Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน – ตอนที่ 1694 แย่งชิงมรดก

บทที่ 1694 แย่งชิงมรดก

 

“ฟางหยวน เราพบกันอีกครั้ง” เสียงของฟงจิวเก้อดังออกมาจากคฤหาสน์วิญญาณอมตะ

 

“มันนานมากแล้วจริงๆ” ฟางหยวนถอนหายใจ

 

หลายปีผ่านไปฟางหยวนพบฟังจิวเก้ออีกครั้ง มันเหมือนการพบปะของสหายเก่า น้ำเสียงของพวกเขาไม่มีความเกลียดชัง

 

แต่ทั้งสองไม่ได้เป็นสหาย การสนทนาสั้นๆจบลงอย่างรวดเร็ว

 

ฟงจิวเก้อยังจําครั้งแรกที่เขาพบกับฟางหยวนได้ดี เวลานั้นฟางหยวนเป็นเพียงผู้ใช้วิญญาณะดับมนุษย์ที่ได้รับแดนศักดิ์สิทธิ์ไปหู ขณะที่ฟงจิวเก้อเป็นผู้อมตะระดับเจ็ดที่มีชื่อเสียงและทําให้โลกตื่นตะลึง

 

ตอนนี้ฟงจิวเก้อกลายเป็นผู้อมตะระดับแปด ความแข็งแกร่งของเขาไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เขามีวิญญาณอมตะเกราะโชคชะตาระดับแปด ด้วยสถานะผู้พิทักษ์เต๋า เขาได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากวังสวรรค์

 

ฟางหยวนเคยช่วยชีวิตฟงจิวเก้อ แต่ฟงจิวเก้อตอบแทนความเมตตาเรียบร้อยแล้ว พวกเขาต่อสู้กันมาหลายครั้งและเข้าใจกันอย่างลึกซึ้ง ทั้งคู่เฝ้าระวังซึ่งกันและกัน แต่พวกเขาก็รู้สึกชื่นชมความสามารถและพรสวรรค์ของอีกฝ่ายเป็นอย่างมาก

 

“ฟางหยวน ครั้งก่อนเจ้าพ่ายแพ้และต้องหลบหนีออกจากสายธารแห่งกาลเวลา แต่เจ้ายังกล้ากลับมาและรับความตาย!” เสียงสายหนึ่งดังขึ้นทําลายความเงียบ

 

คนผู้นี้มีร่างกายใหญ่โตและสวมชุดเกราะสีน้ำเงินที่ส่องประกายระยิบระยับราวกับดวงดาว เขาปลดปล่อยกลิ่นอายระดับแปดออกมาและยืนอยู่บนคฤหาสน์วิญญาณอมตะฉลามล่องคลื่น

 

ฟางหยวนจําได้ว่าคนผู้นี้อยู่ในการต่อสู้ครั้งก่อน

 

ครั้งก่อนเขาไม่รู้จักฝ่ายตรงข้าม แต่ครั้งนี้เขาได้รับข้อมูลมาแล้ว คนผู้นี้ตื่นขึ้นจากสุสานอมตะของวังสวรรค์ เขาเป็นผู้อมตะระดับแปดบนเส้นทางแห่งดวงดาว ซิงเย่หวัง

 

ฟางหยวนตรวจสอบกลุ่มผู้อมตะของวังสวรรค์อีกครั้ง

 

สี่ซุนจือเหลือสามคนอยู่ในคฤหาสน์วิญญาณอมตะศาลาอดีตปัจจุบัน พวกเขามองฟางหยวนด้วยความเกลียดชัง ครั้งก่อนฟางหยวนใช้ท่าไม้ตายอมตะตัดเวลาสังหารเกาซุนจือ นั่นทําให้วิธีชุบชีวิตของพวกเขาล้มเหลว

 

ผู้อมตะระดับแปดชิงเยควบคุมคฤหาสน์วิญญาณอมตะนาวานิรันดร์ด้วยการแสดงออกที่น่ากลัว

 

ฟงจิวเก้ออยู่ในคฤหาสน์วิญญาณอมตะรังกระเรียนใบไม้ร่วง

 

“คฤหาสน์วิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาสี่หลัง ผู้อมตะระดับแปดสามคน ผู้อมตะระดับเจ็ดจํานวนมาก และค่ายกลวิญญาณอมตะที่ยอดเยี่ยม” ฟางหยวนประเมินความแข็งแกร่งของฝ่ายตรงข้าม

 

โดยรวมแล้วถือว่าไม่เลว

 

วังสวรรค์ไม่ได้ส่งคนมามากนัก เนื่องจากความปั่นปวนที่เกิดจากเส้นโลหิตปฐพี นอกจากนั้นวังสวรรค์ยังให้ความสําคัญกับการฟื้นฟูวิญญาณชะตากรรมมากที่สุด

 

จากมุมมองของวังสวรรค์ ฟางหยวนไม่ใช่เป้าหมายหลักของพวกเขา

 

เป้าหมายของวังสวรรค์คือโลกทั้งใบ ยุคที่ยิ่งใหญ่บนเส้นทางแห่งความฝัน และการปกครองโลก

 

คือความทะเยอทะยานของวังสวรรค์

 

ดังนั้นวังสวรรค์จึงต้องฟื้นฟูวิญญาณชะตากรรมอย่างสุดกําลัง

 

นอกเหนือจากนี้ครั้งก่อนฟางหยวนแทบไม่สามารถรักษาชีวิต

 

ด้วยเหตุผลทั้งหมด วังสวรรค์จึงไม่เพิ่มกําลังรบในสายธารแห่งกาลเวลา

 

“อาจมีบางกลุ่มซ่อนอยู่” ฟางหยวนเผยรอยยิ้มเย็นชา

 

เขาเปลี่ยนร่างเป็นอสูรปีวอกแรกกําเนิด

 

รางวานรของเขาใหญ่โตราวกับภูเขา มันกระโจนเข้าหาคฤหาสน์วิญญาณอมตะรังกระเรียนใบไม้ร่วง

 

“ปีศาจตนนี้ช่างกล้าหาญนัก มาสู้กับข้า!” ซิงเย่หวังบังคับคฤหาสน์วิญญาณอมตะฉลามล่องคลื่นเข้าสกัดกั้น

 

ฟางหยวนชี้นิ้วและส่งกรรไกรฤดูใบไม้ผลิออกไป

 

กรรไกรฤดูใบไม้ผลิใหญ่โตเหมือนช้างและยังคล่องตัว แต่เมื่อมันเข้าใกล้ฉลามล่องคลื่น มันกลับหดเล็กลง

 

ซิงเย่หวังตกใจเล็กน้อย เขารู้เรื่องกรรไกรฤดูใบไม้ผลิ แต่เขาไม่มีคิดว่ามันจะเกิดการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว

 

กรรไกรฤดูใบไม้ผลิขนาดเล็กบินลงมาและขยายใหญ่ขึ้นอีกครั้ง

 

“ฉับ!”

 

กรรไกรฤดูใบไม้ผลิตัดศีรษะฉลามตัวหนึ่งหลุดออกไป

 

“ฉับ!”

 

ฉลามตัวที่สองเสียศีรษะไปอีกครั้ง

 

ซิงเย่หวังตกใจมาก เขาเร่งบังคับฉลามล่องคลื่นล่าถอยและไม่กล้ากีดขวางฟางหยวนอีก เขาต้องการทําความเข้าใจกรรไกรฤดูใบไม้ผลิของฟางหยวนเป็นอันดับแรก

 

หลังจากผลักฉลามล่องคลื่นออกไปจากเส้นทาง ฟางหยวนพุ่งเข้าไปหารังกระเรียนใบไม้ร่วง

 

ในคฤหาสน์วิญญาณอมตะรังกระเรียนใบไม้ร่วง การแสดงออกของฟงจิวเก้อยังสงบนิ่ง

 

รังกระเรียนใบไม้ร่วงส่องประกายขึ้น การเคลื่อนไหวของฟางหยวนหยุดชะงักลงราวกับเขาพุ่งชนกําแพงโลหะ

 

ฟางหยวนในร่างอสูรปีวอกแรกกําเนิดหัวเราะและชดหมัดออกไป

 

หมัดขนาดใหญ่ทุบรังกระเรียนใบไม้ร่วงและส่งมันกระเด็นถอยหลัง

 

“ฟางหยวนแข็งแกร่งขึ้นอีกครั้ง!”

 

“ถูกต้อง อย่างน้อยที่สุดกรรไกรฤดูใบไม้ผลิและเสื้อคลุมฤดูหนาวก็พัฒนาขึ้น กรรไกรฤดูใบไม้ผลิสามารถเปลี่ยนขนาด เสื้อคลุมฤดูหนาวหลอมรวมกับร่างกายของอสูรปีวอกแรกกําเนิด ขนของมันราวกับเกราะน้ำแข็ง การป้องกันของมันแข็งแกร่งมาก”

 

สามซุนจือที่อยู่ในศาลาอดีตปัจจุบันพูดคุยด้วยความตกใจ

 

ครั้งก่อนฟางหยวนเปิดเผยท่าไม้ตายเกือบทั้งหมดของเขาออกมา วังสวรรค์สามารถอนุมานท่าไม้ตายทั้งหมดที่เขามี แต่ในการต่อสู้ครั้งนี้ พวกมันกลายเป็นข้อมูลล้าหลัง การเปลี่ยนแปลงของฟางหยวนเหนือความคาดหมายของพวกเขา

 

นอกจากนั้นฟางหยวนยังสามารถอนุมานเกี่ยวกับคฤหาสน์วิญญาณอมตะทั้งสี่ของวังสวรรค์ มันเห็นได้ชัดจากวิธีการจัดการฉลามล่องคลื่นและรังกระเรียนใบไม้ร่วงของฟางหยวน

 

ความสําเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญาของฟางหยวนไม่ต่ำ นอกจากนี้เขายังได้รับความช่วยเหลือจากวิญญาณสติปัญญา

 

ในการต่อสู้ครั้งก่อน ฟางหยวนเปิดเผยไพ่ตายของเขาออกมา แต่ในเวลาเดียวกันวังสวรรค์กลับเปิดไพ่ออกมามากยิ่งกว่าฟางหยวน นั่นทําให้ฟางหยวนสามารถเรียนรู้หลายสิ่ง

 

มันไม่ง่ายสําหรับผู้อมตะที่จะสร้างท่าไม้ตายอมตะ การดัดแปลงท่าไม้ตายอมตะยิ่งทําได้ยากกว่าโดยยังไม่ต้องกล่าวถึงคฤหาสน์วิญญาณอมตะ

 

คฤหาสน์วิญญาณอมตะคือการรวมตัวของท่าไม้ตายอมตะหลายท่า

 

ดังนั้นการปรับเปลี่ยนคฤหาสน์วิญญาณอมตะจึงยากขึ้นหลายเท่า

 

ฟางหยวนสามารถพัฒนาท่าไม้ตายอมตะเพราะเขามีวิญญาณสติปัญญา หากวังสวรรค์ต้องการดัดแปลงคฤหาสน์วิญญาณอมตะโดยปราศจากความช่วยเหลือจากวิญญาณสติปัญญา ความยากลําบากของมันจะยิ่งสูงขึ้น ดังนั้นคฤหาสน์วิญญาณอมตะทั่งสีหลังจึงไม่มีการเปลี่ยนแปลง มันไม่ต่างจากครั้งก่อน

 

ฟางหยวนแพ้ในการต่อสู้ครั้งก่อนแต่เขาก็ได้รับข้อมูลมากมาย ตอนนี้เขาสามารถจัดการคฤหาสน์วิญญาณอมตะเหล่านี้ นี่เป็นเหตุผลที่เขายอมแพ้ต่อวังมังกรและตัดสินใจมายังสายธารแห่งกาลเวลา

 

“มุมทางเหนือถูกทำลาย มันไม่สามารถซ่อมแซม”

 

“การป้องกันสามชั้นถูกทําลาย ตอนนี้เหลือเพียงชั้นเดียว”

 

“วิญญาณอมตะแสงฤดูใบไม้ร่วงได้รับบาดเจ็บสาหัส…..”

 

ผู้อมตะในรังกระเรียนใบไม้ร่วงรายงานด้วยความกังวล

 

ฟงจิวเก้อในฐานะผู้รับผิดชอบยังสงบนิ่ง

 

เขาไม่พยายามต่อสู้ด้วยตัวเองเพราะเขาเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งเสียง มีเพียงคฤหาสน์วิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาเท่านั้นที่สามารถต่อสู้กับฟางหยวนในสายธารแห่งกาลเวลา

 

ฟงจิวเก้อคิดกับตนเอง “ฟางหยวนสามารถกําหราบคฤหาสน์วิญญาณอมตะสองหลังแต่วังสวรรค์ยังมีคฤหาสน์วิญญาณอมตะอีกสองหลัง การต่อสู้พึ่งเริ่มต้น”

 

แม้รังกระเรียนใบไม้ร่วงจะแตกออกแต่รากฐานของมันยังไม่ได้รับผลกระทบ มันสูญเสียวิญญาณระดับมนุษย์จํานวนมาก แต่วิญญาณอมตะระดับเจ็ดยังอยู่ ขณะที่คฤหาสน์วิญญาณอมตะพยายามซ่อมแซมตัวเองอย่างรวดเร็ว

 

ฉลามล่องคลื่นที่ฟื้นตัวขึ้นแล้วพุ่งเข้าโจมตีฟางหยวนอีกครั้ง

 

“ฟางหยวน ข้าอยากรู้ว่าเจ้าจะจัดการคฤหาสน์วิญญาณอมตะสี่หลังอย่างไร?” ซิงเย่หวังตะโกนเสียงดัง

 

ฟางหยวนที่ติดอยู่ในวงล้อมของศัตรูเผยรอยยิ้มและตะโกน “ปิงช่ายฉวน เจ้ายังไม่ลงมืออีกงั้นหรือ?”

 

ก่อนที่เขาจะกล่าวจบประโยค ปิงช่ายฉวนก็ปรากฏตัวขึ้นด้านหลังศาลาอดีตปัจจุบัน

 

“ผู้ใด!?” สามซุนจือตกใจมาก ศาลาอดีตปัจจุบันมีความเชี่ยวชาญด้านการตรวจสอบ มันสามารถค้นพบฟางหยวน แต่มันไม่พบชิงช่ายฉวน

 

ปิงชายฉวนคํารามและผลักฝ่ามือทั้งสองข้างส่งสายลมกรรโชกแรงและพลังงานความเย็นเข้าปกคลุมศาลาอดีตปัจจุบัน

 

ศาลาอดีตปัจจุบันถูกผนึกไว้ในก้อนน้ำแข็งทันที สามซุนจือหยุดนิ่ง ความหวาดกลัวยังค้างอยู่ใบหน้าของพวกเขา

 

บนชั้นดาดฟ้าของนาวานิรันดร์ การแสดงออกของผู้อมตะระดับแปดชิงเย่เปลี่ยนแปลงไป “ท่าไม้ตายนี้คือ.แช่แข็งเวลา เจ้าคือผู้อมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาที่ยิ่งใหญ่จากยุคของเทพอมตะตะวันเดือด ยิ่งช่ายฉวน!”

 

ปิงช่ายฉวนบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งกาลเวลา ท่าไม้ตายอมตะเฉพาะตัวของเขาคือแช่แข็งเวลา เขาเป็นตัวตนในตํานาน พลังการต่อสู้ของเขาอยู่ในระดับเดียวกับหลี่ฮวง

 

ตอนนี้หลี่ยวงถูกส่งไปที่อื่น แต่กระทั่งหลี่ฮวงจะอยู่ เขาก็ยังไม่สามารถต่อสู้กับชิงช่ายฉวนในสายธารแห่งกาลเวลา

 

ปิงช่ายฉวนซุ่มรอโอกาสมาเป็นเวลานานก่อนจะลงมือโจมตี เขามุ่งเป้าไปยังศัตรูที่อ่อนแอที่สุดและทําให้คฤหาสน์วิญญาณอมตะศาลาอดีตปัจจุบันไม่สามารถเข้าร่วมในการต่อสู้ได้อีก

 

“อัศจรรย์นัก!” ฟางหยวนยกย่อง

 

ชิงช่ายฉวนมองชิงเย่ “ข้าคือบิงช่ายฉวนจากถ้ำสวรรค์นิรันดร ผู้ใดจะคิดว่ายุคนี้ยังมีคนที่รู้จักข้าอยู่อีก”

 

เขาเผยรอยยิ้มอบอุ่นแต่กลับโจมตีชิงเย่อย่างรุนแรง

 

เมื่อได้รับความช่วยเหลือจากบึงช่ายฉวน ฟางหยวนจึงสามารถต่อต้านคฤหาสน์วิญญาณอมตะทั้งสี่ของวังสวรรค์

 

อย่างไรก็ตามคฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังที่ห้ากลับปรากฏขึ้น

 

มันดูเหมือนประตูเมืองที่มีโครงสร้างที่เรียบง่าย มีเสาสีแดงอยู่สองข้างและมีแผ่นป้ายอยู่ด้านบนที่สลักคําว่า สิ้นปี เอาไว้

 

คฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับเจ็ด ประตูสิ้นปี!

 

Related

Reverend Insanity

Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบของวิญญาณซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา! Humans are the spirit of all living beings, Gu are the essence of heaven and earth. With his three views* unrighteous, a demon is reborn. Former days are but an old dream, an identical name is made anew. The story of a time traveller who keeps on being reborn. A unique world that nurtures, refines, and uses Gu. Spring Autumn Cicada, Moonlight Gu, Liquor Worm, Great Qi Golden Light Worm, Slender Black Hair Gu, Hope Gu… And a great demon of the world that acts as his heart pleases! A story of a villain, Fang Yuan who was reborn 500 years into the past with the Spring Autumn Cicada he painstakingly refined. With his profound wisdom, battle and life experiences, he seeks to overcome his foes with skill and wit! Ruthless and amoral, he has no need to hold back as he pursues his ultimate goals. In a world of cruelty where one cultivates using *Gu – magical creatures of the world – Fang Yuan must rise up above all with his own power. Notes : *Gu is a legendary venomous insect, often used in black magic practices. It can take on the form of several insects, usually snakes, crickets, worms etc. *Three views = one’s world view, values of worth, and philosophy on life.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset