เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1767 วิญญาณอมตะหลอมรวมวารี
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาถอนหายใจ “ผู้อมตะระดับเก้าล้วนเป็นตัวตนที่โดดเด่น พวกเขามีความสามารถที่น่าเหลือเชื่อและไม่สามารถประเมินด้วยสามัญสำนึก การดูแคลนพวกเขาคือความโง่เขลาของเรา!”
ฟางหยวนพยักหน้า เขาคิดถึงการต่อสู้ในชีวิตก่อนหน้า ทุกการเคลื่อนไหวของผู้อมตะระดับเก้าสามารถเปลี่ยนสถานการณ์ทั้งหมดได้อย่างง่ายดาย แม้ราชันมังกรจะทรงพลัง แต่เขายังไม่สามารถตอบโต้การจัดเตรียมของผู้อมตะระดับเก้า
“ในแง่ของพลังงานแห่งเต๋า ความแตกต่างระหว่างผู้อมตะระดับแปดและระดับเก้าใหญ่โตเกินไป มันสามารถบังคับให้ฝ่ายตรงข้ามตกสู่ความสิ้นหวัง”
“เทพปีศาจไร้ขอบเขตมีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าเทียบเท่ากับผู้อมตะระดับแปดตั้งแต่เขายังเป็นผู้อมตะระดับหก เมื่อเขาก้าวไปถึงระดับเก้า เขาจะมีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋ามากเพียงใด?”
ฟางหยวนไม่สามารถประเมิน
ตรรกะของคนทั่วไปไม่สามารถประเมินผู้อมตะระดับเก้า
เทพปีศาจบัวแดงสามารถกำเนิดใหม่นับครั้งไม่ถ้วน เทพปีศาจไร้ขอบเขตมีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าที่น่าตกใจ แผ่นการของเทพอมตะกลุ่มดาวส่งผลกระทบต่อสวรรค์พิภพ
พวกเขาเป็นตัวตนที่ไม่สมารถหยั่งถึง อย่างน้อยสำหรับฟางหยวนในปัจจุบันก็ไม่สามารถทำได้
แท้จริงแล้วในการต่อสู้เพื่อแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา กำไรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของฟางหยวนไม่ใช่การสังหารจักรพรรดินีอสูรสายฟ้า เฉินอี้ หรือการการขโมยวิญญาณท่องแดนอมตะจากฟงจิวเก้อ
แต่มันคือการใช้การจัดเตรียมของเทพอมตะบัวสวรรค์
ท่าไม้ตายอมตะเคลื่อนกรรม!
ในชีวิตก่อนหน้า เฉินอี้พึ่งพาท่าไม้ตายนี้เพื่อปกป้องแดนศักดิ์สิทธิ์ไร้ที่ติและทำให้สถานการณ์หยุดชะงักไปเป็นเวลานาน นั่นทำให้ฟางหยวน วูหยง และปิงช่ายฉวนสูญเสียโอกาสสุดท้ายที่จะพลิกสถานการณ์
“แม้ข้าจะบังคับให้เฉินอี้ใช้ท่าไม้ตายอมตะเคลื่อนกรรมล่วงหน้า แต่ผู้ใดจะรู้ว่าผู้อมตะระดับเก้าเหล่านั้นจะทิ้งสิ่งใดไว้บ้าง”
“บางทีด้วยอิทธิพลของการกำเนิดใหม่ของข้าอาจกระตุ้นการทำงานของการจัดเตรียมเหล่านั้น”
“อาศัยเพียงการกำเนิดใหม่และความแข็งแกร่งจากชีวิตก่อนหน้ายังไม่เพียงพอ ผู้ใดจะรู้ว่าการจัดเตรียมของพวกเขาจะถูกกระตุ้นใช้งานในช่วงเวลาสำคัญหรือไม่?”
“เพื่อทำลายวิญญาณชะตากรรม ข้าคนเดียวยังไม่เพียงพอ ข้าต้องได้รับความช่วยเหลือจากการจัดเตรียมของผู้อมตะระดับเก้า”
ฟางหยวนวิเคราะห์
ไม่กี่วันต่อมา
ภาคใต้ รอยแยกปล้นเงา
ฟางหยวนเคยมาที่นี่ ด้วยการจุดชนวนกายาแห่งความฝัน อาณาจักรแห่งความฝันปิดกั้นผู้อมตะภาคใต้ที่ไล่ล่าเขาและทำให้เขาสามารถหลบหนี
ด้วยเหตุนี้ฝ่ายธรรมะของภาคใต้จึงนำกำลังมาปิดล้อมสถานที่แห่งนี้เพื่อค้นคว้าเกี่ยวกับอาณาจักรแห่งความฝัน
ฟางหยวนมาที่นี่อย่างเงียบๆ
เขาใช้ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมและทำให้สายฝนโปรยปรายลงบนค่ายกลวิญญาณอมตะของฝ่ายตรงข้าม
ค่ายกลวิญญาณอมตะถูกกระตุ้นการทำงานเพื่อต่อต้านสายฝน
“ผู้ใด?”
“ฮีม ค่ายกลนี้ไม่สามารถผ่านได้!”
“ถูกต้อง ไม่มีผู้ใดสามารถทำลายมันแม้แต่ในความฝัน!”
ผู้อมตะภาคใต้ที่ปกป้องสถานที่แห่งนี้คือหยางซานมู่ จื่อชิว และเชี่ยฟาน พวกเขาตื่นตัวทันทีหลังจากตระหนักถึงการโจมตีลึกลับ
ในไม่ช้าพวกเขาก็พบฟางหยวน
เขาไม่ได้ปกปิดตัวเอง ตั้งแต่เขาใช้ท่าไม้ตายอมตะ เขาก็ไม่สามารถซ่อนกลิ่นอาย
ฟางหยวนเคยเห็นเพียงคนเดียวที่สามารถปิดซ่อนกลิ่นอายของท่าไม้ตายอมตะได้อย่างสมบูรณ์ นั้นคือวูหยง
อย่างไรก็ตามฟางหยวนยังใช้ท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคยเปลี่ยนรูปลักษณ์ของเขา
“มันเป็นผู้อมตะระดับเจ็ด เราไม่แน่ใจว่าเขาคือผู้ใด แต่เขามีกลิ่นอายของคนใต้ เขาต้องเป็นผู้บ่มเพาะสันโดษ” ภายในค่ายกลวิญญาณอมตะ เซี่ยฟานเริ่มคาดเดา
ปัจจุบันแกนกลางต้นกำเนิดของแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาถูกปลดผนึกแล้ว ฟางหยวนกลายเป็นผู้อมตะระดับแปดที่แท้จริง
แต่เขาจงใจปลอมตัวเป็นผู้อมตะระดับเจ็ด
ท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคยของเขาได้รับการพัฒนาในช่วงสุดท้ายของชีวิตก่อนหน้า ตอนนี้ผู้อมตะภาคใต้ไม่สามารถรับมือมัน
เพื่อป้องกันการเปลี่ยนแปลงและรักษาความได้เปรียบของการกำเนิดใหม่ ฟางหยวนเลือกที่จะทำสิ่งเดียวกันกับชีวิตก่อนหน้า
เขาปกปิดการบ่มเพาะระดับแปดเพราะเขาต้องการหลอกวังสวรรค์และวางกับดักผู้อมตะภาคใต้
ตามความทรงจำในชีวิตก่อนหน้า ด้วยแนวทางนี้ภาคใต้จะจัดตั้งกลุ่มออกไล่ล่าฟางห ยวน ในทางตรงข้าม หากฟางหยวนเปิดเผยการบ่มเพาะระดับแปด เซี่ยชาอาจไม่ออกไล่ล่าเขา
เป็นเรื่องปกติที่ฟางหยวนต้องแสร้งทำตัวอ่อนแอ
ในไม่ช้าสายฝนก็เริ่มตกหนักขึ้นและทะลุผ่านชั้นหิน
ภายในค่ายกลวิญญาณอมตะ การแสดงออกของจื่อชิวเปลี่ยนไป “นี่เป็นท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมงั้นหรือ? มันสามารถปรับแต่งค่ายกลวิญญาณอมตะของเรา! สิ่งนี้ไม่สามารถดำเนินต่อไป!”
ฟางหยวนกลืนกินแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา เขาได้รับมรดกที่แท้จริงบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมของบรรพชนผมยาวรวมถึงวิญญาณอมตะจำนวนมาก
มีวิญญาณอมตะระดับแปดจำนวนสามดวง พวกมันคือวิญญาณอมตะหลอมรวมวารี วิญญาณอมตะหลอมรวมพลัง และวิญญาณอมตะหลอมรวมขั้นสูง
วิญญาณอมตะทั้งสามเป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งการหลอมรวม พวกมันไม่มีพลังโจมตีแต่เป็นวิญญาณสายสนับสนุน
ท่ามกลางพวกมัน วิญญาณอมตะหลอมรวมพลังระดับแปดสามารถปรับแต่งวิญญาณอมตะของผู้อื่นได้โดยตรง มันเป็นแกนกลางของคฤหาสน์วิญญาณอมตะหม้อหลอมรวม
วิญญาณอมตะหลอมรวมขั้นสูงระดับแปดเป็นแกนกลางของค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมของบรรพชนผมยาว
วิญญาณอมตะหลอมรวมวารีระดับแปดเป็นแกนกลางของท่าไม้ตายอมตะหลอมรวมสี่มหาสมุทรของแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา
ท่าไม้ตายอมตะของฟางหยวนที่ใช้วิญญาณอมตะหลอมรวมวารีเป็นแกนกลางเป็นท่าไม้ตายอมตะระดับแปด ฟางหยวนต้องใช้วิญญาณหลายดวงเพื่อปกปิดกลิ่นอายระดับแปดและเปลี่ยนเป็นกลิ่นอายระดับเจ็ด
นี่เป็นส่วนหนึ่งของอุบายแสร้งอ่อนแอ
“อย่ากังวล ท่าไม้ตายอมตะระดับเจ็ดของคนผู้นี้ไม่สามารถทำลายค่ายกลวิญญาณอมตะของเรา” จื่อชิวกล่าวด้วยความภาคภูมิใจ
ในฐานะผู้อมตะของตระกูลจื่อ เขามั่นใจมาก
“ฟังให้ดี แม้เราจะไม่เคลื่อนไหว แต่ค่ายกลวิญญาณอมตะจะจัดการศัตรูด้วยตัวมันเอง ท่าไม้ตายของศัตรูจะล้มเหลว” จื่อชิวหัวเราะ
แต่ในไม่ช้ารอยยิ้มของเขากลับเลือนหายไป
ค่ายกลวิญญาณอมตะของพวกเขาไม่สามารถจัดการท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมของศัตรู
ฝนตกลงมาอย่างไม่หยุดยั้งและกัดกร่อนค่ายกลวิญญาณอมตะเป็นวงกว้าง
ผู้อมตะที่อยู่ภายในเต็มไปด้วยความกังวล วิญญาณระดับมนุษย์จำนวนมากถูกปรับแต่งโดยศัตรู
จื่อชิวกัดฟันแน่นด้วยความไม่อยากจะเชื่อ “นี่เป็นไปได้อย่างไร? ท่าไม้ตายชนิดใดที่ทำให้ค่ายกลวิญญาณอมตะของตระกูลจื่อกลายเป็นไร้ประโยชน์!”
โดยทั่วไปเส้นทางแห่งการหลอมรวมไม่มีข้อได้เปรียบเส้นทางแห่งค่ายกล
แต่ความสำเร็จบนเส้นทางแห่งค่ายกลของฟางหยวนสูงมาก
สิ่งสำคัญที่สุดคือเขาคุ้ยเคยกับค่ายกลวิญญาณอมตะนี้เป็นอย่างดี
แม้มันจะทำให้เขามีปัญหาในชีวิตก่อนหน้า แต่การทำงานร่วมกับจื่อชิวหยูทำให้เขาได้รับข้อมูลเกี่ยวกับมัน
จื่อชิวไม่สามารถจินตนาการว่าค่ายกลวิญญาณอมตะของพวกเขาจะถูกเปิดเผยต่อศัตรูอย่างสมบูรณ์และผู้ทรยศก็คือผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของพวกเขา!
รู้เขารู้เราจะไม่มีวันพ่ายแพ้โดยเฉพาะเมื่อฟางหยวนใช้ท่าไม้ตายอมตะระดับแปด
ผู้อมตะภาคใต้เริ่มเดินไปมาด้วยความกังวล
“พวกเราควรทำอย่างไร? ความเร็วในการปรับแต่งของศัตรูสูงขึ้นเรื่อยๆ”
“เขาคือผู้ใด? ด้วยท่าไม้ตายนี้ ไม่แปลกใจเลยที่เขากล้าบุกโจมตีพวกเรา”
“ฮืม ค่ายกลไร้ประโยชน์!” เซี่ยฟานก่นเสียงเย็น
เซี่ยฟานมองหยางซานมู่และกล่าว “เรื่องเร่งด่วนในเวลานี้คือส่งผู้อมตะออกไปต่อสู้ เราต้องขัดขวางท่าไม้ตายของศัตรูเพื่อซื้อเวลาซ่อมแซมค่ายกล!”
เขาเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เขามีหน้าที่รับผิดชอบกลยุทธ์
หยางซานมู่พยักหน้า “เช่นนั้นข้าก็จะออกไปจัดการศัตรู”
แม้ฟางหยวนจะลึกลับแต่หยางซานมู่มีความมั่นใจในตัวเองสูงมาก
เขาเป็นผู้อมตะระดับเจ็ดบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณที่มีชื่อเสียงของภาคใต้ ในเวลาเดียวกันผู้อมตะบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมมักจะอ่อนแอกว่าผู้อมตะบนเส้นทางสายอื่น
เซี่ยฟานแสดงออกอย่างสนุกสนาน “เมื่อพี่หยางลงมือด้วยตนเอง พวกเราจะสามารถสังหารศัตรูและแก้ปัญหาได้อย่างแน่นอน”
หยางซานมู่ชำเลืองมองเซี่ยฟานเล็กน้อยก่อนจะบินออกจากค่ายกลวิญญาณอมตะ
เขาพุ่งเข้าไปหาฟางหยวน “มาสู้กันเถอะ!”
“อา…” แต่มันจบลงด้วยความพ่ายแพ้ของเขา
“แข็งแกร่งนัก!” หยางซานมู่ถูกจับกุม
หลังจากชั่วครู่ฟางหยวนก็สามารถทำลายค่ายกลวิญญาณอมตะของฝ่ายตรงข้าม
ไม่มีผู้ใดสามารถหลบหนี ทุกคนถูกจับโดยฟางหยวน
Related