนถอนหายใจและแสดงออกด้วยความละลายใจ “แท้จริงแล้วข้ารู้สึกแย่มาก ข้าโชคร้ายที่ถูกโจมตีโดยวิหคสายฟ้าแรกกําเนิดเป็นคนแรก เมื่อข้าตื่นขึ้น ข้ารู้สึกงุนงงอยู่นานก่อนจะเข้าใจสถานการณ์”
ด้วยวิญญาณทัศนคติและทักษะการแสดงของฟางหยวน มันทําให้ข้อสงสัยที่อยู่ในใจของเมียวหมิงเฉินหายไป
“ตอนนี้เราอยู่ที่ใด?” เมี่ยวหมิงเฉินมอบไปรอบๆและพบว่ามันเป็นเกาะแห่งหนึ่ง
“เรากําลังจะถามท่าน พวกเรามาถึงที่นี่หลังจากตื่นขึ้น เราไม่รู้ว่าควรไปที่ใด” ตงฮัวกล่าว
เสี่ยวหมิงเฉินพยักหน้า “ทุกคนรอสักครู่”
เขาปิดเปลือกตาลงเพื่อค้นหาตําแหน่งของวาฬมังกรฟ้า
ไม่มีผู้ใดสามารถถอดรหัสวิธีการของเขา
หลังจากชั่วครู่เขาก็เปิดเปลือกตาขึ้นอีกครั้งและแสดงออกด้วยความยินดี
“ทุกคน ที่นี่คือมิติช่องว่างที่อยู่ในร่างของวาฬมังกรฟ้า!” เสี่ยวหมิงเฉินกล่าว
“อา…” กลุ่มผู้อมตะรู้สึกประหลาดใจมาก
พวกเขารู้ข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับมรดกที่แท้จริงของเทพอมตะสวรรค์พิภพ
เทพอมตะสวรรค์พิภพกําหราบวาฬมังกรฟ้าและปลุกมิติช่องว่างของมัน สุดท้ายเขายังทิ้งมรดกที่แท้จริงไว้ที่นี่
ผู้อมตะจํานวนมากพยายามค้นหาวาฬมังกรฟ้าแต่ไม่มีผู้ใดค้นพบ
เดิมทีพวกเขาคิดว่าจะสามารถเห็นรูปลักษณ์ที่แท้จริงของวาฬมังกรฟ้าแต่ผู้ใดจะคิดว่าพวกเขาจะถูกส่งเข้ามาภายในมิติช่องว่างของมันโดยตรง
“การจัดเตรียมของเทพอมตะสวรรค์พิภพเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถทําความเข้าใจ”
“หมายความว่าการเข้ามาที่นี่ไม่ใช่เรื่องยากงั้นหรือ?”
“เช่นนั้นเหตุใดไม่เคยมีผู้ใดเข้ามาที่นี่ก่อนพวกเรา?”
“แล้วพวกเราจะทําอย่างไรต่อไป?” ตงฮัวถาม
ทุกคนมองไปที่เมี่ยวหมิงเฉิน
เสี่ยวหมิงเฉินค่อนข้างพอใจกับสถานการณ์นี้ ทุกคนมาถึงจุดหมายโดยไม่แยกจากกัน พวกเขายังต้องทํางานร่วมกัน ขณะที่เขาสามารถรวมอํานาจในฐานะผู้นํากลุ่ม
“กล่าวตามตรงข้าเองก็ไม่แน่ใจ แต่เมื่อพวกเรามาถึงที่นี่ มันก็หมายความว่าพวกเราประสบความสําเร็จในขั้นแรก หลังจากนี้เราควรค้นหามรดกที่แท้จริงของเทพอมตะสวรรค์พิภพ แต่เราไม่รู้ว่าที่นี่เป็นอย่างไร เพื่อความปลอดภัย เราควรตรวจสอบสภาพแวดล้อมด้วยกัน หากมีสิ่งใดเกิดขึ้น พวกเราจะสามารถดูแลซึ่งกันและกัน” คํากล่าวของเมี่ยวหมิงเฉินได้รับการตอบรับจากทุกคน
ฟางหยวนกล่าว “ข้ามีความคิดบางอย่าง เนื่องจากเราเข้ามาที่นี่โดยผ่านการทดสอบของเทพอมตะสวรรค์พิภพ เกาะแห่งนี้ย่อมไม่ธรรมดา เราควรตรวจสอบรอบๆเกาะกันก่อน”
“ยังไม่มีผู้ใดสํารวจสถานที่แห่งนี้เลยงั้นหรือ?” เมี่ยวหมิงเฉินถาม
กลุ่มผู้อมตะส่ายศีรษะ บางคนมองไปที่ฟางหยวน
ฟางหยวนเผยรอยยิ้มขมขึ้น “แม้ข้าจะเป็นคนแรกที่เข้ามาที่นี่ แต่ขากลัวอันตรายที่ซ่อนอยู่ ดังนั้นข้าจึงเฝ้ารอพวกท่านอยู่ที่นี่มาตลอด”
“เอาล่ะ เช่นนั้นแยกกันไปตรวจสอบรอบเกาะเป็นอันดับแรก” เสี่ยวหมิงเฉินมอบภารกิจให้กับพวกเขา
เกาะเล็กๆถูกตรวจสอบอย่างรวดเร็ว ในไม่ช้าพวกเขาก็พบเบาะแสบางอย่าง “ที่จุดศูนย์กลางขอเกาะมีคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดตั้งอยู่!”
ครู่ต่อมาผู้อมตะทั้งแปดก็มายืนอยู่ด้านหน้าคฤหาสน์วิญญาณอมตะ
คฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้มีการออกแบบที่ค่อนข้างประหลาด เมื่อมองจากภายนอก มันดูเหมือนเสาทองคําที่มีตัวอักษรมากมายจารึกอยู่บนพื้นผิว
เฟิงเจียงอุทาน “นี่คือมรดกที่แท้จริงของเทพอมตะสวรรค์พิภพ!”
ฮวาตี้ขมวดคิ้ว “การรับสืบทอดมรดกที่แท้จริงนี้ค่อนข้างยาก”
เสาทองคําระบุว่าคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดหลังนี้เรียกว่าหอคอยเกียรติยศ หากผู้อมตะต้องการมรดกที่แท้จริงของเทพอมตะสวรค์พิภพ พวกเขาต้องทําภารกิจที่ปรากฏอยู่บนเสาต้นนี้และรับแต้มบุญ
ยิ่งมีแต้มบุญมากเท่าใด พวกเขาก็สามารถใช้มันแลกเปลี่ยนสมบัติล้ำค่าได้มากเท่านั้น
หากบางคนไม่ยินดีรับภารกิจ พวกเขาสามารถรออยู่บนเกาะแต่ไม่สามารถจากไป
“ตามคําจารึก เราสามารถอยู่ที่นี่ได้สามร้อยวันเท่านั้น” ตงฮัวกล่าวด้วยความเสียใจ
สายร้อยวันคือเวลาในมิติช่องว่างของวาฬมังกรฟ้า
“ภารกิจชนิดใดที่เราสามารถทําได้ในสามร้อยวัน?” ดวงตาของเจิ้งลั่วซือส่องประกายขึ้น มีภารกิจระบุไว้สิบภารกิจ นั่นหมายความว่าผู้อมตะทั้งแปดต้องแข่งขันกันเอง
พวกเขาตระหนักถึงปัญหาอย่างรวดเร็วขณะที่บรรยากาศกลายเป็นตึงเครียด
เสี่ยวหมิงเฉินสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่เปลี่ยนแปลงไปและต้องเปิดปากกล่าว “ทุกคน ในความคิดเห็นของข้า พวกเราควรทดสอบก่อนว่าเราสามารถออกจากเกาะได้หรือไม่ ข้าหวังว่าพวกเจ้าจะตรวจสอบคฤหาสน์วิญญาณอมตะหอคอยเกียรติยศหลังนี้ หากพวกเจ้ามีวิธีการเคลื่อนย้ายมัน นั่นจะดีที่สุด”
กลุ่มผู้อมตะมองคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดอย่างลึกซึ้ง หากพวกเขาสามารถทําลายหรือแย่งชิงส่วนหนึ่งของมัน พวกเขาจะได้รับผลประโยชน์มหาศาล
เมี่ยวหมิงเฉินกล่าวต่อ “รอบเกาะมีทรัพยากรมากมาย เราสามารถแบ่งปันทรัพยากรเหล่านี้ พวกเจ้าคิดอย่างไร?”
นี่คือผลประโยชน์ของพวกเขา เหตุใดพวกเขาจะไม่เห็นด้วย