เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1336 จ้าวเย่ฮุ้ย
แปลโดย iPAT
ดวงจันทร์ลอยอยู่เหนือภูเขาที่รกร้าง
มนุษย์อสูรหัวหมูป่าสองคนแบกฟางหยวนขึ้นภูเขา
ฟางหยวนเฝ้าสังเกตต่อไปและไม่ได้หุนหันพลันแล่น
‘ร่างกายของข้าคือผู้ใช้วิญญาณระดับสี่ ข้ามีทะเลวิญญาณและพลังวิญญาณแต่ข้าไม่มีวิญญาณ’
‘และข้าได้รับบาดเจ็บสาหัส แม้ข้าจะอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ แต่ปราศจากวิญญาณ ข้าก็ไม่สามารถต่อสู้กับมนุษย์อสูรทั้งสอง’
‘อย่างไรก็ตามเมื่อเราไปถึงหน้าผา มนุษย์อสูรหัวหมูป่าทั้งสองจะโยนข้าลงไป ด้วยการตกจากที่สูงและไม่ได้รับการป้องกันโดยวิญญาณ ข้าจะตายอย่างแน่นอน’
‘ดังนั้น…ความหวังเดียวของข้าคือบนเส้นทางภูเขา?’
หลังจากวิเคราะห์ ฟางหยวนกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะคลี่คลายความฝันทันที
เขารู้สึกราวกับนักเดินทางในทะเลทรายที่หิวกระหายและได้ดื่มน้ำไปสองสามหยด
‘ประสิทธิภาพของมันต่ำมาก!’
ฟางหยวนไม่มีทางเลือกนอกจากใช้ท่าไม้ตายอมตะคลี่คลายความฝันอีกครั้ง
คราวนี้บาดแผลบนร่างกายของเขาเริ่มตกสะเก็ดทันที ความเจ็บปวดที่เขารู้สึกลดน้อยลงอย่างรวดเร็ว
แต่หน้าอกและแผ่นหลังของขายังมีบาดแผลลึกอยู่อีกหลายจุด พวกมันยังไม่ฟื้นตัว
คลี่คลายความฝัน
คลี่คลายความฝัน
คลี่คลายความฝัน
ฟางหยวนต้องใช้ท่าไม้ตายอมตะนี้อย่างต่อเนื่อง อาการบาดเจ็บรุนแรงของเขาหายดีแล้ว อย่างน้อยก็ไม่มีเลือดไหลอีก ความแข็งแกร่งของเขาฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อย ร่างกายของเขาเริ่มอบอุ่นขึ้น
แต่สิ่งนี้ไม่ได้ทำให้ฟางหยวนมีความแข็งแกร่งที่โดดเด่น
เขายังเป็นมนุษย์ธรรมดา โดยปราศจากวิญญาณ เขาก็ไม่สามารถต่อสู้กับมนุษย์อสูรทั้งสอง
‘เกิดสิ่งใดขึ้น?’
‘ท่าไม้ตายอมตะคลี่คลายความฝันยังไม่เพียงพอ?’
‘ข้าใช้มันไปแล้วห้าครั้ง แต่นี่คือสิ่งที่ข้าได้รับงั้นหรือ?’
ฟางหยวนมองไปที่หน้าผาและตัดสินใจ ‘ลืมมันไปซะ ข้าต้องลงมือเดี๋ยวนี้!’
เขาเริ่มดิ้นรนและหลุดออกจากพันธนาการในที่สุด
มนุษย์อสูรหัวหมูป่าประหลาดใจมาก
ฟางหยวนล้มลงบนพื้นและเกือบหมดสติจากความเจ็บปวด
มนุษย์อสูรหัวหมูป่าทั้งสองตอบสนองด้วยการพุ่งเข้าโจมตีฟางหยวน
ฟางหยวนใช้ทักษะการต่อสู้ของเขาหลบหลีกและวิ่งลงจากภูเขา
มนุษย์อสูรทั้งสองไล่ตาม
ไม่นานทั้งสองก็พบฟางหยวน
“ปัง!”
เขี้ยวหมูป่าแทงแผ่นหลังของฟางหยวนและทะลุออกจากหน้าอก
ฟางหยวนหยุดเคลื่อนไหว เลือดไหลออกมาจากปากของเขา ไม่นานหลังจากนั้นวิสัยทัศน์ของเขาก็มืดลง
เขาเปิดเปลือกตาขึ้นในห้องโถง
ฟางหยวนกลับสู่โลกแห่งความจริงอีกครั้ง
ใบหน้าของเขาซีดขาว จิตวิญญาณของเขาได้รับบาดเจ็บ แต่สิ่งที่ทำให้ฟางหยวนประหลาดใจก็คืออาณาจักรแห่งความฝันนี้แปลกประหลาดมาก
‘อาณาจักรแห่งความฝันนี้เป็นอาณาจักรแห่งความฝันที่ยากที่สุดเท่าที่ข้าเคยเห็น’
‘ความยากของมันสูงจนไม่น่าเชื่อ’
‘ข้าไม่แม้แต่จะผ่านฉากแรกของมันและยังตายไปหลายครั้ง’
‘ท่าไม้ตายอมตะคลี่คลายความฝันมีประสิทธิภาพต่ำมาก มันเกิดสิ่งใดขึ้น?’
ปัญหานี้ทำให้ฟางหยวนรู้สึกงุนงง
เขาคิดเกี่ยวกับมันและไม่สามารถคาดเดาสิ่งใดได้เลย เขาต้องถอยออกมาและคิดว่าจะจัดการมนุษย์อสูรทั้งสองอย่างไร
‘สัตว์อสูรหัวหมูป่ามีร่างกายใหญ่โต หากข้าสามารถเข้าไปในป่า มันจะง่ายกว่านี้ แต่ภูเขาลูกนี้ไม่มีต้นไม้อยู่เลย มันไม่มีแม้แต่กองหิน’
‘แม้ข้าจะใช้ท่าไม้ตายอมตะคลี่คลายความฝันห้าครั้งแต่ความพยายามของข้ายังไร้ประโยชน์’
‘แม้มันจะช่วยให้พละกำลังของข้าฟื้นฟูขึ้น แต่มันก็มีประโยชน์ไม่มาก มันจะดีกว่าหากข้ามีวิญญาณ’
‘นอกจากนี้ต่อให้ข้ามีวิญญาณแต่พลังการต่อสู้ของข้าก็มีจำกัด ข้าไม่สามารถหนีไปได้ไกลนัก’
หลังจากวิเคราะห์ ฟางหยวนตระหนักถึงบางสิ่ง ‘อาณาจักรแห่งความฝันนี้บังคับให้ข้าต้องตกลงไปใต้หน้าผา?’’
เขาเข้าสู่อาณาจักรแห่งความฝันอีกครั้ง
มนุษย์อสูรทั้งสองโยนเขาลงไปใต้หน้าผา
แต่สิ่งที่แตกต่างก็คือฟางหยวนสามารถจัดระเบียบร่างกายกลางอากาศ
หลายลมหายใจต่อมา เขาเห็นจงอยหินที่แปลกประหลาดยื่นออกมาจากกำแพง นอกจากนี้ยังมีต้นไม้บางต้นที่เกี่ยวพันอยู่บนกำแพงอย่างแน่นหนา
“ตุบ!”
ฟางหยวนตกลงบนก้อนหินและเสียชีวิต
‘ความเร็วของการตกรวมกับอาการบาดเจ็บของข้าทำให้ข้าตายทันทีที่ปะทะก้อนหิน ดูเหมือนข้าต้องลงจอดบนต้นไม้’
เขาเข้าสู่อาณาจักรแห่งความฝันอีกครั้ง
จากประสบการณ์ก่อนหน้า ฟางหยวนตกลงบนต้นไม้
กิ่งไม้หักแต่มันก็ช่วยให้ความเร็วในการร่วงหล่นของเขาช้าลงมาก
เขาใช้ฝ่าเท้าและแขนจับกำแพงหน้าผาเพื่อปรับทิศทาง
แต่เขากลับถูกกิ่งไม้ที่แหลมคมแทงทะลุร่างกายและเสียชีวิต
เขาถูกขับไล่ออกจากอาณาจักรแห่งความฝันอีกครั้ง
หลังจากตายไปสิบแปดครั้ง ในที่สุดฟางหยวนก็ลงไปถึงก้นเหวได้สำเร็จ
แต่อาการบาดเจ็บของเขารุนแรงเกินไป แขนขาทั้งสี่ของเขาไม่สามารถใช้งาน มีเพียงแขนขวาเท่านั้นที่ยังมีความรู้สึกอยู่บ้าง เลือดอุ่นๆไหลออกมาอย่างต่อเนื่องขณะที่กระดูกส่วนใหญ่ในร่างกายของเขาแตกหัก ความเจ็บปวดพุ่งเข้าโจมตีเขา
แต่นี่เป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ฟางหยวนสามารถบรรลุถึงจุดนี้หลังจากความพยายามนับครั้งไม่ถ้วน
คลี่คลายความฝัน
คลี่คลายความฝัน
คลี่คลายความฝัน
ฟางหยวนใช้ท่าไม้ตายอมตะคลี่คลายความฝันหลังจากไปถึงก้นเหว
มันช่วยรักษาอาการบาดเจ็บของเขา เขาสามารถใช้แขนข้างขวา ขาข้างซ้ายของเขาเริ่มมีความรู้สึก แต่ขาข้างขวาหักไปแล้ว ข้อเท้าของเขาบิดเบี้ยวและดูไม่น่ามอง
ฟางหยวนตรวจสอบสภาพแวดล้อม
มีกองซากศพถูกทิ้งไว้เหมือนภูเขา
‘ข้าต้องทำสิ่งใดต่อไป?’ ขณะที่ฟางหยวนกำลังมึนงง เขารู้สึกถึงกลิ่นอายของผู้อมตะมาจากด้านบน
ผู้อมตะระดับเจ็ดเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์สองคนลอยอยู่บนท้องฟ้า
พวกเขาต่างเป็นมนุษย์อสูร ตัวหนึ่งมีศีรษะเป็นหมูป่าและมีร่างกายเป็นมนุษย์ อีกตัวมีร่างกายเป็นอสรพิษแต่มีศีรษะเป็นมนุษย์
“ระวัง เจ้าตัวโตอยู่ด้านล่าง” ผู้อมตะร่างอสรพิษศีรษะมนุษย์กล่าวเสียงเย็น
“ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้าตัวโต เจ้ากำลังหลับอยู่งั้นหรือ? ตื่นเดี๋ยวนี้!” ผู้อมตะร่างมนุษย์ศีรษะหมูป่าหัวเราะเสียงดัง
ทั้งสองจงใจขยายเสียงของพวกเขา
ด้วยเสียงนี้ กลิ่นอายที่ทรงพลังปะทุขึ้นมาจากกองซากศพทันที
ร่างที่ใหญ่โตปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าฟางหยวน
มันเป็นยักษ์ที่มีความสูงเท่ากับตึกเจ็ดถึงแปดชั้น
ร่างกายของมันเป็นสีดำและมีเส้นผมสีดำราวกับเสื้อคลุม
มันตื่นขึ้นแล้ว!
ผู้อมตะเผ่ามนุษย์อสูรทั้งสองตกตะลึง พวกเขาไม่กล้ายโสอีกต่อไปและกระทั่งแสดงให้เห็นถึงความหวาดกลัว
ฟางหยวนก็เช่นกัน
เพราะกลิ่นอายของสัตว์ประหลาดตัวนี้แสดงให้เห็นว่า ‘มันเป็นกลิ่นอายของผู้อมตะระดับแปด! แต่มันดูเหมือนมนุษย์และสัตว์อสูรแรกกำเนิดในเวลาเดียวกัน’
“เจ้าตัวโต ไปกิน!”
“ถูกต้อง เลือดและเนื้อเหล่านี้ถูกนำมาโดยตระกูลของพวกเรา”
ผู้อมตะเผ่ามนุษย์อสูรทั้งสองกระตุ้น
“ข้าบอกกี่ครั้งแล้ว ข้ามีชื่อ ข้าคือจ้าวเย่ฮุ้ย!” ยักษ์ดำกล่าวแต่หลังจากนั้นมันก็เริ่มกินอาหาร
มันกางแขนออกและคว้าซากศพยัดเข้าไปในปาก
‘ไม่ดีแล้ว!’ ฟางหยวนคิดขณะที่เขากำลังจะถูกกิน
…..
ภาคใต้ ถ้ำปีศาจดำ
ภาคใต้มีภูเขาและถ้ำอยู่มากมาย
ถ้ำปีศาจดำมีขนาดเล็กและไม่สะดุดตา
มันผลิตทรัพยากรบนเส้นทางแห่งความมืด แต่สำหรับกองกำลังใหญ่ มันไม่มีประโยชน์ และสำหรับกองกำลังขนาดกลาง การสำรวจมันเป็นเรื่องยากเกินไป
ดังนั้นจึงไม่มีผู้ใดมาที่นี่
แต่ในเวลานี้ราชันภูเขาม่วงและคนอื่นๆกลับมายังถ้ำปีศาจดำแห่งนี้
“เรามาที่นี่เพื่อสิ่งใด?” ไป่หนิงปิงมองไปรอบๆและตรวจสอบโดยใช้วิธีการจากมรดกที่แท้จริงของไป่เซียง อย่างไรก็ตามนางยังไม่พบสิ่งใด
ราชันภูเขาม่วงไม่ตอบแต่กล่าว “ข้าอยู่ที่นี่แล้ว ทำตามข้อตกลงของเรา ก่อนหน้านี้ข้ามอบมรดกที่แท้จริงให้เจ้า เจ้าติดหนี้บุญคุณข้า”
“หนี้บุญคุณ? หนี้บุญคุณใด?” เสียงดังออกมาจากถ้ำ
หลังจากนั้นกลิ่นอายที่ทรงพลังก็ปะทุออกมา นี่ทำให้การแสดงออกของอิงอู๋เซี่ยและคนอื่นๆเปลี่ยนไป
มีเพียงราชันภูเขาม่วงที่ยังสงบนิ่ง “เจ้าอยากเป็นมนุษย์มาตลอดมิใช่หรือ จ้าวเย่ฮุ้ย!”
“มนุษย์? โอ้ ข้าจำได้แล้ว เจ้าคือชายผู้นั้น”
“ถูกต้อง ข้าช่วยเจ้าไปแล้ว เจ้าติดหนี้บุญคุณข้า”
“ถูกต้อง ข้า จ้าวเย่ฮุ้ย อยากเป็นมนุษย์ ข้าต้องตอบแทนเจ้า บอกมา เจ้าต้องการให้ข้าทำสิ่งใด?”
“สิ่งที่เจ้าเชี่ยวชาญที่สุด กินมนุษย์!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าเบื่อที่จะกินมนุษย์ธรรมดาแล้ว”
“ไม่จำเป็นต้องกังวล พวกเขาเป็นผู้อมตะ อาจมีกระทั่งผู้อมตะระดับแปด” ราชันภูเขาม่วงกล่าวด้วยรอยยิ้ม