กระทั่งคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับเก้าหอคอยดวงตาสวรรค์ยังพ่ายแพ้ต่ออาณาจักรแห่งความฝัน ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องกล่าวถึงคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับเจ็ดศาลาริมทะเล
ทันทีที่มันถูกขังไว้ในอาณาจักรแห่งความฝัน ศาลาริมทะเลก็เริ่มพังทลายลง ผู้อมตะตระกูลอี้สูญเสียการควบคุมวิญญาณจำนวนมาก
สถานการณ์นี้ทำให้ผู้อมตะตระกูลอี้ตกใจมาก พวกเขาไม่เคยพบเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน
พวกเขาเริ่มใช้วิธีการที่ทรงพลังที่สุดของศาลาริมทะเลโดยไม่ลังเล
ท่าไม้ตายอมตะท้องฟ้ามหาสมุทรไร้ขอบเขต!
ศาลาริมทะเลปลดปล่อยแสงสีฟ้าออกมาแต่มันยังไม่สามารถทะลุผ่านอาณาจักรแห่งความฝัน
อย่างไรก็ตามท่าไม้ตายอมตะนี้ยังประสบความสำเร็จ ในวินาทีต่อมาศาลาริมทะเลก็หายไป
มันข้ามห้วงมิตินับหมื่นลี้และออกจากสนามรบได้อย่างฉิวเฉียด
ศาลาริมทะเลพังทลายลงและอยู่ในสภาพที่น่าสมเพช
ผู้อมตะตระกูลอี้สูดหายใจลึกขณะที่ร่างกายปกคลุมไปด้วยเหงื่อ
“พวกเรารอดแล้ว! อันตรายมาก! หากช้ากว่านี้เพียงเล็กน้อย เราจะติดอยู่ในกับดัก!”
“อาณาจักรแห่งความฝันน่ากลัวเกินไป กระทั่งคฤหาสน์วิญญาณอมตะก็ไม่สามารถต่อต้าน”
“ไม่แปลกใจเลยที่นักพยากรณ์กล่าวว่าเทพอมตะแห่งความฝันเป็นบุคคลที่แข็งแกร่งที่สุด”
“บัดซบ! เราไม่สามารถจับกุมนิกายเงา!”
ผู้อมตะตระกูลอี้กัดฟันแน่น ตอนนี้มันสายเกินไปแล้ว แม้พวกเขาจะกลับไป แต่สมาชิกนิกายเงาก็ยังสามารถใช้อินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดเพื่อหลบหนี
พิจารณาถึงความแข็งแกร่ง ตระกูลอี้มีคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับเจ็ด แม้อินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดจะมีพลังการต่อสู้ระดับแปด แต่มันเป็นเรื่องยากที่จะจัดการคฤหาสน์วิญญาณอมตะได้ในเวลาอันสั้น ตระกูลอี้สามารถโจมตี ป้องกัน หรือล่าถอยได้อย่างอิสระ ในทางกลับกันฝ่ายของฟางหยวนไม่สามารถรวมพลังเหมือนคฤหาสน์วิญญาณอมตะ
สิ่งที่ทำให้ตระกูลอี้มั่นใจคือตราบเท่าที่พวกเขาสามารถซื้อเวลา กำลังเสริมจะมาถึงในที่สุด
พวกเขาใช้ท่าไม้ตายอมตะสร้างช้างน้ำขึ้นมาเพื่อการต่อสู้ที่ยาวนาน
แต่ฟางหยวนโต้กลับด้วยการใช้กายาแห่งความฝันสร้างอาณาจักรแห่งความฝันขึ้นมาและบังคับให้ผู้อมตะตระกูลอี้ต้องหลบหนี
พวกเขาไม่เคยคาดหวังว่าฟางหยวนจะเสียสละพันธมิตรของตนเองและกระทำเรื่องที่โหดร้ายถึงเพียงนี้
อีกประการก็คือฟางหยวนเปลี่ยนร่างเป็นมังกรดาบบรรพกาลที่มีความเร็วสูงมาก
ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงกลายเป็นร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งดาบขณะที่เขาใช้วิญญาณอมตะดาบทะลวงมิติเพิ่มความเร็วของมังกรดาบบรรพกาลขึ้นไปอีก
นี่ทำให้ผู้อมตะตะกูลอี้ไม่สามารถตอบสนองได้ทันเวลา
สุดท้ายพวกเขาจึงพบกับความพ่ายแพ้และความสูญเสียครั้งใหญ่
สิ่งสำคัญที่สุดคือพวกเขาสูญเสียใบหน้า พวกเขาจะเผชิญหน้ากับกำลังเสริมจากกองกำลังอื่นได้อย่างไร
ศาลาริมทะเลตกสู่ความเงียบงัน
หลังจากไม่นานผู้นำกลุ่มผู้อมตะตระกูลอี้จึงเปิดปากกล่าว “เราต้องซ่อมแซมศาลาริมทะเลอย่างรวดเร็ว แม้เราจะติดอยู่ในอาณาจักรแห่งความฝันมาก่อนหน้านี แต่วิญญาณอมตะไม่ได้รับความเสียหาย เราสามารถกู้คือคฤหาสน์วิญญาณอมตะได้ในเวลาไม่นาน”
“ศัตรูทรงพลังมาก เขาสามารถควบคุมอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุด สิ่งที่น่ากลัวกว่าคือเขาไม่ลังเลที่จะเสียสละพันธมิตรของตนเอง นี้เป็นธรรมชาติที่โหดเหี้ยมเกินไป”
“เราพยายามอย่างเต็มที่แล้วแต่เราไม่สามารถต่อต้านอาณาจักรแห่งความฝัน ข้าต้องการต่อสู้กับปีศาจเหล่านั้น แต่หากมองในภาพรวม เราไม่มีทางเลือกนอกจากต้องล่าถอยและส่งข้อมูลไปยังกองกำลังอื่นๆ”
ผู้นำกลุ่มผู้อมตะตระกูลอี้กล่าวอย่างช้าๆขณะที่คนอื่นๆพยักหน้าเห็นด้วย
ข้อเท็จจริงเป็นสิ่งที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลง แต่คำพูดเหล่านี้ยังทำให้พวกเขาเกิดความรู้สึกที่แตกต่างออกไป
หลังจากนั้นพวกเขาก็เริ่มติดต่อวูหยงและกองกำลังฝ่ายธรรมะอื่นๆ
“กระไรนะ!? พวกเขาแพ้งั้นหรือ?”
“ไม่ใช่ว่าพวกเขามีศาลาริมทะเลงั้นหรือ? แล้วพวกเขาจะพ่ายแพ้ได้อย่างไร?”
“ฮ่าฮ่า ดูข้อแก้ตัวของพวกเขา ตระกูลอี้ช่างไร้ยางอายนัก”
“แต่เรามีข้อมูลแล้ว ตัวอย่างเช่นอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดและท่าไม้ตายเปลี่ยนเป็นมังกรดาบบรรพกาล…”
เมื่อท่าไม้ตายเปลี่ยนเป็นมังกรดาบบรรพกาลถูกกล่าวถึง กลุ่มผู้อมตะฝ่ายธรรมะของภาคใต้ต่างมองหน้ากัน
พวกเขาคิดถึงบางคนอย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยง
หลิวกวนซื่อ!
“หลิวกวนซื่อเป็นปีศาจอมตะที่บ่มเพาะบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง เจ้าคิดว่าสมาชิกนิกายเงาผู้นี้คือเขาหรือไม่?”
“ไม่ ท่าไม้ตายปลี่ยนเป็นมังกรดาบบรรพกาลเป็นท่าไม้ตายทั่วไป นอกจากนี้ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน ชัดเจนว่าหลิวกวนซื่อเป็นศัตรูกับนิกายเงา”
“หลิวกวนซื่อเป็นคนเหนือขณะที่คนผู้นี้ปลดปล่อยกลิ่นอายของผู้อมตะภาคใต้ออกมา แต่พวกเขาอาจมีวิธีการปกปิดกลิ่นอาย ตัวอย่างเช่นตระกูลวูที่มีท่าไม้ตายอมตะที่สามารถเปลี่ยนกลิ่นอายของผู้อมตะ”
บางคนมองไปทางวูหยง
“ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือไม่ เราก็ต้องตามหาน้องชายของข้า วูอี้ไห่! ผู้ใดต้องการออกไปไล่ล่านิกายเงาพร้อมกับข้า?” วูหยงกล่าวอย่างจริงจัง
“ท่านวูหยงยังคงเป็นห่วงน้องชายเสมอ ข้ารู้สึกซาบซึ้งนัก”
“เราจะไป!”
“ข้ายินดีให้ความร่วมมือกับท่านวูหยง!”
ผู้อมตะฝ่ายธรรมะของภาคใต้ตอบรับทีละคน
การต่อสู้ของวูหยงในค่ายกลวิญญาณแม่น้ำโลหิตสีม่วงถูกเผยแพร่ออกไปโดยไท่เมี่ยนเฉิน
ข้อมูลนี้แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว
ทุกการเคลื่อนไหวของผู้อมตะระดับแปดจะได้รับความสนใจจากทุกคนเสมอเพราะมันจะส่งผลกระทบที่ยิ่งใหญ่ต่อพวกเขา
วูหยงเป็นผู้อมตะระดับแปดและเป็นผู้นำตระกูลวู เขาเปิดเผยคฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังที่สี่ของตระกูลวูออกมา นี่ทำให้ผู้อมตะภาคใต้ตระหนักถึงพลังอำนาจที่แท้จริงของเขา
นอกจากนี้ตระกูลวูยังครองตำแหน่งอันดับหนึ่งของภาคใต้มาตลอด ดังนั้นคำเรียกร้องของวูหยงจึงได้รับการตอบสนองจากผู้คนจำนวนมากในทันที
‘คนเหล่านี้ช่างเจ้าเล่ห์นัก พวกเขาต้องการซ่อนอยู่ข้างหลังข้าและบังคับให้ตระกูลวูออกหน้า’ วูหยงลอบเย้ยหยัน
ในความเป็นจริงวูหยงต้องการแสวงหาผลประโยชน์แต่ตอนนี้เขาทำไม่ได้
เขาต้องแสดงตัวเป็นวีรบุรุษของฝ่ายธรรมะ
น้องชายของเขาหายตัวไป ในฐานะพี่ชาย เขาต้องพยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยน้องชายผู้นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อป้ายวิญญาณและโคมไฟวิญญาณของฟางหยวนที่อยู่ในห้องโถงบรรพชนของตระกูลวูยังไม่แตกสลาย
ยิ่งไปกว่านั้นในฐานะผู้นำของฝ่ายธรรมะ เขาต้องควบคุมสถานการณ์ทั้งหมด มิฉะนั้นศักดิ์ศรีของเขาและตระกูลวูจะตกต่ำลง
โดยธรรมชาติแล้วเหตุผลที่สำคัญที่สุดก็คือฟาหงยวนยืมวิญญาณอมตะหกดวงไปจากตระกูลวู
วิญญาณอมตะหกดวง!
นอกจากนั้นยังมีหินวิญญาณอมตะอีกหนึ่งแสนก้อน!
วูหยงเป็นคนอนุญาตให้ฟางหยวนยืมวิญญาณอมตะทั้งหมดด้วยตนเอง ตอนนี้เมื่อวูอี้ไห่หายตัวไป ความรับผิดชอบจึงตกอยู่ที่วูหยง
หากวูหยงไม่ออกไล่ล่า เขาจะไม่มีคำอธิบายมอบให้กับกองกำลังฝ่ายธรรมะของภาคใต้ นอกจากนั้นเขายังไม่สามารถอธิบายต่อตระกูลวู
ดั้งนั้นบ้านไม่ไผ่สายลมจึงนำผู้อมตะภาคใต้ออกเดินทางไล่ล่าอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุด
แม้ตระกูลอี้จะสูญเสียเบาะแสของอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุด แต่วูหยงยังมีวิธีอื่น
เขาส่งข้อความถึงตระกูลวู “ผู้อาวุโสวูฝานำวิญญาณอมตะออกมาจากคลังสมบัติและค้นหาตำแหน่งของวูอี้ไห่!”
วูฝาเป็นผู้ช่วยที่เชื่อถือได้ของวูหยง ดังนั้นเขาจึงรีบดำเนินการทันที
วูหยงรวบรวมข้อมูลของวังสวรรค์เช่นกัน แม้วังสวรรค์จะไม่โจมตีผู้อมตะภาคใต้ แต่พวกเขาก็ปล้นสะดมทรัพยากรก่อนจากไป
ผู้อมตะภาคใต้จะชำระบัญชีแค้นกับภาคกลางในอนาคต
อย่างไรก็ตามในปัจจุบันเรื่องที่สำคัญที่สุดสำหรับวูหยงก็คือการช่วยวูอี้ไห่
วังสวรรค์ทรงพลังมาก มันเป็นเรื่องยากที่จะทวงคืนวิญญาณอมตะจากพวกเขา มันจะฉลาดกว่าที่พวกเขาจะไล่ล่านิกายเงาที่ไม่ได้แข็งแกร่งมากนัก นอกจากนี้ป้ายวิญญาณและโคมไฟวิญญาณของวูอี้ไห่ก็ยังไม่ถูกทำลาย มีความเป็นไปได้ที่เขาจะถูกจับตัวไป
‘นิกายเงามีวิธีทำลายป้ายวิญญาณและโคมไฟวิญญาณของข้าเพื่อสร้างข่าวลวงเรื่องการเสียชีวิตของข้า หากพวกเขาฆ่าวูอี้ไห่โดยทิ้งป้ายวิญญาณและโคมไฟวิญญาณเอาไว้ เป้าหมายของพวกเขาก็คือการหลอกล่อให้พวกเราไล่ล่าพวกเขา’
วูหยงคิดถึงความน่าจะเป็นนี้
อย่างไรก็ตามเขายังเลือกที่จะไล่ล่า
เพราะครั้งนี้เขาไม่ได้มาเพียงผู้เดียว ยังมีผู้อมตะระดับแปดจื่อชิวหยูและคฤหาสน์วิญญาณอมตะอีกหลายหลัง นี่ทำให้วูหยงมีความมั่นใจแม้พวกเขาจะถูกซุ่มโจมตีโดยกองกำลังนิกายเงาก็ตาม
ต่อหน้าความแข็งแกร่งอันเป็นที่สุด แผนการทั้งหมดจะกลายเป็นไร้ประโยชน์
ในเวลาเดียวกัน อินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดกำลังโบยบินไปอย่างสุดกำลัง
บนแผ่นหลังของมัน ฟางหยวนนั่งไขว้ขาปิดเปลือกตาและลอบใช้วิญญาณอมตะอย่างลับๆ
วิญญาณอมตะสัมผัสแห่งเต๋า!
ไม่นานหลังจากนั้นฟางหยวนก็หยุดใช้งานมัน การแสดงออกของเขากลายเป็นเคร่งขรึม ‘มีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งข้อมูลจำนวนมากบนร่างของข้า ข้าอาจถูกโจมตีด้วยวิธีการบนเส้นทางแห่งข้อมูล ความน่าจะเป็นที่พวกมันจะมาจากผู้อมตะภาคใต้มีต่ำมาก มันต้องเป็นเทพธิดาจื่อเว่ยของวังสวรรค์’
‘ไม่ว่าจะเกิดสิ่งใดขึ้น ข้าก็ต้องไปยังรอยแยกปล้นเงาอย่างรวดเร็วที่สุดและใช้วิธีบนเส้นทางแห่งข้อมูลเพื่อกำจัดร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งข้อมูลเหล่านี้ทิ้งไป!’