เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1239 เต็มไปด้วยเจตนาสังหาร
แปลโดย iPAT
สัมผัสแห่งโชค
นี่เป็นท่าไม้ตายอมตะที่สามารถค้นหาบุคคลที่มีความเชื่อมโยงของโชค
ยิ่งอยู่ใกล้กันมากเท่าใด ความรู้สึกเชื่อมต่อก็ยิ่งชัดเจนมากเท่านั้น
ฟางหยวนสามารถใช้ท่าไม้ตายนี้ค้นหาตำแหน่งที่อยู่ของอิงอู๋เซี่ยแม้พวกเขาจะอยู่ต่างภูมิภาคเนื่องจากอิงอู๋เซี่ยและคนอื่นๆมีโชคที่เชื่อมต่อกับฟางหยวน
อย่างไรก็ตามอิงอู๋เซี่ยสามารถต่อต้านท่าไม้ตายนี้ด้วยการซ่อนตัวอยู่ในมิติช่องว่างของผู้อื่น
กลุ่มของอิงอู๋เซี่ยเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว นี่ทำให้ฟางหยวนต้องระวังพวกเขาเป็นพิเศษ
‘หลังจากนี้หากข้าพบตำแหน่งของอิงอู๋เซี่ยและคนอื่นๆ ข้าจะกำจัดพวกเขาอย่างรวดเร็วที่สุดและไม่ปล่อยให้ภัยคุกคามนี้เติบโตขึ้นได้อีก!’
ฟางหยวนตัดสินใจที่จะเพิ่มวิญญาณอมตะคลี่คลายปริศนาเข้าไปในท่าไม้ตายอมตะสัมผัสแห่งโชค
‘วิญญาณอมตะคลี่คลายปริศนาเป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา อืม…ข้าควรเพิ่มวิญญาณระดับมนุษย์บนเส้นทางแห่งปัญญาบางดวงเข้าไปด้วย’
ฟางหยวนอนุมานและตัดสินใจตามสัญชาตญาณ
วิญญาณระดับมนุษย์จำนวนมากถูกเพิ่มเข้าไป
ฟางหยวนมีวิญญาณส่วนหนึ่งอยู่แล้วขณะที่เขาต้องซื้อวิญญาณบางส่วนจากสวรรค์สีเหลือง
โดยปราศจากอุปสรรค์ ในไม่ช้าเขาก็ได้รับวิญญาณทั้งหมดที่ต้องการ
แต่เขาไม่ได้กระตุ้นใช้งานท่าไม้ตายใหม่ทันที เขาต้องทดสอบเป็นอันดับแรก
เขารู้สึกว่าท่าไม้ตายอมตะสัมผัสแห่งโชคเปลี่ยนไปมาก หากเขาบุ่มบ่ามใช้งานมัน เขาอาจล้มเหลวและได้รับบาดเจ็บ บางทีวิญญาณจำนวนมากอาจถูกทำลาย วิญญาณระดับมนุษย์อาจไม่เป็นไร แต่หากมันเป็นวิญญาณอมตะ แล้วเขาจะทำอย่างไร?
การทดลองท่าไม้ตายมีความเสี่ยงเช่นกัน
ฟางหยวนแยกขั้นตอนออกเป็นหลายส่วนและทดลองทีละส่วน
ผลการทดลองเป็นไปได้ด้วยดี
ไม่มีการล้มเหลวแม้แต่ครั้งเดียว
ครึ่งวันต่อมาในที่สุดฟางหยวนก็พัฒนาท่าไม้ตายสัมผัสแห่งโชคฉบับปรับปรุงใหม่ได้สำเร็จ
แต่เมื่อเขากระตุ้นใช้งานมันได้ครึ่งทาง เขาพบปัญหาเล็กๆ
มันไม่ใช่ปัญหาใหญ่แต่ฟางหยวนระวังตัวมากและหยุดใช้งานมันทันที
วิญญาณระดับมนุษย์หลายดวงถูกทำลายในกระบวนการนี้
วิญญาณอมตะสองดวงที่เป็นแกนกลางของท่าไม้ตายยังปกติดีทั้งคู่ สำหรับวิญญาณระดับมนุษย์ พวกมันไม่ใช่ปัญหาสำหรับฟางหยวน หลังจากทั้งหมดตอนนี้เขาร่ำรวยมาก
เขาอนุมานและสรุปหาสาเหตุที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิดนี้
คราวนี้ฟางหยวนใช้เวลาครึ่งวันเพื่อแก้ไขก่อนจะเริ่มทดลองอีกครั้ง
มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นในครึ่งหลังของการกระตุ้นใช้งาน
แม้มันจะเกิดประกายไฟขึ้นเล็กน้อยและไม่ใช่ปัญหาใหญ่ แต่ฟางหยวนยังต้องตรวจสอบและหยุดใช้ท่าไม้ตายนี้ทันที
เขายังลองผิดลองถูกต่อไป
หลายวันต่อมาในที่สุดฟางหยวนก็ได้รับท่าไม้ตายอมตะสัมผัสแห่งโชคฉบับปรับปรุงล่าสุดที่ค่อนข้างสมบูรณ์แบบ
เขาประสบความสำเร็จในการกระตุ้นใช้งานสัมผัสแห่งโชคฉบับปรับปรุงใหม่ในที่สุด!
ความรู้สึกลึกลับปรากฏขึ้นในใจของฟางหยวน
แรกเริ่มเขาตรวจสอบเย่ฟาน หงอี้ และฮันหลี่ ทั้งสามอยู่ในภาคใต้ ภาคกลาง และทะเลทรายตะวันตกตามลำดับ ฟางหยวนเห็นรายละเอียดมากขึ้น โดยเฉพาะเย่ฟาน ฟางหยวนสามารถบอกได้ว่าเขาอยู่บนภูเขาเฉิงเหลียง
ส่วนคนที่เหลือ มันค่อนข้างคลุมเครือ
อิงอู๋เซี่ยและไห่ลั่วหลันระวังตัวมาก ฟางหยวนยังไม่รู้ตำแหน่งที่แน่ชัดของพวเขา แต่ฟางหยวนยังสามารถบอกได้ว่าพวกเขาอยู่ที่ภาคใต้
‘แปลก นอกจากอิงอู๋เซี่ยและไห่ลั่วหลัน ยังมีบุคคลที่สาม แต่มันยังไม่แน่ชัด อย่าบอกว่าอิงอู๋เซี่ยใช้วิญญาณอมตะเชื่อมโยงโชคเพื่อเชื่อมต่อโชคกับผู้อมตะคนอื่น?’
ฟางหยวนเดาได้ทันที
เขาขมวดคิ้ว
วิญญาณอมตะเชื่อมโยงโชคอยู่ในมือของอิงอู๋เซี่ย นี่ไม่ใช่ความลับ
ปัจจุบันฟางหยวนไม่สามารถใช้งานวิญญาณกาลเวลาได้อีกต่อไป แต่ด้วยการคงอยู่ของวิญญาณอมตะโชคอึสุนัข มันเปลี่ยนจุดอ่อนของเขาให้เป็นจุดแข็ง
แต่อิงอู๋เซี่ยและคนอื่นๆกำลังใช้ประโยชน์จากฟางหยวน
เทพอมตะตะวันเดือดประสบความสำเร็จในช่วงแรกของชีวิตเนื่องจากวิญญาณอมตะโชคอึสุนัข แต่ฟางหยวนกลับไม่ได้เพลิดเพลินกับมันเพียงลำพัง เขาต้องแบ่งปันโชคดีให้กับคนอื่นๆ
แม้จะรวมคนโชคดีเช่นเย่ฟาน ฮันหลี่ หงอี้ และไห่ลั่วหลัน แต่สุดท้ายอิงอู๋เซี่ยกับคนใหม่ก็ยังเป็นภาระหนักสำหรับพวกเขาและมันจะทำให้พลังอำนาจของวิญญาณอมตะโชคอึสุนัขลดลง
‘ทางนี้…ฮ่าฮ่า ผู้ใดจะคิดว่าพวกเขาจะอยู่ที่ภาคใต้!’
‘อิงอู๋เซี่ยและคนอื่นๆต้องถูกกำจัด หลังจากสังหารพวกเขา ข้าจะปลอดภัยขึ้นและจะไม่มีผู้ใดพยายามยึดครองร่างทารกอมตะอีก’
‘ในเวลาเดียวกันหลังจากที่ข้าสังหารพวกเขาและกำจัดภัยคุกคาม โชคของข้าจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก พลังอำนาจที่แท้จริงของวิญญาณอมตะโชคอึสุนัขจะปะทุขึ้น’
ในเวลานี้ฟางหยวนเต็มไปด้วยเจตนาสังหาร เขาต้องการเคลื่อนไหวและกำจัดกลุ่มของอิงอู๋เซี่ยทันที
…..
ภาคกลาง
“ถึงเวลาแล้ว ไปได้!” ผู้อมตะระดับแปดเว่ยหลิงหยางตะโกน
เสียงของเขาแหบแห้ง เขาเป็นชายวัยกลางคนที่มีถุงใต้ตาคล้ำและทำให้ผู้คนที่พบเห็นรู้สึกเหนื่อยล้าตามไปด้วย
แต่เขาเป็นผู้นำและเป็นหนึ่งในสามผู้อมตะระดับแปดที่แข็งแกร่งที่สุดในคณะเดินทางนี้
นอกจากเขายังมีไป่เฉินเทียนและนักรบหมื่นมังกร
คนทั้งสองเป็นผู้อมตะระดับแปดเช่นกัน
ไป่เฉินเทียนเป็นผู้รอดชีวิตจากการต่อสู้บนภูเขาอี้เทียน
สำหรับนักรบหมื่นมังกร เขาอาวุโสกว่าไป่เฉินเทียน เมื่อไม่นานมานี้เขายังได้รับคำแนะนำจากราชันมังกร นั่นทำให้ความแข็งแกร่งของเขาพุ่งสูงขึ้นอีกมาก
ราชันมังกรอายุมากแล้วและเป็นเรื่องยากที่เขาจะเข้าสู่การต่อสู้ด้วยตนเอง แต่เขาเป็นผู้ควบคุมสถานการณ์และเปลี่ยนแปลงการทำงานของวังสวรรค์
คนทั้งสามเป็นผู้อมตะระดับแปดจากวังสวรรค์ที่เหนือกว่าผู้อมตะระดับแปดของสิบนิกายโบราณ
หลังจากได้ยินคำสั่งของเว่ยหลิงหยาง ทุกคนแยกออกเป็นสามกลุ่มและเข้าไปในคฤหาสน์วิญญาณอมตะสามหลัง
คฤหาสน์วิญญาณอมตะสามหลังประกอบด้วยคฤหาสน์วิญญาณอมตะหอคอยวายุของนิกายเมฆาวายุ ศาลานกขมิ้นของนิกายบัวสวรรค์ และค่ายนักรบของนิกายเทพยุทธ์อมตะ
คฤหาสน์วิญญาณอมตะทั้งสามหลังอยู่ภายใต้การดูแลของผู้อมตะระดับแปด
จ้าวเหลียนหยุนอยู่ในหอคอยวายุ
นางอยู่บนชั้นสูงสุดซึ่งเป็นสถานที่ปลอดภัยที่สุดของคฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้
“คณะเดินทางของเราแข็งแกร่งมาก เรามีผู้อมตะระดับแปดถึงสามคนและคฤหาสน์วิญญาณอมตะอีกสามหลัง! โดยพื้นฐานแล้วพวกเราสามารถมั่นใจในชัยชนะ” ปู้เฉิงซือเดินเข้ามาด้านหลังจ้าวเหลียนหยุนและกล่าว
จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้าอย่างไร้อารมณ์แต่หัวใจของนางกลับเต้นแรง นางคิด ‘หงหยุน ข้ามาแล้ว! อดทนไว้!’
คฤหาสน์วิญญาณอมตะทั้งสามเหมือนดวงดาวที่บินผ่านท้องฟ้า
ค่ายนักรบอยู่ด้านหน้าเพื่อเปิดเส้นทาง หอคอยวายุอยู่ตรงกลาง ขณะที่ศาลานกขมิ้นติดตามอยู่ด้านหลัง
กำแพงพลังงานอยู่ด้านหน้าพวกเขาแล้ว
“ตูม!”
ค่ายนักรบปล่อยพลังทำลายล้างพุ่งเข้าโจมตีกำแพงพลังงานอย่างดุเดือดและสร้างอุโมงค์ขึ้นโดยปราศาจการต่อต้าน
หอคอยวายุและศาลานกขมิ้นบินตามไปอย่างรวดเร็ว
“ครืน…ครืน…ครืน…”
หอคอยวายุสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง จ้าวเหลียนหยุนเกือบล้มลงบนพื้น
ปู้เฉิงซือรู้สึกพูดไม่ออก ‘กล่าวกันว่ากำแพงสวรรค์หนากว่ากำแพงภูมิภาคทั้งห้า ดูเหมือนมันจะเป็นเรื่องจริง แม้หอคอยวายุจะเคลื่อนที่ผ่านอุโมงค์มิติแต่ลมปราณสวรรค์ยังทำให้คฤหาสน์วิญญาณอมตะหอคอยวายุสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง มันเป็นเรื่องยากที่จะจินตนาการว่าค่ายนักรบจะเป็นเช่นไร!’
กำแพงสวรรค์ถูกสร้างขึ้นโดยปราณสวรรค์ กระทั่งพวกเขาจะสร้างอุโมงค์มิติ ปราณสวรรค์ก็ยังสามารถเติมเต็มช่องว่างอย่างรวดเร็ว
ดังนั้นคฤหาสน์วิญญาณอมตะทั้งสามหลังจึงเกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
หลังจากเดินทางไปได้ระยะหนึ่ง ค่ายนักรบสูญเสียวิญญาณไปแล้วหลายดวง พลังงานของมันลดลง ดังนั้นมันจึงเคลื่อนที่ไปอยู่ท้ายขบวน
หอคอยวายุเข้าแทนที่เพื่อเปิดเส้นทาง เมื่อเวลาผ่านไปศาลานกขมิ้นก็รับช่วงต่อ
ด้วยวิธีนี้หลังจากไม่กี่วันคฤหาสน์วิญญาณอมตะทั้งสามหลังก็สามารถทะลวงผ่านกำแพงสวรรค์เพื่อเข้าสู่สวรรค์สีดำ
เหตุใดพวกเขาไม่เลือกสวรรค์สีขาว?
เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่ต้องการเปิดเผยตัวตน
สวรรค์สีดำสามารถเก็บซ่อนร่องรอยของคฤหาสน์วิญญาณอมตะทั้งสามได้ในระดับหนึ่ง
ด้วยวิธีนี้ผู้อมตะภาคกลางจึงเต็มไปด้วยความมั่นใจว่าพวกเขาจะสามารถลอบโจมตีเป้าหมาย