Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน – ตอนที่ 1140

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1140 ร่องรอยแห่งความหวัง

แปลโดย iPAT 

 

กลุ่มเมฆหมอกสีเทาลอยวนเวียนอยู่รอบตัวฟางหยวน

 

แม้ฟางหยวนจะไม่รู้สึกถึงสายลมแต่เมฆหมอกเหล่านี้ยังเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วราวกับฉลามหรือหมาป่าที่หิวโหย

 

‘นี่คือท่าไม้ตายเขตแดนอมตะ! เมฆหมอกเหล่านี้ดูเหมือนจะเกิดจากวิธีเส้นทางแห่งเมฆา…’

 

หลังจากตกใจ ฟางหยวนเริ่มวิเคราะห์สถานการณ์อย่างรวดเร็ว

 

‘ลืมท่าไม้ตายเขตแดนอมตะไปก่อน สิ่งสำคัญที่สุดคือมีผู้อมตะเก้าคนและสัตว์อสูรแรกกำเนิดรูปแบบมังกร!’ ฟางหยวนตระหนักถึงการคงอยู่ของพวกเขา

 

ผู้อมตะลึกลับซ่อนตัวอยู่ในชั้นเมฆหมอกสีเทาและเผยให้เห็นเพียงดวงตาเท่านั้น

 

สำหรับกลิ่นอายของผู้อมตะ กลุ่มเมฆหมอกไม่สามารถเก็บซ่อน

 

สัตว์อสูรประเภทมังกรลอยอยู่ด้านหน้าฟางหยวน มันปลดปล่อยกลิ่นอายที่น่าตกตะลึงออกมา ฟางหยวนรู้สึกราวกับอยู่ต่อหน้าภูเขาที่ยิ่งใหญ่ขณะที่เขาเป็นเพียงมดตัวหนึ่ง

 

ศัตรูแข็งแกร่งเกินไป ฟางหยวนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขา!

 

‘แปลก เหตุใดจึงมีคนซ่อนตัวอยู่มากมายถึงเพียงนี้?’ นอกจากความตกใจ ฟางหยวนยังรู้สึกสงสัยมาก

 

แดนน้ำแข็งแทบไม่มีมนุาย์เพราะมันไม่มีทรัพยากรใดๆอยู่เลย

 

แดนน้ำแข็งถูกสร้างขึ้นโดยเทพปีศาจคลั่ง ผลประโยชน์เพียงอย่างเดียวของที่นี่คือความหมายที่แท้จริงของเทพปีศาจคลั่ง

 

ยิ่งไปกว่านั้นก่อนที่จะเผชิญหน้ากับภัยพิบัติทุกครั้ง ฟางหยวนจะรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวทั้งหมดของกองกำลังฝ่ายธรรมะของภาคเหนือผ่านสวรรค์สีเหลือง นิกายหลางหยา รวมถึงชูตู๋

 

ไม่มีการเคลื่อนไหวพิเศษใดๆจากกองกำลังเหล่านี้

 

หลังจากทำลายล้างเผ่าไห่ ตอนนี้ทุกฝ่ายกำลังดูดซับผลประโยชน์ของตนและปรับตัวกับโครงสร้างอำนาจใหม่ของภาคเหนือ

 

ในความเป็นจริงกระทั่งเผ่าฮวงจินก็เป็นเรื่องยากที่จะระดมผู้อมตะสามหรือสี่คนพร้อมกัน เว้นเพียงจะเกิดเรื่องใหม่

 

สำหรับปีศาจอมตะและผู้บ่มเพาะสันโดษ พวกเขามักเคลื่อนไหวเพียงลำพัง แล้วพวกเขาจะรวมกลุ่มกันได้อย่างไร?

 

‘ข้าอยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยามาตลอดเพื่อหลีกเลี่ยงการอนุมานของผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา นอกจากนี้ข้ายังได้รับการคุ้มครองจากวิญญาณอมตะขีดจำกัดความมืดและวิธีอื่นๆ มันแทบเป็นไปไม่ได้ที่ข้าจะถูกอนุมานได้อย่างชัดเจน ผู้อมตะเหล่านี้มาจากที่ใด? พวกเขามาจากภาคกลางหรือไม่?’

 

ก่อนหน้านี้เพื่อตรวจสอบความจริงเบื้องหลังการล่มสลายของวังแปดสิบแปดเปลวเพลิงที่แท้จริง ภาคกลางได้สร้างความร่วมมือและส่งกลุ่มผู้อมตะมายังภาคเหนือ

 

ปัจจุบันวังสวรรค์พยายามกำจัดนิกายเงาและฟางหยวน มันไม่แปลกหากพวกเขาจะส่งผู้อมตะบางคนออกมา

 

อย่างไรก็ตาม…

 

ผู้อมตะภาคกลางโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากสิบนิกายโบราณหรือวังสวรรค์มักจะทำเรื่องต่างๆอย่างเปิดเผย แล้วพวกเขาจะทำตัวหลบๆซ่อนๆเช่นนี้ได้อย่างไร?

 

ผู้อมตะกลุ่มนี้ซ่อนตัวอยู่ในกลุ่มเมฆหมอก กระทั่งสัตว์อสูรแรกกำเนิดก็ปรากฏตัวเพียงร่างที่คลุมเครือเท่านั้น

 

‘บางทีนี่อาจเป็นเพียงภาพลวงตาที่สร้างขึ้นโดยท่าไม้ตายเขตแดน?’ ฟางหยวนคาดเดา

 

เพียงเมื่อเขาออกมาจากมิติช่องว่าง เขาก็ตกลงสู่กับดักของศัตรูทันที การวิเคราะห์ของเขาเกิดขึ้นในเวลาไม่กี่ลมหายใจ

 

ร่างทารกอมตะมีศักยภาพที่ยิ่งใหญ่ เมื่อผสานกับความสำเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญาของฟางหยวน เขาจึงสามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว

 

หากมันเป็นท่าไม้ตายเขตอมตะที่น่ากลัว ฟางหยวนจะไม่เหลือความหวังใดๆ

 

แต่!

 

เขารู้สึกว่ามีโอกาสที่มันจะเป็นภาพลวงตาค่อนข้างสูงเพราะต้นกำเนิดของผู้อมตะเหล่านี้ไม่สามารถอธิบาย

 

ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้นก่อนที่เขาจะใช้วิญญาณอมตะดาบทะลวงมิติพุ่งตรงไปยังกลุ่มผู้อมตะ

 

ผู้อมตะทั้งเก้าไม่ตอบสนองราวกับว่าพวกเขากำลังมึนงง

 

ภาพอนาคตสามลมหายใจและอาภรณ์โลหิตถูกกระตุ้นการทำงานอย่างรวดเร็ว

 

แสงดาบพุ่งออกไป

 

ท่าไม้ตายอมตะ ดาบประหารชีวิต!

 

ผู้อมตะระดับหกผู้หนึ่งเคลื่อนไหวทันที

 

แต่ผู้อมตะระดับเจ็ดที่อยู่ด้านข้างคว้าไหล่ของเขาเอาไว้ “อย่ารับท่านี้ ให้ข้าเอง”

 

นางชี้นิ้วออกไปและสร้างกำแพงน้ำแข็งขึ้นกลางอากาศ

 

แสงดาบปะทะกำแพงน้ำแข็งและสะท้อนออกไป

 

‘นางสามารถเปลี่ยนทิศทางการโจมตีด้วยท่าไม้ตายอมตะของข้า!’ หัวใจของฟางหยวนสั่นสะท้านขึ้นขณะที่เขารีบบังคับแสงดาบให้พุ่งกลับไปยังทิศทางเดิม

 

ดาบประหารชีวิตสามารถควบคุมได้ด้วยความคิดของฟางหยวน

 

แต่ท่าไม้ตายนี้รวดเร็วมาก มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะจัดการ

 

อย่างไรก็ตามกำแพงน้ำแข็งยังปรากฏขึ้นอีกครั้ง

 

ฟางหยวนทำได้เพียงมองแสงดาบเปลี่ยนทิศทางไป

 

หลังจากนั้นกำแพงน้ำแข็งที่สามและที่สี่ก็เปลี่ยนทิศทางแสงดาบไปรอบๆ

 

‘บัดซบ! วิธีการของผู้อมตะคนนี้สามารถตอบโต้ท่าไม้ตายอมตะดาบประหารชีวิตของข้า!’ หัวใจของฟางหยวนจมดิ่งลง

 

ในจังหวะนี้ผู้อมตะระดับเจ็ดคนที่สองก็ก้าวออกมาด้านหน้า เขาสร้างธนูน้ำแข็งขึ้นมาในมือก่อนจะยิงศรน้ำแข็งไปที่ฟางหยวน

 

ศรน้ำแข็งทิ้งมวลอากาศเย็นเอาไว้เบื้องหลัง ท่ามกลางฉากที่งดงาม มันกลับมีเจตนาสังหารที่รุนแรงซ่อนอยู่

 

‘มันคือท่าไม้ตายอมตะระดับเจ็ด!’ ฟางหยวนรีบกระโดดหลบ

 

แต่ศรน้ำแข็งกลับสามารถไล่ล่าเช่นเดียวกับดาบประหารชีวิต

 

ฟางหยวนไม่สามารถหลบได้ เขารู้ว่าอาภรณ์โลหิตไม่สามารถรับมือการโจมตีนี้ ดังนั้นเขาจึงส่งกำปั้นยักษ์หมื่นตัวตนออกมา

 

กำปั้นยักษ์กลายเป็นกำแพงป้องกันอยู่ด้านหน้าฟางหยวน

 

ศรน้ำเข็งเจาะทะลวงกำปั้นยักษ์และพุ่งเข้าโจมตีฟางหยวนโดยตรง

 

ฟางหยวนถูกส่งลอยกลับหลัง ร่างกายของเขาเริ่มเปลี่ยนเป็นน้ำแข็ง กระทั่งเลือดยังกลายเป็นลิ่มเลือดน้ำแข็ง วิญญาณอมตะสมบัติเลือกได้รับความเสียหายเช่นกัน

 

หากเขายังกระตุ้นใช้งานมันต่อไป มันอาจได้รับบาดเจ็บสาหัสหรือถูกทำลาย

 

แต่ในสถานการณ์คับขัน ฟางหยวนจะสนใจเรื่องนี้ได้อย่างไร?

 

เขาทำได้เพียงใช้วิญญาณอมตะสมบัติเลือดต่อไปอย่างบ้าคลั่งเพื่อรักษาอาภรณ์โลหิตเอาไว้เท่านั้น

 

‘ผู้อมตะระดับเจ็ดคนที่สองไม่ใช่ภาพลวงตา แล้วคนอื่นๆ?’ ฟางหยวนกลืนเลือดกลับลงคอและใช้ท่าไม้ตายอมตะหมื่นตัวตน

 

ทันใดนั้นภูตมนุษย์บนเส้นทางความแข็งแกร่งจำนวนมากก็พุ่งออกมาและปิดบังวิสัยทัศน์ของทุกคนเอาไว้

 

กลุ่มผู้อมตะลึกลับตกตะลึง

 

ผู้อมตะระดับเจ็ดคนที่สามเผยรอยยิ้มและตะโกน “ปล่อยข้า!”

 

เขายกมือทั้งสองข้างสัมผัสแก้มก่อนจะพ่นเกลียวสายลมออกมาจากปาก

 

ในพริบตามันก็กลายเป็นพายุหมุนขนาดใหญ่

 

พายุหมุนสูงสามสิบเมตรกลืนกินภูตมนุษย์และฉีกกระชากร่างกายของพวกมันออกเป็นชิ้นๆ

 

กองทัพภูตมนุษย์ลดจำนวนลงอย่างรวดเร็วในช่วงเวลาสั้นๆ

 

ฟางหยวนเติมเต็มพวกมันอีกครั้ง

 

“พี่ใหญ่ ข้าจะช่วยท่าน” ผู้อมตะระดับเจ็ดคนที่สี่กล่าวเสียงเบา

 

เขาชี้นิ้วออกไปทำให้พายุหมุนแยกออกเป็นสี่ พลังอำนาจของมันเพิ่มขึ้นเป็นสี่เท่า!

 

‘นี่!’ หัวใจของฟางหยวนสั่นสะท้านขึ้นและรู้สึกว่าสถานการณ์ยังไกลจากคำว่าดี

 

ตั้งแต่การต่อสู้เริ่มต้นขึ้นเขาได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยขณะที่วิญญาณอมตะสมบัติเลือดอยู่ในสถานการณ์อันตราย

 

อีกด้านหนึ่งสัตว์อสูรแรกกำเนิดของฝ่ายตรงข้ามยังไม่ได้เคลื่อนไหว ผู้อมตะระดับเจ็ดสี่คนกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะลึกลับที่น่ากลัวและทรงพลัง

 

‘เป็นไปได้หรือไม่ว่านี่ไม่ใช่ภาพลวงตา?’ คิดถึงเรื่องนี้หัวใจของฟางหยวนจมดิ่งลงอีกครั้ง

 

“ครืน…ครืน…”

 

พายุอันบ้าคลั่งทำลายกองทัพภูตมนุษย์ลงอย่างสมบูรณ์แม้ฟางหยวนจะพยายามเติมเต็มพวกมันก็ตาม

 

คุณภาพของภูตมนุษย์บนเส้นทางความแข็งแกร่งต่ำเกินไป จำนวนของพวกมันไร้ประโยชน์ต่อหน้าท่าไม้ตายอมตะระดับเจ็ด

 

ท่าไม้ตายอมตะหมื่นตัวตนที่เคยประสบความสำเร็จมาตลอดตอนนี้กลับตกอยู่ในสถานการณ์ที่น่าอึดอัดใจและไม่สามารถเปลี่ยนสถานการณ์ให้กับฟางหยวน

 

‘ไม่ ท่าไม้ตายอมตะหมื่นตัวตนยังทำให้ข้ามีความได้เปรียบเล็กน้อย มันสามารถลดพลังงานอมตะของศัตรู นี่คือจุดแข็งของมัน แต่ฝ่ายตรงข้ามมีจำนวนมากขณะที่ข้าอยู่เพียงลำพัง ข้อได้เปรียบนี้จึงถูกลบออกไป ไม่มีสิ่งใดที่ข้าทำได้แล้วงั้นหรือ?’

 

ความแข็งแกร่งของทั้งสองฝ่ายแตกต่างกันมากกระทั่งกลยุทธ์ใดๆก็กลายเป็นไร้ประโยชน์

 

ในความเป็นจริงผู้อมตะลึกลับกลุ่มนี้ไม่ได้ร่วมมือกันตลอดเวลา ทุกครั้งที่พวกเขาลงมือ พวกเขาจะเคลื่อนไหวทีละคน หากไม่ใช่เพราะท่าไม้ตายเขตแดนอมตะเหนี่ยวรั้งฟางหยวนเอาไว้ เขาอาจหลบหนีได้สำเร็จแล้ว

 

น่าเสียดายที่ศัตรูได้เตรียมการมาเป็นอย่างดี ฟางหยวนขาดวิธีบนเส้นทางแห่งห้วงมิติสำหรับการหลบหนีโดยยังไม่ต้องกล่าวถึงการเผชิญหน้ากับผู้อมตะระดับเจ็ดถึงสี่คน ผู้อมตะระดับหกอีกห้าคน และสัตว์อสูรแรกกำเนิด

 

สถานการณ์เลวร้ายอย่างที่สุด

 

หากเปรียบเทียบกับชีวิตแรกของฟางหยวนเมื่อเขาถูกปิดล้อมโดยกลุ่มผู้อมตะฝ่ายธรรมะ สถานการณ์ปัจจุบันยังถือว่าอันตรายกว่ามาก

 

ท้ายที่สุดในเวลานั้นก็ไม่มีสัตว์อสูรแรกกำเนิดคอยควบคุมสถานกาณณ์

 

ฟางหยวนตรวจสอบผู้อมตะเหล่านี้แต่ยังไม่ได้ตรวจสอบสัตว์อสูรแรกกำเนิด

 

เขาต้องกระตุ้นตนเองอย่างต่อเนื่องเพื่อความอยู่รอด

 

เมื่อถึงจุดนี้ฟางหยวนก็ไม่สามารถสร้างกองทัพขนาดใหญ่ได้อีกต่อไป

 

‘ข้าจะตายที่นี่ในวันนี้งั้นหรือ?’ กลิ่นอายแห่งความตายพุ่งเข้าปกคลุมหัวใจของฟางหยวน

 

ภายใต้เขตแดนอมตะการขอกำลังเสริมจากภายนอกไม่สามารถทำได้ ฟางหยวนไม่แม้แต่จะสามารถเชื่อมต่อกับสวรรค์สีเหลือง

 

อย่างไรก็ตามเขายังไม่ยอมแพ้

 

ความคิดของเขาเคลื่อนไหวราวกับสายฟ้าและทันใดนั้นเขาก็จำได้ว่า ‘ไม่ ข้ายังมีโอกาสรอด!’

 

โอกาสนี้ไม่ใช่วิญญาณกาลเวลา

 

วิญญาณกาลเวลาเต็มไปด้วยเจตจำนงสวรรค์ขณะที่เจตจำนงสวรรค์พยายามทุกวิถีทางเพื่อกำจัดเขา หากเขาใช้วิญญาณกาลเวลา มันก็เป็นเพียงการรนหาที่ตายเท่านั้น

 

โอกาสนี้อยู่ที่อินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุด

 

หากเป็นก่อนที่ฟางหยวนจะได้รับมรดกของไห่ฟาน เขาต้องตายอยู่ที่นี่อย่างแน่นอน แต่เวลานี้แตกต่างออกไป ตอนนี้เขายังมีความหวังเหลืออยู่

 

อินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดเป็นสัตว์อสูรแรกกำเนิดเช่นกัน แต่มันยังไม่โตเต็มที่และมีความแข็งแกร่งอยู่ในระดับสัตว์อสูรเดียวดายเท่านั้น

 

อย่างไรก็ตามมรดกที่แท้จริงของไห่ฟานมีท่าไม้ตายที่สามารถเร่งอายุของอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดและทำให้มันเติบโตขึ้นในระยะเวลาสั้นๆ

 

ด้วยสิ่งนี้ฟางหยวนจะได้ครอบครองความแข็งแกร่งระดับแปด!

 

สิ่งสำคัญก็คืออินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดเป็นสัตว์อสูรบนเส้นทางแห่งห้วงมิติที่สามารถเข้าออกถ้ำสวรรค์หรือสวรรค์ทั้งเก้าได้อย่างง่ายดาย มันสามารถทะลวงออกจากเขตแดนนี้!

 

‘อดทน! ข้าต้องอดทนจนกว่าอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดจะบรรลุระดับแปด!’ เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ฟางหยวนก็เปลี่ยนกลยุทธ์ในการต่อสู้ทันที

 

Reverend Insanity

Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบของวิญญาณซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา! Humans are the spirit of all living beings, Gu are the essence of heaven and earth. With his three views* unrighteous, a demon is reborn. Former days are but an old dream, an identical name is made anew. The story of a time traveller who keeps on being reborn. A unique world that nurtures, refines, and uses Gu. Spring Autumn Cicada, Moonlight Gu, Liquor Worm, Great Qi Golden Light Worm, Slender Black Hair Gu, Hope Gu… And a great demon of the world that acts as his heart pleases! A story of a villain, Fang Yuan who was reborn 500 years into the past with the Spring Autumn Cicada he painstakingly refined. With his profound wisdom, battle and life experiences, he seeks to overcome his foes with skill and wit! Ruthless and amoral, he has no need to hold back as he pursues his ultimate goals. In a world of cruelty where one cultivates using *Gu – magical creatures of the world – Fang Yuan must rise up above all with his own power. Notes : *Gu is a legendary venomous insect, often used in black magic practices. It can take on the form of several insects, usually snakes, crickets, worms etc. *Three views = one’s world view, values of worth, and philosophy on life.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset