เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1125 ฆ่ามากขึ้น
แปลโดย iPAT
เหตุใดปู่ของนางจึงสังหารเฉินหว่านหยุน?
เฉินเล่อไม่เข้าใจและไม่สามารถหาคำตอบ
นางสะอื้นไห้แต่ทันใดนั้นนางพลันนึกถึงเฉินหลี่จื่อ ปู่ของนางจะสังหารเขาด้วยหรือไม่?
นี่เป็นการอนุมานอย่างง่ายๆ
ไม่ว่าอย่างไรนางก็ต้องไปหาเฉินหลี่จื่อและเล่าเรื่องนี้ให้เขาฟัง!
ในช่วงเวลาสำคัญเฉินเล่อไม่ได้คิดถึงไห่เจิ้งแต่นึกถึงสมาชิกในครอบครัวที่ใกล้ชิดมากที่สุด
เฉินเล่อตระหนักว่านางต้องทำบางสิ่ง นางหยุดร้องไห้และกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะเร้นกายก่อนจะวิ่งไปที่วังของเฉินหลี่จื่อ
แต่ฟางหยวนไม่ได้ไปที่วังของเฉินหลี่จื่ออย่างที่เฉินเล่อคิด
ฟางหยวนกำจัดเฉินหลี่จื่อไปแล้ว คนสุดท้ายที่เขาต้องไปหาคือเฉินเล่อ
ครู่ต่อมาเฉินเล่อก็มาถึงวังของเฉินหลี่จื่อ
“เหตุใดมันจึงว่างเปล่า?” เฉินเล่อค้นหาแต่ไม่พบเฉินหลี่จื่อ
แน่นอนว่านางเห็นผู้ใช้วิญญาณมากมาย
แต่เฉินเล่อไม่ได้แจ้งเตือนพวกเขา แม้นางจะบอกข่าวที่น่าตกใจนี้ พวกเขาก็อาจไม่เชื่อนาง
ในห้องโถงที่ว่างเปล่า ความหวาดกลัวเกาะกุมหัวใจของเฉินเล่ออีกครั้ง
เฉินไคสังหารเฉินหว่านหยุน เฉินหลี่จื่อหายตัวไป เป็นไปได้ว่าเขาพบเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเช่นเดียวกัน
เฉินเล่อไม่สามารถกลั้นน้ำตาเอาไว้ได้
“ข้าควรทำอย่างไร? โอ้ ไม่! นายน้อยไห่เจิ้ง!” ในที่สุดนางก็นึกถึงฟางหยวน
นางรู้สึกว่าในเวลานี้คนที่นางสามารถเชื่อถือได้มากที่สุดก็คือไห่เจิ้ง
นางหันกลับไปยังที่พักของไห่เจิ้ง
แทบจะในเวลาเดียวกัน ฟางหยวนมาถึงวังของเฉินเล่อ
ไม่มีผู้ใดอยู่ที่นี่
“แปลก เวลานี้นางจะไปที่ใด?” หัวใจของฟางหยวนจมดิ่งลง
สถานการณ์ไม่เป็นไปตามความคาดหมายของเขา
ฟางหยวนเงยหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้า
เขายิ้มก่อนจะกลับไปยังที่พักของตนเอง
เฉินเล่อจะไปที่ใดได้บ้าง?
มีเพียงไม่กี่แห่งเท่านั้น
ผู้อมตะกับผู้ใช้วิญญาณไม่มีหัวข้อที่น่าสนใจต้องพูดคุยกันมากนัก
กลับไปที่พักของเขา ฟางหยวนเปลี่ยนร่างเป็นไห่เจิ้งและรอให้เฉินเล่อมาหา
แต่ในเวลานี้พุสัญญาณกลับถูกยิ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า
‘นี่คือสิ่งที่เฉินเล่อเคยกล่าวถึงก่อนหน้านี้…มันเป็นการแจ้งเตือนและขอความช่วยเหลือจากผู้อมตะคนอื่นๆ’ ฟางหยวนขมวดคิ้วทันที
หลายวันที่ผ่านมาเขาได้รับข้อมูลมากมายจากเฉินเล่อ
หากพวกเขาต้องการความช่วยเหลือจากผู้อมตะคนอื่นๆ พวกเขาต้องจ่ายค่าตอบแทนในภายหลัง
‘เมื่อผู้อมตะในถ้ำสวรรค์เพิ่มจำนวนขึ้น พวกเขาก็แข็งแกร่งขึ้น พุสัญญาณนี้ไม่ได้ถูกใช้มานานนับร้อยปี ครั้งนี้เฉินเล่อต้องเป็นคนส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ ดูเหมือนข้าจะประเมินหญิงผู้นี้ต่ำเกินไป นางสามารถรับมือกับสถานการณ์ได้เป็นอย่างดี’ ฟางหยวนยิ้ม
เขาเตรียมตัวมาอย่างเพียงพอแล้ว
เขากำจัดไปสามคนและเหลือเพียงเฉินเล่อ พุสัญญาณชัดเจนว่าเป็นฝีมือของนาง
เหตุใดเฉินเล่อจึงทำสิ่งนี้โดยไม่มาพบฟางหยวน?
เห็นได้ชัดว่านางพบการเสียชีวิตของบางคนแล้ว
ไม่ว่านางจะซ่อนตัวอยู่ที่ไหนหรือมีวิธีการใด เมื่อนางไม่มาหาไห่เจิ้ง นั่นก็หมายความว่านางสงสัยในตัวเขา
หลังจากนี้กลุ่มผู้อมตะจะมาที่นี่ แล้วฟางหยวนจะจัดการพวกเขาอย่างไร?
แท้จริงแล้วก่อนหน้านี้เฉินเล่อกำลังจะมาพบไห่เจิ้ง แต่นางกลับฉุดคิดว่าบางทีไห่เจิ้งอาจไม่สามารถเอาชนะเฉินไค
‘ข้าต้องคิดวิธีที่ดีที่สุด!’ เฉินเล่อไตร่ตรองและเลือกส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ
พุสัญญาณค่อยๆเลือนหายไปอย่างช้าๆ
‘ท่านปู่จะเห็นพุสัญญาณนี้หรือไม่?’ เฉินเล่อคิดและรู้สึกหวาดกลัวอีกครั้ง
นางกัดฟันและตัดสินใจไปหาฟางหยวน
ตั้งแต่ต้นจนจบนางไม่มีข้อสงสัยเลยว่าฟางหยวนคืออาชญกรตัวจริง
เมื่อพุสัญญาณส่องประกายขึ้น กลุ่มผู้อมตะทั้งหมดก็ตอบสนอง
“เกิดสิ่งใดขึ้น เหตุใดเฉินไคจึงส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ?” เฟิงจุนขมวดคิ้วลึก
โจวหมิงสงสัยเช่นกัน “เรื่องนี้ค่อนข้างแปลก กลุ่มของเฉินไคมีผู้อมตะสี่คน พวกเขาแข็งแกร่งที่สุดในถ้ำสวรรค์แห่งนี้ แล้วเหตุใดเขาจึงต้องขอความช่วยเหลือจากพวกเรา?”
“พวกเจ้าคิดว่าเรื่องนี้เกี่ยวกับไห่เจิ้งหรือไม่?” เฉิงเทาคิดก่อนกล่าว
“นั่นเป็นไปได้มากที่สุด” เฟิงจุนพยักหน้า “พุสัญญาณนี้ไม่ได้ใช้มานับร้อยปี แต่มันกลับถูกใช้ในช่วงเวลาที่ไห่เจิ้งไปอยู่ที่บ้านของเฉินไค”
“เฉินไคต้องให้การสนับสนุนไห่เจิ้งอย่างแน่นอนขณะที่ไห่เจิ้งต้องจ่ายด้วยราคาที่เหมาะสม” เฉิงเทาคิดในแง่ดี “บางทีพวกเขาอาจถูกโจมตีโดยสัตว์อสูรบรรพกาลหรือบางทีเฉินไคอาจพยายามจับกุมพวกมัน อย่างไรก็ตามพวกเราต้องไปและตรวจสอบสถานการณ์”
“ถูกต้อง พวกเรามีท่าไม้ตายแสงสีเลือด อีกไม่นานพวกเราจะสามารถกำหราบจิตวิญญาณสวรรค์และรับสืบทอดมรดกที่แท้จริง ตอนนี้พวกเราต้องยื้อเวลาไว้ให้ได้นานที่สุด แต่เราก็ต้องระวังว่าอีกฝ่ายจะวางแผนต่อต้านพวกเรา อีกไม่กี่วันถ้ำสวรรค์ไห่ฟานต้องเป็นของพวกเรา!” เฟิงจุนตะโกน
ทั้งสามออกเดินทางไปที่วังของเฉินไคทันที
ในเวลาเดียวกันผู้อมตะอีกสองคนก็ไปที่นั่นด้วย
ถ้ำสวรรค์ไห่ฟานไม่เล็กแต่ผู้อมตะเหล่านี้อาศัยอยู่ใกล้กัน
และเนื่องจากผู้อมตะทั้งหมดใช้ท่าไม้ตายอมตะโดยไม่สนค่าใช้จ่าย เพียงไม่นานพวกเขาก็ไปถึงครึ่งทาง
ในเวลานี้ร่างหนึ่งปรากฏตัวต่อหน้าผู้อมตะทั้งสาม
“เฉินเล่อ!” โจวหมิงเป็นคนแรกที่จำคนผู้นี้ได้
ร่างของเฉินเล่อที่อาบไปด้วยเลือดแสดงออกด้วยความตกใจราวกับนางกำลังหลบหนีจากความตาย
ผู้อมตะทั้งสามมองหน้ากัน
สัตว์อสูรบรรพกาลโจมตีงั้นหรือ?
“เฉินเล่อ สงบจิตใจลงก่อน เราอยู่ที่นี่แล้ว เกิดสิ่งใดขึ้น?” เฉิงเทาตะโกน
เฉินเล่อทั้งดีใจและประหลาดใจที่เห็นผู้อมตะทั้งสาม “ผู้อาวุโส! ดีใจที่ได้พบพวกท่าน ไห่เจิ้งผู้นั้นเป็นคนชั่ว หลังจากล้มเหลวในการเจรจากับท่านปู่ เขาใช้วิธีลอบโจมตีและสังหารพี่หญิงหว่านหยุนของข้า! ข้าส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือและหลบหนีมา แต่ไห่เจิ้งยังไล่ล่าข้า โชคดีที่ข้ามีท่าไม้ตายอมตะเร้นกายและสามารถเอาชีวิตรอดมาได้!”
“อันใด!?” ผู้อมตะทั้งสามตกใจมาก
“ไห่เจิ้งช่างกล้าหาญนัก!”
“เขากล้าโจมตีผู้อาวุโสเฉินไค หลังจากนี้เขาต้องโจมตีพวกเราเช่นกัน!”
“แปลก เขาต้องการรับสืบทอดมรดกที่แท้จริงของบรรพชนไห่ฟาน โดยปราศจากการสนับสนุนจากพวกเรา เขาจะรับมรดกได้อย่างไร?”
“ชีวิตแลกชีวิต เราต้องกำจัดไห่เจิ้งเพื่อผดุงความยุติธรรม!”
“เพื่อความปลอดภัย เราต้องไปรวมตัวกับผู้อมตะคนอื่นๆ เฉินเล่ออย่ากังวล เราเป็นครอบครัว เราจะรักษาความยุติธรรมให้กับเจ้าอย่างแน่นอน!”
“ความยุติธรรม?” เฉินเล่อยิ้มและโจมตีทันที
ภายใต้การจ้องมองของผู้อมตะทั้งสาม แสงดาบพุ่งทะลวงร่างของเฉิงเทา
เฉิงเทาถูกโจมตีโดยไม่รู้ตัว แม้เขาจะมีท่าไม้ตายอมตะสายป้องกัน แต่เขาก็ไม่มีเวลากระตุ้นใช้งานมันขณะที่ท่าไม้ตายอมตะลอบสังหารในความมืดเป็นท่าไม้ตายระดับเจ็ด
ร่างของเฉิงเทาขาดครึ่ง!
เขาเสียชีวิต ณ จุดเกิดเหตุ!
“ท่านพี่!” โจวหมิงตะโกน
เฟิงจุนโกรธมาก เขาปรบมือและส่งสายลมพุ่งเข้าโจมตีฟางหยวนทันที
“ท่านพี่!” โจวหมิงร้องไห้เมื่อเห็นอวัยวะภายในและเลือดพุ่งออกมาจากร่างของเฉิงเทา
เฟิงจุนลากดึงโจวหมิงให้ล่าถอยออกไป
“เฉินเล่อ เจ้าบ้าไปแล้ว! เจ้ากล้าสังหารพี่เฉิงเทา ข้าจะสู้กับเจ้า” โจวหมิงคำราม ใบหน้าที่เคยงดงามของนางกลายเป็นแดงก่ำ “ข้าจะฆ่าเจ้า!”
“ฆ่าข้า?” เฉินเล่อหยุดเคลื่อนไหวและเผยรอยยิ้มเย้ยหยัน “เพียงเจ้า?”
โจวหมิงโกรธมาก นางพยายามดิ้นรนอย่างหนักเพื่อให้หลุดจากอ้อมแขนของเฟิงจุน “ปล่อยข้า หญิงเลวผู้นี้ฆ่าพี่ใหญ่ของเรา! นางฆ่าเขา! ข้าจะตัดศีรษะของนางออกมาเป็นเครื่องเซ่นไหว้พี่ใหญ่ของเรา!”
“ใจเย็น! อย่าตกหลุมพราง เจ้าไม่รู้จักเฉินเล่องั้นหรือ? ก่อนหน้านี้มันคือท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งดาบ นี่ไม่ใช่เฉินเล่อ!” เฟิงจุนตะโกนและมองเฉินเล่อด้วยสายตาแห่งความเกลียดชัง
“ดูเหมือนบางคนที่นี่จะมีสมองอยู่บ้าง” เฉินเล่อยิ้มก่อนจะเปลี่ยนรูปลักษณ์เป็นไห่เจิ้ง
“เจ้าคือไห่เจิ้ง!” ร่างของเฟิงจุนสั่นสะท้านขึ้น
“คนชั่ว!” โจวหมิงคำราม
‘จากการแสดงออกของพวกเขา ดูเหมือนเฉินเล่อจะไม่ได้ใช้วิธีบนเส้นทางแห่งข้อมูลเพื่อแจ้งข่าว?’ ฟางหยวนรู้สึกสับสนเล็กน้อย
เขาไม่รู้ว่าตั้งแต่ต้นจนจบเฉินเล่อไม่เคยสงสัยในตัวเขา
ก่อนหน้านี้ฟางหยวนกลับไปที่ห้องพักของเขา แต่หลังจากเห็นพุสัญญาณ เขาคิดว่าตนเองถูกเปิดโปงแล้ว ดังนั้นเขาจึงเปลี่ยนกลยุทธ์และออกมากำจัดศัตรู
เนื่องจากสมาชิกฝ่ายเฉินไคเสียชีวิตไปแล้วสามคน ฟางหยวนจึงเปลี่ยนเป้าหมายเป็นสามพี่น้องร่วมสาบาน
ด้วยเหตุนี้เขาจึงเปลี่ยนรูปลักษณ์เป็นเฉินเล่อและบินมาหาพวกเขา
สุดท้ายเขาพบผู้อมตะทั้งสามระหว่างทางและฉวยโอกาสลอบสังหารผู้อมตะบนเส้นทางแห่งเลือดเฉิงเทาที่เป็นภัยคุกคามมากที่สุด
ในเวลาเดียวกันเฉินเล่อไปที่ห้องของฟางหวน เมื่อไม่พบเขา นางรู้สึกผิดหวังและกังวลมาก
นางไม่รู้ว่าตนเองรอดชีวิตมาได้อย่างฉิวเฉียดเพราะเหตุบังเอิญ
‘ข้าไม่ได้คาดหวังกับความพยายามในการลอบสังหาร แต่กระบวนการนี้ราบรื่นอย่างไม่คาดคิด ผู้อมตะในถ้ำสวรรค์ไห่ฟานใช้ชีวิตอย่างสงบสุขมานานเกินไป นี่ทำให้พวกเขาลดความระวังตัวลง อย่างไรก็ตามตอนนี้ข้าต้องกำจัดสองคนนี้เป็นอันดับแรก’
ฟางหยวนคิดเรื่องต่างๆมากมายแต่มันเป็นเวลาเพียงเสี้ยวพริบตาของโลกภายนอก
ริมฝีปากของเขายกตัวขึ้นเป็นรอยยิ้มขณะที่เขาพุ่งเข้าไปหาเฟิงจุนและโจวหมิง
เพื่อฆ่า!