เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1230 วิญญาณแห่งความรัก (2)
แปลโดย iPAT
มนุษย์คนแรกไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร เขาถามวิญญาณแห่งความรัก “โอ้ วิญญาณ พวกเขาไม่ต้องการรักข้า เจ้าต้องช่วยข้าและจุดเพลิงรักในหัวใจของพวกเรา”
วิญญาณแห่งความรักถอนหายใจ “นี่เกินขีดความสามารถของข้า ข้าไม่สามารถบังคับให้ผู้ใดรักกัน ไม่ว่าอย่างไรหัวใจสองดวงก็ต้องสัมผัสกัน”
มนุษย์คนแรกส่ายศีรษะ “ไม่ นี่เป็นโอกาสที่ดีที่จะช่วยบุตรสาวของข้า ข้าไม่สามารถยอมแพ้ วิญญาณตัวตน ข้าต้องพึ่งเจ้าแล้ว”
วิญญาณตัวตนพยักหน้าและใช้ความแข็งแกร่งของตนเอง
มันเคยกินวิญญาณความแข็งแกร่งเข้าไป นั่นทำให้มนุษย์คนแรกมีความแข็งแกร่งของตนเอง
ดังนั้นมนุษย์วิหคจึงถูกจับโดยมนุษย์คนแรก หัวใจของพวกมันถูกนำออกมาสัมผัสกับหัวใจของมนุษย์คนแรก
แต่ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น หัวใจเหล่านั้นไม่ก่อให้เกิดประกายไฟแห่งรัก
วิญญาณแห่งความรักถอนหายใจ “โอ้ มนุษย์ การบังคับหัวใจของผู้อื่นเป็นไปไม่ได้ มันเป็นเพียงการสร้างความเกลียดชังเท่านั้น”
หลังวิญญาณแห่งความรักกล่าวจบประโยค วิญญาณดวงหนึ่งก็ปรากฏขึ้นต่อหน้ามนุษย์คนแรก
มนุษย์คนแรกมองวิญญาณดวงนี้ แน่นอนว่ามันคือวิญญาณความเกลียดชัง
วิญญาณความเกลียดชังบินเข้าไปในหัวใจของมนุษย์วิหค
พวกมันเริ่มตะโกน “มนุษย์ เจ้าทำเกินไปแล้ว เจ้าข่มเหงพวกเรา พวกเราจะตอบแทนเจ้าอย่างสาสม!”
ดังนั้นพวกมันจึงบินขึ้นสู่ท้องฟ้าและปล่อยแสงออกมาจากปีก
วิญญาณอิสรภาพ
วิญญาณอิสรภาพจำนวนมากหลอมรวมกันกลายเป็นวิญญาณเสรีภาพขนาดใหญ่
วิญญาณเสรีภาพพรากวิญญาณแห่งความรักไปจากมนุษย์คนแรก
“จากนี้ไปความรักจะเป็นอิสระ” วิญญาณเสรีภาพกล่าว
วิญญาณตัวตนของมนุษย์คนแรกบินออกมาและต้องการแย่งวิญญาณแห่งความรักกลับคืน แต่มันไม่สามารถเอาชนะวิญญาณเสรีภาพ มันทำได้เพียงกัดวิญญาณแห่งความรักเท่านั้น
วิญญาณตัวตนกล่าวด้วยความโกรธ “ความรักเป็นของตนเองเช่นกัน!”
…..
หลังจากจ้าวเหลียนหยุนได้ยินคำกล่าวของผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่ง นางยังรู้สึกมึนงง
จ้าวเหลียนหยุนเคยได้ยินตำนานมนุษย์คนแรกมาก่อน แต่นางคิดว่ามันเป็นเรื่องสมมติ
ในความเป็นจริงนางไม่ได้คาดหวังว่าคุณย่าที่เข้มงวดผู้นี้จะพูดคุยกับนางเกี่ยวกับตำนานมนุษย์คนแรกในบรรยากาศที่หนักหน่วงและจริงจังเช่นนี้
ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของนิกายคฤหาสน์วิญญาณเห็นการแสดงออกของจ้าวเหลียนหยุนและตระหนักว่าเด็กหญิงผู้นี้ไม่เคยใส่ใจเกี่ยวกับตำนานมนุษย์แรก
ดังนั้นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งจึงเปิดปากกล่าว “วิญญาณแห่งความรักบนไหล่ของเจ้าคือวิญญาณอมตะระดับเก้า แต่มันมีข้อบกพร่องที่สำคัญอยู่เช่นกัน”
“ข้อบกพร่องใด?” จ้าวเหลียนหยุนถาม
“มันไม่สามารถปรับแต่ง” ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งกล่าวอย่างเคร่งขรึม
“ท่านหมายความว่าอย่างไร? กระทั่งผู้อมตะก็ไม่สามารถปรับแต่งมันงั้นหรือ?” จ้าวเหลียนหยุนถาม
ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งยิ้ม “ไม่เพียงผู้อมตะ กระทั้งผู้อมตะระดับเก้าก็ไม่สามารถทำได้ ในประวัติศาสตร์มีหลายคนเคยทดลองเรื่องนี้ เทพอมตะตะวันเดือดพยายามปรับแต่งวิญญาณแห่งความรักเป็นเวลาสามปีติดต่อกันโดยไม่หยุดพัก แต่เขายังล้มเหลวอย่างน่าสังเวช”
จ้าวเหลียนหยุนเบิกตากว้างเมื่อได้ยินเรื่องนี้ นางอุทาน “มีสิ่งที่เทพอมตะหรือเทพปีศาจไม่สามารถทำได้อยู่ด้วย!?”
“เทพอมตะเป็นเพียงผู้ที่มีพลังการต่อสู้สูงที่สุดบนโลกใบนี้ แต่พวกเขาไม่สามารถทำทุกสิ่ง ในอดีต เทพปีศาจปล้นสวรรค์และเทพอมตะตะวันเดือดต้องขอให้บรรพชนผมยาวหลอมรวมวิญญาณให้กับพวกเขา นี่คือข้อสรุปที่เห็นชัด” ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งกล่าวอย่างช้าๆ
“ดังนั้นวิญญาณแห่งความรักจึงไม่สามารถควบคุมได้ มันเป็นอิสระและไม่มีผู้ใดสามารถสั่งมันได้” ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งกล่าวทิ้งท้าย
“แต่เหตุใดมันถึง…” จ้าวเหลียนหยุนไม่รู้ว่าควรกล่าวสิ่งใด นางมองไปที่วิญญาณแห่งความรักบนไหล่ของนาง
ในสายตาของนาง วิญญาณแห่งความรักช่างสดใสและเปล่งประกาย
ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งกล่าว “นี่คือการยอมรับจากวิญญาณแห่งความรัก สถานการณ์นี้เกิดได้ยากมาก ครั้งสุดท้ายที่มันเกิดขึ้นคือเทพธิดาโม่เหยา”
“เหตุใดมันถึงเลือกข้า?” จ้าวเหลียนหยุนถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น
ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งส่ายศีรษะ “ข้าไม่แน่ใจ แต่นิกายของเราได้สรุปไว้สองประเด็น ประการแรก คนผู้นั้นต้องเชื่อมั่นในความรัก ประการที่สอง ความรักของคนผู้นั้นต้องบรรลุถึงระดับที่ยิ่งใหญ่มาก ยิ่งความรักของเจ้าลึกซึ้งเท่าใด เจ้าก็มีโอกาสได้รับการยอมรับจากวิญญาณแห่งความรักมากเท่านั้น”
“เป็นเช่นนี้” จ้าวเหลียนหยุนกระพริบตาขณะฟังคำตอบ
นางตระหนักว่าเพราะนางรักหม่าหงหยุนอย่างสุดซึ้งและยินดีที่จะสละชีวิตของตนเพื่อความรัก นั่นทำให้วิญญาณแห่งความรักยอมรับนาง
เหตุใดสิ่งนี้จึงไม่เกิดขึ้นกับฟงจินฮวง?
เพราะนางไม่มีคนรัก
ความรักชนิดนี้ไม่ใช่ความรักของคนในครอบครัวหรือมิตรภาพ
ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งกล่าวต่อ “แน่นอนเพราะวิญญาณแห่งความรักไม่สามารถควบคุม เราจึงต้องใช้ประโยชน์จากความรักเพื่อให้ได้รับการยอมรับจากวิญญาณแห่งความรัก ดังนั้นกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณของเราจึงถูกสร้างขึ้น กฎข้อนี้กล่าวว่าผู้ใดก็ตามที่ได้รับการยอมรับจากวิญญาณแห่งความรัก ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชาย คนผู้นั้นจะกลายเป็นผู้นำนิกายรุ่นต่อไป”
จ้าวเหลียนหยุนกระพริบตา “มีผู้นำชายด้วยงั้นหรือ?”
ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งยิ้ม “นิกายของเรามีสมาชิกหญิงเป็นส่วนใหญ่ แต่เราก็มีสมาชิกผู้ชายเช่นกัน เหตุใดพวกเขาจะไม่สามารถเป็นผู้นำ? ดูที่ป้ายหยกแห่งชีวิตที่อยู่ตรงกลาง มันเป็นชื่อของเฉิงหยูซาน ที่มุมล่างด้านขวายังมีชื่อเฉียนหยวนเหลียง คนเหล่านี้ล้วนเป็นบุคคลที่อุทิศตนเพื่อความรักในประวัติศาสตร์ของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ”
“แท้จริงแล้ววิญญาณแห่งความรักมีพลังอำนาจที่หลากหลายและแตกต่างกันไปในแต่ละคน ในสายตาเจ้า มันดูเป็นอย่างไร?”
จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างตรงไปตรงมา “มันดูเหมือนสายรุ้งหลากหลายสีสันที่ส่องประกายงดงาม”
ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งพยักหน้า “ในสายตาของข้า มันดูเหมือนหินสีเทาที่ไม่น่าสนใจแม้แต่น้อย”
“เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร?”
ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งเผยรอยยิ้มบางก่อนจะปิดเปลือกตาลงและกล่าว “ข้าเลิกเชื่อในความรักมานานแล้ว ดังนั้นข้าจึงเห็นวิญญาณแห่งความรักเป็นเช่นนี้ ในอดีต ผู้นำนิกายแต่ละคนเห็นวิญญาณแห่งความรักแตกต่างกันไป บางคนเห็นมันเหมือนน้ำที่ใสสะอาด บางคนเห็นดอกท้อ และยังมีรูปลักษณ์ที่หลากหลายในสายตาของแต่ละคน”
“วิญญาณแห่งความรักสามารถปลดปล่อยพลังอำนาจที่แตกต่างกันไปในแต่ละคน”
“โปรดชี้แนะด้วย” จ้าวเหลียนหยุนกล่าว
ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งกล่าวต่อ “โดยปกติแล้วไม่ว่าจะเป็นวิญญาณระดับมนุษย์หรือวิญญาณอมตะ พวกมันจะสามารถปลดปล่อยพลังอำนาจได้เพียงหนึ่งเดียวเช่นวิญญาณศรวารี มันสามารถยิงศรวารีออกไป แต่วิญญาณแห่งความรักแตกต่างกัน กล่าวได้ว่าพลังอำนาจของมันไร้ขีดจำกัด ตัวอย่างเช่นมันสามารถยิงเปลวเพลิงออกไป มันสามารถรักษาอาการบาดเจ็บ มันสามารถป้องกันการโจมตีของศัตรู หรืออื่นๆ”
จ้าวเหลียนหยุนมีความสุขมากเมื่อได้ยินเรื่องนี้ “น่าทึ่งมาก!”
ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งส่ายศีรษะ “วิญญาณแห่งความรักเป็นวิญญาณอมตะระดับเก้า มันมีความพิเศษตามธรรมชาติ มันมีพลังอำนาจที่ไร้ขีดจำกัด แต่มันไม่สามารถควบคุมได้ หากเจ้าต้องการใช้มันโจมตี มันอาจพาเจ้าบินหนี หากเจ้าต้องการใช้มันป้องกัน มันอาจรักษาอาการบาดเจ็บของเจ้า บ่อยครั้งเมื่อเจ้าต้องการใช้งานมัน มันจะไม่ทำสิ่งใดเลย แต่เมื่อเจ้าไม่ต้องการมัน มันจะทำงานและปลดปล่อยพลังอำนาจของมันออกมา”
จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย แต่ในไม่ช้านางก็รวบรวมสติ “ถึงเป็นเช่นนั้นมันก็ยังเป็นวิญญาณอมตะระดับเก้า พลังอำนาจของมันย่อมไม่ธรรมดา”
ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งกล่าว “เจ้ากล่าวได้ถูกต้อง แต่เจ้าลืมบางสิ่ง พลังอำนาจมีราคาที่ต้องจ่าย ทุกครั้งที่เจ้าใช้วิญญาณแห่งความรัก มันจะพรากบางสิ่งไปจากเจ้า”
จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกประหม่า “มันคือสิ่งใด?”
“สี่งที่ธรรมดาที่สุด นั่นคือพลังงานอมตะ แต่เจ้าไม่ใช่ผู้อมตะ มันอาจพรากความงามของเจ้า สายตาของเจ้า หรืออายุขัยของเจ้าไป” ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งกล่าวอย่างเคร่งขรึม
ใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุนกลายเป็นซีดเผือด นางต้องมองวิญญาณแห่งความรักที่เกาะอยู่บนไหล่ของนางอีกครั้ง
แต่ตอนนี้สายตาของนางกลับเปลี่ยนไปจากก่อนหน้า
“วิญญาณอมตะต้องการเอาชีวิตของข้างั้นหรือ? หากเป็นเช่นนั้น ข้าก็จะใช้มันให้คุ้มค่า!” จ้าวเหลียนหยุนตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว
นางรวบรวมความกล้าและกล่าวกับผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่ง “หากสามารถช่วยท่านพี่หม่าหงหยุนแม้ต้องจ่ายด้วยราคามหาศาล ข้าก็ยินดี ผู้อาวุโส หากข้ากลายเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณ ข้าสามารถยืมพลังของนิกายเพื่อไปที่ภาคเหนือหรือไม่?”
ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งไม่ตอบจ้าวเหลียนหยุนในทันที
นางแสดงออกอย่างซับซ้อน
เมื่อไม่นานมานี้ราชันมังกรของวังสวรรค์ได้ตื่นขึ้น เมื่อข่าวนี้แพร่กระจายออกไป สิบนิกายโบราณตกลงสู่ความโกลาหล
ราชันมังกรอยู่ในระดับเดียวกับโป้ชิงในแง่ของความแข็งแกร่ง ด้วยความแข็งแกร่งนี้ เขาได้สร้างเผ่าพันธุ์มนุษย์มังกรขึ้นมาด้วยตัวของเขาเอง
กล่าวอีกนัยหนึ่ง เขาเป็นตำนานที่มีชีวิต แต่ชื่อของเขาไม่ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ กระทั่งสิบนิกายโบราณก็มีผู้คนที่รู้จักเขาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ราชันมังกรมีความอาวุโสมาก เขาอายุมากอย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อเขาตื่นขึ้น เทพธิดาจื่อเว่ยต้องสละตำแหน่งผู้นำให้เขาทันที
ผู้อมตะวังสวรรค์ทั้งหมดต่างเห็นด้วยกับเรื่องนี้
ราชันมังกรทำความเข้าใจสถานการณ์อย่างรวดเร็วและถ่ายทอดคำสั่งให้จ้าวเหลียนหยุนเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นต่อไป
ไม่เพียงเท่านั้นแต่ราชันมังกรยังมอบมิติช่องว่างเทียมให้กับจ้าวเหลียนหยุนเพื่อทำให้นางกลายเป็นผู้อมตะเทียม ยิ่งไปกว่านั้นเขายังสั่งให้สิบนิกายโบราณร่วมมือกับจ้าวเหลียนหยุนเพื่อนำคณะเดินทางมุ่งหน้าไปภาคเหนือและช่วยหม่าหงหยุนออกมา
สิบนิกายโบราณไม่สามารถคัดค้านและไม่มีผู้ใดกล้าตั้งคำถาม
จ้าวเหลียนหยุนยังไม่ได้รับข่าวดังกล่าว
ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งไม่ต้องการให้นางรู้
จ้าวเหลียนหยุนเห็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งไม่ตอบคำถาม นางรู้สึกกังวลมากและเกรงว่าหญิงชราจะปฏิเสธ
แต่ในไม่ช้าผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งก็เปิดปากกล่าว “จ้าวเหลียนหยุน เจ้าเป็นปีศาจต่างโลกที่ได้รับมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจปล้นสวรรค์ บางทีเจ้าอาจกลายเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณที่โดดเด่นที่สุด”
“และอาจเป็นเพราะลักษณะพิเศษของเจ้า…”
“ไม่จำเป็นต้องกังวล วังสวรรค์ถ่ายทอดคำสั่งลงมาแล้ว สิบนิกายโบราณจะจัดตั้งคณะเดินทางเพื่อมุ่งหน้าไปยังภาคเหนือและช่วยเหลือหม่าหงหยุนคนรักของเจ้า”
“อา…” จ้าวเหลียนหยุนเบิกตากว้าง นางทั้งมีความสุขและประหลาดใจมาก