ราชันภูเขาม่วงสูญเสียมิติช่องว่าง เขาสูญเสียรากฐานการบ่มเพาะ โดยปราศจากมิติช่องว่าง อนาคตของเขาจะกลายเป็นหลุมดำ
แต่ลืมอนาคตไปได้เลย กระทั่งตอนนี้เมื่อมิติช่องว่างถูกแยกออกจากร่างของเขา เขาก็สูญเสียพลังงานแห่งเต๋าไปเป็นจำนวนมาก
แม้เขาจะเก็บวิญญาณไว้บนร่างกาย แต่โดยปราศจากความช่วยเหลือจากร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋า พลังอำนาจของพวกมันก็จะตกลงสู่จุดต่ำสุด
แต่เขาไม่มีทางเลือก
หากถูกดูดกลืนปราณสวรรค์ มิติช่องว่างของเขาจะแตกสลยทันที ลมมรณะจะพัดมา ชีวิตของเขาจะตกอยู่ในอันตราย
ท่าไม้ตายอมตะดูดกลืนปราณทั้งสามทรงพลังอย่างน่าเหลือเชื่อ
มันโจมตีไปที่รากฐานของผู้อมตะโดยตรง กระทั่งราชันภูเขาม่วงที่ยิ่งใหญ่ยังต้องละทิ้งมิติช่องว่างของตนเอง มันเหมือนผู้เชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้ฝ่ามือเหล็กที่ต้องตัดแขนทั้งสองข้างของตนเองทิ้ง
ฟางหยวนเห็นเหตุการณ์นี้และเต็มไปด้วยความตกใจ
ตลอดประวัติศาสตร์อันยาวนานมีผู้อมตะระดับเก้าปรากฎขึ้นเพียงไม่กี่คน
ทุกสิ่งที่เกิดข้องกับตัวตนเหล่านี้ล้วนอัศจรรย์
ไม่ว่าจะเป็นมือปีศาจปล้นวิญญาณของเทพปีศาจปล้นสวรรค์ เขตแดนสนามรบกลับชาติมาเกิดของเทพอมตะสวรรค์พิภพ หรือท่าไม้ตายอมตะดูดกลืนปราณทั้งสามของเทพอมตะแรกกำเนิด
‘พวกเราทำสิ่งใดได้บ้าง?’ ฟางหยวนคิดหาวิธีพลิกสถานการณ์อย่างหนัก
แต่ไม่มีสิ่งใดที่เขาสามารถทำได้
ตอนนี้เขาทำได้เพียงรู้สึกยินดี
ยินดีที่ราชันภูเขาม่วงมอบคริสตัลสวรรค์ทั้งหมดให้เขาเรียบร้อยแล้ว
ขณะที่เขาต่อต้านเทพธิดาจื่อเว่ย เขาก็เริ่มให้อาหารอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดแล้ว ตอนนี้เขามีคริสตัลสวรรค์มากมาย แม้อินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดจะกลายเป็นสัตว์อสูรแรกกำเนิด มันก็จะไม่อดอาหารตาย
“สมกับเป็นราชันมังกรจริงๆ” ราชันภูเขาม่วงกล่าวชื่นชม
ราชันมังกรทรงพลังเกินไป
เขามีพลังการต่อสู้กึ่งระดับเก้าอย่างไม่ต้องสงสัย
เมื่อเปรียบเทียบกับผู้อมตะระดับแปดทั่วไป เขาสามารถบดขยี้ตัวตนเหล่านั้นได้อย่างง่ายดาย มีเพียงคนเช่นราชันภูเขาม่วงที่อยู่บนจุดสูงสุดของระดับแปดและเป็นหนึ่งในร่างแยกของเทพปีศาจจิตวิญญาณที่บ่มเพาะมานับแสนปีเท่านั้นที่มีคุณสมบัติที่จะท้าทายเขา
แต่หลังจากผ่านไปหลายสิบรอบ ราชันมังกรก็ตระหนักว่าราชันภูเขาม่วงไม่ใช่คู่ต่อสูของเขา ดังนั้นเขาจึงเริ่มใช้ไพ่ตายของตน
ท่าไม้ตายอมตะดูดกลืนปราณทั้งสามทรงพลังอย่างน่าเหลือเชื่อ แต่ท่าไม้ตายที่แข็งแกร่งเช่นนี้จะทำให้ผู้ใช้อยู่ในสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงหากถูกตอบโต้
ดังนั้นผู้อมตะจึงต้องระวังตัวอย่างมากในการใช้ท่าไม้ตายอมตะของพวกเขา
เช่นเดียวกับฟางหยวนที่ต้องการเลี้ยงอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดมากกว่าการใช้ท่าไม้ตายอมตะเกราะหวนคืน
“ในการต่อสู้ครั้งนี้ถือว่าข้ากลั่งแกล้งรุ่นน้อง หากเจ้าไม่ใช่คนที่ท้าทายโชคชะตา เราอาจสามารถนั่งลงและพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ท้ายที่สุดโลกนี้ก็มีคนน้อยเกินไปที่สามารถทำให้ข้ารู้สึกสนใจ”
“อย่างไรก็ตามข้าเชื่อว่าในอนาคตอันใกล้นี้ โลกทั้งใบจะสว่างไสวและน่าตื่นเต้นขี้นอย่างไม่น่าเชื่อ”
“และข้าจะเป็นผู้เปิดฉากยุคที่ยิ่งใหญ่ด้วยตนเอง!”
ราชันมังกรถอนหายใจขณะไล่ล่าราชันภูเขาม่วง
ราชันภูเขาม่วงต่อสู้และล่าถอย เขาถูกปราบปรามอย่างสมบูรณ์
เขาถูกโจมตีด้วยสองรูปแบบของท่าไม้ตายอมตะดูดกลืนปราณทั้งสามไปแล้ว พลังการต่อสู้ของเขาในเวลานี้ลดลงอย่างมาก เขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของราชันมังกรอีกต่อไป
ราชันมังกรโจมตีอย่างไม่หยุดยั้ง
ราชันภูเขาม่วงตกอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวังแต่เขายังพยายามสร้างกายาแห่งความฝันต่อไป
เขาไม่มีทางเลือกอื่น
อิงอู๋เซี่ยยังติดอยู่ในอาณาจักรแห่งความฝัน สำหรับผู้อมตะคนอื่นๆ พวกเขาทำได้เพียงเฝ้ามองอยู่ห่างๆโดยไม่สามารถทำสิ่งใด
ฟางหยวนกัดฟันด้วยความหนักใจ
เขามองไปรอบๆสนามรบ วิธีเดียวที่สามารถทำได้ในเวลานี้คือค้นหาจุดอ่อนของศัตรูเพื่อกอบกู้สถานการณ์
อย่างไรก็ตามราชันมังกรทำนายเรื่องนี้ไว้แล้ว ผู้ใต้บังคับบัญชาทุกคนที่เขาส่งออกมาล้วนเป็นตัวตนที่ทรงพลัง
โดยยังไม่ต้องกล่าวถึงราชันมังกร เพียงเทพธิดาจื่อเว่ยและหอคอยดวงตาสวรรค์ก็ทรงพลังมากแล้ว
ผู้อมตะภาคใต้ไม่สามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการต่อสู้ที่ดุเดือดนี้
‘โอ้ ไม่!’
‘เหตุการณ์นี้ไม่สามารถดำเนินต่อไป’
‘หากราชันภูเขาม่วงแพ้ สถานการณ์จะหันไปทางวังสวรรค์’
‘เมื่อเวลานั้นมาถึง ความหวังของข้าที่จะหลบหนีจะเหลือน้อยเกินไป!’
‘ข้าควรถอยตั้งแต่ตอนนี้หรือไม่?’
‘ข้าควรเดิมพันหรือไม่ว่าวังสวรรค์จะมีวิธีตอบโต้เกราะหวนคืนของข้าหรือไม่?’
ฟางหยวนลังเล
นี่เป็นเรื่องยากที่จะตัดสินใจ
แต่ในเวลานี้การต่อสู้ระหว่างราชันมังกรกับราชันภูเขาม่วงกลับเกิดจุดพลิกผัน
ทางเข้าแดนศักดิ์สิทธิ์ลึกลับเปิดออกขณะที่กองทัพอสูรวิญญาณจำนวนมหาศาลพุ่งออกมาจากภายใน
ราชันภูเขาม่วงใช้อสูรวิญญาณเหล่านี้ป้องกันการโจมตีของราชันมังกรขณะที่เขาล่าถอยเข้าไปในแดนศักดิ์สิทธิ์ดังกล่าว
‘แดนศักดิ์สิทธิ์ของนิกายเงา!’
ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้น
ระหว่างการต่อสู้บนภูเขาอี้เทียน แดนศักดิ์สิทธิ์ของนิกายเงาถูกย้ายมาที่นี่โดยเทพปีศาจจิตวิญญาณ แดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้มีประตูแห่งชีวิตและความตายอยู่ภายใน เทพปีศาจจิตวิญญาณเดินทางผ่านประตูแห่งชีวิตและความตายบานนี้ออกมาเพื่อต่อต้านภัยพิบัติและสร้างวิญญาณทารกอมตะ
หลังจากฟางหยวนฉกชิงร่างทารกอมตะมาจากเทพปีศาจจิตวิญญาณ แดนศักดิ์สิทธิ์ของนิกายเงาก็ปิดตัวลงและตัดขาดจากโลกภายนอก
ราชันภูเขาม่วงใช้ท่าไม้ตายอมตะของเขาเปลี่ยนอาณาจักรแห่งความฝันเป็นกายาแห่งความฝันอย่างต่อเนื่อง นั่นทำให้แดนศักดิ์สิทธิ์ของนิกายเงาที่ติดอยู่ในอาณาจักรแห่งความฝันได้รับอิสระ
ดังนั้นราชันภูเขาม่วงจึงสามารถเปิดประตูทางเข้าของแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้และปลดปล่อยอสูรวิญญาณออกมาจากประตูแห่งชีวิตและความตาย
กองทัพอสูรวิญญาณพุ่งเข้าโจมตีราชันมังกร
ท่ามกลางพวกมันมีอสูรวิญญาณระดับสัตว์อสูรเดียวดายมากมาย มันมีกระทั่งอสูรวิญญาณระดับสัตว์อสูรบรรพกาลและสัตว์อสูรแรกกำเนิด
พวกมันโจมตีราชันมังกรโดยไม่สนใจชีวิตของตนเอง
ท่ามกลางความสับสนวุ่นวาย ราชันภูเขาม่วงประสบความสำเร็จในการเข้าสู่แดนศักดิ์สิทธิ์ของนิกายเงา
การปรากฏตัวของกองทัพอสูรวิญญาณไม่ได้ทำให้สถานการณ์เปลี่ยนแปลง มันเป็นเพียงการซื้อเวลาให้ราชันภูเขาม่วงเท่านั้น
“ฟางหยวน เจ้ารอสิ่งใดอยู่? เหตุใดไม่ปล่อยอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดออกมา?” ราชันภูเขาม่วงเร่งเร้า
ฟางหยวนเผยรอยยิ้มเย้ยหยัน
นี่เป็นครั้งที่ห้าสิบแล้วที่เขาถาม
ตั้งแต่ราชันภูเขาม่วงถูกโจมตีด้วยท่าไม้ตายอมตะดูดกลืนปราณทั้งสาม เขาก็กระตุ้นให้ฟางหยวนใช้ประโยชน์จากอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดซึ่งเป็นไพ่ตายใบสุดท้ายของเขา แม้เขาจะไม่สามารถควบคุม มันก็ยังสามารถสร้างความโกลาหล
แต่ฟางหยวนจะปล่อยมันออกมาตามคำร้องขอของราชันภูเขาม่วงได้อย่างไร?
‘บุกเข้าไปในแดนศักดิ์สิทธิ์ของนิกายเงาเลย’ ฟางหยวนต้องการให้ราชันมังกรบุกเข้าไปในแดนศักดิ์สิทธิ์ของนิกายเงาเพราะเขาเชื่อว่าที่นั่นจะเต็มไปด้วยกับดัก
แต่ราชันมังกรกลับหยุดไล่ล่าราชันภูเขาม่วง
นี่ทำให้ฟางหยวนรู้สึกผิดหวังขณะที่ราชันภูเขาม่วงรู้สึกสับสนเล็กน้อย
ริมฝีปากของราชันมังกรม้วนตัวขึ้นเป็นรอยยิ้ม
ทันใดนั้นเขาก็พุ่งไปบางแห่งด้วยความเร็วสูง
“ในที่สุดเจ้าก็ออกมาแล้ว เทพปีศาจจิตวิญญาณ!” ราชันมังกรตะโกนและใช้กรงเล็บเปิดเส้นทาง
“เขารู้ตัวแล้ว!” ราชันภูเขาม่วงรู้สึกราวกับตกลงไปในแม่น้ำที่เย็นยะเยือก
ท่ามกลางกองทัพอสูรวิญญาณ มีดวงวิญญาณร่างมนุษย์ปรากฏขึ้น เขาไม่ได้หลบเลี่ยงราชันมังกรแต่เผชิญหน้าโดยตรง
“บึม!”
กระทั่งราชันมังกรก็ยังถูกส่งลอยกับหลังขณะที่ดวงวิญญาณร่างมนุษย์ยังอยู่ในตำแหน่งเดิม
“ฮ่าฮ่าฮ่า” ราชันมังกรถ่มน้ำลายออกมาเป็นเลือดแต่เขายังหัวเราะ “เทพปีศาจจิตวิญญาณ เจ้าอยู่ในสภาพที่น่าสมเพชจริงๆ”
“บัดซบ!” ราชันภูเขาม่วงพุ่งไปข้างหน้า เขาพยายามเป็นกำลังเสริมแต่ใบหน้าของเขากลับแสดงให้เห็นถึงความตื่นตระหนกเป็นครั้งแรก
เห็นเหตุการณ์นี้ ฟางหยวนเข้าใจทุกสิ่ง
‘นิกายเงาฉลาดแกมโกงจริงๆ’
‘การสร้างกายาแห่งความฝันจำนวนมหาศาลอาจดูเหมือนการสร้างเส้นทางหลบหนีให้กับเทพปีศาจจิตวิญญาณ’
‘แต่ความตั้งใจที่แท้จริงของเขาก็คือการปล่อยกองทัพอสูรวิญญาณออกมาเพื่อให้เทพปีศาจจิตวิญญาณกลืนกินและเสริมกำลังให้กับตนเอง’
‘เทพปีศาจจิตวิญญาณสามรถกลืนกินดวงวิญญาณ นั่นคือวิธีกู้คืนความแข็งแกร่งอย่างรวดเร็วของเขา หากประสบความสำเร็จ เขาอาจสามารถพลิกสถานการณ์’
แต่ทั้งหมดกลับถูกทำนายไว้ล่วงหน้าโดยราชันมังกร
ราชันมังกรโจมตีเทพปีศาจจิตวิญญาณในสภาพที่อ่อนแอที่สุด ดังนั้นราชันภูเขาม่วงจึงต้องเข้าแทรกแซง
“สายไปแล้ว” ราชันมังกรหัวเราะและใช้กรงเล็บมังกรกวาดผ่านอากาศ
ราชันมังกรพุ่งเข้าโจมตีเทพปีศาจจิตวิญญาณอีกครั้ง
เดิมทีร่างหลักของเทพปีศาจจิตวิญญาณทรงพลังมาก เขาถือเป็นอสูรวิญญาณระดับเก้าที่สามารถใช้วิญญาณอมตะและพลังงานอมตะที่เขาทิ้งไว้เบื้องหลัง
แต่หลังจากการต่อสู้บนภูเขาอี้เทียน เทพปีศาจจิตวิญญาณเหลือเพียงเศษเสี้ยวของดวงวิญญาณที่ติดอยู่ในอาณาจักรแห่งความฝัน
ดวงวิญญาณร่างมนุษย์คำรามและป้องกันการโจมตีของราชันมังกร
ดวงตาของราชันมังกรส่องประกายขึ้นด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ “คิดว่าสามารถต่อต้านข้างั้นหรือ?”
“โอ้ เทพปีศาจจิตวิญญาณ หากเจ้ายังเป็นเทพปีศาจระดับเก้า ข้าจะหลีกทางให้เจ้าและจะหลบหนีไปสุดขอบโลก”
“แต่ตอนนี้เจ้าเป็นเพียงเศษเสี้ยวของดวงวิญญาณที่เหลืออยู่และยังไม่มีวิญญาณอมตะหรือพลังงานอมตะใดๆ”
“ข้ารอเวลานี้มานานแล้ว!”
“ข้าจะบอกความจริงกับเจ้า ข้ามาที่นี่เพื่อจับตัวเจ้าและกักขังไว้ในวังสวรรค์เพื่อให้คนทั้งโลกตระหนักถึงพลังอำนาจอันเป็นที่สุดของวังสวรรค์!”
ดวงวิญญาณร่างมนุษย์พยายามดิ้นรนขณะที่ราชันภูเขาม่วงโจมตีราชันมังกรราวกับคนบ้า
ราชันมังกรป้องกันการโจมตีของราชันภูเขาม่วงได้อย่างง่ายดายขณะที่เขามองดวงวิญญาณของเทพปีศาจจิตวิญญาณและเย้ยหยัน “ยังดิ้นรนอย่างสิ้นหวังอีกงั้นหรือ?”
“ในอดีตกระทั่งตาแก่เทพปีศาจบัวแดงยังถูกข้าขัดขวาง!”
“เอาล่ะ ยอมจำนนซะ!”
เทพปีศาจจิตวิญญาณไม่สามารถต่อต้านและถูกขังไว้ในกรงอากาศของราชันมังกร
ราชันมังกรสามารถจับกุมเทพปีศาจจิตวิญญาได้จริงๆ!