Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน – ตอนที่ 1149

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1149 ค้นหามรดกบนเส้นทางแห่งข้อมูล

แปลโดย iPAT 

ลมทะเลพัดไอน้ำขึ้นสู่อากาศ

ฟางหยวนนั่งอยู่บนก้อนเมฆและเคลื่อนที่ไปข้างหน้าพร้อมกับตรวจสอบวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

วิญญาณระดับมนุษย์ดวงนี้มาจากปิงเจา

ผู้อมตะเผ่ามนุษย์หิมะที่ใช้หอกน้ำแข็งในการต่อสู้ระยะประชิดปิงเจาส่งจดหมายมาบอกฟางหยวนเกี่ยวกับความหมายของไข่มุกน้ำแข็งว่ามันไม่ใช่เพียงวัสดุในการหลอมรวมวิญญาณแต่ยังเป็นสัญลักษณ์แห่งความรัก

ฟางหยวนเผยรอยยิ้มเย็นชาและบดขยี้วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

เมฆสีขาวพาเขาเดินทางข้ามผ่านท้องฟ้า สายลมพัดเส้นผมของเขาปลิวไปด้านหลังและเผยให้เห็นใบหน้าอันหล่อเหลา

ฟางหยวนจะไม่รู้ความหมายของไข่มุกน้ำแข็งได้อย่างไร

อย่าลืมว่าเขามีชีวิตมาแล้วห้าร้อยปี แม้ระดับการบ่มเพาะของเขาจะไม่สูงนัก แต่ความรู้รอบตัวของเขาถือว่าไม่น้อย

ไม่เพียงไข่มุกน้ำแข็ง ฟางหยวนยังมีความรู้ความเข้าใจที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับวัฒนธรรมการดื่มสุราของมนุษย์กลายพัฯธุ์

ระหว่างงานเลี้ยงครั้งก่อน ผมที่หกกล่าวหาว่าฟางหยวนไม่รู้จักวัฒนธรรมการดื่มของมนุษย์กลายพันธุ์ แต่ในความเป็นจริงฟางหยวนแสร้งไม่รู้เพื่อตรวจสอบทัศนคติของผู้อมตะเผ่ามนุษย์หินและมนุษย์หิมะเท่านั้น

บางครั้งการทำตัวไร้เดียงสาก็ทำให้พวกเขาเข้าใจหลายสิ่ง

เกี่ยวกับความหมายของไข่มุกน้ำแข็ง ฟางหยวนรู้ดี

การยอมรับไข่มุกน้ำแข็งคือการยอมรับความรักจากเสวี่ยเอ๋อ แต่หากเขาไม่ยอมรับมัน นั่นจะกลายเป็นการทำลายความสัมพันธ์ระหว่างเขากับมนุษย์กลายพันธุ์กลุ่มนั้น

แต่งงานกับเสวี่ยเอ๋อ?

เรื่องนี้มีข้อเสียมากกว่าข้อดี

เผ่ามนุษย์หิมะยอมจำนนต่อฟางหยวนเพราะการคงอยู่ของอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุด

แต่อินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดกลายเป็นไข่ไปแล้ว

แม้ฟางหยวนจะได้รับคริสตัลสวรรค์บางส่วนมาจากการแลกเปลี่ยนแต้มผลงานของนิกายหลางหยา แต่มันยังไม่เพียงพอ เขายังไม่สามารถฟักไข่อินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุด

‘การแต่งงานกับเสวี่ยเอ๋อจะผูกมัดข้ากับเผ่ามนุษย์หิมะด้วยข้อตกลงบางอย่าง ตอนนี้ข้ามีข้อตกลงกับนิกายหลางหยา ข้อตกลงกับชูตู๋ และข้อตกลงพันธมิตรสี่ฝ่าย อิสรภาพของข้าถูกจำกัดเป็นอย่างมาก หากข้าเพิ่มข้อตกลงเกี่ยวกับการแต่งงานเข้าไป มันจะเป็นเพียงการเพิ่มปัญหาให้กับตนเองเท่านั้น

แม้ฟางหยวนจะได้รับประโยชน์จากข้อตกลงพันธมิตร แต่เขาก็ต้องรับภารกิจเพื่อตอบแทนฝ่ายตรงข้ามเช่นกัน

ตัวอย่างเช่นหากแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาถูกโจมตี ฟางหยวนต้องเป็นกำลังเสริมให้กับพวกเขา

ดังนั้นหากฟางหยวนแต่งงานกับมนุษย์หิมะ เผ่ามนุษย์หิมะจะทำทุกอย่างเพื่อลดคุณค่าของเขา!

เมื่อเวลานั้นมาถึงฟางหยวนจะไม่สามารถดูแลตัวเอง

มนุษย์หิมะและมนุษย์หินอาศัยอยู่ใต้แดนน้ำแข็ง มนุษย์หินมีมังกรหินแรกกำเนิดระดับแปด ดังนั้นมนุษย์หิมะจึงต้องการให้เสวี่ยเอ๋อแต่งงานกับข้าที่มีอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดระดับแปดเพื่อคานอำนาจกับเผ่ามนุษย์หิน’

เผ่ามนุษย์หินและเผ่ามนุษย์หิมะอาศัยอยู่รวมกันในพื้นที่เล็กๆ แล้วพวกเขาจะไม่มีความขัดแย้งได้อย่างไรหลังจากทั้งหมดพวกเขาเป็นสองเผ่าพันธุ์ที่แตกต่างกัน

เนื่องจากสถานการณ์บังคับ พวกเขาจึงต้องอดทนและใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างสันติ

เผ่ามนุษย์หินมีมังกรหินแรกกำเนิด ทุกครั้งที่เกิดความขัดแย้ง เผ่ามนุษย์หิมะจะเป็นฝ่ายสูญเสีย แต่พวกเขาก็ต้องอดทนและยอมรับมัน

เผ่ามนุษย์หินมีสถานะสูงกว่า

สิ่งนี้เห็นได้ชัดจากรายละเอียดเล็กๆน้อยๆระหว่างการสร้างสัญญาพันธมิตร

ตัวอย่างเช่นผู้อมตะเผ่ามนุษย์หินซื่อจงสามารถเป็นตัวแทนของผู้อมตะเผ่ามนุษย์หิมะ

หากข้าแต่งงานกับเสวี่ยเอ๋อ นั่นหมายความว่าข้ากำลังเข้าข้างเผ่ามนุษย์หิมะและไม่สามารถหลีกเลี่ยงการเข้าสู่ความขัดแย้งระหว่างสองเผ่าพันธุ์’

เมื่อเกิดความขัดแย้งภายใน เสวี่ยเอ๋อจะขอให้ฟางหยวนช่วยไกล่เกลี่ยขณะที่ฟางหยวนในฐานะพันธมิตรจะไม่สามารถปฏิเสธ

แต่เผ่ามนุษย์หินมีประโยชน์กับฟางหยวนมากกว่า

ท้ายที่สุดพวกเขาก็เป็นลูกค้ารายใหญ่ในธุรกรรมวิญญาณความเด็ดเดี่ยว

ฟางหยวนจะทำลายความสัมพันธ์ของเขากับเผ่ามนุษย์หินเพียงเพราะหญิงผู้หนึ่งได้อย่างไร? นี่ไม่ใช่การลดกำไรของเขาลงงั้นหรือ?

หลายวันที่ผ่านมาฟางหยวนไม่เพียงได้รับจดหมายจากปิงเจา เขายังได้รับจดหมายจากผู้อมตะเผ่ามนุษย์หมึก ผู้อมตะเผ่ามนุษย์หิมะ และผู้อมตะเผ่ามนุษย์หินคนอื่นๆ

รวมทั้งเสวี่ยเอ๋อ

เจตนาของพวกเขาคือการผูกมัดฟางหยวน

หลังจากทั้งหมดพลังการต่อสู้ระดับแปดน่าดึงดูดใจมากเกินไป

เหตุผลหนึ่งที่ทำให้ฟางหยวนเดินทางออกจากภาคเหนือและมายังทะเลตะวันออกก็เป็นเพราะเรื่องนี้ เขาต้องการหลีกเลี่ยงปัญหามากมายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

‘ข้าได้รับประโยชน์จากมนุษย์กลายพันธุ์เหล่านี้แต่ความสัมพันธ์ของเราลึกซึ้งเกินไป เมื่อเกิดเหตุร้าย ข้าอาจตายไปพร้อมกับพวกเขา ข้าต้องกำจัดข้อตกลงพันธมิตรเพื่อให้ข้าสามารถถอนตัวได้อย่างอิสระ’ ฟางหยวนตระหนักถึงสถานการณ์ของตนเองเป็นอย่างดี

ยิ่งไปกว่านั้นจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยายังแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจที่จะรับชูตู๋เข้าร่วมนิกายหลางหยา นี่ทำให้ฟางหยวนรู้สึกถึงภัยคุกคาม

หากชูตู๋เข้าร่วมนิกายหลางหยาจริง มันจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อสถานะของฟางหยวนในนิกายหลางหยา

เหตุผลที่จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาต้องการชูตู๋อาจเป็นเพราะเขาพิจารณาถึงจุดนี้เช่นกัน

แม้จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาจะมอบภารกิจนี้ให้กับฟางหยวน แต่ฟางหยวนย่อมไม่โง่พอที่จะชักชวนชูตู๋ให้เข้าร่วมกับนิกายหลางหยา

มรดกบนเส้นทางแห่งข้อมูลของทะเลตะวันออก…’ ฟางหยวนคิดถึงสิ่งนี้

นี่เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เขาเดินทางมาที่นี่

หากฟางหยวนได้รับมรดกนี้ เขาจะสามารถกำจัดข้อตกลงพันธมิตรและนั่นจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด

อย่างไรก็ตามการรับสืบทอดมรดกบนเส้นทางแห่งข้อมูลยังเป็นเป้าหมายรอง ฟางหยวนมีเป้าหมายหลักอีกหนึ่งประการ

หลายวันต่อมา

ทะเลไหลเชี่ยว

ข้ายอมแพ้ ไว้ชีวิตข้าด้วย!” หลิวชิงหยูคุกเข่าลงด้วยอาการบาดเจ็บสาหัส

เขาเป็นผู้อมตะระดับเจ็ดและยังมีสหายเป็นผู้อมตะระดับหกอีกสามคน

แต่ผู้ใดจะคิดว่าพวกเขาจะถูกซุ่มโจมตีบริเวณทะเลไหลเชี่ยวแห่งนี้ ตอนนี้ผู้อมตะระดับหกทั้งสามเสียชีวิตไปแล้ว

ศัตรูของเขาเป็นผู้อมตะลึกลับสี่คน

หลิวชิงหยูมีความรู้กว้างขวางแต่เขาไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับการคงอยู่ของผู้อมตะลึกลับทั้งสี่ในทะเลตะวันออก

ทั้งสี่ล้วนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

คนที่มีระดับการบ่มเพาะสูงสุดปลดปล่อยกลิ่นอายของผู้อมตะระดับเจ็ดออกมา นอกจากนั้นเขายังเป็นผู้อมตะเผ่ามนุษย์หิน

อีกสามคนเป็นผู้อมตะระดับหก หนึ่งเป็นผู้อมตะหญิงที่งดงาม อีกหนึ่งเป็นชายชราที่ดูเป็นมิตร และคนสุดท้ายเป็นผีดิบอมตะที่ดูธรรมดามาก

แต่ไม่ว่าจะเป็นผู้ใด พวกเขาก็เป็นผู้อมตะที่แข็งแกร่งทั้งสิ้น อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทำให้หลิวชิงหยูประหลาดใจก็คือผู้นำของพวกเขาไม่ใช่ผู้อมตะเผ่ามนุษย์หิน ผู้อมตะหญิง หรือผู้อมตะชรา แต่เป็นผีดิบอมตะระดับหกที่ดูธรรมดาผู้นั้น!

ยอมแพ้งั้นหรือฮ่าฮ่า เจ้ารู้จักว่าสิ่งใดดีต่อตนเองจริงๆ” ผีดิบอมตะระดับหกลูบคางและหัวเราะเบาๆ

หากฟางหยวนอยู่ที่นี่ เขาจะรู้ว่าคนผู้นี้คือผู้ใด

ถูกต้อง เขาก็คืออิงอู๋เซี่ย!

ฮืม ขี้ขลาด ไม่แปลกใจเลยที่เขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า เราควรฆ่าเขาและให้ซื่อหนิวดูดซับร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งปฐพีจากเขา” ไห่ลั่วหลันกล่าวโดยมีเปลวเพลิงสีส้มลุกไหม้ขึ้นบนร่างกาย

ผู้อมตะเผ่ามนุษย์หินซื่อหนิวมองอิงอู๋เซี่ยและกล่าวอย่างช้าๆ “ข้าจะทำตามคำสั่งของนายท่าน

ไม่ ไม่!” หลิวชิงหยูตะโกนด้วยความร้อนรน “แม้ข้าจะเป็นผู้อมตะระดับเจ็ดแต่วิญญาณอมตะของข้าเป็นวิญญาณอมตะระดับหกเท่านั้น เทพธิดาผู้นี้มีวิญญาณอมตะระดับเจ็ดและท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งไฟอีกมากมาย ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ข้าจะไม่สามารถเอาชนะ!”

อิงอู๋เซี่ยหัวเราะและโบกมือ “ตอนนี้นิกายเงากำลังขาดกำลังคน ข้าจะไว้ชีวิตเจ้า อย่าต่อต้าน ข้าจะใช้ท่าไม้ตายอมตะเพื่อทำสัญญาพันธมิตร!”

ขอบพระคุณนายท่านที่ไว้ชีวิต ขอบพระคุณนายท่านที่ไว้ชีวิต!” หลิวชิงหยูกรีดร้องอย่างมีความสุข

สัญญาพันธมิตรของอิงอู๋เซี่ยเข้มงวดมากแต่หลิวชิงหยูไม่สนเพราะเขาต้องการมีชีวิตอยู่ต่อเท่านั้น

มันเป็นทักษะบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ…’ ไห่ลั่วหลันสังเกตจากด้านข้าง อิงอู๋เซี่ยใช้วิธีการบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณเพื่อเลียนแบบวิธีบนเส้นทางแห่งข้อมูล

จากนี้ไปเจ้าจะเป็นสมาชิกของนิกายเงา ลุกขึ้น” หลังจากทำข้อตกลง อิงอู๋เซี่ยจึงเผยรอยยิ้มพึงพอใจ

นายท่าน ข้าขอมอบวิญญาณอมตะของข้าให้ท่าน” หลิวชิงหยูนำวิญญาณอมตะสองดวงออกมาและชูขึ้นเหนือศีรษะ

อิงอู๋เซี่ยหัวเราะ “ข้าไม่สนวิญญาณอมตะของเจ้า เจ้าสามารถเก็บพวกมันเอาไว้ ในอนาคตหากเจ้าทำงานได้ดี ข้าจะมอบวิญญาณอมตะระดับเจ็ดให้เจ้าหรือกระทั่งมรดกที่แท้จริงก็ไม่ใช่ปัญหา”

ขอบพระคุณนายท่าน ขอบพระคุณสำหรับความเมตตา!” หลิวชิงหยูหลั่งน้ำตาด้วยความสุข

ที่นี่มีเกาะอยู่มากมาย เหตุใดเจ้าถึงมาที่เกาะแห่งนี้?” อิงอู๋เซี่ยถามด้วยความสงสัย

หลิวชิงหยูเผยรอยยิ้มขมขื่น “นายท่าน ทั้งหมดเป็นความเข้าใจผิดของข้า ข้าเพียงพยายามหาที่พัก เห้อข้าต้องอธิบายตั้งแต่ต้น ในทะเลไหลเชี่ยวข้าพบเบาะแสบางอย่างเกี่ยวกับมรดกที่แท้จริงบนเส้นทางแห่งข้อมูล…”

ปรากฏว่าในเวลานั้นหลิวชิงหยูไล่ตามปีศาจอมตะบนเส้นทางแห่งเลือดเพราะต้องการเบาะแสเกี่ยวกับมรดกที่แท้จริงบนเส้นทางแห่งข้อมูล สุดท้ายเขาสังหารปีศาจอมตะบนเส้นทางแห่งเลือดแต่กลับไม่ได้รับผลประโยชน์ นอกจากนั้นยังถูกผู้อมตะระดับเจ็ดอีกสองคนสงสัย

เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ เขาคิดว่าฟางหยวนเป็นคนที่น่าสงสัยที่สุดและยังคิดว่าเบาะแสอยู่ในมือของฟางหยวน

หลิวชิงหยูไม่สามารถละทิ้งเรื่องนี้ ดังนั้นเขาจึงนำกลุ่มผู้อมตะจำนวนหนึ่งออกเดินทางสืบหาเบาะแสหรือรอให้ฟางหยวนปรากฏตัวอีกครั้ง

หลังจากได้ยินเรื่องราวของหลิวชิงหยู ไห่ลั่วหลัน อิงอู๋เซี่ย และคนอื่นๆจึงเผยรอยยิ้ม

หลิวชิงหยูผู้นี้โชคร้ายเกินไป

เขาต้องการหาที่พักแต่สุดท้ายเขากลับมายังฐานทัพของนิกายเงา

การแสดงออกของอิงอู๋เซี่ยเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน “เดี๋ยวผู้อมตะที่เจ้าสงสัยก่อนหน้านี้มีรูปร่างหน้าตาอย่างไร?”

Reverend Insanity

Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบของวิญญาณซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา! Humans are the spirit of all living beings, Gu are the essence of heaven and earth. With his three views* unrighteous, a demon is reborn. Former days are but an old dream, an identical name is made anew. The story of a time traveller who keeps on being reborn. A unique world that nurtures, refines, and uses Gu. Spring Autumn Cicada, Moonlight Gu, Liquor Worm, Great Qi Golden Light Worm, Slender Black Hair Gu, Hope Gu… And a great demon of the world that acts as his heart pleases! A story of a villain, Fang Yuan who was reborn 500 years into the past with the Spring Autumn Cicada he painstakingly refined. With his profound wisdom, battle and life experiences, he seeks to overcome his foes with skill and wit! Ruthless and amoral, he has no need to hold back as he pursues his ultimate goals. In a world of cruelty where one cultivates using *Gu – magical creatures of the world – Fang Yuan must rise up above all with his own power. Notes : *Gu is a legendary venomous insect, often used in black magic practices. It can take on the form of several insects, usually snakes, crickets, worms etc. *Three views = one’s world view, values of worth, and philosophy on life.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset