Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน – บทที่ 1368 จับกุมเทพปีศาจจิตวิญญาณ

ราชันภูเขาม่วงสูญเสียมิติช่องว่าง เขาสูญเสียรากฐานการบ่มเพาะ โดยปราศจากมิติช่องว่าง อนาคตของเขาจะกลายเป็นหลุมดำ

 

แต่ลืมอนาคตไปได้เลย กระทั่งตอนนี้เมื่อมิติช่องว่างถูกแยกออกจากร่างของเขา เขาก็สูญเสียพลังงานแห่งเต๋าไปเป็นจำนวนมาก

 

แม้เขาจะเก็บวิญญาณไว้บนร่างกาย แต่โดยปราศจากความช่วยเหลือจากร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋า พลังอำนาจของพวกมันก็จะตกลงสู่จุดต่ำสุด

 

แต่เขาไม่มีทางเลือก

 

หากถูกดูดกลืนปราณสวรรค์ มิติช่องว่างของเขาจะแตกสลยทันที ลมมรณะจะพัดมา ชีวิตของเขาจะตกอยู่ในอันตราย

 

ท่าไม้ตายอมตะดูดกลืนปราณทั้งสามทรงพลังอย่างน่าเหลือเชื่อ

 

มันโจมตีไปที่รากฐานของผู้อมตะโดยตรง กระทั่งราชันภูเขาม่วงที่ยิ่งใหญ่ยังต้องละทิ้งมิติช่องว่างของตนเอง มันเหมือนผู้เชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้ฝ่ามือเหล็กที่ต้องตัดแขนทั้งสองข้างของตนเองทิ้ง

 

ฟางหยวนเห็นเหตุการณ์นี้และเต็มไปด้วยความตกใจ

 

ตลอดประวัติศาสตร์อันยาวนานมีผู้อมตะระดับเก้าปรากฎขึ้นเพียงไม่กี่คน

 

ทุกสิ่งที่เกิดข้องกับตัวตนเหล่านี้ล้วนอัศจรรย์

 

ไม่ว่าจะเป็นมือปีศาจปล้นวิญญาณของเทพปีศาจปล้นสวรรค์ เขตแดนสนามรบกลับชาติมาเกิดของเทพอมตะสวรรค์พิภพ หรือท่าไม้ตายอมตะดูดกลืนปราณทั้งสามของเทพอมตะแรกกำเนิด

 

‘พวกเราทำสิ่งใดได้บ้าง?’ ฟางหยวนคิดหาวิธีพลิกสถานการณ์อย่างหนัก

 

แต่ไม่มีสิ่งใดที่เขาสามารถทำได้

 

ตอนนี้เขาทำได้เพียงรู้สึกยินดี

 

ยินดีที่ราชันภูเขาม่วงมอบคริสตัลสวรรค์ทั้งหมดให้เขาเรียบร้อยแล้ว

 

ขณะที่เขาต่อต้านเทพธิดาจื่อเว่ย เขาก็เริ่มให้อาหารอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดแล้ว ตอนนี้เขามีคริสตัลสวรรค์มากมาย แม้อินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดจะกลายเป็นสัตว์อสูรแรกกำเนิด มันก็จะไม่อดอาหารตาย

 

“สมกับเป็นราชันมังกรจริงๆ” ราชันภูเขาม่วงกล่าวชื่นชม

 

ราชันมังกรทรงพลังเกินไป

 

เขามีพลังการต่อสู้กึ่งระดับเก้าอย่างไม่ต้องสงสัย

 

เมื่อเปรียบเทียบกับผู้อมตะระดับแปดทั่วไป เขาสามารถบดขยี้ตัวตนเหล่านั้นได้อย่างง่ายดาย มีเพียงคนเช่นราชันภูเขาม่วงที่อยู่บนจุดสูงสุดของระดับแปดและเป็นหนึ่งในร่างแยกของเทพปีศาจจิตวิญญาณที่บ่มเพาะมานับแสนปีเท่านั้นที่มีคุณสมบัติที่จะท้าทายเขา

 

แต่หลังจากผ่านไปหลายสิบรอบ ราชันมังกรก็ตระหนักว่าราชันภูเขาม่วงไม่ใช่คู่ต่อสูของเขา ดังนั้นเขาจึงเริ่มใช้ไพ่ตายของตน

 

ท่าไม้ตายอมตะดูดกลืนปราณทั้งสามทรงพลังอย่างน่าเหลือเชื่อ แต่ท่าไม้ตายที่แข็งแกร่งเช่นนี้จะทำให้ผู้ใช้อยู่ในสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงหากถูกตอบโต้

 

ดังนั้นผู้อมตะจึงต้องระวังตัวอย่างมากในการใช้ท่าไม้ตายอมตะของพวกเขา

 

เช่นเดียวกับฟางหยวนที่ต้องการเลี้ยงอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดมากกว่าการใช้ท่าไม้ตายอมตะเกราะหวนคืน

 

“ในการต่อสู้ครั้งนี้ถือว่าข้ากลั่งแกล้งรุ่นน้อง หากเจ้าไม่ใช่คนที่ท้าทายโชคชะตา เราอาจสามารถนั่งลงและพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ท้ายที่สุดโลกนี้ก็มีคนน้อยเกินไปที่สามารถทำให้ข้ารู้สึกสนใจ”

 

“อย่างไรก็ตามข้าเชื่อว่าในอนาคตอันใกล้นี้ โลกทั้งใบจะสว่างไสวและน่าตื่นเต้นขี้นอย่างไม่น่าเชื่อ”

 

“และข้าจะเป็นผู้เปิดฉากยุคที่ยิ่งใหญ่ด้วยตนเอง!”

 

ราชันมังกรถอนหายใจขณะไล่ล่าราชันภูเขาม่วง

 

ราชันภูเขาม่วงต่อสู้และล่าถอย เขาถูกปราบปรามอย่างสมบูรณ์

 

เขาถูกโจมตีด้วยสองรูปแบบของท่าไม้ตายอมตะดูดกลืนปราณทั้งสามไปแล้ว พลังการต่อสู้ของเขาในเวลานี้ลดลงอย่างมาก เขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของราชันมังกรอีกต่อไป

 

ราชันมังกรโจมตีอย่างไม่หยุดยั้ง

 

ราชันภูเขาม่วงตกอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวังแต่เขายังพยายามสร้างกายาแห่งความฝันต่อไป

 

เขาไม่มีทางเลือกอื่น

 

อิงอู๋เซี่ยยังติดอยู่ในอาณาจักรแห่งความฝัน สำหรับผู้อมตะคนอื่นๆ พวกเขาทำได้เพียงเฝ้ามองอยู่ห่างๆโดยไม่สามารถทำสิ่งใด

 

ฟางหยวนกัดฟันด้วยความหนักใจ

 

เขามองไปรอบๆสนามรบ วิธีเดียวที่สามารถทำได้ในเวลานี้คือค้นหาจุดอ่อนของศัตรูเพื่อกอบกู้สถานการณ์

 

อย่างไรก็ตามราชันมังกรทำนายเรื่องนี้ไว้แล้ว ผู้ใต้บังคับบัญชาทุกคนที่เขาส่งออกมาล้วนเป็นตัวตนที่ทรงพลัง

 

โดยยังไม่ต้องกล่าวถึงราชันมังกร เพียงเทพธิดาจื่อเว่ยและหอคอยดวงตาสวรรค์ก็ทรงพลังมากแล้ว

 

ผู้อมตะภาคใต้ไม่สามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการต่อสู้ที่ดุเดือดนี้

 

‘โอ้ ไม่!’

 

‘เหตุการณ์นี้ไม่สามารถดำเนินต่อไป’

 

‘หากราชันภูเขาม่วงแพ้ สถานการณ์จะหันไปทางวังสวรรค์’

 

‘เมื่อเวลานั้นมาถึง ความหวังของข้าที่จะหลบหนีจะเหลือน้อยเกินไป!’

 

‘ข้าควรถอยตั้งแต่ตอนนี้หรือไม่?’

 

‘ข้าควรเดิมพันหรือไม่ว่าวังสวรรค์จะมีวิธีตอบโต้เกราะหวนคืนของข้าหรือไม่?’

 

ฟางหยวนลังเล

 

นี่เป็นเรื่องยากที่จะตัดสินใจ

 

แต่ในเวลานี้การต่อสู้ระหว่างราชันมังกรกับราชันภูเขาม่วงกลับเกิดจุดพลิกผัน

 

ทางเข้าแดนศักดิ์สิทธิ์ลึกลับเปิดออกขณะที่กองทัพอสูรวิญญาณจำนวนมหาศาลพุ่งออกมาจากภายใน

 

ราชันภูเขาม่วงใช้อสูรวิญญาณเหล่านี้ป้องกันการโจมตีของราชันมังกรขณะที่เขาล่าถอยเข้าไปในแดนศักดิ์สิทธิ์ดังกล่าว

 

‘แดนศักดิ์สิทธิ์ของนิกายเงา!’

 

ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้น

 

ระหว่างการต่อสู้บนภูเขาอี้เทียน แดนศักดิ์สิทธิ์ของนิกายเงาถูกย้ายมาที่นี่โดยเทพปีศาจจิตวิญญาณ แดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้มีประตูแห่งชีวิตและความตายอยู่ภายใน เทพปีศาจจิตวิญญาณเดินทางผ่านประตูแห่งชีวิตและความตายบานนี้ออกมาเพื่อต่อต้านภัยพิบัติและสร้างวิญญาณทารกอมตะ

 

หลังจากฟางหยวนฉกชิงร่างทารกอมตะมาจากเทพปีศาจจิตวิญญาณ แดนศักดิ์สิทธิ์ของนิกายเงาก็ปิดตัวลงและตัดขาดจากโลกภายนอก

 

ราชันภูเขาม่วงใช้ท่าไม้ตายอมตะของเขาเปลี่ยนอาณาจักรแห่งความฝันเป็นกายาแห่งความฝันอย่างต่อเนื่อง นั่นทำให้แดนศักดิ์สิทธิ์ของนิกายเงาที่ติดอยู่ในอาณาจักรแห่งความฝันได้รับอิสระ

 

ดังนั้นราชันภูเขาม่วงจึงสามารถเปิดประตูทางเข้าของแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้และปลดปล่อยอสูรวิญญาณออกมาจากประตูแห่งชีวิตและความตาย

 

กองทัพอสูรวิญญาณพุ่งเข้าโจมตีราชันมังกร

 

ท่ามกลางพวกมันมีอสูรวิญญาณระดับสัตว์อสูรเดียวดายมากมาย มันมีกระทั่งอสูรวิญญาณระดับสัตว์อสูรบรรพกาลและสัตว์อสูรแรกกำเนิด

 

พวกมันโจมตีราชันมังกรโดยไม่สนใจชีวิตของตนเอง

 

ท่ามกลางความสับสนวุ่นวาย ราชันภูเขาม่วงประสบความสำเร็จในการเข้าสู่แดนศักดิ์สิทธิ์ของนิกายเงา

 

การปรากฏตัวของกองทัพอสูรวิญญาณไม่ได้ทำให้สถานการณ์เปลี่ยนแปลง มันเป็นเพียงการซื้อเวลาให้ราชันภูเขาม่วงเท่านั้น

 

“ฟางหยวน เจ้ารอสิ่งใดอยู่? เหตุใดไม่ปล่อยอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดออกมา?” ราชันภูเขาม่วงเร่งเร้า

 

ฟางหยวนเผยรอยยิ้มเย้ยหยัน

 

นี่เป็นครั้งที่ห้าสิบแล้วที่เขาถาม

 

ตั้งแต่ราชันภูเขาม่วงถูกโจมตีด้วยท่าไม้ตายอมตะดูดกลืนปราณทั้งสาม เขาก็กระตุ้นให้ฟางหยวนใช้ประโยชน์จากอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดซึ่งเป็นไพ่ตายใบสุดท้ายของเขา แม้เขาจะไม่สามารถควบคุม มันก็ยังสามารถสร้างความโกลาหล

 

แต่ฟางหยวนจะปล่อยมันออกมาตามคำร้องขอของราชันภูเขาม่วงได้อย่างไร?

 

‘บุกเข้าไปในแดนศักดิ์สิทธิ์ของนิกายเงาเลย’ ฟางหยวนต้องการให้ราชันมังกรบุกเข้าไปในแดนศักดิ์สิทธิ์ของนิกายเงาเพราะเขาเชื่อว่าที่นั่นจะเต็มไปด้วยกับดัก

 

แต่ราชันมังกรกลับหยุดไล่ล่าราชันภูเขาม่วง

 

นี่ทำให้ฟางหยวนรู้สึกผิดหวังขณะที่ราชันภูเขาม่วงรู้สึกสับสนเล็กน้อย

 

ริมฝีปากของราชันมังกรม้วนตัวขึ้นเป็นรอยยิ้ม

 

ทันใดนั้นเขาก็พุ่งไปบางแห่งด้วยความเร็วสูง

 

“ในที่สุดเจ้าก็ออกมาแล้ว เทพปีศาจจิตวิญญาณ!” ราชันมังกรตะโกนและใช้กรงเล็บเปิดเส้นทาง

 

“เขารู้ตัวแล้ว!” ราชันภูเขาม่วงรู้สึกราวกับตกลงไปในแม่น้ำที่เย็นยะเยือก

 

ท่ามกลางกองทัพอสูรวิญญาณ มีดวงวิญญาณร่างมนุษย์ปรากฏขึ้น เขาไม่ได้หลบเลี่ยงราชันมังกรแต่เผชิญหน้าโดยตรง

 

“บึม!”

 

กระทั่งราชันมังกรก็ยังถูกส่งลอยกับหลังขณะที่ดวงวิญญาณร่างมนุษย์ยังอยู่ในตำแหน่งเดิม

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า” ราชันมังกรถ่มน้ำลายออกมาเป็นเลือดแต่เขายังหัวเราะ “เทพปีศาจจิตวิญญาณ เจ้าอยู่ในสภาพที่น่าสมเพชจริงๆ”

 

“บัดซบ!” ราชันภูเขาม่วงพุ่งไปข้างหน้า เขาพยายามเป็นกำลังเสริมแต่ใบหน้าของเขากลับแสดงให้เห็นถึงความตื่นตระหนกเป็นครั้งแรก

 

เห็นเหตุการณ์นี้ ฟางหยวนเข้าใจทุกสิ่ง

 

‘นิกายเงาฉลาดแกมโกงจริงๆ’

 

‘การสร้างกายาแห่งความฝันจำนวนมหาศาลอาจดูเหมือนการสร้างเส้นทางหลบหนีให้กับเทพปีศาจจิตวิญญาณ’

 

‘แต่ความตั้งใจที่แท้จริงของเขาก็คือการปล่อยกองทัพอสูรวิญญาณออกมาเพื่อให้เทพปีศาจจิตวิญญาณกลืนกินและเสริมกำลังให้กับตนเอง’

 

‘เทพปีศาจจิตวิญญาณสามรถกลืนกินดวงวิญญาณ นั่นคือวิธีกู้คืนความแข็งแกร่งอย่างรวดเร็วของเขา หากประสบความสำเร็จ เขาอาจสามารถพลิกสถานการณ์’

 

แต่ทั้งหมดกลับถูกทำนายไว้ล่วงหน้าโดยราชันมังกร

 

ราชันมังกรโจมตีเทพปีศาจจิตวิญญาณในสภาพที่อ่อนแอที่สุด ดังนั้นราชันภูเขาม่วงจึงต้องเข้าแทรกแซง

 

“สายไปแล้ว” ราชันมังกรหัวเราะและใช้กรงเล็บมังกรกวาดผ่านอากาศ

 

ราชันมังกรพุ่งเข้าโจมตีเทพปีศาจจิตวิญญาณอีกครั้ง

 

เดิมทีร่างหลักของเทพปีศาจจิตวิญญาณทรงพลังมาก เขาถือเป็นอสูรวิญญาณระดับเก้าที่สามารถใช้วิญญาณอมตะและพลังงานอมตะที่เขาทิ้งไว้เบื้องหลัง

 

แต่หลังจากการต่อสู้บนภูเขาอี้เทียน เทพปีศาจจิตวิญญาณเหลือเพียงเศษเสี้ยวของดวงวิญญาณที่ติดอยู่ในอาณาจักรแห่งความฝัน

 

ดวงวิญญาณร่างมนุษย์คำรามและป้องกันการโจมตีของราชันมังกร

 

ดวงตาของราชันมังกรส่องประกายขึ้นด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ “คิดว่าสามารถต่อต้านข้างั้นหรือ?”

 

“โอ้ เทพปีศาจจิตวิญญาณ หากเจ้ายังเป็นเทพปีศาจระดับเก้า ข้าจะหลีกทางให้เจ้าและจะหลบหนีไปสุดขอบโลก”

 

“แต่ตอนนี้เจ้าเป็นเพียงเศษเสี้ยวของดวงวิญญาณที่เหลืออยู่และยังไม่มีวิญญาณอมตะหรือพลังงานอมตะใดๆ”

 

“ข้ารอเวลานี้มานานแล้ว!”

 

“ข้าจะบอกความจริงกับเจ้า ข้ามาที่นี่เพื่อจับตัวเจ้าและกักขังไว้ในวังสวรรค์เพื่อให้คนทั้งโลกตระหนักถึงพลังอำนาจอันเป็นที่สุดของวังสวรรค์!”

 

ดวงวิญญาณร่างมนุษย์พยายามดิ้นรนขณะที่ราชันภูเขาม่วงโจมตีราชันมังกรราวกับคนบ้า

 

ราชันมังกรป้องกันการโจมตีของราชันภูเขาม่วงได้อย่างง่ายดายขณะที่เขามองดวงวิญญาณของเทพปีศาจจิตวิญญาณและเย้ยหยัน “ยังดิ้นรนอย่างสิ้นหวังอีกงั้นหรือ?”

 

“ในอดีตกระทั่งตาแก่เทพปีศาจบัวแดงยังถูกข้าขัดขวาง!”

 

“เอาล่ะ ยอมจำนนซะ!”

 

เทพปีศาจจิตวิญญาณไม่สามารถต่อต้านและถูกขังไว้ในกรงอากาศของราชันมังกร

 

ราชันมังกรสามารถจับกุมเทพปีศาจจิตวิญญาได้จริงๆ!

Reverend Insanity

Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบของวิญญาณซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา! Humans are the spirit of all living beings, Gu are the essence of heaven and earth. With his three views* unrighteous, a demon is reborn. Former days are but an old dream, an identical name is made anew. The story of a time traveller who keeps on being reborn. A unique world that nurtures, refines, and uses Gu. Spring Autumn Cicada, Moonlight Gu, Liquor Worm, Great Qi Golden Light Worm, Slender Black Hair Gu, Hope Gu… And a great demon of the world that acts as his heart pleases! A story of a villain, Fang Yuan who was reborn 500 years into the past with the Spring Autumn Cicada he painstakingly refined. With his profound wisdom, battle and life experiences, he seeks to overcome his foes with skill and wit! Ruthless and amoral, he has no need to hold back as he pursues his ultimate goals. In a world of cruelty where one cultivates using *Gu – magical creatures of the world – Fang Yuan must rise up above all with his own power. Notes : *Gu is a legendary venomous insect, often used in black magic practices. It can take on the form of several insects, usually snakes, crickets, worms etc. *Three views = one’s world view, values of worth, and philosophy on life.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset