บัดซบ! เต่าตัวนี้ซ่อนตัวตลอดเวลา!” นางเสือดำกัดฟันแน่น
ความคิดกระดองเต่าหลายแสนหลังปกคลุมอยู่รอบๆเต่าพยากรณ์ นางเสือดำไม่สามารถเข้าใกล้และยังถูกผลักดันออกไปตลอดเวลา
ฟางหยวนเหมือนภูเขาที่ไม่ขยับเขยื้อนแต่เขายังไม่สามารถผ่อนคลาย
เพราะราชันภูเขาม่วงยังไม่ปรากฏตัว
ฟางหยวนพยายามตรวจสอบสถานที่ทั้งหมด
เทพธิดาเมี่ยวหยินและเฉียวซื่อหลิว สองเทพธิดาที่ยิ่งใหญ่ของภาคใต้ติดอยู่ในสถานการณ์ชะงักงัน
ไห่ลั่วหลันและไป่หนิงปิงแสดงความแข็งแกร่งที่ทำให้ฟางหยวนตกใจออกมา
ในช่วงเวลาที่ฟางหยวนไล่ล่าพวกนาง พวกนางยังไม่คุ้นเคยกับท่าไม้ตายอมตะของตน แต่ตอนนี้พวกนางกลับเชี่ยวชาญพวกมันเป็นอย่างมาก
สิ่งนี้ทำให้ฟางหยวนต้องถอนหายใจอีกครั้ง รากฐานของนิกายเงาลึกล้ำอย่างแท้จริง แม้จะอยู่ในสภาพที่เลวร้าย แต่ด้วยความช่วยเหลือจากนิกายเงา ไห่ลั่วหลันและไป่หนิงปิงยังสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตนเองได้ในระยะเวลาอันสั้น
หากฟางหยวนไม่ได้รับผลประโยชน์จากแม่น้ำหวนคืนและอาณาจักรแห่งความฝัน ความเร็วในการเติบโตของเขาจะไม่สามารถเปรียบเทียบกับเทพธิดาทั้งสอง
อย่างไรก็ตามแม้ไห่ลั่วหลันและไป่หนิงปิงจะแข็งแกร่ง แต่ฝ่ายธรรมะก็ไม่ขาดแคลนคนมีฝีมือ
ไท่ซินเจี้ยนและอี้ไห่ถิงเป็นผู้อมตะระดับเจ็ดชั้นแนวหน้า แม้พวกเขาจะด้อยกว่าวูอวี้ป๋อ แต่พวกเขายังสามารถต่อต้านไป่หนิงปิงและไห่ลั่วหลัน
สนามรบของพวกเขาเกิดการต่อสู้ที่ดุเดือด
‘อย่างไรก็ตาม…จ้าวเย่ฮุ้ยเกือบฟื้นพลังแล้ว’ ฟางหยวนไม่ลืมการดำรงอยู่ของสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งตนนี้
“วูอี้ไห่ รีบกลับมา!” เป็นเพียงเวลานี้ที่ปาเต๋าถ่ายทอดเสียงมาหาฟางหยวน
“เกิดสิ่งใดขึ้น?” ฟางหยวนรู้สึกถึงความผิดปกติในน้ำเสียงของปาเต๋อ “ข้ากำลังจะปิดฉากการต่อสู้ที่นี่”
“มาเร็ว เราต้องการเจ้า” เสียงที่อ่อนแรงของจื่อกุ้ยถูกถ่ายทอดมาเช่นกัน
หัวใจของฟางหยวนจมดิ่งลง เขารีบไปทันที
เมื่อเห็นปาฉวนฟงและจื่อกุ้ยใกล้ตาย รูม่านตาของฟางหยวนหดเล็กลง
วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลบินมาหาฟางหยวน มันบันทึกฉากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเอาไว้ทั้งหมด
‘ปาฉวนฟงเป็นสายลับของนิกายเงา!? นิกายเงาอยู่ในทุกที่จริงๆ’ หัวใจของฟางหยวนเต้นผิดจังหวะ เปลือกตาของเขากระตุกเมื่อตระหนักถึงสิ่งนี้
สถานการณ์เลวร้ายมาก
วิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปฐพีถูกทำลายไปแล้ว
สถานการณ์ของฝ่ายธรรมะตกสู่ความสิ้นหวัง แต่เมื่อปาเต๋อเกือบสูญเสียความมั่นใจทั้งหมด เขากลับได้ยินจื่อกุ้ยกล่าว “เรายังมีความหวังสุดท้าย แม้ข้าจะไม่สามารถทำสิ่งใด แต่ยังมีวูอี้ไห่ ความสำเร็จบนเส้นทางแห่งค่ายกลของเขาเป็นสิ่งที่จื่อซานยกย่อง ระดับความสำเร็จบนเส้นทางแห่งค่ายกลของเขาใกล้เคียงกับข้า เขาเป็นกึ่งปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งค่ายกล ให้เขาเข้ามา เรายังมีโอกาส”
ปาเต๋อรู้ว่าฟางหยวนกับจื่อซานมีความสัมพันธ์ใกล้ชิด แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้รับการยืนยันจากตระกูลจื่อว่าระดับความสำเร็จบนเส้นทางแห่งค่ายกลของฟางหยวนสูงมากจริงๆ
โดยปกติปาเต๋อจะระวังตัวและอิจฉา แต่ตอนนี้เขาดีใจมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ ดังนั้นเขาจึงรีบติดต่อฟางหยวนอย่างรวดเร็ว
“ข้อมูลนี้มีเพียงพวกเราเท่านั้นที่รู้ วูอี้ไห่ เจ้ามีความมั่นใจหรือไม่?” ปาเต๋อรู้สึกประหม่า
ในช่วงเวลาสำคัญเขาไม่สามารถเผยแพร่ข่าวนี้ออกไป มิฉะนั้นทุกคนจะท้อแท้และหมดกำลังใจ เมื่อเวลานั้นมาถึงฝ่ายธรรมะจะพบกับความสูญเสียครั้งใหญ่
‘มั่นใจกับตูดเจ้าสิ!’ ฟางหยวนลอบสบถสาปแช่ง
เขามองปาเต๋อด้วยความโกรธ
จ้าวเย่ฮุ้ยพักผ่อนเพียงชั่วคราว ก่อนหน้านี้จื่อกุ้ยใช้เวลาส่วนใหญ่กับการอนุมานวิญญาณอมตะที่เหมาะสมกับค่ายกลวิญญาณนี้ แต่ตอนนี้ฟางหยวนมีเวลาอีกไม่ถึงสามสิบส่วนจากเวลาทั้งหมด
เขาต้องอนุมานวิญญาณอมตะดวงใหม่ที่เหมาะสมกับค่ายกลวิญญาณนี้รวมถึงวิญญาณระดับมนุษย์อีกนับไม่ถ้วนก่อนจะใช้พวกมันสร้างแนวป้องกันที่สาม
จื่อกุ้ยรู้ถึงความยากลำบาก ดังนั้นเขาจึงบอกว่ามันเป็นความหวังสุดท้าย
“แม้เจ้าจะไม่แน่ใจว่าจะประสบความสำเร็จหรือไม่ แต่เราก็ต้องพึ่งพาเจ้าเท่านั้น หากเจ้าล้มเหลว ค่ำคืนสีเทาจะฆ่าพวกเราทุกคน อย่าคิดว่าเจ้าจะสามารถหลบหนี จ้าวเย่ฮุ้ยดุร้ายมาก มันเป็นประวัติศาสตร์ที่นองเลือดของมวลมนุษยชาติ ความหวังเดียวของเราคือค่ายกลวิญญาณนี้!” ปาเต๋อกระตุ้น
ฟางหยวนเงียบและคิดอย่างรวดเร็ว
ปาเต๋อและจื่อกุ้ยไม่รู้เกี่ยวกับตัวตนที่แท้จริงของฟางหยวน แต่ความจริงก็คือสถานการณ์ของฟางหยวนดีกว่าพวกเขามาก
‘ข้ามีเกราะหวนคืน ตราบเท่าที่ข้าใช้มัน ข้าจะสามารถหลบหนี’
‘แม้จ้าวเย่ฮุ้ยจะไล่ล่าข้า แต่ข้าสามารถใช้กำแพงภูมิภาคเพื่อทิ้งมันไว้ข้างหลัง’
‘แต่หากข้าทำเช่นนั้น ตัวตนที่แท้จริงของข้าจะถูกเปิดเผย นอกจากข้าจะเสียโอกาสที่นี่ ข้ายังจะถูกไล่ล่าโดยผู้อมตะภาคใต้ ยังไม่ต้องกล่าวถึงสิ่งผู้ใด เพียงวูหยงก็เป็นศัตรูตัวฉกาจ!’
‘ข้าควรลองดูก่อน’
‘ยังไม่ถึงเวลาสำหรับหนทางสุดท้าย’
ฟางหยวนคิดเรื่องเหล่านี้ก่อนจะรีบเดินเข้าไปหาจื่อกุ้ย “บอกความลับทั้งหมดเกี่ยวกับแนวป้องกันที่สามแก่ข้า”
จื่อกุ้ยอยู่ในสภาพเลวร้ายมาก เขาไม่สามารถใช้วิญญาณได้ในขณะนี้ เขาพยายามกล่าว “ประการแรก เราไม่มีวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปฐพี วิญญาณระดับมนุษย์บนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้บันทึกรายละเอียดทั้งหมดของค่ายกลวิญญาณนี้เอาไว้”
หลังกล่าวจบคำ เขาก็หมดสติไปทันที
‘บัดซบ!’ หัวใจของฟางหยวนจมดิ่งลง
โดยปราศจากคำแนะนำของจื่อกุ้ย เขาต้องใช้เวลาอนุมานอีกมาก
แต่เขายังตรวจสอบวิญญาณระดับมนุษย์บนเส้นทางแห่งข้อมูล
หลังจากเห็นมัน ดวงตาของฟางหยวนเบิกกว้าง เขารู้สึกดีใจมากที่ได้รับสิ่งนี้!
ค่ายกลวิญญาณสี่ธาตุ!?
ปรากฎว่าค่ายกลวิญญาณนี้ใช้แนวคิดของธาตุทั้งสี่
หากไม่มีวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปฐพี วิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งไฟ วิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งวารี และวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งวายุจะไม่สามารถใช้งาน ก่อนหน้านี้จื่อกุ้ยทำงานอย่างหนักเพื่อเติมเต็มวิญญาณบนเส้นทางแห่งปฐพี
‘ช่างบังเอิญนัก!’
‘ข้าไม่คุ้นเคยกับวิธีการอื่นแต่ข้าเข้าใจแนวคิดเกี่ยวกับธาตุทั้งสี่อย่างลึกซึ้ง’
ย้อนกลับไปตู้ซื่อเฉิงในอาณาจักรแห่งความฝันสร้างความเจ็บปวดให้กับฟางหยวนเป็นอย่างมาก
‘แนวคิดเรื่องธาตุทั้งสี่เป็นแนวคิดที่เข้มงวดเกินไปสำหรับคนรุ่นหลัง อย่างไรก็ตามแม้จะไม่มีวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปฐพี ข้าก็สามารถใช้วิญญาณอมตะชนิดอื่นทดแทนมัน’
‘เส้นทางแห่งความมืดเป็นไปได้!’
‘ความมืด วารี วายุ ไฟ นี่คือสี่ธาตุเช่นกัน ด้วยวิธีนี้ข้าจะสามารถสามารถสร้างแนวป้องกันที่สามได้อย่างแน่นอน’
ฟางหยวนตระหนักรู้ด้วยสัญชาตญาณ
เขามั่นใจมาก
เพราะเขาเป็นปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งค่ายกล!
‘แนวคิดของข้าจะประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน นอกจากนี้…ด้วยวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งความมืด เรายังสามารถป้องกันท่าไม้ตายอมตะค่ำคืนสีเทาได้อย่างมีประสิทธิภาพ’
ฟางหยวนมีความเข้าใจเกี่ยวกับท่าไม้ตายอมตะค่ำคืนสีเทาของจ้าวเย่ฮุ้ย
เหตุผล?
เพราะเขาเคยเข้าสู่อาณาจักรแห่งความฝันที่เกี่ยวข้องกับมันมาก่อน
อาณาจักรแห่งความฝันนั้นยากเกินไป ฟางหยวนเสียชีวิตนับครั้งไม่ถ้วน เขาแทบไม่สามารถข้ามผ่านมันแม้จะใช้ท่าไม้ตายอมตะคลี่คลายความฝันมากมายก็ตาม
ฟางหยวนมีประสบการณ์เกี่ยวกับท่าไม้ตายอมตะค่ำคืนสีเทาในอาณาจักรแห่งความฝัน
อย่างไรก็ตามดูเหมือนท่าไม้ตายอมตะค่ำคืนสีเทาของจ้าวเย่ฮุ้ยจะแตกต่างจากในอาณาจักรแห่งความฝันอยู่บ้าง
ในอาณาจักรแห่งความฝัน มันเป็นการโจมตีในวงกว้าง
ในปัจจุบันมันเป็นลำแสงสีเทา ชัดเจนว่านี่เป็นท่าไม้ตายที่พัฒนาแล้ว
แต่ไม่ว่าอย่างไรแก่นแท้ของมันก็ยังเหมือนเดิม ค่ำคืนสีเทายังเป็นค่ำคืนสีเทา
ด้วยประสบการณ์ในการเผชิญหน้ากับค่ำคืนสีเทา ฟางหยวนมั่นใจว่าจะสามารถสร้างค่ายกลวิญญาณที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันมันได้
‘อย่างไรก็ตาม…นี่หมายความว่าข้าต้องใช้วิญญาณอมตะขีดจำกัดความมืด มันเป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งความมืดเพียงดวงเดียวของข้า’
‘วิญญาณอมตะขีดจำกัดความมืดมีประโยชน์มากในการปกปิดตัวตน ข้าควรดำเนินการต่อหรือจากไป?’
ฟางหยวนลังเลก่อนจะตัดสินใจ
“ข้าต้องซ่อมแซมค่ายกลวิญญาณ แต่ข้าไม่สามารถเชื่อใจผู้ใด นำจื่อกุ้ยและปาฉวนฟงออกไป ปล่อยข้าไว้ที่นี่ ป้องกันไม่ให้ผู้ใดเข้าใกล้ข้า!”
ปาเต๋อรู้ว่าสิ่งใดสำคัญในเวลานี้ เขาไม่ได้กล่าวสิ่งใดและเร่งคว้าร่างผู้อมตะทั้งสองเคลื่อนที่ห่างออกไปหลายร้อยก้าว
ฟางหยวนสูดหายใจลึกก่อนจะเปลี่ยนร่างเป็นเต่าพยากรณ์
สัตว์อสูรบรรพกาลบนเส้นทางแห่งปัญญามีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งปัญญาที่จะช่วยในการอนุมานของฟางหยวน
เขาลงมือทันทีและคืบหน้าไปอย่างรวดเร็ว
“โฮก…”
จ้าวเย่ฮุ้ยเงยหน้าคำรามขึ้นสู่ท้องฟ้า
สมาชิกนิกายเงามีความสุขเมื่อได้ยินเสียงสายนี้ พวกเขาเร่งล่าถอยและทิ้งศัตรูเอาไว้
“โอ้ ไม่ ค่ำคืนสีเทากำลังมา!”
“เร็ว เข้าไปในค่ายกลวิญญาณ!”
ผู้อมตะฝ่ายธรรมะไม่รู้ความจริง พวกเขาคิดว่ามันยังเป็นปราการป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุด
“ยังไม่เสร็จอีกงั้นหรือ?” ปาเต๋อกระตุ้น เขาเป็นคนที่ประหม่ามากที่สุด หากฟางหยวนไม่ประสบความสำเร็จ พวกเขาจะตายทั้งหมด
“เสร็จแล้ว” เต่าพยากรณ์กล่าว
ดวงตาของเขาส่องประกายขึ้น วิญญาณอมตะขีดจำกัดความมืดบินออกไปพร้อมกับวิญญาณระดับมนุษย์อีกมากมาย
ปาเต๋อตกตะลึงและตื่นตระหนกมาก “มันคือวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งความมืด ไม่ใช่ว่าค่ายกลวิญญาณนี้ต้องการวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปฐพีงั้นหรือ?”
“ข้าไม่มีวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปฐพี ข้ามีเพียงเส้นทางแห่งความมืด” ฟางหยวนตอบอย่างไม่พอใจ
ปาเต๋อกรีดร้อง “เหตุใดไม่บอกข้าหากไม่มีวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปฐพี ข้าจะให้เจ้ายืม!”
“ไม่รู้สิ่งใด หุบปาก!” ฟางหยวนตำหนิ
“เจ้า!” ปาเต๋อสูญเสียความหวังทั้งหมด เขากำลังจะตำหนิฟางหยวนต่อแต่ดวงตาของเขากลับเบิกกว้างขึ้นอย่างกะทันหัน
เขาตะลึงเมื่อเห็นแนวป้องกันที่สามก่อตัวขึ้นด้วยกลิ่นอายที่ทรงพลัง
“เขาทำสำเร็จจริงๆ!” ปาเต๋อรู้สึกราวกับสามารถหลบหนีจากนรกและโบยบินขึ้นสู่สรวงสวรรค์
เฉียวซื่อหลิวและคนอื่นๆเห็นฉากที่แปลกประหลาดนี้
ปาเต๋อสูญเสียความสงบ นี่เป็นเรื่องแปลกมาก
“ปาเต๋อ เกิดสิ่งใดขึ้น? เหตุใดท่านถึงเหงื่อท่วมตัวเช่นนี้?” บางคนถาม