Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน – บทที่ 1388 ข้าคือฟงจิวเก้อ

ผู้อมตะวัยกลางคนปรากฏตัวต่อหน้าฟางหยวนและวูหยง

 

คนผู้นี้อยู่ในชุดสีแดงขาว เขายืนตัวตรงราวกับหอกหรือดาบ คิ้วของเขาแหลมคม ดวงตาส่องประกาย ใบหน้ามีรอยยิ้มที่อ่อนโยนแต่ปลดปล่อยกลิ่นอายที่ทรงพลังออกมา

 

เขาเป็นผู้อมตะภาคกลางที่มีชื่อเสียงกระจายไปทั่วทั้งห้าภูมิภาค เขาเป็นเสาหลักของนิกายคฤหาสน์วิญญาณและเป็นผู้อมตะระดับเจ็ดที่สามารถต่อสู้กับผู้อมตะระดับแปด

 

เขาก็คือฟงจิวเก้อ!

 

แล้วเขามาที่นี่เพราะเหตุใด?”

 

วูหยงและฟางหยวนประหลาดใจและประหลาดใจ

 

แม้วูหยงจะไม่เคยพบฟงจิวเก้อ แต่เขายังสามารถจดจำคนผู้นี้ได้ทันที

 

หลังจากทั้งหมดผู้อมตะระดับเจ็ดที่สามารถต่อสู้กับผู้อมตะระดับแปดแทบไม่เคยปรากฏขึ้นตลอดหนึ่งพันปีที่ผ่านมา

 

หากไม่มีหลิวกวนซื่อ ฟงจิวเก้ออาจยังเป็นคนเพียงผู้เดียวที่ประสบความสำเร็จในแง่นี้

 

วูหยงสงบจิตใจลงและเย้ยหยัน “ผู้อมตะภาคกลางกล้าปรากฏตัวต่อหน้าข้างั้นหรือ? ดี ดี”

 

ในการต่อสู้ที่อาณาจักรแห่งความฝัน วังสวรรค์ฉกชิงผลประโยชน์จากจากฝ่ายธรรมะของภาคใต้

 

ตอนนี้ฟงจิวเก้อยังเข้ามาวุ่นวาย มันจึงกระตุ้นความเกลียดชังของวูหยง

 

ฟางหยวนมองไปที่ฟงจิวเก้อ

 

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาพบฟงจิวเก้อ

 

ในชีวิตแรกของฟางหยวน การปรากฏตัวของฟงจิวเก้อได้ทิ้งความประทับใจไว้ในหัวใจของฟางหยวนแล้ว เขาเปล่งประกายมากในสงครามห้าภูมิภาค น่าเสียดายที่เขาเสียชีวิตอยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา

 

ความตายของเขาทำให้เกิดความปั่นป่วนครั้งใหญ่ ภาคกลางสั่นสะเทือนขณะที่อีกสี่ภูมิภาครู้สึกมีความสุข

 

กระทั่งหลังจากกำเนิดใหม่ ฟางหยวนก็ยังเคยพบฟงจิวเก้อ

 

ในด่านรับสืบทอดมรดกของเทพปีศาจปล้นสวรรค์ ฟางหยวนช่วยชีวิตฟงจิวเก้อเอาไว้โดยไม่คาดคิด

 

แม้ฟางหยวนจะไม่ได้ตั้งใจแต่ฟงจิวเก้อก็รอดชีวิตมาได้เพราะฟางหยวน

 

ฟางหยวนมองฟงจิวเก้อและตะโกนเสียงดัง “ฟงจิวเก้อ เจ้าเป็นคนที่วังสวรรค์ส่งมากำจัดข้างั้นหรือ?”

 

ฟงจิวเก้อชำเลืองมองวูหยงก่อนจะหันหน้าไปทางฟางหยวน

 

เมื่อเห็นฟางหยวนอีกครั้ง ฟงจิวเก้อลอบถอนหายใจอยู่ภายใน

 

ความก้าวหน้าของฟางหยวนรวดเร็วเกินไป

 

ครั้งแรกที่ฟงจิวเก้อรู้จักฟางหยวน ฟางหยวนตัดหน้าฟงจินฮวงและฉกชิงแดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หูไปจากนาง

 

เพราะบุตรสาวของเขา ฟงจิวเก้อจึงรู้สึกชื่อฟางหยวน

 

แต่เขาไม่เคยกังวลแม้แต่น้อย

 

เหตุผล?

 

เพราะเวลานั้นฟางหยวนเป็นเพียงผู้ใช้วิญญาณระดับมนุษย์ ความแตกต่างระหว่างผู้อมตะกับมนุษย์ไม่ต่างจากสวรรค์กับพื้นพิภพ พวกเขาไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกัน

 

อย่างไรก็ตามพัฒนาการของฟางหยวนเหนือความคาดหมายของฟงจิวเก้อไปไกลมาก

 

ฟางหยวนมีส่วนร่วมในเหตุการณ์สำคัญครั้งแล้วครั้งเล่า เขาเป็นปีศาจต่างโลก เขาเป็นเจ้าของวิญญาณกาลเวลา เป็นผู้สืบทอดมรดกที่แท้จริงของเทพอมตะตะวันเดือดและอื่นๆ เขาก้าวจากขอบเขตมนุษย์สู่ขอบเขตอมตะอย่างรวดเร็วก่อนจะกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญท่ามกลางผู้มอตะทั้งหมด ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วเกินไป

 

ผู้อมตะส่วนใหญ่จะไม่มีความสำเร็จดังกล่าวแม้จะพยายามอย่างเต็มที่ตลอดชีวิตก็ตาม

 

แต่ฟางหยวนทำสิ่งเหล่านี้ได้อย่างง่ายดาย

 

‘ข้าไม่ได้คาดหวังว่าหลิวกวนซื่อจะเป็นฟางหยวน ยุคที่ยิ่งใหญ่กำลังจะมาถึง วีรบุรุษและผู้เชี่ยวชาญมากมายกำลังจะปรากฏตัวขึ้นและตอนนี้ดูเหมือนฟางหยวนจะเป็นหนึ่งในนั้น’ ฟงจิวเก้อคิด

 

ในเวลาเดียวกันเขาก็เปิดปากกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ข้ารีบร้อนเดินทางมาจากภาคกลางเพื่อไล่ล่าวิญญาณอมตะบางดวงที่เทพปีศาจปล้นสวรรค์เคยใช้ แต่ผู้ใดจะคิดว่าข้าจะมาพบกับเหตุการณ์นี้”

 

‘เขากำลังจะบอกว่าเขาไม่ได้ถูกส่งตัวมาโดยวังสวรรค์งั้นหรือ?’ ฟางหยวนขมวดคิ้ว

 

พิจารณาจากตัวตนของฟงจิวเก้อ เขาไม่จำเป็นต้องโกหก

 

อย่างไรก็ตามวูหยงไม่เชื่อ “ผู้ใดจะคิดว่าฟงจิวเก้อจะมีด้านที่แสแสร้งเช่นกัน เมื่อข้ากระตุ้นใช้งานท่าไม้ตายเขตแดน เจ้าสามารถจากไปได้อย่างง่ายดายหากเจ้าไม่ต้องการมีส่วนร่วมในเรื่องนี้”

 

ฟงจิวเก้อพยักหน้า “ถูกต้อง ข้าตั้งใจเข้ามา มันเป็นเพราะข้าติดหนี้ชีวิตต่อฟางหยวน ดังนั้นครั้งนี้ข้าจึงต้องช่วยเขา”

 

“กระไรนะ!?” วูหยงรู้สึกประหลาดใจ

 

ฟางหยวนมึนงงเล็กน้อย

 

วูหยงถามกลับด้วยความไม่อยากจะเชื่อ “ข้าได้ยินสิ่งใดผิดไปหรือไม่? เจ้าติดหนี้ชีวิตเขา เจ้าจึงต้องการช่วยเขางั้นหรือ? ฮ่าฮ่าฮ่า”

 

วูหยงหัวเราะเสียงดัง

 

ฟงจิวเก้อเป็นผู้อมตะภาคกลางที่ยิ่งใหญ่และจะกลายเป็นสมาชิกวังสวรรค์ในอนาคต

 

แต่เขากลับมาช่วยฟางหยวน?

 

ฟางหยวนคือผู้ใด? ปีศาจต่างโลก เป้าหมายอันดับต้นๆของวังสวรรค์

 

แต่ฟงจิวเก้อยังต้องการช่วยเขา?

 

นี่เป็นเรื่องที่น่าขันอย่างแท้จริง

 

วูหยงหัวเราะ แต่ฟงจิวเก้อก็เผยรอยยิ้มเช่นกัน

 

เสียงหัวเราะของวูหยงหยุดลงในที่สุด

 

เขารู้ว่าฟงจิวเก้อจริงจัง

 

เขาเป็นคนบ้า!

 

ผู้อมตะฝ่ายธรรมะต้องการช่วยผู้อมตะฝ่ายปีศาจ!

 

ฟงจิวเก้อไม่เพียงเป็นผู้อมตะฝ่ายธรรมะ แต่เขายังเป็นตัวตนที่โดดเด่นและมีชื่อเสียงไปทั่วโลก

 

ขณะเดียวกันฟางหยวนก็ไม่ใช่ปีศาจธรรมดา เขาเป็นปีศาจต่างโลกที่สมบูรณ์ เขาเป็นเจ้าของวิญญาณกาลเวลา เกราะหวนคืน มรดกที่แท้จริงของเทพอมตะตะวันเดือด มรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจปล้นสวรรค์ เขายึดครองแดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หู เขาทำลายวังแปดสิบแปดเปลวเพลิงที่แท้จริง เขาขัดขวางแผนการท้าทายสวรรค์ของเทพปีศาจจิตวิญญาณ และเมื่อไม่นานมานี้เขายังแทรกซึมเข้าสู่ตระกูลวู สุดท้ายยังกลายเป็นผู้นำนิกายเงา

 

ฟงจิวเก้อต้องการช่วยคนเช่นฟางหยวนจริงๆงั้นหรือ?

 

วูหยงเป็นผู้อมตะระดับแปดฝ่ายธรรมะ แต่ฟงจิวเก้อยังต้องการเผชิญหน้ากับเขาเพื่อช่วยฟางหยวน!

 

‘ไม่ ฟงจิวเก้อแตกต่างจากข้า เขาไม่ได้เป็นผู้อมตะฝ่ายธรรมะตั้งแต่แรก ครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นปีศาจอมตะ!’ วูหยงคิด

 

‘ปีศาจที่ไร้เหตุผล!’ วูหยงรู้สึกโกรธ

 

ฟางหยวนคิดถึงอดีตของฟงจิวเก้อ

 

ฟงจิวเก้อเคยเป็นผู้บ่มเพาะสันโดษและไร้ชื่อเสียง

 

เขาบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งเสียงและมุ่งมั่นกับมันมาตลอดชีวิต

 

ครั้งหนึ่งเขาเคยร้องเพลงประสานเสียงกับผู้อมตะอีกสองคนอยู่ในหุบเขา

 

พวกเขาร้องเพลงตั้งแต่เวลากลางคืนจนถึงเช้า ทั้งสามหัวเราะและพูดคุยด้วยความปิติยินดี

 

หลังจากหลายปีฟงจิวเก้อได้เรียนรู้ว่าผู้อมตะทั้งสองเป็นปีศาจอมตะที่ฉกชิงวิญญาณอมตะมาจากเจดีย์สวรรค์สีดำและกำลังถูกไล่ล่าโดยนิกายโบราณทั้งสิบ

 

ฟงจิวเก้อรีบไปช่วยพวกเขา

 

ผู้อมตะทั้งสองประหลาดใจที่เห็นฟงจิวเก้อและเปิดปากถาม

 

ฟงจิวเก้อตอบว่า “เมื่อสองสามปีก่อน เราร้องเพลงด้วยกัน ข้าร้องเพลงเกี่ยวกับดวงจันทร์ขณะที่พวกท่านร้องเพลงเกี่ยวกับภูเขาสีเขียวและทะเลสาบสีขาว คนที่สามารถร้องเพลิงเช่นนี้จะเป็นคนใจแคบและปล้นชิงวิญญาณอมตะของผู้อื่นได้อย่างไร ข้าเชื่อใจพวกท่านทั้งสอง”

 

ผู้อมตะทั้งสองซาบซึ้งจนน้ำตาไหล

 

หนึ่งในนั้นกล่าว “ท่าน…เข้าใจเรา เราได้รับมรดกที่แท้จริงเป็นวิญญาณอมตะระดับเจ็ด แต่เราถูกกล่าวหาโดยนิกายเจดีย์สวรรค์สีดำ เจดีย์สวรรค์สีดำเป็นหนึ่งในสิบนิกายโบราณ ไม่ว่าเราจะอธิบายอย่างไรก็ไม่มีผู้ใดเชือ”

 

อีกคนกล่าวกับฟงจิวเก้อ “เราเคยร้องเพลงด้วยกันเพียงครั้งเดียว เราเป็นคนแปลกหน้าอย่างสิ้นเชิง เราสองคนกำลังตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายและไม่มีความหวังเหลืออยู่ มันยังไม่สายที่ท่านจะจากไป”

 

อย่างไรก็ตามฟงจิวเก้อกลับส่ายศีรษะและยืนยันที่จะช่วยพวกเขา

 

ผู้อมตะทั้งสองกล่าวด้วยความกังวล “หากท่านไม่จากไป ท่านจะถูกกล่าวหาว่าเป็นปีศาจเช่นเดียวกับพวกเรา”

 

ฟงจิวเก้อหัวเราะ “ไม่มีธรรมะหรือปีศาจ มีเพียงฟงจิวเก้อบนโลกใบนี้ จะอยู่หรือไป ข้าจะเป็นผู้กำหนดชีวิตและความตายของตนเอง”

 

ผู้อมตะทั้งสองหลั่งน้ำตาด้วยความชื่นชมและยินดี

 

ฟงจิวเก้อเอาชนะนิกายเจดีย์สวรรค์สีดำครั้งแล้วครั้งเล่า

 

เมื่ออีกเก้านิกายตระหนักถึงเรื่องนี้ พวกเขาเร่งส่งกำลังเสริมออกมา

 

ฟงจิวเก้อประกาศท้าทายผู้อมตะทั้งหมด แต่ผู้อมตะจากสิบนิกายโบราณกลับพ่ายแพ้อย่างยับเยิน

 

สิบนิกายโบราณพบกับความพ่ายแพ้อย่างน่าสังเวช เรื่องนี้ทำให้เกิดความโกลาหลขึ้นอย่างช่วยไม่ได้

 

ในที่สุดนิกายคฤหาสน์วิญญาณก็เคลื่อนไหว เทพธิดาไป่ชิงซึ่งเป็นผู้นำนิกายในเวลานั้นใช้ความรักเปลี่ยนแปลงฟงจิวเก้อและนำเขาเข้าสู่นิกายคฤหาสน์วิญญาณ

 

ย้อนกลับไปเพราะฟงจิวเก้อช่วยผู้อมตะแปลกหน้าสองคนที่ร่วมร้องเพลงกับเขาเพียงครั้งเดียว ดังนั้นเขาจึงถูกตราหน้าว่าเป็นปีศาจ

 

มันไม่ใช่เรื่องแปลกหากตอนนี้ฟงจิวเก้อจะช่วยปีศาจฟางหยวน

 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อฟางหยวนเคยช่วยชีวิตเขาเอาไว้

 

ฟงจิวเก้อยังเป็นคนเดิมไม่ว่าอดีตหรือปัจจุบัน

 

ฟางหยวนตระหนักถึงความหมายที่อยู่เบื้องหลังการถอนหายใจของฟงจิวเก้อได้ในที่สุด

 

ฟงจิวเก้อต้องการช่วยฟางหยวนแต่เขายังต้องคิดถึงภรรยาและบุตรสาวตลอดถึงสถานะของตนเอง ดังนั้นเขาจึงต้องกระทำการอย่างลับๆ

 

แต่น่าเสียดายที่วูหยงตระหนักถึงการคงอยู่ของเขา

 

ฟงจิวเก้อไม่มีทางเลือกนอกจากต้องปรากฏตัวออกมา

 

เช่นเดียวกับในอดีต

 

ไม่มีธรรมะหรือปีศาจ มีเพียงฟงจิวเก้อบนโลกใบนี้

 

จะอยู่หรือไป ข้าจะเป็นผู้กำหนดชีวิตและความตายของตนเอง

 

ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายธรรมะหรือฝ่ายปีศาจ ไม่มีผู้ใดสามารถหยุดข้า

 

เพราะข้าคือฟงจิวเก้อ

 

และจะเป็นฟงจิวเก้อตลอดไป!

Reverend Insanity

Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบของวิญญาณซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา! Humans are the spirit of all living beings, Gu are the essence of heaven and earth. With his three views* unrighteous, a demon is reborn. Former days are but an old dream, an identical name is made anew. The story of a time traveller who keeps on being reborn. A unique world that nurtures, refines, and uses Gu. Spring Autumn Cicada, Moonlight Gu, Liquor Worm, Great Qi Golden Light Worm, Slender Black Hair Gu, Hope Gu… And a great demon of the world that acts as his heart pleases! A story of a villain, Fang Yuan who was reborn 500 years into the past with the Spring Autumn Cicada he painstakingly refined. With his profound wisdom, battle and life experiences, he seeks to overcome his foes with skill and wit! Ruthless and amoral, he has no need to hold back as he pursues his ultimate goals. In a world of cruelty where one cultivates using *Gu – magical creatures of the world – Fang Yuan must rise up above all with his own power. Notes : *Gu is a legendary venomous insect, often used in black magic practices. It can take on the form of several insects, usually snakes, crickets, worms etc. *Three views = one’s world view, values of worth, and philosophy on life.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset