เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1850 การจัดเตรียมในทะเลตะวันออก
ทะเลตะวันออก
ฐานทัพใหญ่ตระกูลเฉิน เกาะหมื่นนกกระจอกเทศสีม่วง
ผู้อาวุโสสูงสุดล่าดับที่หนึ่งของตระกูลเฉิน เฉินกงเจิ้งกล่าวด้วยความกระตือรือร้น “ผู้อาวุโสทะเลปราณ นี่คือ ชาหกเสียงของตระกูลเฉิน โปรดเพลิดเพลิน”
ฟางหยวนพยักหน้าขณะมองถ้วยชาที่อยู่ตรงหน้า
ชาหกเสียงคือชาที่มีชื่อเสียงของตระกูลเฉิน มันมีชื่อเสียงเหนือกว่าชาชิงฝูที่โด่งดังของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ ชาเงามังกรของนิกายท่าเรือหมุนมังกร หรือชาหอมเจ็ดของตระกูลฟางแห่งภาคใต้
ชาหกเสียงเป็นชาหกถ้วยที่แตกต่างกัน ฟางหยวนถือชาถ้วยแรกขึ้นมา มันเป็นชาที่กระจ่างใสราวกับท้องฟ้าไร้เมฆ ทั้งบริสุทธิ์และงดงาม
“เสียงต้นไม้แห่งฤดูใบไม่ร่วง” ฟางหยวนคิดกับตนเองขณะลิ้มลองมัน
ช่วงเวลาที่เขาดื่มมัน เขารู้สึกราวกับจิตใจถูกชําระล้างให้กระจ่างใสและสะอาดบริสุทธิ์
ราวกับร่างของเขากลายเป็นนกที่บินอยู่บนท้องฟ้าอย่างไร้กังวลในฤดูใบไม้ร่วง
หลังจากชั่วครู่ฟางหยวนก็ดื่มชาถ้วยที่สอง เสียงเมฆาล่อง
ชาถ้วยนี้ให้สัมผัสที่นุ่มละมุนเหมือนปุยฝ้าย มันละลายในปากและไหลลงคอเหมือนกระแสน้ําเย็น หลังจากมันลงไปถึงท้อง มันให้ความรู้สึกเหมือนหมอกบางๆลอยอยู่ขึ้นในลําคอ ปาก และทั่วร่าง
“ชาที่ดี” ฟางหยวนยกย่องและดื่มชาถ้วยที่สาม
ชาถ้วยนี้เรียกว่าแม่น้ําคร่ำครวญ
ชาถูกใส่ไว้ในถ้วยยาว ภายในถ้วยชามีระลอกคลื่นที่ดูเหมือนแม่น้ําสายเล็กๆ
ฟางหยวนดื่มชาและรู้สึกถึงความผันผวนของแม่น้ําที่ไหลลงสู่ทะเล
เสียงต้นไม้แห่งฤดูใบไม้ร่วง เสียงเมฆาล่อง เสียงแม่น้ําคร่ําครวญ เสียงพิณหยก เสียงวิหคร่าไห้ เสียงหัวเราะของชบา
ชาทั้งหกถ้วยมีเอกลักษณ์ของมันเอง แต่สิ่งที่น่าอัศจรรย์ที่สุดก็คือพวกมันสามารถเชื่อมโยงถึงกัน หลังจากฟางหยวนดื่มชาทั้งหกถ้วย ความรู้สึกที่ไม่สามารถอธิบายเข้าครอบงําประสาทสัมผัสทั้งห้าของเขา ในเวลาที่เขาฟื้นคืนสติ สองชั่วโมงก็ผ่านพ้นไปแล้ว
“ชาที่ดี ชาที่ดี” ฟางหยวนยกย่องอย่างไม่รู้สิ้นสุด “แม้ข้าจะใช้ชีวิตอยู่อย่างสันโดษ แต่ข้าเคยได้ยินชื่อเสียงของชาหกเสียง วันนี้ได้สัมผัสกับตัวเอง ช่างสมคําร่ําลือนัก”
เมื่อเห็นฟางหยวนพึงพอใจ เฉินกงเจิ้งรู้สึกมีความสุขมาก เขาหัวเราะ “เป็นเกียรติของตระกูลเฉินที่ได้รับคําชมจากผู้อาวุโสทะเลปราณ”
ชาหกเสียงผลิตจากทรัพยากรอมตะระดับแปด มีเพียงผู้อมตะที่ยิ่งใหญ่บนเส้นทางแห่งการหลอมรวมเท่านั้นที่สามารถผลิตมันขึ้นมา
นี่แสดงให้เห็นถึงความกระตือรือร้นในการต้อนรับบรรพชนทะเลปราณของเฉินกงเจิ้ง
หลังจากดื่มชา เฉินกงเจิ้งเชิญบรรพชนทะเลปราณไปเยี่ยมชมเกาะหมื่นนกกระจอกเทศสีม่วงของเขา
เกาะแห่งนี้เป็นแหล่งทรัพยากรขนาดยักษ์ มีนกกระจอกเทศสีม่วงซึ่งเป็นสัตว์อสูรเดียวดายอาศัยอยู่จํานวนนับไม่ถ้วน
ทะเลแห่งนี้สงบนิ่งราวกับกระจก ท้องฟ้ากระจ่างสดใสไร้เมฆ
เฉินกงเจิ้งต้อนรับบรรพชนทะเลปราณอย่างอบอุ่นด้วยตนเองเป็นเวลาสองวันเต็ม
ก่อนฟางหยวนจะออกเดินทาง เฉินกงเจิ้งยังมอบของขวัญให้เขาด้วยมือทั้งสองข้าง
มันเป็นของขวัญล้ําค่าที่หายาก เพื่อผูกมิตรกับบรรพชนทะเลปราณ เฉินกงเจิ้งลงทุนมากกว่าซ่งฉีหยวน
ก่อนฟางหยวนจะมาที่นี่ เขาไปเยี่ยมซ่งฉีหยวนที่ตระกูลซ่งมาแล้ว
“หลังการเดินทางสองครั้งนี้ ชื่อเสียงของข้าจะกระจายไปทั่วทะเลตะวันออก ไม่ มันควรกระจายไปทั่วทั้งห้าภูมิภาค” ฟางหยวนคิดกับตนเอง
บรรพชนทะเลปราณถูกกําหนดให้มีชื่อเสียง นี่เป็นเพราะการต่อสู้ระหว่างเขากับราชันมังกร
“ต่อไปข้าจะรอการตอบสนองของกองกําลังอื่น พวกเขาต้องเชิญข้าไปเยี่ยมอย่างแน่นอน” ฟางหยวนวางแผน
ในช่วงเวลานี้ร่างหลักของฟางหยวนไปร่วมงานเลี้ยงทุกที่
นี่คือสิ่งที่เขาต้องการ
ทะเลตะวันออกอุดมสมบูรณ์ที่สุดในห้ภูมิภาค สิ่งเดียวที่มันขาดคือผู้นําที่มองการณ์ไกล
ในชีวิตห้าร้อยปีของฟางหยวน ทะเลตะวันออกถูกภูมิภาคอื่นปราบปราม ในชีวิตก่อนหน้าแม้ผู้อมตะระดับแปดของทะเลตะวันออกจะร่วมมือกันโจมตีวงสวรรค์ แต่พวกเขาไม่เหมือนภาคใต้ที่มีรูหยงเป็นผู้นําที่น่าเกรงขาม
ภาคเหนือมีถ้ําสวรรค์นิรันดร
ภาคกลางมีวังสวรรค์
ทะเลตะวันออกคล้ายกับทะเลทรายตะวันตก แต่ผู้อมตะของทะเลทรายตะวันตกคุ้นเคยกับการทํางานร่วมกันมากกว่าเพราะที่นั่นมีทรัพยากรที่จํากัดและมีสภาพแวดล้อมที่โหดร้าย
ในความทรงจําของฟางหยวน ทะเลตะวันออกไม่เคยทําสิ่งที่โดดเด่น แม้กองกําลังของทะเลตะวันออกจะมีรากฐานที่ลึกซึ้ง กระทั่งผู้บ่มเพาะสันโดษของพวกเขาก็ยังร่ํารวยกว่าอีกสี่ภูมิภาค
แต่พวกเขาไม่มีความเป็นหนึ่งเดียว
จะเกิดสิ่งใดขึ้นหากผู้นําที่แข็งแกร่งปรากฏตัว? จะเกิดสิ่งใดขึ้นหากพวกเขากลายเป็นหนึ่งเดียว?
บุคคลเช่นบรรพชนทะเลปราณที่บ่มเพาะบนเส้นทางแห่งพลังปราณไม่มีความขัดแย้งกับกองกําลังของทะเลตะวันออกหรือผู้อมตะส่วนใหญ่ในแง่ของทรัพยากร เขามีพลังการต่อสู้ระดับเดียวกับราชันมังกร นี่เป็นรากฐานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขา
บรรพชนทะเลปราณจะประสบความสําเร็จในการเป็นผู้นําของทะเลตะวันออกหรือไม่?
แน่นอนว่าฟางหยวนไม่คาดหวังให้กองกําลังใหญ่ของทะเลตะวันออกเชื่อฟัง แต่การเป็นผู้นํากองกําลังพันธมิตรในนาม มันเป็นไปได้
เฉินกงเจิ้งและซ่งฉีหยวนเป็นคนฉลาด แล้วพวกเขาจะไม่คิดเรื่องนี้ได้อย่างไร? พวกเขาต้องการทําให้แน่ใจว่าเมื่อสงครามหาภูมิภาคเริ่มขึ้น บรรพชนทะเลปราณจะอยู่ข้างพวกเขาและคุ้มครองพวกเขา
แต่พวกเขาไม่รู้ว่าฟางหยวนต้องการสิ่งนี้เช่นกัน
แม้เขาจะเป็นเพียงผู้นําในนามและไม่สามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกิจการภายในของแต่ละกองกําลัง แต่ตราบเท่าที่เขามีอิทธิพลต่อโลกผู้อมตะของทะเลตะวันออก เป้าหมายของเขาก็ประสบความสําเร็จแล้ว
อย่าลืมว่าสีแม่ทัพมังกรเป็นผู้อมตะระดับแปดของทะเลตะวันออกเช่นกัน
ด้วยการสนับสนุนจากพวกเขาและสถานะของฟางหยวนในนามผู้นํากองกําลังพันธมิตร เขาจะมีอิทธิพลต่อกองกําลังของทะเลตะวันออกและสามารถนําคนเหล่านี้บุกโจมตีภาคกลางระหว่างการแข่งขันใหญ่บนเส้นทางแห่งการหลอมรวมของภาคกลาง
ผู้อมตะระดับแปดของทะเลตะวันออกต้องการผูกมิตรกับฟางหยวน นอกจากการแสดงออกที่เป็นมิตร พวกเขายังมอบของขวัญล้ําค่าให้เขาอีกด้วย
ในช่วงเวลาปกติ ด้วยความแข็งแกร่งของบรรพชนทะเลปราณ พวกเขาก็ต้องการผูกมิตรกับตัวตนเช่นนี้อยู่แล้ว ตอนนี้เมื่อโลกกําลังจะรวมเป็นหนึ่ง มันยิ่งจําเป็นสำหรับพวกเขา
วังมังกรเคลื่อนที่ลงไปใต้ทะเลลึก
มันเป็นทะเลที่ดูธรรมดามาก หลังจากวังมังกรรออยู่ชั่วครู่ เสียงของร่างแยกมนุษย์มังกรก็ดังออกมาจากภายใน “วังมังกรมาถึงแล้ว เผ่ากู้อยู่ที่ใด?”
เสียงของเขาดังไปทั่ว
ร่างแยกมนุษย์มังกรรออย่างอดทน หลังจากไม่นาน ทิวทัศน์ก็เปลี่ยนแปลงไป ทางเข้าแดนศักดิ์สิทธิ์ที่ซ่อนอยู่ถูกเปิดออก
ผู้อมตะระดับแปดปรากฏตัวขึ้นและมองวังมังกรด้วยความตื่นเต้น เขาป้องหมัดกล่าว “ข้าคือผู้นําเผ่ากู้ล่าดับที่สามหมื่นเก้าพันเจ็ดร้อยหกสิบเจ็ด ไม่ทราบว่าผู้ใดเป็นเจ้าของวังมังกรคนปัจจุบัน?”
ร่างแยกมนุษย์มังกรของฟางหยวนเดินออกมาจากวังมังกร “ข้าคืออู๋ส่วย”
ร่างของผู้นําเผ่าก์สั่นสะท้านขึ้น เขาถาม “ท่านมีความสัมพันธ์ใดกับฟางหยวน?”
ร่างแยกมนุษย์มังกรหัวเราะ “เราร่วมมือกัน หากปราศจากความช่วยเหลือจากฟางหยวน ข้าจะฟื้นคืนชีพได้อย่างไร?”
ผู้นําเผ่ากู้พยักหน้า เขาไม่แปลกใจ
ข่าวเกี่ยวกับราชันมังกร ฟางหยวน รวมถึงการต่อสู้ระหว่างบรรพชนทะเลปราณกับราชันมังกรกระจายออกไปแล้ว
ร่างแยกมนุษย์มังกรแสดงออกอย่างจริงจัง “โลกกําลังเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ช่วงเวลาสําคัญกําลังจะมาถึง ผู้นําเผ่ากู้ เผ่าของเจ้ายังรักษาข้อตกลงจากหนึ่งล้านปีก่อนของเราอยู่หรือไม่?”
ผู้นําเผ่ากู้ยิ้ม เขารีบตอบ “เราต้องหารือเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างลึกซึ้ง ผู้อาวุโสอู๋ส่วย โปรดตามข้ามา”
หลังกล่าวจบคําเขาก็เปิดทางให้อู๋ส่วย