Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน – บทที่ 1355 การทรยศที่โหดร้าย

ฝ่ายธรรมะและฝ่ายปีศาจกำลังต่อสู้กันอยู่ที่ค่ายกลวิญญาณขณะที่อีกสนามรบหนึ่งการต่อสู้สิ้นสุดลงแล้ว

 

บ้านไม้ไผ่ไม่ได้รับความเสียหาย มันยังส่องประกายและลอยอยู่อย่างเงียบๆ

 

ค่ายกลวิญญาณแม่น้ำโลหิตสีม่วงพังทลายลงขณะที่ปีศาจอมตะภาพลวงตาทั้งเจ็ดถูกจับกุม

 

“ให้ข้าดูร่างจริงของเจ้า” วูหยงที่ไม่ได้รับบาดเจ็บปล่อยแสงสีเขียวออกมาจากดวงตา

 

ทันใดนั้นแสงสีรุ้งที่ปกคลุมร่างกายของปีศาจอมตะภาพลวงตาทั้งเจ็ดก็ถูกพัดกระจัดกระจายออกไป

 

ตัวตนที่แท้จริงของเขาถูกเปิดเผย

 

ผู้อมตะทั้งสามตกตะลึง

 

เฉียวจื่อไคจ้องมองด้วยความดวงเบิกกว้างและอ้าปากค้าง “เหยาเกิ้ง!?”

 

ปรากฏว่าปีศาจอมตะระดับเจ็ดผู้นี้ไม่ใช่ผู้ใดนอกจากสมาชิกของกองกำลังใหญ่ฝ่ายธรรมะตระกูลเหยา เหยาเกิ้ง

 

เดิมทีเขาต่อสู้กับวูอี้เหรินเพื่อแย่งชิงมรดกที่แท้จริงหนึ่ง ในต่อสู้เขาเสียชีวิตพร้อมวูอี้เหริน

 

ป้ายวิญญาณของเขาพังทลาย ทุกคนคิดว่าเขาตายไปแล้ว

 

แต่ผู้ใดจะคิดว่าเขาก็คือปีศาจอมตะภาพลวงตาทั้งเจ็ด!

 

“ดี ดีมาก ตระกูลเหยาเป็นเช่นนี้จริงๆ” ไท่เมี่ยนเฉินกล่าวเสียงเย็น

 

เหยาเกิ้งเผยรอยยิ้มขมขื่น “นี่เป็นการกระทำส่วนตัวของข้า มันไม่เกี่ยวกับตระกูลเหยา”

 

วูหยงถาม “เหตุใดเจ้าถึงวางกับดักพวกเรา?”

 

รอยยิ้มของเหยาเกิ้งยิ่งขมขื่นมากขึ้น “ข้าบอกไปแล้ว ข้าเป็นเพียงตัวละครเล็กๆ หรือกล่าวให้ถูกต้องกว่านั้นก็คือข้าเป็นเพียงตัวหมากเบี้ย ข้าถูกบงการและถูกบังคับให้ทำเรื่องนี้ ตระกูลของข้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับมัน”

 

การแสดงออกของวูหยงมืดมนลง “เช่นนั้นคนที่บงการเจ้าคือผู้อมตะระดับแปดผู้นั้นงั้นหรือ? บอกทุกอย่างที่เจ้ารู้”

 

ไท่เมี่ยวเฉิงตะโกน “มันเป็นเพราะมรดกที่แท้จริงภาพลวงตาทั้งเจ็ดใช่หรือไม่?”

 

เหยาเกิ้งพยักหน้า

 

ไท่เมี่ยนเฉินถอนหายใจ “ในการรับสืบทอดมรดกที่แท้จริงภาพลวงตาทั้งเจ็ด เจ้าต้องยอมรับข้อตกลงพันธมิตรบนเส้นทางแห่งข้อมูล ตระกูลของข้าค้นคว้าและพบว่านี่คือกับดัก แต่สิ่งที่เราไม่เข้าใจก็คือมรดกที่แทจ้ริงภาพลวงตาทั้งเจ็ดมีอยู่มากมาย ผู้สืบทอดคนอื่นๆไม่เคยถูกใช้งาน เจ้าเป็นเหยื่อรายแรก”

 

ได้ยินเรื่องนี้ วูหยงและเฉียวจื่อไคเข้าใจทันที

 

“ผู้ชนะสามารถทำทุกสิ่ง พวกเจ้าสามารถฆ่าข้าหรือทำสิ่งใดก็ตาม” เหยาเกิ้งนั่งลงบนพื้นโดยปราศจากเจตจำนงแห่งการต่อสู้

 

“ผู้อมตะระดับแปดผมม่วงอยู่ที่ใด?” วูหยงถามและรู้สึกถึงความผิดปกติ

 

เหยาเกิ้งกล่าวทุกอย่างที่เขารู้ “ข้ารู้เท่าที่บอก ข้าคิดว่าเขาซ่อนตัวอยู่ในค่ายกล เพียงเมื่อพวกเจ้าค้นพบแกนกลางและจับตัวข้า ข้าถึงตระหนักว่าเขาจากไปนานแล้ว”

 

ความรู้สึกสังหรณ์ร้ายของวูหยงยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น

 

เขาคำรามก่อนจะปลดปล่อยการโจมตีที่น่าสะพรึงกลัวของบ้านไม้ไผ่ออกมา

 

“บึม!”

 

แม่น้ำเลือดถูกทำลายลงอย่างสมบูรณ์ ท้องฟ้ากลับมาสดใสอีกครั้ง

 

ผู้อมตะทั้งสามได้รับอิสระแต่ก่อนที่พวกเขาจะแสดงออกอย่างมีความสุข ร่างกายของพวกเขากลับสั่นสะท้านขึ้น

 

“โอ้ ไม่ ผ่านไปหลายวันแล้ว”

 

“ค่ายกลวิญญาณนี้ไม่เพียงเกี่ยวข้องกับเส้นทางแห่งปัญญา เส้นทางแห่งเลือด เส้นทางแห่งภาพลวงตา เส้นทางแห่งข้อมูล แต่มันยังเกี่ยวข้องกับเส้นทางแห่งกาลเวลาอีกด้วย”

 

ในค่ายกลวิญญาณ ผู้อมตะทั้งสามไม่สามารถรับรู้วันเวลาที่แน่ชัด

 

กระทั่งวูหยงยังตกลงสู่หลุมพราง

 

เขาคิดมาตลอดว่าเวลาที่เขาใช้ในค่ายกลวิญญาณแม่น้ำโลหิตสีม่วงไม่นานนัก

 

แต่หลังจากออกมา เขาจึงตระหนักว่าเวลาผ่านไปนานแล้ว

 

“โอ้ ไม่ ดูเหมือนผู้อมตะระดับแปดผู้นั้นไม่ต้องการต่อสู้เป็นตายกับพวกเรา เขาเพียงกักตัวพวกเราไว้ อย่าบอกว่าเขามีจุดประสงค์อื่น?” หัวใจของวูหยงจมดิ่งลง เขารีบติดต่อตระกูลของเขา

 

ค่ายกลวิญญาณแม่น้ำโลหิตสีม่วงแยกพวกเขาออกจากโลกภายนอก พวกเขาไม่สามารถเชื่อมต่อกับสวรรค์สีเหลืองโดยไม่ต้องกล่าวถึงการติดต่อกลับตระกูล

 

ใบหน้าของผู้อมตะทั้งสามเปลี่ยนแปลงไปในทันที

 

ข้อมูลจำนวนมากพุ่งเข้าสู่จิตใจของพวกเขา ผู้อมตะทั้งสามตกตะลึงเมื่อตระหนักว่ามีหลายสิ่งเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ผ่านมา

 

ผู้อมตะตระกูลวู ตระกูลหยาง ตระกูลเฉียว ตระกูลจื่อ ตระกูลช่าย ตระกูลเซี่ย ตระกูลปา และตระกูลอื่นเข้าสู่การต่อสู้ที่ชุลมุนวุ่นวาย

 

แผนการของราชันภูเขาม่วงคือการกักตัววูหยงและใช้ข่าวการเสียชีวิตของเขาทำให้เกิดความโกลาหลขึ้นในภาคใต้

 

แน่นอนว่าเขาประสบความสำเร็จ

 

“เกิดสิ่งใดขึ้น?”

 

“ปีศาจอมตะเหล่านี้ช่างกล้าหาญนัก พวกเขากล้าโจมตีค่ายกลวิญญาณได้อย่างไร?”

 

“ไม่เพียงเท่านั้น กระทั่งผู้อมตะภาคเหนือยังเข้าร่วม!”

 

“แม้แต่สัตว์อสูรแรกกำเนิดในตำนานจ้าวเย่ฮุ้ยยังถูกควบคุม!?”
ผู้อมตะทั้งสามรู้สึกคาดไม่ถึง

 

แต่พวกเขาไม่โง่ พวกเขาตระหนักอย่างรวดเร็วว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นแผนการใหญ่ที่น่าตกใจมาก

 

และเป้าหมายของผู้บงการก็คืออาณาจักรแห่งความฝัน!

 

“ไป เราจะไปที่ค่ายกลวิญญาณ!” วูหยงเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น

 

“พวกเขาสร้างพายุใหญ่ขึ้นในภาคใต้ ข้าอยากรู้นักว่าผู้ใดบงการอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้” ไท่เมี่ยนเฉินกล่าว

 

วูหยงพยักหน้าด้วยความกังวล “น้องชายของข้ายังอยู่ ข้าหวังว่าจะไม่เกิดเรื่องร้ายแรงขึ้นกับเขา”

 

ในช่วงเวลาสำคัญวูหยงยังไม่ลืมรักษาชื่อเสียงของตนเอง

 

เฉียวจื่อไคเร่งผสานงาน “ท่านวูหยง ท่านห่วงใยน้องชายของท่านมาก ท่านเป็นคนรักครอบครัวและมีหัวใจที่ยิ่งใหญ่ ท่านเป็นแบบอย่างของฝ่ายธรรมะอย่างแท้จริง”

 

หลังจากนั้นคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดบ้านไม้ไผ่ก็บินไปทางภูเขาอี้เทียนด้วยความเร็วสูง

 

ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของตระกูลจื่อก็กำลังทำเช่นเดียวกัน หลังจากได้รับจดหมายจากจื่อกุ้ย เขาหยุดการต่อสู้กับตระกูลหยางและนำคฤหาสน์วิญญาณอตะออกเดินไปยังค่ายกลวิญญาณทันที

 

ตระกูลหยาง ตระกูลฮั่ว ตระกูลเหยา และตระกูลเฉิงก็ส่งคฤหาสน์วิญญาณอมตะออกมาเช่นกัน

 

คนเหล่านี้ไม่รู้ว่าเหตุใดนิกายเงาถึงโจมตีค่ายกลวิญญาณ

 

เพราะตั้งแต่ต้นจนจบพวกเขาไม่เคยรู้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้นบนภูเขาอี้เทียน

 

พวกเขารู้เพียงข้อมูลเล็กๆน้อยๆที่วังสวรรค์จงใจเปิดเผยออกมา พวกเขารู้ว่าวังสวรรค์เข้าแทรกแซงและทำลายกองกำลังพันธมิตรผีดิบที่เกี่ยวข้องกับการต่อสู้บนภูเขาอี้เทียน

 

พวกเขาไม่ทราบสาเหตุของการกำเนิดอาณาจักรแห่งความฝันและไม่รู้ว่าเทพปีศาจจิตวิญญาณถูกขังอยู่ภายใน

 

วังสวรรค์ซ่อนข้อมูลนี้เพราะเกรงว่ากองกำลังใหญ่ของภาคใต้จะช่วยเทพปีศาจจิตวิญญาณ

 

อย่างไรก็ตามตอนนี้ยังมีสัตว์อสูรแรกกำเนิดในตำนานจ้าวเย่ฮุ้ยเข้ามาเกี่ยวข้อง ดังนั้นกองกำลังใหญ่ของภาคใต้จึงต้องส่งคฤหาสน์วิญญาณอมตะออกมาจัดการมัน

 

“แม้พวกเราจะถูกโจมตีอย่างกะทันหัน แต่พวกเรามีค่ายกลวิญญาณและผู้อมตะของตระกูลจื่ออยู่ที่นั่น พวกเขายังสามารถป้องกันตัวได้ในขณะนี้” เฉียวจื่อไคกล่าว

 

ไท่เมี่ยนเฉินเงียบ

 

วูหยงส่ายศีรษะ “กล่าวตามตรง ข้ากังวลมาก ฝ่ายตรงข้ามวางแผนมาอย่างแยบยล ตัวหมากเบี้ยของพวกเขาถูกคัดเลือกมาเป็นอย่างดี หากเหยาเกิ้งไม่ถูกเปิดเผย ผู้ใดจะคิดว่าเขาคือปีศาจอมตะภาพลวงตาทั้งเจ็ด อีกฝ่ายสามารถแทรกซึมเข้าสู่กองกำลังใหญ่ของฝ่ายธรรมะ ข้าเกรงว่า…”

 

วูหยงหยุดกล่าวอย่างกะทันหัน

 

ไท่เมี่ยนเฉินเข้าใจทันที “ท่านเกรงว่าพวกเขาจะมีคนแทรกซึมอยู่ในค่ายกลวิญญาณงั้นหรือ?”

 

…..

 

“บึม!”

 

การลอบโจมตีอย่างกะทันหันทำให้ทุกคนไม่มีเวลาเตรียมตัว

 

“ปาฉวนฟง เจ้าทำสิ่งใด?” ปาเต๋อตะโกนด้วยความโกรธ

 

ปาฉวนฟงถูกส่งลอบกลับหลังด้วยการโจมตีของปาเต๋อและเกือบเสียชีวิต

 

จื่อกุ้ยได้รับบาดเจ็บสาหัส ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีม่วงทอง เลือดไหลออกจากทวารทั้งเจ็ดของเขา

 

ก่อนหน้านี้

 

การอนุมานของเขาประสบความสำเร็จ แต่ในจังหวะที่เขากำลังกระตุ้นใช้งานแนวป้องกันที่สามของค่ายกลวิญญาณ ปาฉวนฟงกลับพุ่งเข้าโจมตีเขาโดยไม่คาดคิด

 

จื่อกุ้ยไว้วางใจผู้อมตะตระกูลปาเป็นอย่างมากเพราะก่อนหน้านี้คนทั้งสองยังปกป้องเขาขณะที่เขากำลังอนุมาน

 

แต่ผู้ใดจะคิดว่าปาฉวนฟงจะโจมตีเขาในช่วงเวลาสำคัญที่สุด

 

ปาฉวนฟงเป้นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งวายุ ขณะที่จื่อกุ้ยเป็นผู้อมตะระดับเจ็ดบนเส้นทางแห่งค่ายกล เขาแข็งแกร่งกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ก่อนหน้านี้ความสนใจทั้งหมดของจื่อกุ้ยอยู่ที่ค่ายกลวิญญาณ เขาไม่สามารถป้องกันตัว ดังนั้นเขาจึงถูกปาฉวนฟงโจมตีโดยปราศจากการป้องกัน

 

ไม่เพียงการกระตุ้นใช้งานค่ายกลวิญญาณจะล้มเหลว จื่อกุ้ยยังได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการโจมตีของปาฉวนฟง

 

วินาทีต่อมา เขาใกล้ตายและไม่สามารถทำสิ่งใดได้อีก

 

“ปาฉวนฟง!” ปาเต๋อกรีดร้อง ดวงตาสีแดงของเขามองไปที่ปาฉวนฟง

 

หากเขาไม่ได้เป็นพยานในเรื่องนี้ เขาจะไม่มีวันเชื่อว่าปาฉวนฟงจะเป็นคนทรยศ

 

“ยอมแพ้ซะ ปาเต๋อ เจ้าไม่รู้ว่าศัตรูคือผู้ใด!” ปาฉวนฟงที่ใกล้ตายกล่าวอย่างอ่อนแรง

 

อย่างไรก็ตามปาเต๋อยังช่วยเขาให้รอดพ้นจากความตาย

 

“เจ้าจะไม่ตาย ตระกูลจะตัดสินเจ้า การมีชีวิตอยู่น่ากลัวกว่าความตาย เจ้าจะมีชะตากรรมที่เลวร้ายยิ่งกว่าความตาย!” ปาเต๋อกัดฟันกล่าว ตอนนี้เขาเกลียดคนทรยศผู้นี้เป็นอย่างมาก

 

ปาฉวนฟงโหดร้ายมาก

 

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาเลือกจังหวะเวลาได้อย่างไร้ที่ติ

 

เขาทำลายความหวังของฝ่ายธรรมะ

 

ไม่เพียงเขาจะทำร้ายจื่อกุ้ยแต่เขายังทำลายวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปฐพีดวงใหม่อีกด้วย

 

โดยปราศจากแนวป้องกันที่สามของค่ายกลวิญญาณ ฝ่ายธรรมะจะพ่ายแพ้อย่างแน่นอน

Reverend Insanity

Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบของวิญญาณซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา! Humans are the spirit of all living beings, Gu are the essence of heaven and earth. With his three views* unrighteous, a demon is reborn. Former days are but an old dream, an identical name is made anew. The story of a time traveller who keeps on being reborn. A unique world that nurtures, refines, and uses Gu. Spring Autumn Cicada, Moonlight Gu, Liquor Worm, Great Qi Golden Light Worm, Slender Black Hair Gu, Hope Gu… And a great demon of the world that acts as his heart pleases! A story of a villain, Fang Yuan who was reborn 500 years into the past with the Spring Autumn Cicada he painstakingly refined. With his profound wisdom, battle and life experiences, he seeks to overcome his foes with skill and wit! Ruthless and amoral, he has no need to hold back as he pursues his ultimate goals. In a world of cruelty where one cultivates using *Gu – magical creatures of the world – Fang Yuan must rise up above all with his own power. Notes : *Gu is a legendary venomous insect, often used in black magic practices. It can take on the form of several insects, usually snakes, crickets, worms etc. *Three views = one’s world view, values of worth, and philosophy on life.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset