Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน – บทที่ 1242 วังสวรรค์แห่งโชค

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1242 วังสวรรค์แห่งโชค

แปลโดย iPAT 

เหนือทะเลเมฆอันกว้างใหญ่ บางคนยืนมองก้อนเมฆที่เคลื่อนตัวผ่านไปอย่างเงียบๆ

คนผู้นี้สวมชุดเกราะสีฟ้าทอง เคราของเขายาวลงมาถึงหน้าอก เขาเป็นชายชราที่มีร่างกายกำยำ มันก็คือราชันใต้

ข้าเหยากวงคารวะราชันใต้!” ร่างหนึ่งปรากฏขึ้น เขาก็คือผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าเหยาผู้อมตะระดับแปดเหยากวง

ราชันใต้หันกลับมาและกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เราต่างเป็นผู้อมตะระดับแปด ปฏิบัติต่อข้าเช่นสหายผู้หนึ่ง ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากเกินไป

เหยากวงโค้งคำนับอีกครั้ง “ในแง่ของระดับการบ่มเพาะ ท่านเหนือกว่าข้า ในแง่ของความอาวุโส ข้าเป็นทายาทที่ไม่อาจนับรุ่น ไม่ว่าอย่างไรสถานะของข้าก็ต่ำกว่าท่าน

ราชันใต้พยักหน้าและถอนหายใจ “เจ้าเป็นคนดี แต่น่าเสียดายที่สายเลือดตระกูลฮวงจินของเราตกต่ำลงในปัจจุบัน นอกถ้ำสวรรค์นิรันดร เจ้าเป็นผู้อมตะระดับแปดเพียงคนเดียวของตระกูลฮวงจิน!”

องค์ชายฟงเซี่ยเป็นสมาชิกเผ่ากง แต่จากมุมมองของราชันใต้ เขาเป็นคนนอกเพราะเขาไม่มีสายเลือดตระกูลฮวงจินไหลเวียนอยู่ในร่างกาย

ย้อนกลับไปในรุ่นของข้า มีผู้อมตะระดับแปดของตระกูลฮวงจินถึงสี่คน หนึ่งในนั้นรู้จักกันในนามของจ้าวพยัคฆ์อมตะ เขาแข็งแกร่งมาก ผู้คนคิดว่าเขามีศักยภาพที่จะทะลวงเข้าสู่ระดับเก้า น่าเสียดายที่เขาตายในสวรรค์สีดำ เมื่อเวลาผ่านไป ตระกูลฮวงจินจึงค่อยๆตกต่ำลง

ปรากฏความผิดหวังอยู่ในดวงตาของราชันใต้

เหยากวงไม่สามารถกล่าวสิ่งใด

เขาไม่มีคุณสมบัติที่จะวิจารณ์สายเลือดตระกูลฮวงจิน มีเพียงตัวตนระดับราชันใต้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็นลักษณะนี้

และเขาก็กล่าวเรื่องจริง

เหยากวงไม่มีสิ่งใดโต้แย้ง

มันเป็นเช่นนั้น ตระกูลฮวงจินของภาคเหนือตกต่ำลง พวกเขาขาดแคลนบุคคลที่มีพรสวรรค์อันโดดเด่น ในทางตรงข้ามผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะกลับมีอัจฉริยะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆเช่น จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซู ชูตู๋ และหลิวกวนซื่อ

อย่างไรก็ตามบรรพชนตะวันเดือดคาดการณ์ไว้แล้ว” ราชันใต้กล่าวถึงเรื่องนี้อย่างกะทันหันและทำให้เหยากวงตกใจมาก

โอ้ บรรพชนตะวันเดือดสามารถทำนายอนาคตที่ยาวไกลได้งั้นหรือ?”

แม้บรรพชนของเราจะบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งโชค แต่ความสามารถบนเส้นทางแห่งปัญญาของท่านก็ไม่ต่ำต้อย นอกจากนี้โชคยังเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน บรรพชนของเราเข้าใจว่าทุกสิ่งสามารถเปลี่ยนแปลง ตั้งแต่ท่านสร้างวังแปดสิบแปดเปลวเพลิงที่แท้จริงขึ้นมา ท่านก็ประกาศไว้แล้วว่าวันหนึ่งมันจะพังทลายลง เมื่อวันนั้นมาถึง มันจะเป็นสัญญาณเตือนถึงการเปลี่ยนแปลง ยุคที่ยิ่งใหญ่จะมาถึง” ราชันใต้กล่าวเสริม

เหยากวงตกใจ “เป็นเช่นนั้น?”

ยุคที่ยิ่งใหญ่หมายถึงสิ่งใด?

มันจะเป็นยุคที่ยิ่งใหญ่หากเทพอมตะหรือเทพปีศาจถือกำเนิดขึ้น

ราชันใต้ถอนหายใจ “บรรพชนตะวันเดือดใช้ความพยายามอย่างหนักและจัดเตรียมสิ่งต่างๆเอาไว้มากมายเพื่อช่วยเหลือบุตรหลานของท่าน ท่านต้องการทำให้แน่ใจว่าพวกเขาจะเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งของยุคที่ยิ่งใหญ่ ในกรณีที่เลวร้ายที่สุด ท่านยังต้องทำให้แน่ใจว่าสายเลือดตระกูลฮวงจินจะถูกส่งต่อ

เหยากวงลังเล “ไม่ว่าตระกูลฮวงจินจะอ่อนแอลงเพียงใด พวกเราก็ยังสามารถปกป้องตนเอง อย่างน้อยภาคเหนือก็ยังอยู่ภายใต้การควบคุมของพวกเรา แม้พวกเราจะไร้ประโยชน์ แต่ก็ยังมีถ้ำสวรรค์นิรันดร

ราชันใต้ส่ายศีรษะ “ถ้ำสวรรค์นิรันดรอาจแข็งแกร่ง แต่มันเป็นเพียงมิติช่องว่างของบรรพชนของเรา ขณะที่วังสวรรค์ของภาคกลางเป็นการรวมตัวของมิติช่องว่างจำนวนนับไม่ถ้วน รากฐานของถ้ำสวรรค์นิรันดรยังไม่สามารถเปรียบเทียบกับวังสวรรค์ ตอนนี้ภาคกลางส่งผู้อมตะระดับแปดจำนวนสามคนและคฤหาสน์วิญญาณอมตะอีกสามหลังบุกมายังภาคเหนือแล้ว เจ้าคิดว่าตระกูลฮวงจินของเราจะรับมือพวกเขาได้หรือไม่?”

เหยากวงรู้สึกพูดไม่ออก “กระไรนะ!? ภาคกลางบุกงั้นหรือ?”

ราชันใต้ไม่ได้อธิบายต่อ เขากล่าว “ตามข้ามา

หลังกล่าวจบคำ เขาบินขึ้นสู่ท้องฟ้าทันที

เหยากวงเร่งติดตามไปด้านหลัง

ผู้อมตะทั้งสองบินผ่านกำแพงสวรรค์และเข้าสู่สวรรค์สีดำ

ภายใต้การนำทางของราชันใต้ เหยากวงมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้

หลังจากบินไปได้สักพัก ร่างกายของเหยากวงพลันสั่นสะท้านขึ้น ‘สวรรค์สีดำเป็นสถานที่อันตราย แม้ข้าจะสำรวจมันบ่อยครั้งเพื่อค้นหาทรัพยากรอมตะระดับแปด แต่ข้าไม่เคยเดินทางได้อย่างราบรื่นเช่นนี้ อย่าบอกว่าราชันใต้มีแผนที่ของสวรรค์สีดำ?’

แต่ความจริงคือแผนที่ไม่สามารถใช้งานในสวรรค์ทั้งเก้า

เมฆที่อยู่ในเก้าสวรรค์เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา มันไม่สามารถเชื่อถือ

แม้กลุ่มผู้อมตะภาคกลางจะเดินทางได้ค่อนข้างราบรื่น แต่พวกเขายังพบกับหมูป่าเหินเวหา อสรพิษทมิฬ ยุงหมี และอื่นๆ อย่างไรก็ตามราชันใต้กับเหยากวงกลับไม่พบสิ่งใดเลย พวกเขาปลอดภัยและเดินทางได้อย่างราบรื่นราวกับพวกเขากำลังเดินเล่นอยู่ในสวนหลังบ้านของตนเอง

เอาล่ะ ที่นี่” ราชันใต้หยุดบิน

เหยากวงหยุดอยู่ด้านข้าง

เขารู้สึกแปลกเล็กน้อย ที่แห่งนี้ว่างเปล่ามาก แต่เหตุใดราชันใต้ถึงหยุดอยู่ที่นี่?

ในเวลาต่อมาราชันใต้ก็ตอบข้อสงสัยของเหยากวงด้วยการกระทำ

ร่างกายของเขาส่องแสงสีทองออกมาราวกับดวงตะวัน เหยากวงต้องปิดเปลือกตาลงแต่หัวใจของเขากลับแตกตื่น

สวรรค์สีดำมืดมาก การกระทำนี้จะดึงดูดฝูงสัตว์อสูรจำนวนนับไม่ถ้วน

อย่างไรก็ตามสิ่งที่เกิดขึ้นคือไม่มีสัตว์อสูรปรากฏตัวแม้แต่ตัวเดียว

ที่นี่คือสวรรค์สีดำจริงๆงั้นหรือ?’ เหยากวงต้องคิดเช่นนี้อย่างช่วยไม่ได้

ครู่ต่อมาราชันใต้ก็หยุดเคลื่อนไหวขณะที่วังสีทองปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่า

เหยากวงไม่คาดหวังว่าคฤหาสน์วิญญาณอมตะจะถูกซ่อนไว้ที่นี่

แต่เขาตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่าวังหลังนี้คือสิ่งใด เขารู้สึกระวนกระวายใจเป็นอย่างมาก “นี่คือวังสวรรค์แห่งโชค?”

แท่นบูชาแห่งโชค วังแปดสิบแปดเปลวเพลิงที่แท้จริง วังสวรรค์แห่งโชค เหล่านี้ล้วนเป็นคฤหาสน์วิญญาณอมตะของเทพอมตะตะวันเดือดทั้งสิ้น

วังแปดสิบแปดเปลวเพลิงที่แท้จริงตั้งอยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์เมืองหลวงของภาคเหนือ แท่นบูชาแห่งโชคถูกเก็บไว้ในถ้ำสวรรค์นิรันดร ขณะที่วังสวรรค์แห่งโชคอยู่ในสวรรค์สีดำมาอย่างยาวนาน

วังสวรรค์แห่งโชคของบรรพชนตะวันเดือดอยู่ที่นี่ เห็นได้ชัดว่ามีเจตนาซ่อนเร้น แต่ท่านวางแผนใดเอาไว้?’

เหยากวงยังคาดเดาต่อไปขณะที่ราชันใต้หันกลับมามองเขา “ตามข้ามา

เหยากวงติดตามราชันใต้เข้าไปในวังสวรรค์แห่งโชค

พวกเจ้ามาแล้ว” ในห้องโถงมีคนผู้หนึ่ง

เขานั่งอยู่บนเบาะ เขาไม่ใช่รูปแบบของเจตจำนง เขาเปิดเปลือกตาขึ้นและเผยให้เห็นแสงสีทองที่ส่องประกายระยิบระยับ

หัวใจของเหยากวงสั่นสะท้านขึ้นอย่างรุนแรงเมื่อเห็นคนผู้นี้ “บรรพชนบรรพชนตะวันเดือด!?”

…..

อะวู้…”

ฝูงหมาป่าไล่ล่าคฤหาสน์วิญญาณอมตะสามหลัง

พวกมันมีร่างกายเรียวยาวและมีกรงเล็บกับเขี้ยวที่แหลมคม แต่สิ่งที่ดูโดดเด่นที่สุดคือพวกมันไม่มีขน ร่างกายของพวกมันราวกับสวมเกราะหนังสีดำที่มันวาวและแข็งแกร่งเอาไว้

นี่คือฝูงหมาป่าราตรีสวรรค์ที่มีจำนวนมากกว่าหนึ่งหมื่นตัว

หมาป่าราตรีสวรรค์แต่ละตัวเป็นสัตว์อสูรเดียวดาย ราชาของพวกมันเป็นสัตว์อสูรบรรพกาล นอกจากนี้ยังมีจักรพรรดิหมาป่าที่มีพลังการต่อสู้ระดับแปดอีกหนึ่งตัว!

พวกเราไม่สามารถหลบหนี พวกเราถูกล้อมเอาไว้แล้ว

“ผู้ใดจะคิดว่าจักรพรรดิหมาป่าตัวนี้จะมีวิญญาณอมตะป่าระดับแปดที่สามารถปิดซ่อนร่องรอย!”

“ฝูงหมาป่าใหญ่โตเช่นนี้ถือว่าหาได้ยากในสวรรค์สีดำแต่พวกเรากลับพบพวกมันจริงๆ”

ผู้อมตะระดับแปดทั้งสามสนทนากันอย่างรวดเร็ว

เว่ยหลิงหยางตะโกน “ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ!”

ค่ายนักรบเปิดเส้นทางด้านหน้าและฝ่าวงล้อมของฝูงหมาป่าออกไป

ศาลานกขมิ้นและหอคอยวายุติดตามไปด้านหลัง

การต่อสู้ครั้งใหญ่ทั้งน่ากลัวและอันตรายมาก

จักรพรรดิหมาป่าซุ่มโจมตีระหว่างการต่อสู้ โชคดีที่คฤหาสน์วิญญาณอมตะแต่ละหลังมีผู้อมตะระดับแปดควบคุมอยู่ ดังนั้นมันจึงสามารถปลดปล่อยพลังอำนาจที่น่าอัศจรรย์ออกมาและสังหารหมาป่าจำนวนนับไม่ถ้วน

ในที่สุดจักรพรรดิหมาป่าก็ส่งเสียงเห่าหอนและนำฝูงของมันล่าถอยกลับไป นี่ทำให้การต่อสู้นองเลือดครั้งนี้จบลง

ฝูงหมาป่าได้รับความเสียหายรุนแรงเกินไป จักรพรรดิหมาป่าไม่ยินดีให้กองกำลังของมันอ่อนแอลง ดังนั้นมันจึงตัดสินใจล่าถอย

คฤหาสน์วิญญาณอมตะทั้งสามได้รับความเสียหายอย่างมากเช่นกัน วิญญาณจำนวนมากถูกทำลายรวมถึงวิญญาณอมตะสามดวง กระทั่งผู้อมตะระดับแปดยังอยู่ในสภาพที่ไม่น่ามอง

พวกเขาสูญเสียค่าใช้จ่ายมหาศาล

ยิ่งเราเข้าใกล้ภาคเหนือมากเท่าใด พวกเราก็พบกับความยากลำบากมากขึ้นเท่านั้น นี่เป็นเพราะเหตุใด?”

เราพบหมาป่าสวรรค์มาห้าฝูง รวมถึงจระเข้มังกร และจิ้งจอกจิตวิญญาณ… ดูเหมือนฝูงสัตว์อสูรจำนวนนับไม่ถ้วนต้องการกำจัดพวกเรา

ลืมสัตว์อสูรเหล่านั้นไปซะ สิ่งสำคัญที่สุดคือเราไม่สามารถเผชิญหน้ากับเมฆาดำขาวได้อีก ตอนนี้หอคอยวายุแทบไม่สามารถทำสิ่งใด

พักซ่อมแซมคฤหาสน์วิญญาณอมตะกันก่อน” เว่ยหลิงหยางกล่าว

คฤหาสน์วิญญาณอมตะทั้งสามหยุดลง แต่ในจังหวะนี้จุดแสงจำนวนนับไม่ถ้วนกลับสว่างขึ้นจากทุกทิศทาง

มันดูเหมือนดอกไม้แสงจำนวนมากท่ามกลางความมืดมิด

โอ้ ไม่ นี่คือภูตผีแห่งสวรรค์สีดำ โคมทมิฬอย่ามองพวกมัน!” ไป่เฉินเทียนตะโกน

แต่มันสายเกินไป ผู้อมตะหลายคนมองพวกมันเพียงครั้งเดีวก่อนจะสูญเสียการมองเห็นทันที

เสียกรีดร้องดังขึ้นจากภายในคฤหาสน์วิญญาณอมตะทั้งสาม

จ้าวเหลียนหยุนค่อนข้างโชคดี นางหันไปด้านในคฤหาสน์วิญญาณอมตะเพื่อพูดคุยกับอวี๋อี้เย่ซือ

อวี๋อี้เย่ซือตระหนักถึงการคงอยู่ของโคมทมิฬและปิดเปลือกตาลงทันที

เขามีความรู้กว้างขวางขณะที่ผู้อมตะมากมายไม่รู้

บางคนยืนพิงหน้าต่างและมองออกไปรอบๆ พวกเขาเห็นโคมทมิฬจำนวนนับไม่ถ้วน นี่ทำให้พวกเขาสูญเสียการมองเห็นไปอย่างสมบูรณ์

คฤหาสน์วิญญาณอมตะทั้งสามรีบออกมาจากจุดนั้นและทิ้งโคมทมิฬเอาไว้ด้านหลัง

ผู้อมตะบางคนสูญเสียการมองเห็นไปอย่างถาวรขณะที่ความสามารถในการมองเห็นของบางคนลดลง แม้จะสามารถรักษา แต่พวกเขายังต้องจ่ายด้วยราคามหาศาล

เราพึ่งผ่านฝูงหมาป่าราตรีสวรรค์และต้องการพักผ่อน แต่พวกเรากลับเคลื่อนที่เข้าสู่จุดศูนย์กลางของโคมทมิฬโดยไม่คาดคิด ช่างโชคร้ายนัก!”

เดี๋ยวนั่นคือสิ่งใด?”

มดฝูงหนึ่งกำลังใกล้เข้ามา

มดแต่ละตัวคือวิญญาณ

วิญญาณมดทหาร!

กองทัพมดทหารหลายแสนหรืออาจจะหลายล้าน หนีเร็ว!”

คฤหาสน์วิญญาณอมตะทั้งสามพึ่งหยุดแต่พวกเขากลับถูกบังคับให้หลบหนีอีกครั้ง

Reverend Insanity

Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบของวิญญาณซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา! Humans are the spirit of all living beings, Gu are the essence of heaven and earth. With his three views* unrighteous, a demon is reborn. Former days are but an old dream, an identical name is made anew. The story of a time traveller who keeps on being reborn. A unique world that nurtures, refines, and uses Gu. Spring Autumn Cicada, Moonlight Gu, Liquor Worm, Great Qi Golden Light Worm, Slender Black Hair Gu, Hope Gu… And a great demon of the world that acts as his heart pleases! A story of a villain, Fang Yuan who was reborn 500 years into the past with the Spring Autumn Cicada he painstakingly refined. With his profound wisdom, battle and life experiences, he seeks to overcome his foes with skill and wit! Ruthless and amoral, he has no need to hold back as he pursues his ultimate goals. In a world of cruelty where one cultivates using *Gu – magical creatures of the world – Fang Yuan must rise up above all with his own power. Notes : *Gu is a legendary venomous insect, often used in black magic practices. It can take on the form of several insects, usually snakes, crickets, worms etc. *Three views = one’s world view, values of worth, and philosophy on life.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset