บทที่ 1754 ตัวตนในอนาคตของฟางหยวน
ฟางหยวนขึ้นไปบนเกาะบัวหิน
เมื่อเขาก้าวเข้าสู่เกาะบัวหิน เขาเห็นฉากความทรงจําของเทพปีศาจบัวแดงอีกครั้ง
เขาเคยเห็นสิ่งนี้มาแล้วในชีวิตก่อนหน้า มันเป็นฉากเดียวกันแต่หัวใจของฟางหยวนยังรู้สึกสั่นไหวเล็กน้อย
“เทพปีศาจบัวแดงมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจริงๆ เขาเป็นผู้อมตะระดับเก้าแต่เขายังใช้วิญญาณกาลเวลาย้อนกลับมาเกิดใหม่และละทิ้งการบ่มเพาะระดับเก้า”
“แต่หากเขาไม่ทําเช่นนั้น เขาจะไม่สามารถเปลี่ยนประวัติศาสตร์และชดเชยความเสียใจของตนเอง
ดังนั้นในเวลาต่อมาเขาจึงสร้างท่าไม้ตายอมตะตัวตนในอนาคต ท่าไม้ตายอมตะอัญเชิญอดีต และท่าไม้ตายอมตะสนับสนุนอนาคต”
เกาะบัวหินมีความสามารถในการปกปิด วังสวรรค์จะไม่พบมันโดยง่าย
ในชีวิตก่อนหน้า เมื่อวังสวรรค์พบเกาะบัวหินแห่งหนึ่ง ฟางหยวนทําลายโอกาสของพวกเขาและทําให้ฟงจิวเก้อไม่มีทางเลือกนอกจากทําลายมัน
ฟางหยวนมองสายธารแห่งกาลเวลาและตระหนักถึงบางสิ่ง
“ต้นกําเนิดของสายธารแห่งกาลเวลาควรจะเป็นจุดเริ่มต้นที่โลกใบนี้ถูกสร้างขึ้น
“จุดจบของมันเป็นเวลาที่โลกใบนี้ถูกทําลาย
“แม่น้ำทั้งสายคือประสบการณ์ของคนทั้งโลก มันเป็นตัวแทนของทุกสรรพสิ่งไม่ว่าจะเป็นนก ดอกไม้ ปลา แมลง มนุษย์ สัตว์อสูร พืช และอื่นๆ
“เห็นได้ชัดว่ายิ่งโลกใบนี้อุดมสมบูรณ์เท่าใด สายธารแห่งกาลเวลาก็ยิ่งกว้างใหญ่เท่านั้น ยิ่งสิ่งมีชีวิตลดน้อยลงเท่าใด สายธารแห่งกาลเวลาก็ยิ่งแคบลงเท่านั้น”
ฟางหยวนเป็นกึ่งปรมาจารย์สูงสุดบนเส้นทางแห่งกาลเวลา ด้วยแรงบันดาลใจที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน มันทําให้เขาเกิดการตระหนักรู้และเข้าใจเกี่ยวกับการกําเนิดใหม่มากขึ้น
แก่นแท้ของการกําเนิดใหม่ของข้าคือการนําเจตจํานงจากปลายน้ำกลับไปยังต้นน้ำด้วยความช่วยเหลือจากจักจั่นไม้แห่งกาลเวลา จากนั้นเจตจํานงของข้าก็หลอมรวมเข้ากับตัวข้าในช่วงเวลาหนึ่ง”
“ทฤษฎีของเวลาในโลกใบนี้ทําให้มันมีความพิเศษ ไม่มีมิติคู่ขนาน เมื่อข้ากําเนิดใหม่ ปลายน้ำยังเหมือนเดิม หลังจากที่ข้าตาย วังสวรรค์ปกครองโลก”
แต่หลังจากการกําเนิดใหม่ของข้า ข้าเหมือนน้ำหมึกที่หยดลงในน้ำสะอาด ข้าเปลี่ยนแปลงเหตุการณ์และผู้คน บางสิ่งคงเดิมแต่บางสิ่งจะเปลี่ยนแปลงไป น้ำหมึกจะขยายวงกว้างออกไปก่อนที่แม่น้ำทั้งสายจะถูกย้อมสีไปอย่างสมบูรณ์
“เมื่อน้ำหมึกไปถึงจุดที่วังสวรรค์ฟื้นฟูวิญญาณชะตากรรมและจัดการแข่งขันใหญ่บนเส้นทางแห่งการหลอมรวม หลายสิ่งหลายอย่างจะเปลี่ยนแปลง อนาคตจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป”
ฟางหยวนเป็นคนข้ามโลก เขามีแนวคิดที่เรียกว่าผลกระทบปีกผีเสื้อ
แต่ตอนนี้ฟางหยวนรู้สึกว่าในโลกใบนี้ ผลกระทบหยดน้ำหมึกสามารถอธิบายการกําเนิดใหม่ของเขาได้ดีกว่า
“แน่นอนว่าข้าสามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆได้อย่างง่ายดายเพราะวิญญาณชะตากรรมยังไม่ฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์ สิ่งสําคัญที่สุดคือข้าเป็นปีศาจต่างโลกที่สมบูรณ์ วิญญาณชะตากรรมไม่สามารถผูกมัดข้า”
สําหรับเทพปีศาจบัวแดง มันยากที่เขาจะเปลี่ยนแปลงหลายสิ่งหลายอย่าง การเปลี่ยนแปลงของเขาจะยังนําไปสู่ผลลัพธ์เดิม”
“กล่าวให้ถูกต้องกว่านั้นคือปีศาจต่างโลกเหมือนน้ำหมึกปริมาณมหาศาล ขณะที่ผู้คนของโลกใบนี้เป็นเพียงหยดน้ำหมึก แม้พวกมันจะทําให้เกิดความวุ่ยวายในระยะสั้น แต่ภายใต้การควบคุมของวิญญาณชะตากรรม ทุกอย่างจะกลับคืนสู่สภาพเดิมในที่สุด”
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ฟางหยวนรู้สึกชื่นชมเทพปีศาจบัวแดงมากขึ้น
คนผู้นี้ทําให้เกิดสถานการณ์ปัจจุบันแม้เขาจะไม่ใช่ปีศาจต่างโลกก็ตาม ราคาที่เขาต้อจ่ายเพื่อสิ่งนี้คือการเสียสละที่ไม่น่าเชื่อของเขา
มีทรัพยากรอมตะอยู่บนเกาะบัวหินมากมาย ส่วนใหญ่เป็นทรัพยากรอมตะระดับแปด
ความหมายที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดงอยู่ที่นี่เช่นกัน นอกจากนี้ยังมีท่าไม้ตายอมตะทุกประเภทที่ใช้วิญญาณกาลเวลาเป็นแกนกลาง
เทพปีศาจบัวแดงทิ้งท่าไม้ตายอมตะไว้ให้กับฟางหยวนเป็นพิเศษ มันคือท่าไม้ตายอมตะตัวตนในอนาคต มันช่วยให้ผู้อมตะได้รับพลังอํานาจระดับเจ็ดบนจุดสูงสุดในอนาคตของพวกเขา
สิ่งเดียวที่ขาดหายคือวิญญาณความเสียใจ
วิญญาณอมตะระดับแปดดวงนี้ยังอยู่ในถ้ำสวรรค์วาฬมังกรฟ้า มันถูกยึดครองโดยเทพอมตะสวรรค์พิภพ
ในชีวิตก่อนหน้า ฟางหยวนใช้การจัดเตรียมของเทพอมตะสวรรค์พิภพเพื่อรับวิญญาณความเสียใจก่อนจะถูกส่งตัวมาที่เกาะบัวหินแห่งนี้
ตอนนี้เนื่องจากเขารู้ตําแหน่งที่ตั้งของเกาะบัวหิน เขาจึงสามารถมาที่นี่และรับมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดงล่วงหน้า
ครั้งนี้เร็วกว่าครั้งก่อนมาก
ในชีวิตก่อนหน้า ฟางหยวนเข้าสู่สายธารแห่งกาลเวลาสามครั้ง
ครั้งแรก เขาถูกโจมตีโดยคฤหาสน์วิญญาณอมตะสี่หลังของวังสวรรค์และถูกหลี่ฮวงซุ่มโจมตี เขาสูญเสียคฤหาสน์วิญญาณอมตะที่ไม่สมบูรณ์ที่เขาสร้างขึ้นหลังจากการทํางานอย่างหนัก นอกจากนั้นเขายังเปิดเผยไพ่ตายหลายใบออกมาก่อนจะหลบหนีไป
ครั้งที่สอง ฟางหยวนใช้การจัดเตรียมของเทพอมตะสวรรค์พิภพเพื่อรับวิญญาณความเสียใจและถูกส่งตัวมาที่เกาะบัวหินแห่งนี้
ครั้งที่สาม เขาพบเกาะบัวหินแห่งใหม่ที่วังสวรรค์กําลังจะยึดครอง ด้วยการร่วมมือกับปิงช่ายฉวน ในที่สุดฟงจิวเก้อถูกบังคับให้ใช้เพลงลมมรณะทําลายเกาะบัวหิน ทั้งสองฝ่ายจบลงด้วยการกลับไปมือเปล่า
โดยภาพรวม ประสบการณ์ในสายธารแห่งกาลเวลาของฟางหยวนมีทั้งขึ้นและลง เขาเคยประสบความสําเร็จและล้มเหลว
ตอนนี้ ด้วยความทรงจําที่เขามี ฟางหยวนสามารถลิ้มรสความสําเร็จตั้งแต่ครั้งแรก
“วิญญาณความเสียใจไม่ได้อยู่ที่นี่ แต่ไม่เป็นไร สิ่งสําคัญในตอนนี้คือการบุกแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาของวังสวรรค์ ยังมีเวลาให้ข้ายกระดับวิญญาณอมตะทั้งหมดของข้า”
“ข้าควรใช้ประโยชน์จากท่าไม้ตายอมตะตัวตนในอนาคตเป็นอันดับแรก”
ฟางหยวนน้ำอิงอู๋เซียและคนอื่นๆออกมา เขาปล่อยให้สมาชิกนิกายเงาฝึกฝนท่าไม้ตายอมตะตัวตนในอนาคตอยู่ที่เกาะบัวหินแห่งนี้เช่นเดียวกับชีวิตก่อนหน้า
สิ่งที่แตกต่างออกไปคือเทพธิดาเมี่ยวหยินและเทพธิดากระต่ายขาวยังมีชีวิตอยู่
นอกจากนี้ตัวฟางหยวนเองก็สามารถใช้ประโยชน์จากท่าไม้ตายอมตะตัวตนในอนาคตเช่นกัน
ในชีวิตก่อนหน้าเขาก้าวเข้าสู่ระดับแปดก่อนจะมาถึงที่นี่ ท่าไม้ตายอมตะตัวตนในอนาคตไม่มีประโยชน์สําหรับเขา แต่ตอนนี้เขายังเป็นผู้อมตะระดับเจ็ด ดังนั้นเขาจึงสามารถใช้งานท่าไม้ตายอมตะตัวตนในอนาคต
“เดี๋ยว!”
“บางทีนี่อาจเป็นช่วงเวลาที่แท้จริงที่ข้าควรจะมาถึงเกาะบัวหินแห่งนี้
“เทพปีศาจบัวแดงอนุมานว่าข้าจะมาที่นี่ด้วยการบ่มเพาะระดับเจ็ด นั่นคือเหตุผลที่เขาทิ้งท่าไม้ตายอมตะตัวตนในอนาคตไว้เพื่อข้า!”
“ในชีวิตก่อนหน้า ข้าคิดว่าเทพปีศาจบัวแดงอนุมานพลาด แต่ตอนนี้ดูเหมือนเทพปีศาจบัวแดงจะพิจารณาเกี่ยวกับการกําเนิดใหม่ของเข้าไว้แล้ว
“นั่นหมายความว่ามรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดงไม่ได้ถูกทิ้งไว้ให้ข้าในชีวิตก่อนหน้าแต่มันมีไว้เพื่อข้าในชีวิตนี้!”
ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้นอยู่ชั่วระยะเวลาหนึ่ง
เขาทิ้งกลุ่มของอิงอู๋เซี่ยไว้ที่นี่ขณะที่เขาออกจากเกาะบัวหิน
ฟางหยวนซ่อนตัวและว่ายน้ำไปยังเกาะบัวหินอีกแห่งหนึ่งที่อยู่ในความทรงจํา
เป้าหมายของเขาคือการยึดครองเกาะบัวหินสองเกาะในการเดินทางครั้งนี้
หลังจากใช้เวลานานและเผชิญหน้ากับอุปสรรคบางอย่าง ฟางหยวนไปถึงจุดหมายในที่สุด
อย่างไรก็ตามเขาไม่พบมัน
“เกาะบัวหินสามารถเคลื่อนที่ ดูเหมือนเกาะบัวหินเกาะนี้จะไม่ได้อยู่ในตําแหน่งนี้ มันแตกต่างไปจากเดิม”
ฟางหยวนไม่รู้สึกหดหูแม้เขาจะไม่ประสบความสําเร็จ
คาดหมายของเขา
วิหารอดีตปัจจุบัน
ส่ซุนจือพบปัญหาเล็กน้อย
อสูรบีบรรพกาลโจมตีวิหารอดีตปัจจุบันแต่มันถูกสังหารด้วยความร่วมมือของสี่ซุนจือ
เกาซุนจือกรีดร้อง “เยี่ยม! เราได้รับทรัพยากรบนเส้นทางแห่งกาลเวลามากมาย!”
“ถูกต้อง” จงซุนจือถอนหายใจ “สายธารแห่งกาลเวลาเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์ของผู้อมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาอย่างแท้จริง มันเหมือนภูเขาตงฮันและหุบเขาเหล่าโปที่เป็นแดนศักดิ์สิทธิ์ของผู้อมตะบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ”
เซี่ยซุนจือกล่าวเสริม “วังสวรรค์ส่งพวกเรามาเพื่อป้องกันฟางหยวน แต่นี่เป็นโอกาสที่ดีสําหรับการบ่มเพาะของพวกเราเช่นกัน! หากพวกเราได้รับทรัพยากรอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลามากขึ้น การบ่มเพาะของพวกเราจะราบรื่น”
จางซุนจือยิ้ม “ไม่เพียงเท่านั้น ด้วยการคงอยู่ของวิหารอดีตปัจจุบัน เราสามารถเฝ้ามองสายธารแห่งกาลเวลา สิ่งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อความสําเร็จบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของพวกเรา”
เกาซุนจือกัดฟันกล่าว “น่าเสียดายที่วิญญาณชะตากรรมไม่สมบูรณ์ ก่อนที่มันจะได้รับบาดเจ็บ ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาจะได้รับประโยชน์มากในการเฝ้ามองสายธารแห่งกาลเวลา พวกเขายังสามารถทํานายอนาคตได้อย่างแม่นยํา”
เซี่ยซุนจือพยักหน้า “ถูกต้อง เทพอมตะกลุ่มดาวทําเช่นนั้นในอดีต แม้นางจะไม่ใช่ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลา แต่นางสามารถใช้ทักษะบนเส้นทางแห่งปัญญาเลียนแบบเส้นทางแห่งกาลเวลาและอนุมานเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต นางทํานายว่าพี่น้องทั้งเจ็ดของหลิวกุ้ยจะสร้างคฤหาสน์วิญญาณอมตะบ้านเต่าทะเล ด้วยเหตุนี้นางจึงสามารถสร้างกระดานหมากรุกกลุ่มดาว”
สี่ขุนจือรําลึกถึงประวัติศาสตร์อันรุ่งโรจน์ของเส้นทางแห่งกาลเวลาก่อนจะดูดซับทรัพยากรและเฝ้ามองสายธารแห่งกาลเวลาต่อไป
สิ่งที่พวกเขาไม่รู้ก็คือฟางหยวนลอบเข้ามาในสายธารแห่งกาลเวลา รับสืบทอดมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดง และจากไปแล้ว
ฟางหยวนออกจากสายธารแห่งกาลเวลาผ่านเส้นทางเดิมและกลับไปยังที่ราบภาคเหนือ
เขาออกจากค่ายกลวิญญาณอมตะและกระตุ้นใช้งานวิญญาณท่องแดนอมตะเดินทางไปยังภาคใต้
เหตุใดฟางหยวนจึงสามารถใช้วิญญาณท่องแดนอมตะในเวลานี้?
วิญญาณอมตะทุกดวงมีเพียงหนึ่งเดียว ปัจจุบันวิญญาณท่องแดนอมตะยังอยู่กับฟงจิวเก้อ
คําตอบของคําถามนี้คือฟางหยวนใช้ท่าไม้ตายอมตะตัวตนในอนาคต
นี่เป็นท่าไม้ตายอมตะที่ลึกลับมาก มันสร้างร่างมายาของฟางหยวนขึ้นในมิติช่องว่างจักรพรรดิ
ร่างมายานั่งอยู่กลางอากาศ ร่างกายของมันราวกับสร้างขึ้นมาจากสายธารแห่งกาลเวลา
ร่างมายาร่างนี้มีมิติช่องว่างจักรพรรดิอยู่ในร่างกายของมันเช่นกัน มันคือมิติช่องว่างจักรพรรดิในอนาคตของฟางหยวนที่บรรจุวิญญาณท่องแดนอมตะและวิญญาณอีกมากมายที่เขาครอบครองในอนาคตเอาไว้
ท่าไม้ตายอมตะตัวตนในอนาคตระดับเจ็ดอนุญาตให้ฟางหยวนก้าวเข้าสู่สถานะผู้อมตะระดับเจ็ดบนจุดสูงสุดในอนาคตของเขา ในชีวิตก่อนหน้า ช่วงเวลาที่ฟางหยวนแข็งแกร่งที่สุดในฐานะผู้อมตะระดับเจ็ดคือก่อนการต่อสู้บนเทือกเขาห้าภูมิภาค
ก่อนหน้านั้นเขาขโมยวิญญาณท่องแดนอมตะมาจากฟงจิวเก้อระหว่างการต่อสู้ในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา
เขาโจมตีรอยแยกปล้นเงาและลอบทําธุรกรรมกับจื่อชิวหยู
เขาจับเซี่ยซาและผู้อมตะภาคใต้คนอื่นๆ เขารีดไถทรัพยากรจํานวนมากจากกองกําลังใหญ่ของภาคใต้ทั้งหมด
เพื่อต่อต้านวังสวรรค์ เขากลืนกินมิติช่องว่างของเซียชาและก้าวเข้าสู่ระดับแปด
เขาวางกับดักก่อนที่การต่อสู้บนเทือกเขาห้าภูมิภาคจะปะทุขึ้น
หลังจากนั้นฟางหยวนก็เข้าสู่สายธารแห่งกาลเวลา เขาไม่พบเกาะบัวหิน วังสวรรค์ไล่ล่าเขาและทําให้เขาแทบไม่สามารถรักษาชีวิต
ดังนั้นท่าไม้ตายอมตะตัวตนในอนาคตจึงทําให้ฟางหยวนได้รับความแข็งแกร่งก่อนที่เขาจะกลืนกินมิติช่องว่างของเซียชาเพื่อก้าวเข้าสู่ระดับแปด
ในเวลานั้นเขาเป็นเจ้าของวิญญาณท่องแดนอมตะเรียบร้อยแล้ว
ด้วยการพึ่งพาท่าไม้ตายอมตะตัวตนในอนาคต เขาสามารถใช้วิญญาณท่องแดนอมตะจากอนาคตเพื่อเดินทางจากภาคเหนือไปยังภาคใต้
แต่เขาไม่ได้ไปที่เทือกเขาห้าภูมิภาค
มรดกห้าภูมิภาคของเต๋จูอาจมีประโยชน์สําหรับเขา แต่เขาไม่ควรเปิดเผยมรดกห้าภูมิภาคในเวลานี้
เนื่องจากการรับสืบทอดมรดกห้าภูมิภาคจะสร้างความโกลาหลครั้งใหญ่ เทือกเขาห้าภูมิภาคต้องถูกทําลายก่อนที่เจตจํานงของเต๋จจะตื่นขึ้นและยอมรับเขา
ฟางหยวนยังเป็นผู้อมตะระดับเจ็ด แม้เขาจะมีพลังการต่อสู้ระดับแปด แต่มันยังยากที่เขาจะต่อต้านผู้อมตะระดับแปดที่แท้จริง
หากฟางหยวนดึงดูดผู้อมตะระดับแปดหรือคฤหาสน์วิญญาณอมตะเพราะการรับสืบทอดมรดกห้าภูมิภาค เขาอาจพบอันตราย
เพื่อความปลอดภัย เขาจะทิ้งมรดกห้าภูมิภาคไว้ภายหลัง
ครั้งนี้เขาไม่ได้มาภาคใต้เพื่อรับสืบทอดมรดกห้าภูมิภาคแต่เขามาที่หุบเขาธรรมดาแห่งหนึ่ง
Related