Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน – ตอนที่ 1846 มรดกของเทพอมตะแรกกําเนิด

บทที่ 1846 มรดกของเทพอมตะแรกกําเนิด

 

หลังจากใช้ความพยายามเป็นอย่างมาก ในที่สุดราชันมังกรก็บรรลุข้อตกลงกับฟางหยวน

 

สองผู้อมตะระดับแปดของทะเลตะวันออกเฝ้ามองกระบวนการนี้ตั้งแต่ต้นจนจบโดยไม่สามารถหยุดพวกเขา

 

ราชันมังกรไม่เพียงชดเชยให้บรรพชนทะเลปราณด้วยทรัพยากรบนเส้นทางแห่งพลังปราณจํานวนมากแต่เขายังมอบมรดกที่แท้จริงของเทพอมตะแรกกําเนิดให้กับบรรพชนทะเลปราณอีกด้วย

 

สิ่งนี้ท่าให้สองผู้อมตะระดับแปดของทะเลตะวันออกพูดไม่ออก

 

แน่นอนว่าพวกเขาทําธุรกรรมกันเพียงบางส่วนเท่านั้น

 

บรรพชนทะลปราณตกลงสงบศึกกับวังสวรรค์ พวกเขาจะไม่ต่อสู้กันในช่วงเวลานี้ วังสวรรค์จะค่อยๆส่งมอบทรัพยากร เช่นเดียวกับมรดกที่แท้จริงของเทพอมตะแรกกําเนิดที่จะถูกส่งมอบเป็นส่วนๆ

 

ทํายที่สุดพวกเขาก็ไม่ได้ทําข้อตกลงพันธมิตรใดๆ

 

หลังการเจรจาสิ้นสุด ฟางหยวนยังไม่รีบร้อนจากไป

 

เขากล่าว “ตอนนี้ฟางหยวนพยายามยึดครองวังมังกร บางที่วังสวรรค์อาจสามารถแก้ไขความเป็นศัตรูของพวกเจ้ากับเขาได้ในวันนี้”

 

พิจารณาจากการแสดงออกของบรรพชนทะเลปราณ มันดูเหมือนเขาต้องการยืนชมการแสดงอยู่ด้านข้าง

 

ฟางหยวนตัดสินใจหยุดถ่วงเวลา มิฉะนั้นราชันมังกรกับสองผู้อมตะระดับแปดของทะเลตะวันออกอาจสัมผัสได้ถึงบางสิ่ง

 

ราชันมังกรตอบอย่างตรงไปตรงมา “หากเป็นเช่นนั้นจริง เราจะมีปัญหาน้อยกว่านี้”

 

สองผู้อมตะระดับแปดของทะเลตะวันออกมองหน้ากัน เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับวังมังกร พวกเขายังไม่สามารถจากไป

 

เมื่อทุกคนไปถึงสถานที่ที่วังมังกรซ่อนอยู่ มันก็หายไปแล้ว

 

“วังมังกรอยู่ที่นี่จริงๆงั้นหรือ?” สองผู้อมตะระดับแปดของทะเลตะวันออกสงสัยแต่ไม่กล้ากล่าวออกมา

 

ราชันมังกรไม่สงสัยเพราะนี่เป็นเส้นทางที่เทพธิดาจื่อเว่ยอนุมาน

 

“ดูเหมือนวังมังกรจะบินหนีไปแล้ว” ราชันมังกรถอนหายใจ

 

ฟางหยวนยิ้ม “น่าเสียดาย หากวังมังกรถูกฟางหยวนยึดครอง มันก็หมายความว่าวังสวรรค์ของพวกเจ้าพ่ายแพ้อีกครั้ง”

 

ฟางหยวนทําตัวราวกับผู้ชมที่อยากรู้อยากเห็นและพยายามยั่วยุราชันมังกรด้วยค่าพูด

 

แต่ราชันมังกรไม่ได้รับผลกระทบใดๆ

 

เขาเข้าใจวังมังกรเป็นอย่างดี เมื่อวังมังกรถูกสร้างขึ้น มันถูกออกแบบให้มนุษย์มังกรเป็นเจ้าของเท่านั้น

 

โดยพื้นฐานแล้วราชันมังกรที่ทําลายล้างเผ่ามนุษย์มังกรถือว่ามีไพ่ตายที่สามารถต่อต้านมัน หากฟางหยวนได้รับวังมังกรจริงๆ นั่นหมายความว่าเขาเปลี่ยนตนเองเป็นมนุษย์มังกรหรือมีลูกน้องเป็นมนุษย์มังกร

 

‘ฟางหยวนเป็นคนจากอนาคต มีโอกานน้อยที่เขาจะเปลี่ยนตนเองเป็นมนุษย์มังกร แต่ถึงกระนั้นท่าไม้ตายอมตะทําลายล้างมนุษย์มังกรของข้าก็ยังสามารถสังหารหนึ่งในผู้ใต้บังคับบัญชามนุษย์มังกรของเขา’

 

‘แต่การกําจัดมนุษย์มังกรเป็นเพียงเรื่องรอง สิ่งสําคัญคือการนําวังมังกรกลับมา’

 

‘แม้ครั้งนี้ข้าจะล้มเหลว แต่มันก็ไม่ได้ไร้ประโยชน์ อย่างน้อยข้าก็สามารถสร้างความสัมพันธ์กับบรรพชนทะเลปราณ ในอนาคตวังสวรรค์อาจสามารถใช้ประโยชน์จากเขา’

 

‘สำหรับวังมังกร…เมื่อมันปรากฏขึ้น มันจะทิ้งร่องรอยเอาไว้ ข้าจะหามันพบอีกครั้ง’

 

‘เห้อ…ความได้เปรียบเรื่องการเกิดใหม่ของฟางหยวนยิ่งใหญ่เกินไป เขาสามารถเตรียมตัวและลงมือล่วงหน้า ข้ามาสายไปก้าวหนึ่ง’

 

ราชันมังกรครุ่นคิดแต่เขาไม่รีบร้อนใช้ท่าไม้ตายอมตะทําลายล้างมนุษย์มังกร

 

ไพ่ตายใบนี้จะถูกเก็บไว้ใช้ในช่วงเวลาสําคัญในอนาคตเพื่อจับฟางหยวน

 

แน่นอนว่าราชันมังกรยังต้องคิดว่าฟางหยวนอาจรู้เรื่องนี้เช่นกัน หากเขารู้ เขาอาจหาวิธีป้องกันมัน ในกรณีนั้นท่าไม้ตายอมตะทําลายล้างมนุษย์มังกรอาจกลายเป็นไร้ประโยชน์

 

แต่การไม่ใช้มันตอนนี้ยังเป็นการตัดสินใจที่ฉลาดที่สุดสําหรับราชันมังกร

 

‘ข้าไม่สามารถปล่อยให้วังมังกรตกอยู่ในมือของฟางหยวน เรื่องนี้ต้องได้รับการจัดการที่เหมาะสม แต่ตอนนี้ข้าต้องช่วยฟางเจิ้งก่อน’

 

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ราชันมังกรก็หันหน้าไปหาเฉินกงเจิ้ง

 

ฟางเจิ้งอยู่ในมือของคนผู้นี้

 

เฉินกงเจิ้งเตรียมพร้อมอยู่แล้ว เขาไม่แปลกใจกับการเคลื่อนไหวของราชันมังกร

 

ท้ายที่สุดตระกูลเฉินกับวังสวรรค์ก็เป็นกองกําลังฝ่ายธรรมะทั้งคู่ พวกเขามีวิธีจัดการปัญหาของพวกเขาเอง

 

เฉินกงเจิ้งยินดีทําธุรกรรมกับราชันมังกร เขาจะแลกเปลี่ยนฟางเจิ้งกับผลประโยชน์มหาศาล

 

วังสวรรค์ร่ํารวยมาก เขาสามารถมองเห็นสิ่งนี้ได้จากบทสนทนาก่อนหน้า

 

ฟางหยวนเฝ้ามองอยู่ด้านข้าง แม้เขาจะต้องการแข่งขันกับราชันมังกรแต่มันไม่ใช่ความคิดที่ดี

 

ประการแรก เขาฟังบรรลุข้อตกลงกับราชันมังกร หากเขาต่อต้านราชันมังกรในเวลานี้ มันจะขัดแย้งกับอัตลักษณ์ของบรรพชนทะเลปราณ

 

ประการที่สอง ฟางหยวนไม่มั่นใจในการแข่งขันกับวังสวรรค์

 

การสังหารเฉินกงเจิ้งเพื่อชิงตัวฟางเพิ่งมีความเป็นไปได้น้อยมาก

 

อย่างไรก็ตามฟางหยวนไม่ยอมแพ้ เขาลอบส่งข้อความไปหาเฉินกงเจิ้งอย่างลับๆ

 

เฉินกงเจิ้งตระหนักว่าบรรพชนทะเลปราณก็สนใจฟางเจิ้งเช่นกัน ดังนั้นเขาจึงตอบกลับอย่างรวดเร็ว “กล่าวตามตรง ข้าฟังค้นวิญญาณฟางเจิ้ง ข้ารู้เกี่ยวกับการเผชิญหน้าโดยบังเอิญครั้งล่าสุดของเขา ดูเหมือนเขาจะสามารถตอบโต้ฟางหยวนไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เขาจะส่งอิทธิพลในเชิงลบต่อฟางหยวน”

 

ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้น เขาถามเฉินกงเจิ้ง “แม้ฟางหยวนจะเป็นผู้อมตะระดับเจ็ดและข้าเคยพบเขาเพียงครั้งเดียว แต่เขาก็ทิ้งความประทับใจไว้กับข้า เนื่องจากฟางเจิ้งสามารถตอบโต้ฟางหยวน เจ้าควรเจรจากับฟางหยวน หลังจากทั้งหมดเขามีมรดกที่แท้จริงของผู้อมตะระดับเก่าอยู่มากมาย หากเจ้าทําธุรกรรมกับ วังสวรรค์ พวกเขาจะมอบมรดกที่แท้จริงของผู้อมตะระดับเก้าให้เจ้างั้นหรือ?”

 

ฟางหยวนพยายามโน้มน้าวเฉินกงเลิ้ง

 

เฉินกงเจิ้งยิ้ม “ผู้อาวุโสกล่าวถูกต้องแล้ว นี่เป็นคําแนะนําที่ดี”

 

เขาเริ่มต่อรองกับราชันมังกร “หากวังสวรรค์ต้องการฟางเจิ้ง มอบมรดกที่แท้จริงของผู้อมตะระดับเก๋ให้ข้า” 

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า” ราชันมังกรหัวเราะเสียงดัง “เฉินกงเจิ้ง เจ้าโลภมากเกินไป เจ้าคิดว่าตนเองอยู่ในระดับเดียวกับทะเลปราณงั้นหรือ? สหายทะเลปราณสามารถรับมรดกที่แท้จริงของเทพอมตะแรกกําเนิดเพราะได้รับการยอมรับจากข้า หากเจ้าได้รับมรดกที่แท้จริงของเทพอมตะด้วยการแลกเปลี่ยนเชลย เช่นนั้นสหายทะเลปราณจะไม่กลายเป็นตัวตลกงั้นหรือ?”

 

“เฉินกงเจิ้ง ระวังทัศนคติของเจ้า”

 

“หากเจ้ามีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่เกินไป เช่นนั้นเราก็มาสู้กัน”

 

ทัศนคติของราชันมังกรที่มีต่อเฉินกงเพิ่งแตกต่างจากบรรพชนทะเลปราณอย่างสิ้นเชิง

 

เฉินกงเจิ้งกังวลเล็กน้อย ราชันมังกรจงใจกล่าวถึงบรรพชนทะเลปราณเพื่อใช้ประโยชน์จากเขา

 

แต่เฉินกงเจิ้งค้นวิญญาณของฟางเจิ้งมาแล้ว เขาเข้าใจคุณค่าของคนผู้นี้ เขาเผยรอยยิ้มเย็นชาและตอบกลับโดยไม่เกรงกลัว “ราชันมังกร ข้ารู้ว่าข้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเจ้า แต่…แล้วอย่างไร? เจ้าสามารถเอาชนะข้า แต่เจ้าไม่สามารถสังหารข้าได้ทันที นอกจากนี้ฟางเจิ้งก็อยู่ในมือของข้า ข้าสามารถฆ่าเขาด้วยหนึ่งความคิด”

 

“หากเจ้าไม่ต้องการมอบมรดกที่แท้จริงของเทพอมตะให้ข้า แล้วเจ้าจะมอบสิ่งใดให้ข้าเพื่อเป็นการแสดงความจริงใจของวังสวรรค์”

 

เฉินกงเจิ้งไม่ได้โง่ เขากล่าวด้วยน้ําเสียงที่ผสมผสานระหว่างความนุ่มนวลและความหนักแน่น เขาถอยหลังหนึ่งก้าวและหยุดร้องขอมรดกที่แท้จริงของเทพอมตะ

 

ท้ายที่สุดราชันมังกรก็แข็งแกร่งกว่าเขามาก

 

ทั้งสองฝ่ายเจรจากันเป็นเวลานานแต่ไม่สามารถตกลง

 

เฉินกงเจิ้งเรียกร้องอย่างหนักเพราะฟางเจ๋งมีความสําคัญต่อราชันมังกรและวังสวรรค์

 

ฟางหยวนเฝ้ามองอยู่ด้านข้างและเข้าใจสถานการณ์ชัดเจนมากขึ้น ยิ่งวังสวรรค์ให้ความสําคัญกับฟางเจิ้งมากเท่าใด โอกาสที่เขาจะสร้างปัญหาให้ฟางหยวนก็ยิ่งมีมากเท่านั้น

 

เขาลอบกล่าวกับเฉินกงเจิ้ง “ในความคิดเห็นของข้า เจ้าควรติดต่อฟางหยวนและพูดคุยกับเขา เขาอาจให้ราคาสูงกว่าวังสวรรค์”

 

แต่เฉินกงเจิ้งตัดสินใจแล้ว เขาตอบ “ผู้อาวุโส ข้าจะมอบฟางเจิ้งให้วงสวรรค์ ประการแรก วังสวรรค์เป็นกองกําลังฝ่ายธรรมะ พวกเขายังต้องพึ่งพาฟางเจิ้ง แต่ฟางหยวนต้องการเพียงฟางเจิ้งที่ตายแล้ว เขาอาจไม่เจรจากับข้าอย่างสันติ ประการที่สอง ในแง่ของความมั่งคั่งและรากฐาน ผู้ใดบนโลกใบนี้จะสามารถแข่งขันกับวังสวรรค์”

 

เฉินกงเจิ้งเป็นสมาชิกฝ่ายธรรมะ เป็นธรรมดาที่เขาจะรู้สึกต่อต้านปีศาจเช่นฟางหยวน แม้เขาจะระแวงวังสวรรค์ แต่เขาก็เต็มใจที่จะทําธุรกรรมกับวังสวรรค์มากกว่า

 

ฟางหยวนไม่สามารถโน้มน้าวเฉินกงเจิ้ง ดังนั้นเขาจึงต้องคิดแผนใหม่

 

ราชันมังกรเริ่มร้อนใจมากขึ้น

 

เขาใช้ความพยายามทั้งหมดในการเจรจากับฟางหยวนก่อนหน้านี้ ตอนนี้เขารู้สึกเหน็ดเหนื่อยกับการเจรจา และต้องการโจมตีเฉินกงเจิ้งมากขึ้นเรื่อยๆ

 

แต่การคงอยู่ของบรรพชนทะเลปราณทําให้เขาต้องระงับความต้องการนี้เอาไว้ หลังจากทั้งหมดบรรพชนทะเลปราณก็เป็นผู้อมตะของทะเลตะวันออก

 

เป็นเพียงเวลานี้ที่เทพธิดาจอเว่ยส่งข้อมูลบางอย่างให้กับราชันมังกรและทําให้ดวงตาของเขาเบิกกว้างขึ้น เขารับส่งข้อความต่อให้กับเฉินกงเจิ้ง

 

การแสดงออกของเฉินกงเจิ้งเปลี่ยนไปทันที เขากรีดร้อง “จริงหรือ?”

 

“แน่นอน” ราชันมังกรพยักหน้า “เจ้าคิดอย่างไรกับข้อมูลนี้?”

 

เฉินกงเจิ้งตกลงโดยปราศจากความลังเล

 

สิ่งนี้ทําให้ฟางหยวนและซ่งฉีหยวนรู้สึกประหลาดใจและสงสัยมาก

 

ฟางเจิ้งถูกส่งมอบให้กับราชันมังกร ณ จุดนั้น

 

ฟางเจิ้งหมดสติไปแล้ว ราชันมังกรจับเขาไว้และบอกลาฟางหยวน

 

ฟางหยวนไม่สามารถทําสิ่งใดนอกจากต้องบอกลาเช่นกัน

 

สองผู้อมตะระดับแปดของทะเลตะวันออกเชิญฟางหยวนไปเป็นแขกของพวกเขาและสัญญาว่าจะมอบทรัพยากรบางส่วนให้กับฟางหยวนเพื่อชดเชยเรื่องการทําลายเขตแดนอมตะโดยไม่ได้ตั้งใจ

 

ฟางหยวนพยักหน้า เขาต้องการใช้อิทธิพลของคนทั้งสองในทะเลตะวันออก

 

หลังจากตกลงกันเรียบร้อย ฟางหยวนก็บินจากไป

 

ต่อมาเขาหยุดอยู่ในก้อนเมฆก้อนหนึ่ง

 

ภายในก้อนเมฆ คฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังหนึ่งปรากฏขึ้น มนุษย์มังกรผู้หนึ่งเดินออกมา

 

ฟางหยวนและร่างแยกมนุษย์มังกรของเขาเผยรอยยิ้มให้กันและกัน

 

ในการเดินทางเพื่อยึดครองวังมังกรครั้งนี้ แม้พวกเขาจะพบอุปสรรคมากมาย แต่ท้ายที่สุดมันก็ไม่มีสิ่งเลวร้ายเกิดขึ้น ขณะที่กําไรที่ได้รับกลับมากกว่าที่คาดไว้

 

Reverend Insanity

Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบของวิญญาณซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา! Humans are the spirit of all living beings, Gu are the essence of heaven and earth. With his three views* unrighteous, a demon is reborn. Former days are but an old dream, an identical name is made anew. The story of a time traveller who keeps on being reborn. A unique world that nurtures, refines, and uses Gu. Spring Autumn Cicada, Moonlight Gu, Liquor Worm, Great Qi Golden Light Worm, Slender Black Hair Gu, Hope Gu… And a great demon of the world that acts as his heart pleases! A story of a villain, Fang Yuan who was reborn 500 years into the past with the Spring Autumn Cicada he painstakingly refined. With his profound wisdom, battle and life experiences, he seeks to overcome his foes with skill and wit! Ruthless and amoral, he has no need to hold back as he pursues his ultimate goals. In a world of cruelty where one cultivates using *Gu – magical creatures of the world – Fang Yuan must rise up above all with his own power. Notes : *Gu is a legendary venomous insect, often used in black magic practices. It can take on the form of several insects, usually snakes, crickets, worms etc. *Three views = one’s world view, values of worth, and philosophy on life.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset