Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน – บทที่ 1294 การปรากฏตัวอีกครั้งของชูอิง

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1294 การปรากฏตัวอีกครั้งของชูอิง

แปลโดย iPAT 

ในที่สุดเราก็ผ่านกำแพงภูมิภาคมาแล้ว” อิงอู๋เซี่ยถอนหายใจ เขามองท้องทะเลและรู้สึกเหนื่อยล้า

ไห่ลั่วหลันและไป่หนิงปิงไม่ได้อยู่ในสภาพที่ดีกว่าเขา

นิกายเงาเดินทางมายังทะเลตะวันออก แน่นอนว่าการผ่านกำแพงภูมิภาคส่งผลกระทบต่อพวกเขา

โชคดีที่พวกเขาล้วนเป็นตัวตนระดับสูง แม้มิติช่องว่างของพวกเขาจะเสียหาย แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่

พวกเขาไม่ได้รีบจากไปแต่เลือกเกาะแบบสุ่มเพื่อพักอาศัย

บนเกาะนิรนาม อิงอู๋เซี่ย ไห่ลั่วหลัน และไป่หนิงปิงเริ่มตั้งจัดค่ายกลวิญญาณ

อิงอู๋เซี่ยนำหินสีม่วงทองวางไว้ในค่ายกลวิญญาณขณะที่ไห่ลั่วหลันและไป่หนิงปิงยืนคุ้มกันอยู่ด้านนอก

ไม่นานหลังจากนั้นหินสีม่วงทองก็ถูกหลอมละลาย ราชันภูเขาม่วงตื่นขึ้นอีกครั้ง

เขาเป็นผู้อมตะระดับแปด หากเขาเดินทางผ่านกำแพงภูมิภาค เขาจะได้รับผลกระทบมากที่สุด

โดยปกติผู้อมตะระดับแปดจะเดินทางผ่านสวรรค์สีดำหรือสีขาว แต่สวรรค์สีดำและสีขาวของภาคเหนืออยู่ภายใต้อิทธิพลของวังสวรรค์แห่งโชค มันถูกควบคุมโดยถ้ำสวรรค์นิรันดร

แน่นอนว่านิกายเงาจะไม่นำตนเองเข้าสู่กับดัก ผู้อมตะภาคกลางเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับเรื่องนี้

นิกายเงามีรากฐานที่ลึกล้ำ ราชันภูเขาม่วงสามารถเข้าสู่การจำศีลและตื่นขึ้นได้ตามปรารถนา

เมื่อเขาอยู่ในหินสีม่วงทอง กลิ่นอายของเขาจะถูกผนึกอย่างสมบูรณ์ เขาจะกลายเป็นหินที่ไร้ชีวิต

ด้วยวิธีการที่น่าเหลือเชื่อนี้ อิงอู๋เซี่ยได้นำราชันภูเขาม่วงเดินทางผ่านกำแพงภูิมภาคมาถึงทะเลตะวันออก

ทะเลตะวันออก…” ราชันภูเขาม่วงตื่นขึ้นและถอนหายใจขณะมองทะเลอันกว้างใหญ่

ภายใต้การนำของเขา สมาชิกนิกายเงารื้อถอนค่ายกลวิญญาณและเก็บกวาดสถานที่อย่างรวดเร็ว

หลังจากนั้นทั้งสี่ก็ใช้ค่ายกลวิญญาณท่องรอบทิศเพื่อเดินทางไปยังทะเลไหลเชี่ยว

ไม่มีกระแสน้ำใดที่สามารถกีดขวางราชันภูเขาม่วง

หือสาขาของสายธารแห่งกาลเวลาอยู่ที่ใด?” เมื่อไม่พบสิ่งที่พวกเขาต้องการ อิงอู๋เซี่ยรู้สึกสับสน

อย่าบอกว่าสาขาของสายธารแห่งกาลเวลาหายไป?” ไห่ลั่วหลันคาดเดาหลังจากตรวจสอบ

ราชันภูเขาม่วงพบเบาะแสบางอย่าง “สาขาของสายธารแห่งกาลเวลาถูกนำออกไปโดยบางคน

เป็นไปได้อย่างไรผู้ใดทำฟางหยวนงั้นหรือ?” อิงอู๋เซี่ยนึกถึงฟางหยวนเป็นคนแรก

แต่ราชันภูเขาม่วงส่ายศีรษะ “วิธีนี้ไม่เหมือนเขา ต้องเป็นผู้อื่น ลืมมันไปซะ เมื่อเราไม่สามารถใช้สายธารแห่งกาลเวลาของที่นี่ เราจะไปที่อื่น มีสาขาของสายธารแห่งกาลเวลาอยู่ที่นั่นเช่นกัน

กลุ่มของนิกายเงาออกจากทะเลไหลเชี่ยว

บางแห่งของทะเลตะวันออก

การต่อสู้แห่งชีวิตและความตายกำลังจะจบลง

ไปเร็ว ข้าถูกโจมตีด้วยเข็มวิญญาณสายฟ้าของเขา เขาจะรู้ตำแหน่งของข้า ข้าไม่สมารถหลบหนี ข้าไม่สามารถไปกับเจ้า” ผู้อมตะฮวาตี้กล่าวอย่างอ่อนแรงอยู่ในอ้อมแขนของชายผู้หนึ่ง

หญิงผู้นี้อยู่ในชุดคลุมไหมสีชมพูอ่อน ดวงตาของนางแสดงสัญญาณของความอ่อนล้า เลือดไหลออกมาจากมุมปากของนาง อาการบาดเจ็บของนางถือว่ารุนแรงมาก

โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนผิวของนางมีประกายสายฟ้าแลบลั่นขึ้นเป็นครั้งคราว สิ่งนี้เกิดจากท่าไม้ตายอมตะเข็มวิญญาณสายฟ้า

ไม่!” ผู้อมตะชายปฏิเสธโดยไม่ลังเล

เขามีไหล่กว้าง เอวบาง และอยู่ในชุดเกราะต่อสู้ แต่มันยังไม่สามารถปกปิดบาดแผลบนร่างกายของเขา

ข้าจะทิ้งเจ้าได้อย่างไรหากข้าหลบหนีไปเพียงลำพัง แล้วข้าจะเผชิญหน้ากับท่านเมี่ยวหมิงเฉินได้อย่างไร?” แม้เขาจะกล่าวเช่นนี้แต่สามารถมองเห็นร่องรอยของความรักอยู่ในดวงตาของเขา

เขาคือเฟิงเจียง

เฟิงเจียง ฮวาตี้ และกุ้ยฉีเย่ ทั้งสามเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของผู้อมตะบนเส้นทางแห่งห้วงมิติที่มีชื่อเสียงของทะเลตะวันออก เมี่ยวหมิงเฉิน

เมี่ยวหมิงเฉินตามหาสาขาของสายธารแห่งกาลเวลาในทะเลไหลเชี่ยว ดังนั้นผู้อมตะทั้งสามจึงผลัดกันออกมาตรวจสอบพื้นที่บริเวณนี้อยู่เสมอ เมื่อพวกเขาเห็นผู้อมตะบางคนเข้าใกล้ พวกเขาจะเข้าไปพูดคุยและขอความช่วยเหลือ

เช่นนั้นพวกเจ้าก็จงตายไปพร้อมกัน” คนที่ไล่ล่าพวกเขาเป็นผู้อมตะระดับเจ็ด

เขาชื่อว่าเก้อเหวิน เขาอยู่ในชุดคลุมสีฟ้าและมีผิวหนังแห้งเหมือนเปลือกไม้ ดวงตาของเขาส่องประกายด้วยแสงสีแดง ฟันแหลมคม และดูท่าทางชั่วร้าย

คนผู้นี้ค่อนข้างมีอายุและมีชื่อเสียงอยู่บ้างในทะเลตะวันออก

เขาเป็นปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งสายฟ้า แต่ครั้งหนึ่งเมื่อเขาใช้ท่าไม้ตายอมตะ เขาล้มเหลวและได้รับผลกระทบย้อนกลับทำให้เขาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องเปลี่ยนตนเองให้เป็นผีดิบอมตะ

แต่ถึงกระนั้นพลังการต่อสู้ของเขาก็ยังโดดเด่นด้วยวิญญาณอมตะสองดวง ด้วยเหตุนี้ผู้อมตะระดับหกฮวาตี้และเฟิงเจียงจึงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา

มอบผงวัฎจักรปีออกมา มันเป็นของข้า หากพวกเจ้ามอบมันให้ข้า ข้าอาจทิ้งศพของพวกเจ้าเอาไว้!” เก้อเหวินหัวเราะคิกคักขณะเคลื่อนที่เข้าใกล้เป้าหมาย

ผู้อมตะฮวาตี้กังวล “เราพบผงวัฎจักรปีก่อน มันจะเป็นของเจ้าได้อย่างไร?”

ข้าอยู่ที่นี่มาครึ่งเดือนแล้ว แต่ทันทีที่ข้าพบมัน พวกเจ้าก็ชิงมันไปแล้ว!” เก้อเหวินคำราม

ผู้อมตะฮวาตี้รู้สึกขุ่นเคือง “ท่านเมี่ยวหมิงเฉินพบผงวัฎจักรปีเมื่อสามปีก่อนและจัดตั้งค่ายกลวิญญาณเอาไว้ ทุกสามเดือน ข้าจะไปที่นั่นและดูแลมัน ไม่ว่าเจ้าจะบิดเบือนข้อเท็จจริงอย่างไร เจ้าก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความจริงข้อนี้!”

ผู้อมตะฮวาตี้กล่าวตามความจริง แต่เก้อเหวินปฏิเสธ “ฮืม ลิ้นสองแฉก ข้าจะฆ่าเจ้าเป็นคนแรก!”

ฮืม อย่าอวดดีนัก!”

เป็นเพียงเวลานี้ที่เสียงสายหนึ่งดังขึ้น

ผู้ใด?” การแสดงออกของเก้อเหวินเปลี่ยนไป

ในเวลาเดียวกันน้ำทะเลพลันยกตัวสูงขึ้น

ต่อมาอสูรกายตัวหนึ่งก็พุ่งขึ้นมาจากจุดนั้น

มังกรทะเลสีน้ำเงินปรากฏตัวขึ้นและกล่าว “ปีศาจร้ายมอบชีวิตของเจ้ามา!”

ผู้อมตะทั้งสามเข้าใจทันทีว่ามังกรทะเลสีน้ำเงินตัวนี้คือผู้อมตะบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง

ผู้อมตะฮวาตี้และเฟิงเจียงทั้งมีความสุขและตกใจ

เก้อเหวินโกรธมาก “ยุ่งไม่เข้าเรื่อง รับท่าไม้ตายของข้า!”

หลังกล่าวจบคำ เขาถ่มน้ำลายใส่ฝ่ามือข้างขวา

น้ำลายของเขากลายเป็นสายฟ้าขนาดเท่าไข่ห่าน

จากนั้นเก้อเหวินก็ส่งเสาสายฟ้าพุ่งเข้าโจมตีมังกรทะเลสีน้ำเงิน

แต่มันไม่หลบ มันอ้าปากและ

ลมหายใจมังกร!

เก้อเหวินลอบหัวเราะอยู่ภายใน ‘ท่าไม้ตายของข้าอยู่ได้นานหลายนาทีขณะที่ลมหายใจมังกรต้องใช้ครั้งต่อครั้ง แล้วเขาจะต่อต้านข้าได้อย่างไร?’

แต่ลมหายใจมังกรกลับไม่หายไป

มันพุ่งทะลวงเสาสายฟ้าไปถึงเก้อเกวินในพริบตา

นี่เป็นไปได้อย่างไร?” เก้อเหวินรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ

เขารีบหลบ

ลมหายใจมังกรพุ่งผ่านไป เก้อเหวินขมวดคิ้วลึกและคำราม “วันนี้พวกเจ้าโชคดี ข้าจะปล่อยพวกเจ้าไปก่อน

หลังกล่าวจบประโยค เขาเร่งล่าถอยทันที

มังกรทะเลสีน้ำเงินไม่ได้ไล่ล่า มันเพียงเฝ้ามองเก้อเหวินจากไปเท่านั้น

เขาต้องกลับไปที่ค่ายกลวิญญาณ ที่นั่นยังมีผงวัฎจักรปีเหลืออยู่อีกมาก” ผู้อมตะฮวาตี้สามารถบอกแผนการของเก้อเหวิน

เฟิงเจียงวางฮวาตี้ลงและป้องหมัดไปที่มังกรทะเลสีน้ำเงิน “สหายท่านนี้ ท่านสามารถเอาชนะศัตรูที่แข็งแกร่งและช่วยชีวิตพวกเรา พวกเราจะไม่มีวันลืมความเมตตาในครั้งนี้ ข้าขอทราบชื่อของท่านได้หรือไม่?”

เป็นเพียงเวลานี้ที่มังกรทะเลสีน้ำเงินเปลี่ยนรูปลักษณ์กลับเป็นมนุษย์ “ข้าชื่อชูอิง เทพธิดาฮวาตี้ ท่านสบายดีหรือไม่?”

ผู้อมตะฮวาตี้ประหลาดใจและมีความสุข “โอ้ ผู้ใดจะคิดว่าเป็นท่านชูอิง!”

เมื่อเห็นสายตาที่งุนงงของเฟิงเจียง ผู้อมตะฮวาตี้เร่งอธิบาย “เราพบสาขาของสายธารแห่งกาลเวลาในทะเลไหลเชี่ยวเพราะท่านชูอิง เขาเป็นเหตุผลที่ทำให้นายท่านเมี่ยวหมิงเฉินสามารถนำสาขาของสายธารแห่งกาลเวลากลับไป”

Reverend Insanity

Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบของวิญญาณซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา! Humans are the spirit of all living beings, Gu are the essence of heaven and earth. With his three views* unrighteous, a demon is reborn. Former days are but an old dream, an identical name is made anew. The story of a time traveller who keeps on being reborn. A unique world that nurtures, refines, and uses Gu. Spring Autumn Cicada, Moonlight Gu, Liquor Worm, Great Qi Golden Light Worm, Slender Black Hair Gu, Hope Gu… And a great demon of the world that acts as his heart pleases! A story of a villain, Fang Yuan who was reborn 500 years into the past with the Spring Autumn Cicada he painstakingly refined. With his profound wisdom, battle and life experiences, he seeks to overcome his foes with skill and wit! Ruthless and amoral, he has no need to hold back as he pursues his ultimate goals. In a world of cruelty where one cultivates using *Gu – magical creatures of the world – Fang Yuan must rise up above all with his own power. Notes : *Gu is a legendary venomous insect, often used in black magic practices. It can take on the form of several insects, usually snakes, crickets, worms etc. *Three views = one’s world view, values of worth, and philosophy on life.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset