เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1882 ท้าทาย
“ค่ายกลส่วนที่สามเรียบร้อยแล้ว” กลุ่มผู้อมตะทํางานของพวกเขาเสร็จสิ้นและนั่งลงพักผ่อนอยู่ในคฤหาสน์วิญญาณอมตะ
ผู้อมตะกลุ่มที่สองเข้าแทนที่และเพิ่มวิญญาณอมตะกําหราบระดับแปดเข้าไป
ที่นี่คือสายธารแห่งกาลเวลา มันไม่ง่ายที่จะใช้วิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งกฎ แต่วิญญาณอมตะกําหราบระดับแปดเป็นหนึ่งในแกนกลางสําคัญของมันที่ไม่สามารถขาดหาย
ผู้อมตะกลุ่มที่สองทํางานสักพักก่อนที่กลุ่มแรกจะกลับมาทํางานในขั้นตอนต่อไป
“ดี หลังจากนี้พวกเราจะจัดตั้งค่ายกลเพลิงซีด” กลุ่มที่สามเข้ามารับช่วงต่อ
ผู้อมตะกลุ่มแรกที่หมดแรงรีบกลับไปพักผ่อน
“หลังจากค่ายกลเพลิงซีด เราจะสร้างค่ายกลกรุงกระดาษ ไปกันเถอะ” ผู้อมตะกลุ่มที่สองกลับมาประจาตำแหน่ง
ค่ายกลวิญญาณอมตะผนึกบัวหินประกอบด้วยค่ายกลวิญญาณย่อยสามสิบแปดค่ายกล
“ระวัง มีบางสิ่งเกิดขึ้นในสายธารแห่งกาลเวลา คลื่นยักษ์กําลังพุ่งเข้ามาหาพวกเรา!” บางคนเตือน
ตอนนี้ผู้อมตะกลุ่มแรกกําลังพักผ่อน กลุ่มที่สองและสามกําลังยุ่งอยู่กับการจัดตั้งค่ายกล กลุ่มที่สี่พยายามควบคุมสถานการณ์ฉุกเฉิน
เพื่อสร้างค่ายกลวิญญาณอมตะผนึกบัวหิน ผู้อมตะของวังสวรรค์แบ่งออกเป็นสี่กลุ่มเพื่อรับผิดชอบหน้าที่ต่างๆ
กลุ่มที่สี่เร่งท่าลายคลื่นยักษ์
กลุ่มที่สองและกลุ่มที่สามถอนหายใจด้วยความโล่งอก หลังจากตรวจสอบและพบว่าค่ายกลวิญญาณอมตะไม่ได้รับความเสียหาย พวกขาจึงดําเนินการขั้นตอนต่อไป
กู้หลิวรู่และฟงจิวเก้อประจําการอยู่ในโรงละครแห่งความทรงจําและวิหารอดีตปัจจุบันตามลําดับ
เราพบเกาะบัวหินแล้ว มีความโกลาหลเกิดขึ้นเล็กน้อยขณะที่พวกเราพยายามสร้างค่ายกลวิญญาณอมตะ ตอนนี้ฟางหยวนอาจได้รับข้อมูลแล้ว
เขาจะมาที่นี้อย่างแน่นอน
ค่ายกลวิญญาณอมตะผนึกบัวหินยังไม่เสร็จ ตอนนี้เราอยู่ในจุดอ่อนไหวที่สุด ฟางหยวนอาจโจมตีพวกเราในจังหวะนี้
“นี่เป็นภารกิจสําคัญ ข้าต้องลบล้างความผิดของข้า ข้าไม่สามารถปล่อยให้ฟางหยวนประสบความสําเร็จ!”
กู้หลิวรู่คิดขณะที่แสงสีเงินปรากฏขึ้นจากระยะไกลและทําให้เขารู้สึกตึงเครียดทันที
รังกระเรียนใบไม้ร่วงและฉลาดล่องคลื่นเปลี่ยนเร่งทิศทาง ทั้งสองพยายามขัดขวางผู้บุกรุก
มันคือเรือรบหมื่นปี!
“หลิวรู่ วังสวรรค์ของเจ้าต้องการฉกชิงมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดงไปจากใต้จมูกของข้างั้นหรือ? ฮ่าฮ่าฮ่า ฝันไปเถอะ!” เสียงของฟางหยวนดังขึ้นจากเรือรบหมื่นปี
กู้หลิวรู่ก่นเสียงเย็น เสียงของเขาดังไปทั่วสนามรบ “ฟางหยวน เจ้าเป็นเพียงผู้แพ้ที่น่าสมเพช บทเรียนที่เจ็บปวดครั้งก่อนยังไม่เพียงพอสําหรับเจ้างั้นหรือ?”
กู้หลิวรู่เป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลา ในสายธารแห่งกาลเวลา เขาเหมือนปลาในน้ํา หากเป็นผู้อมตะบนเส้นทางสายอื่น พวกเขาต้องใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อถ่ายทอดเสียงของพวกเขาไปทั่วสนามรบ
“ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าอยู่ที่นี่ อย่าคิดว่าจะสามารถจัดตั้งค่ายกลวิญญาณอมตะ” ก่อนที่ฟางหยวนจะกล่าวจบ เรือรบหมื่นปีก็ปล่อยแสงสีเงินออกมาแล้ว
แสงสีเงินควบรวมเป็นดาบจํานวนนับไม่ถ้วนพุ่งไปยังค่ายกลวิญญาณอมตะผนึกบัวหินที่ไม่สมบูรณ์
การแสดงออกของหลิวรู่กลายเป็นมืดครึ้ม เขารู้สึกปวดหัว ค่ายกลวิญญาณอมตะผนึกบัวหินเป็นจุดอ่อนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของวังสวรรค์ในเวลานี้
ฟางหยวนโจมตีจุดอ่อนของศัตรูอย่างโหดเหี้ยม วังสวรรค์ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องปกป้องมัน
ครั้งล่าสุดเมื่อฟางหยวนโจมตีค่ายกลวิญญาณอมตะผนึกบัวหิน วังสวรรค์สามารถรื้อถอนมันได้สําเร็จ แต่ครั้งนี้การคงอยู่ของเกาะบัวหินทําให้พวกเขาไม่สามารถเก็บมัน พวกเขาต้องรักษามันไว้แม้ต้องจ่ายด้วยราคามหาศาลก็ตาม
“บึม บึม บึม!”
รังกระเรียนใบไม้ร่วงมาถึงก่อน มันต่อสู้กับเรือรบหมื่นปีและทําให้สายธารแห่งกาลเวลาเกิดความปั่นป่วน
ฉลามล่องคลื่นตามมาหลังจากไม่นาน
คฤหาสน์วิญญาณอมตะสามหลังต่อสู้กันอย่างดุเดือดในสายธารแห่งกาลเวลา ขณะที่ทะเลตะวันออกเป็นฉากที่สนุกสนานและสงบสุข
หลังจากฮัวช่ายหยุน ผู้อมตะของกองกําลังใหญ่อื่นๆก็ตามมาไม่ว่าจะเป็นตระกูลซ่ง ตระกูลช่ายหรือตระกูลซู
คนจากตระกูลซ่งคือซ่งฉีหยวน เขามาร่วมงานเลี้ยงพร้อมกับซ่งอี้ซื่อ
“นี่คือหลานสาวของข้า ซ่งอี้ซื่อ หลังจากได้ยินเรื่องราวของผู้อาวุโส นางรู้สึกตื่นเต้นมาก นางขอให้ข้าพานางมาที่นี่เพื่อพบกับผู้อาวุโส” ซ่งฉีหยวนแนะน่าหลานสาวของเขา
ซ่งอี้ซื่อสูญเสียบิดาไปนานแล้ว ในฐานะปู่ ซึ่งฉีหยวนจึงทุ่มเทความรักให้กับนาง สําหรับงานเลี้ยงครั้งนี้ เขาพานางมาเพื่อให้นางสร้างความประทับให้กับผู้คน
“ผู้เยาว์คารวะบรรพชนทะเลปราณ” ซ่งอี้ซื่อทําความเคารพด้วยท่าทางอ่อนน้อม
นางมีผิวสีขาวราวหิมะ ดวงตาส่องประกายสดใส นางสวมชุดสีฟ้าขาวและดูไร้เดียงสา นางเป็นหนึ่งในหก เทพธิดาที่งดงามที่สุดของทะเลตะวันออก
คล้ายกับฮัวช่ายหยุน ซ่งฉีหยวนนําของขวัญมาด้วย มันเป็นมรดกบนเส้นทางแห่งพลังปราณที่ตระกูลซ่ง รวบรวมไว้ในคลังสมบัติของพวกเขามานานแล้ว มันมาจากผู้อมตะระดับแปดที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์ หลังจากฟางหยวนมองมัน เขาพบว่ามันค่อนข้างพิเศษและมีค่าไม่น้อย
ฟางหยวนมองซ่งอี้ซื่อด้วยรอยยิ้ม “ตระกูลซึ่งมีทายาทที่ดี เด็กน้อย นี่เป็นการพบกันครั้งแรกของเรา ข้าจะไม่ให้เจ้ากลับไปมือเปล่า”
หลังกล่าวจบคํา เขาก็นําทรัพยากรอมตะระดับแปดบนเส้นทางแห่งวารออกมาและส่งมันให้กับซ่งอี้ซื่อ
ซ่งอี้ซื่อได้รับการอบรมเลี้ยงดูมาเป็นอย่างดี นางรับของขวัญเอาไว้และเร่งขอบคุณอย่างรวดเร็ว
“เชิญนั่ง” ฟางหยวนโบกมือสร้างเก้าอี้เมฆขึ้นด้านข้างทางซ้ายมือของเขา
ซ่งฉีหยวนเห็นตําแหน่งนี้และรู้สึกมีความสุขมาก เขารีบพาซ่งอี้ซื่อไปยังเก้าอี้เมฆและนั่งลงทันที
ซ่งอี้ซื่อเก็บทรัพยากรอมตะระดับแปดบนเส้นทางแห่งวารีไว้ในมิติช่องว่างของนาง การแสดงออกของนาง ทั้งสุภาพและสง่างามคู่ควรกับตําแหน่งหญิงงามของทะเลตะวันออก
ฮัวช่วยหยุนหัวเราะ “ซ่งฉีหยวน นี่เป็นของขวัญชิ้นแรกที่บรรพชนทะเลปราณมอบให้ หากข้ารู้เรื่องนี้ ข้าจ พาหลานชายของข้ามาด้วย”
นางมาถึงเป็นคนแรก นางพูดคุยกับฟางหยวนมาระยะหนึ่งแล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองใกล้ชิดกันมากขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว
ซึ่งฉีหยวนหัวเราะ เขาลอบภูมิใจกับเรื่องนี้ การนําซ่งอี้ซื่อมาที่นี่เป็นการตัดสินใจที่ฉลาดจริงๆ
นี่เป็นครั้งแรกที่ซ่งอี้ซื่อได้พบบรรพชนทะเลปราณ นางคิด ผู้อาวุโสท่านนี้เป็นตัวตนอันดับหนึ่งของทะเลตะวันออกอย่างแท้จริง เขาสามารถต่อสู้กับราชันมังกรได้อย่างเท่าเทียม การแสดงออกและกลิ่นอายของเขายิ่งใหญ่และทรงพลังมาก
หากนางรู้ว่าคนผู้นี้คือฟางหยวนซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นซิงเซียงชื่อที่ลอบมองนางอาบน้ํา นางจะคิดอย่างไร
“ชิงเย่อันคารวะบรรพชนทะเลปราณ” ชิงเย่อันเป็นผู้อมตะระดับแปดคนที่สามของทะเลตะวันออกที่มาถึง
“ผู้เยาว์ชิงเจอเฉิงคารวะบรรพชนทะเลปราณ” เด็กหนุ่มในชุดสีเขียวที่ดูอ่อนเยาว์และหล่อเหลาติดตามมาด้านหลังซึ่งเย่อัน
“ดี” ฟางหยวนชมเชยและประเมินชิงเจอเฉิง “ผู้เยาว์ที่ดีอีกคน ข้ามีของขวัญให้เจ้าเช่นกัน”
เขามอบทรัพยากรอมตะระดับแปดให้ชิงเงื่อเฉิงเช่นเดียวกับซ่งอี้ซื่อ
ฮัวช่ายหยุนเห็นเหตุการณ์นี้และคิดกับตนเอง บรรพชนทะเลปราณผู้นี้ดูเหมือนจะมีความสุขกับการสนับสนุนผู้เยาว์ที่มีความสามารถ เขามีบุคลิกของผู้ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง
เป็นเพียงเวลานี้ที่ผู้อมตะของตระกูลหนานกงมาถึง การแสดงออกของฮัวช่วยหยุนมืดครึ้มลงทันที
นี่เป็นเพราะผู้อาวุโสสูงสุดล่าดับที่หนึ่งของตระกูลหนานกงน่าฮัวอันมาด้วย
ฮัวอันเคยเป็นผู้อมตะของตระกูลฮัว แต่เขาทรยศตระกูลฮัวและเข้าร่วมกับตระกูลหนานกง เขาป็นหนึ่งในสามผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาที่ยอดเยี่ยมที่สุดของทะเลตะวันออก
มีคํากล่าวที่ว่าเจียต้นนั่งอยู่บนหน้าผา ฮัวอันซ่อนหัวอยู่ในหนานกง เต่ามังกรอาศัยอยู่ในทะเลคลั่ง
แม้ฮัวช่ายหยุนจะไม่มีความสุข แต่นางก็ไม่สามารถกล่าวสิ่งใดออกมา นี่คืองานเลี้ยงของบรรพชนทะเลปราณ นางต้องการสร้างสายสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อมตะระดับแปดอันดับหนึ่งของทะเลตะวันออกผู้นี้ ดังนั้นนางจึงต้องอดทน
ผู้อมตะฝ่ายธรรมะของทะเลตะวันออกมาถึงทีละคน
คนสุดท้ายที่มาคือผู้อาวุโสสูงสุดของวังเงือกศักดิ์สิทธิ์
ฟางหยวนกล่าวทักทายขณะที่เขาจัดให้นางนั่งในตําแหน่งสุดท้าย
หลังจากผู้อาวุโสสูงสุดของวังเงือกศักดิ์สิทธิ์นั่งลง นางลอบถอนหายใจกับตนเอง แม้นจะเป็นครั้งแรกที่นางได้พบกับบรรพชนทะเลปราณ แต่ทัศนคติของเขาที่มีต่อมนุษย์เงือกค่อนข้างดีนี่เป็นเรื่องปกติ
มนุษย์เงือกร่วมมือกับมนุษย์มังกร พวกเขาย่อมเป็นพันธมิตรของฟางหยวนโดยธรรมชาติ
ฟางหยวนจะไม่ทําให้นางพบกับความยากลำบาก
เมื่อเห็นทัศนคติของบรรพชนทะเลปราณที่มีต่อผู้อาวุโสสูงสุดของวังเงือกศักดิ์สิทธิ์ กลุ่มผู้อมตะฝ่ายธรรมะของทะเลตะวันออกต่างตกอยู่ในภวังค์แห่งความคิด
สายธารแห่งกาลเวลา
ท่าไม้ตายอมตะดาบรุ่งอรุณ!
ดาบแสงสีเงินราวกับกองทัพอสรพิษพุ่งผ่านสนามรบและโจมตีรังกระเรียนใบไม้ร่วง
รังกระเรียนใบไม้ร่วงปลดปล่อยแสงสีส้มออกมาและทําให้ดาบสีเงินอ่อนกําลังลงอย่างต่อเนื่อง
อีกด้านหนึ่งฉลามล่องคลื่นยิ่งคลื่นน้ําแข็งออกไปทําให้สายธารแห่งกาลเวลาที่อยู่รอบๆเรือรบหมื่นปีกลายเป็นน้ําแข็ง
ฟางหยวนก่นเสียงเย็นเย้ยหยัน
ท่าไม้ตายอมตะคลื่นน้ําไหลเชี่ยว!
เรือรบหมื่นปีพุ่งทะยานเข้าไปหาค่ายกลวิญญาณอมตะผนึกบัวหินราวกับอุกกาบาต
“บึม!”
โรงละครแห่งความทรงจําเร่งเข้ามากีดขวางเรือรบหมื่นปี คฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดสองหลังพุ่งชนกันโดยตรง
โรงละครแห่งความทรงจําได้รับความเสียหายเล็กน้อยขณะที่เรือรบหมื่นปีถูกบังคับให้หยุดเคลื่อนที่
ในจังหวะนี้รังกระเรียนใบไม้ร่วงและฉลามล่องคลื่นรบตามเข้ามาปิดล้อมเรือรบหมื่นปี
วังสวรรค์มีรากฐานที่ลึกล้ํา พวกเขาเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี
เรือรบหมื่นปีเข้าสู่การต่อสู้มาหลายครั้ง วิธีการของมันถูกเปิดเผยแล้ว ตอนนี้มันไม่สามารถทําสิ่งใดได้มากนัก
หลังจากชั่วครู่คฤหาสน์วิญญาณอมตะอีกสองหลังก็ตามเข้ามาเสริมกําลังให้กับฝ่ายของวังสวรรค์
หนึ่งคือนาวานิรันดร์ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของซิงเย่หวัง อีกหนึ่งคือวิหารสุริยันจันทราที่อยู่ในการควบคุมของเทพธิดาเก่าวิญญาณ
กําลังเสริมของวังสวรรค์มาถึงแล้ว!
ด้วยคฤหาสน์วิญญาณอมตะหกหลัง ขวัญกําลังใจของผู้อมตะวังสวรรค์พุ่งสูงขึ้นทันที
ทะเลตะวันออก
ในงานเลี้ยงของบรรพชนทะเลปราณ สุราและอาหารเลิศรสมากมายถูกนําออกมา
ในที่สุดมันก็ถึงเวลาที่บรรพชนทะเลปราณต้องยกถ้วยสุราของเขาขึ้นและประกาศเริ่มต้นงานเลี้ยง
อย่างไรก็ตามในจังหวะนี้เสียงสายหนึ่งกลับดังขึ้น “เจ้าสมุทรจิตวิญญาณสีดําขอท้าประลองกับบรรพชนทะเลปราณ!”
ต่อมากลิ่นอายระดับแปดก็แผ่พุ่งเข้ามาปกคลุมพื้นที่จัดงานเลี้ยงเอาไว้ทั้งหมด
กลุ่มผู้อมตะของทะเลตะวันออกตกตะลึงก่อนที่ดวงตาของพวกเขาจะส่องประกายขึ้น
ผู้อมตะระดับแปดบางคนของทะเลตะวันออกกําลังท้าทายบรรพชนทะเลปราณ!