บทที่ 1833 บรรพชนทะเลปราณ
อาณาจักรแห่งความฝัน
“ศิษย์พี่ อาหารเย็นที่ข้าทําเมื่อวานรสชาติเป็นอย่างไรบ้าง?” ไท่ฉินมาหาอู๋ส่วยและถามด้วยความคาดหวัง
ฟางหยวนยิ้ม “มันไม่เลวเลยจริงๆ ผู้ใดจะคิดว่าศิษย์น้องจะมีพรสวรรค์ด้านนี้เช่นกัน เจ้าจะเป็นภรรยาที่ดีในอนาคตอย่างแน่นอน แต่ข้าสงสัยว่าผู้ใดจะโชคดีที่ได้เป็นสามีของเจ้า?”
“ศิษย์พี่ ท่านล้อเลียนข้าอีกแล้ว!” ใบหน้าของไท่ฉินกลายเป็นแดงระเรื่อ “หากศิษย์พี่ชอบข้าจะทําให้ท่านมากกว่านี้”
“ดี ข้าจะได้กินมันอย่างมีความสุข” ฟางหยวนหัวเราะอย่างเต็มที่
เป็นเพียงเวลานี้ที่ผู้อมตะเผ่ามนุษย์มังกรปรากฏตัวขึ้น “บุตรของข้า”
“ท่านพ่อ เหตุใดท่านจึงมาที่นี่?” ฟางหยวนประหลาดใจเล็กน้อย
“คารวะท่านลุง” ไท่ฉินเร่งทักทายด้วยความประหม่า
ผู้อมตะเผ่ามนุษย์มังกรพยักหน้าและเผยรอยยิ้มให้เด็กสาว “เจ้าคือไม่ฉันใช่หรือไม่? บุตรของข้าพูดถึงเจ้าหลายครั้งในจดหมาย นี่เป็นของขวัญเล็กน้อยจากข้า รับไว้”
“อา..ข้าไม่..” ไท่ฉินต้องการปฏิเสธแต่ฟางหยวนรับของขวัญเอาไว้และวางมันลงบนฝ่ามือของนาง
“รับไว้ ท่านพ่อของข้ามาทําธุระสําคัญ การเรียนของเราในวันนี้ต้องจบลงตรงนี้” ฟางหยวนขอโทษ
“ไม่เป็นไร ข้าเข้าใจ” ไท่ฉินโบกมือและขอบคุณผู้อมตะเผ่ามนุษย์มังกรก่อนจะจากไป
“เป็นเด็กสาวที่บริสุทธิ์และไร้เดียงสา บุตรของข้า เจ้าสนใจนางหรือไม่?” หลังจากไท่ฉินจากไป ผู้อมตะเผ่ามนุษย์มังกรเริ่มหยอกล้อบุตรชาย
ฟางหยวนยิ้มและคิดกับตนเอง อาณาจักรแห่งความฝันเปลี่ยนไปอีกครั้ง
จากนั้นเขาก็กล่าวอย่างระมัดระวัง “ท่านพ่อยังไม่เข้าใจข้าอีกงั้นหรือ?”
“ฮ่าฮ่าฮ่า” ผู้อมตะเผ่ามนุษย์มังกรหัวเราะเสียงดัง เขาตบไหล่ฟางหยวน “ข้ามาที่นี่เพราะมีธุระสําคัญจริงๆ บุตรสาวของท่านหญิงวังอักษรศิลป์ ชูจิ่วหลิง อายุครบสิบหกปีแล้วและกําลังจะจัดพิธีเลือกคู่ครอง ชายหนุ่มที่โดดเด่นทุกคนสามารถเข้าร่วม ข้าต้องการให้เจ้าเข้าร่วมงานนี้”
“โอ้?” ฟางหยวนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
เขารู้เรื่องเกี่ยวกับชูจิ่วหลิง
ในฉากก่อนหน้า ไม่ฉันเคยกล่าวถึงมัน
ชูจิ่วหลิงเคยรักกับผู้อมตะฟานจอมาก่อน นางตั้งครรภ์กับเขา แต่เขาปฏิเสธที่จะแต่งงานกับนาง
ในที่สุดชูจิ่วหลิงก็เข้าใจธรรมชาติที่แท้จริงของฟานจื่อ นางรู้สึกเจ็บปวดมาก นางขังตัวเองอยู่ในวังอักษรศิลป์ของมารดาโดยไม่ออกไปที่ใด
มารดาของนางเป็นผู้อมตะระดับแปด นางเป็นเจ้าของคฤหาสน์วิญญาณอมตะวังอักษรศิลป์ นางเป็นผู้นํากลุ่มผู้บ่มเพาะสันโดษของภาคกลาง ในฐานะมารดา เมื่อนางเห็นบุตรสาวตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ ช่วยไม่ได้ที่นางจะรู้สึกโกรธนาง ต้องการตามหาชายไร้หัวใจและตกลงกับเขา
แต่ฟานจื่อเป็นศิษย์คนสุดท้ายของคงอี้เพิ่งผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของนิกายวิหารสวรรค์สีดํา คนผู้นี้เป็นผู้อมตะระดับแปดที่ไม่มีบุตรแต่มีศิษย์มากมาย เขารักและปฏิบัติต่อศิษย์คนสุดท้ายซึ่งก็คือฟานจื่อเหมือนบุตรของเขาเอง
ท่านหญิงวังอักษรศิลป์ไม่สามารถแสดงท่าที่ไม่สุภาพต่อคงอี้เหิงแต่นางยังต้องการคําตอบจากฟานจื่อ
ดังนั้นคงอี้เหิงจึงต้องนําฟานจื่อไปยังวังอักษรศิลป์เพื่อเจรจา
แต่มีบางสิ่งเกิดขึ้น ไม่เพียงพวกเขาจะไม่สามารถตกลง พวกเขายังต่อสู้ หลังจากคงอี้เหิงและท่านหญิงอักษร ศิลป์ต่อสู้กันสองสามรอบ พวกเขาก็หยุดฟานจื่อและชูจิ่วหลิงกลายเป็นศัตรูกันโดยสมบูรณ์ ชูจิ่วหลิงกล่าวด้วยความโกรธ “แม้เจ้าจะไม่ต้องการข้า แต่มีผู้คนอีกมากมายบนโลกนี้ที่ต้องการข้า!”
ฟานจื่อเผยรอยยิ้มเย็นชา “ข้ามาที่นี่เพื่อเจรจากับเจ้า แต่เจ้ากลับทํามากเกินไป ข้าจะรอดูว่าผู้ใดกล้าเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ ข้าอยากเห็นว่าผู้ใดกล้าอยู่กับเจ้าขณะที่มีเด็กคนนี้อยู่ในครรภ์ของเจ้า!”
ชูจิ่วหลิงหมดสติไปด้วยความโกรธ
ในฐานะมารดา ท่านหญิงวังอักษรศิลป์ต้องสนับสนุนบุตรสาวของนาง
หลังจากชูจิ่วหลิงตื่นขึ้น นางต้องการจัดงานเลือกคู่ครอง ท่านหญิงวังอักษรศิลป์ไม่สามารถขัดบุตรสาวนางยังคิดว่าอาจมีบางคนที่สามารถทําให้บุตรสาวของนางมีความสุขอีกครั้ง แม้บุตรสาวของนางจะไม่ชอบเขา แต่เหตุการณ์นี้อาจช่วยให้นางหลุดพ้นจากสภาวะซึมเศร้าและความคิดที่จะฆ่าตัวตาย
ไท่ฉินกล่าวเรื่องนี้กับอู๋ส่วยราวกับมันเป็นเรื่องตลก
แต่ตอนนี้ฟางหยวนกลับไม่สามารถหัวเราะออกมา
เขาคิด ‘เผ่ามนุษย์มังกรต้องการอิสระและพลังอํานาจ พวกเขามีความทะเยอทะยานที่ยิ่งใหญ่ นี่เป็นโอกาสที่ดี ท่านหญิงวังอักษรศิลป์เป็นผู้อมตะระดับแปดที่สามารถต่อสู้กับนิกายวิหารสวรรค์สีดํา หากข้ากลายเป็นบุตรเขยของนาง ด้วยสายสัมพันธ์นี้ ข้าจะสามารถเป็นผู้นําเผ่ามนุษย์มังกรและมีนางยืนอยู่เคียงข้าง’
ส่าหรับบุคลิก หน้าตา และทารกในครรภ์ของชูจิ่วหลิง มันไม่สําคัญ
ฟางหยวนไม่สนใจ
‘แต่ความรักที่ศิษย์น้องไท่ฉินมีต่อข้าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หากข้าทําเช่นนั้น ข้าจะทําให้นางผิดหวัง นางจะเสียใจมาก’ ฟางหยวนรู้สึกผิดอยู่ในใจ
แต่ทันใดนั้นเขากลับสะดุ้งอยู่ในหัวใจ เขาตระหนักว่า ‘ช้าก่อน! เกิดสิ่งใดขึ้นกับข้า? นี่คืออาณาจักรแห่งความฝัน ข้าคือฟางหยวน ไม่ใช่อู๋ส่วย เหตุใดข้าต้องรู้สึกผิด?’
‘อาณาจักรแห่งความฝันแห่งนี้ช่างทรงพลังนัก มันส่งผลกระทบต่ออารมณ์ของข้าจริงๆ!’
‘สองสามฉากสุดท้ายของอาณาจักรแห่งความฝันนี้มั่นคงและปลอดภัยมาก แต่มันพยายามส่งอิทธิพลต่อจิตใจของข้าอย่างลับๆและขาก็ได้รับผลกระทบจากมันจริงๆ’
‘เกือบไปแล้ว!’
ฟางหยวนรู้สึกหนาวเย็นอยู่ในหัวใจ
ร่างแยกมนุษย์มังกรของฟางหยวนติดอยู่ในอาณาจักรแห่งความฝันทั้งร่างกายและดวงวิญญาณ เขาสํารวจอาณาจักรแห่งความฝันอย่างต่อเนื่องมากหลายวัน แม้เขาจะสามารถแยกแยะความจริงและความฝันในเวลานี้ แต่อารมณ์ของเขาก็ได้รับผลกระทบจากมันแล้ว
นี่เป็นการแจ้งเตือนถึงอันตราย
การสํารวจอาณาจักรแห่งความฝันมีความเสี่ยง ในกรณีเลวร้ายที่สุด พวกเขาจะติดอยู่ในความฝันและไม่สามารถแยกแยะความจริงกับความฝัน พวกเขาจะได้รับผลกระทบทางจิตใจ สุดท้ายพวกเขาจะถูกอาณาจักรแห่งความฝันกลืนกินอย่างสมบูรณ์
ผู้อมตะเผ่ามนุษย์มังกรสังเกตการแสดงออกของฟางหยวนอยู่ชั่วครู่ก่อนจะพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ “บุตรของข้า มันเป็นเรื่องดีที่เจ้าไม่ได้รับผลกระทบจากความรักและความเสน่หา ข้าจะไปพบนักพรตมดเขียวเพื่อบอกเรื่องนี้กับเขาและขอลาหยุดให้เจ้า”
“ข้าจะทําตามค่าสั่งของท่านพ่อ” ฟางหยวนตอบ
สายธารแห่งกาลเวลา
“บึม บึม บึม!”
การระเบิดที่รุนแรงทําให้คลื่นน้ําปะทุขึ้น
เรือเหาะสีเงินบินผ่านคลื่นน้ําขนาดใหญ่ไปด้วยความเร็วสูง
มันคือเรือรบหมื่นปี!
ด้านหลังเรือรบหมื่นปีมีคฤหาสน์วิญญาณอมตะห้าหลังไล่ล่ามาอย่างไม่ลดละ
ภายในเรือรบหมื่นปี ไป่หนิงปิงและคนอื่นๆอยู่ในอารมณ์ที่ตึงเครียด
“วังสวรรค์ช่างร่ํารวยนัก พวกเขาสร้างวิหารอดีตปัจจุบันรวมถึงนาวานิรันดร์ขึ้นมาอีกครั้ง”
“ไม่เพียงเท่านั้น พวกเขายังมีรังกระเรียนใบไม้ร่วง ฉลามร่องคลื่น และคฤหาสน์วิญญาณอมตะลึกลับหลังนั้น!”
“วังสวรรค์เป็นกองกําลังอันดับหนึ่งของโลกใบนี้อย่างแท้จริง รากฐานของพวกเขาน่าตกตะลึงเกินไป”
ไป่หนิงปิงและคนอื่นๆ ไม่รู้ว่าเทพธิดาจื่อเว่ยต้องนําวิญญาณอมตะออกมาจากคฤหาสน์วิญญาณอมตะหอศิลป์หมื่นราชันเพื่อสร้างคฤหาสน์วิญญาณอมตะโรงละครแห่งความทรงจําระดับแปดหลังนี้
ผู้อมตะระดับแปดบนเส้นทางแห่งกาลเวลากู้หลิวรู่เป็นผู้ควบคุมโรงละครแห่งความทรงจํา
ด้วยการคงอยู่ของคฤหาสน์วิญญาณอมตะห้าหลัง เรือรบหมื่นปีจึงถูกบังคับให้ล่าถอย
“อย่ากังวล เรายังเป็นฝ่ายได้เปรียบ เราสามารถใช้สภาพแวดล้อมที่ซับซ้อนของสายธารแห่งกาลเวลาเพื่อสร้างความเสียหายให้กับศัตรู”
“ถูกต้อง เมื่อพวกเขาอ่อนแอลง เราจะสามารถตอบโต้”
ไม่กี่วันต่อมา
วังสวรรค์
ราชันมังกรพร้อมที่จะเคลื่อนไหว
หลังจากเปลี่ยนโชคให้ราชันมังกร อาการของฉันตั้งหลังแย่ลง นางไม่สามารถติดตามเขาไปหรือเข้าร่วมการต่อสู้ ในสายธารแห่งกาลเวลา นางทําได้เพียงพักฟื้นอยู่ในวังสวรรค์เท่านั้น
เทพธิดาจื่อเว่ยอยู่ในวังสวรรค์เพื่อดูแลภาพรวมและป้องกันการลอบโจมตีของถ้ําสวรรค์นิรันดร
“การต่อสู้ของคฤหาสน์วิญญาณอมตะในสายธารแห่งกาลเวลาผ่านมาสองสามวันแล้วแต่ฟางหยวนยังไม่ปรากฏตัว ด้วยโชคของฟงจิวเก้อ เราสามารถชดเชยความเสียเปรียบด้านโชค ตอนนี้เราเป็นฝ่ายได้เปรียบ”
“อย่าประมาทฟางหยวน จื่อเว่ยให้ความสําคัญกับเขามากกว่านี้” ราชันมังกรกล่าว
“ทราบแล้ว” เทพธิดาจื่อเว่ยแสดงออกอย่างเคร่งขรึม “ฟางเจิ้งพร้อมแล้ว ตอนนี้เขารออยู่ที่นิกายกระเรียนอมตะ และสามารถออกเดินทางทันที”
“ดี” ราชันมังกรพยักหน้าก่อนจะจากไปอย่างรวดเร็ว
ฟางหยวนตรวจสอบโชคของร่างแยกมนุษย์มังกรอีกครั้ง
โชคมังกรม่วงขยายตัวขึ้นหลายเท่า มันเต็มไปด้วยพลังชีวิตและเคลื่อนไหวอย่างสะดวกสบายอยู่ในกลุ่มเมฆสีดํา
มากกว่าครึ่งหนึ่งของเมฆสีดําเปลี่ยนเป็นปราณสีฟ้าม่วงแล้ว นี่แสดงให้เห็นว่าฟางหยวนมีโอกาสสูงมากที่จะได้รับวังมังกร
อย่างไรก็ตาม
โชคแสงสีเลือดที่อยู่ด้านบนโชคเมฆสีดํากลับเคลื่อนที่ลงมาอย่างรวดเร็ว
ภายในโชคแสงสีเลือด วิหคทองคําหายไปแต่มังกรเพลิงกลับขยายใหญ่ขึ้น
“ดูเหมือนมีเพียงข้าเท่านั้นที่สามารถหยุดตัวแปรนี้” ฟางหยวนตระหนักถึงเรื่องนี้
“โอ้ เขามาแล้ว” ในเวลาต่อมา ดวงตาของเขาก็ส่องประกายขึ้น
ฟางหยวนเห็นคฤหาสน์วิญญาณอมตะบินอยู่ในสวรรค์สีขาว มันคือศาลานกกระเรียนของนิกายกระเรียนอมตะ
ฟางหยวนกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายเขตแดนอมตะทันที
เขตแดนอมตะบนเส้นทางแห่งพลังปราณถูกเตรียมไว้นานแล้ว มันกําลังรอคอยช่วงเวลานี้อยู่
“เกิดสิ่งใดขึ้น?” ภายในศาลานกกระเรียน ฟางเจิ้งตกตะลึงกับทัศนียภาพที่เปลี่ยนเป็นบิดเบี้ยว
“ศัตรูซุ่มโจมตี แต่ข้ามศาลานกกระเรียน ต้องขอบคุณ…อา…” การแสดงออกของฟางเจิ้งเปลี่ยนเป็นตกใจและ หวาดกลัวอย่างกะทันหัน
เป็นเพียงเวลานี้ที่พลังปราณปริมาณมหาศาลพุ่งเข้ามาหาศาลานกกระเรียนจากทุกทิศทาง
“ท่าไม้ตายอมตะระดับแปด!” ฟางเจิ้งหน้าซีด ศาลานกกระเรียนเป็นเพียงคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับหก มันจะสามารถป้องกันการโจมตีระดับแปดได้อย่างไร?
ในช่วงเวลาสําคัญ ร่างหนึ่งปรากฏขึ้น
มันไม่ใช่ผู้ใดนอกจากราชันมังกร
ปรากฏว่าราชันมังกรไม่ได้พบฟางเจิ้ง เขาเพียงลอบออกคําสั่งและเดินทางมาพร้อมกันอย่างลับๆเท่านั้น
นี่เป็นคําแนะนําของฉินติงหลิง การมอบอิสระให้แก่ฟางเจิ้งเป็นครั้งคราวจะสร้างปัญหาให้กับฟางหยวน
อย่างไรก็ตามหากปราศจากราชันมังกร เขาต้องตายอยู่ที่นี้อย่างแน่นอน
ราชันมังกรผลักฝ่ามือออกไปทําลายพลังปราณที่อยู่รอบๆ
“ผู้ใด? ออกมา!” ราชันมังกรตะโกน
“ข้าคือบรรพชนทะเลปราณ” ฟางหยวนเผยตัวออกมาแต่เขาเปลี่ยนรูปลักษณ์ไปแล้ว