Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน – บทที่ 1415 โชคที่มั่นคง

“นายท่าน ท่านไม่สามารถทำลายค่ายกลวิญญาณนี้ มิฉะนั้นข้าจะถูกทำลายไปด้วย” เป็นเพียงเวลานี้ที่จิตวิญญาณค่ายกลกล่าวกับนางรำหงหยุน

 

นางรำหงหยุนพยักหน้า

 

จิตวิญญาณค่ายกลผู้นี้มีประโยชน์มาก

 

เมื่อค่ายกลวิญญาณพังทลายลงก่อนหน้านี้ มันสามารถกู้คืนส่วนหนึ่งของค่ายกลวิญญาณด้วยตัวมันเองโดยไม่พึ่งพาผู้ใด ด้วยเหตุนี้ค่ายกลวิญญาณนี้จึงคงอยู่มาได้จนถึงปัจจุบัน

 

เช่นเดียวกับจิตวิญญาณแผ่นดินหรือจิตวิญญาณสวรรค์ที่สามารถซ่อมแซมแดนศักดิ์สิทธิ์หรือถ้ำสวรรค์ของพวกมัน

 

นางรำหงหยุนจะไม่ละทิ้งจิตวิญญาณค่ายกลที่มีประโยชน์เช่นนี้

 

จิตวิญญาณค่ายกลกล่าวต่อ “โชคดีที่มีวิญญาณอมตะธงค่ายกลอยู่ในค่ายกลวิญญาณ นายท่านควรใช้มันเก็บค่ายกลวิญญาณนี้ก่อนจะเก็บไว้ในมิติช่องว่างของท่าน”

 

ย้อนกลับไปตั้งแต่เจิ้งหยวนซือเป็นผู้สร้างจิตวิญญาณค่ายกล เขาก็รู้ถึงขีดจำกัดของมันและคิดวิธีสนับสนุนมันเอาไว้เรียบร้อยแล้ว

 

ก่อนหน้านี้จิตวิญญาณค่ายกลก็ใช้วิญญาณอมตะธงค่ายกลเพื่อซ่อมแซมค่ายกลวิญญาณที่พังทลายลง ดังนั้นนางรำหงหยุนจึงต้องเรียนรู้ที่จะควบคุมมันเป็นอันดับแรก

 

…..

 

ไม่กี่วันต่อมา

 

ท้องฟ้ายามค่ำคืนเต็มไปด้วยดวงดาวที่สว่างไสว

 

อากาศเย็นลงและมีหมอกบางๆ

 

บนเนินทรายธรรมดาแห่งหนึ่ง แสงบนร่างของฟางหยวนจางหายไป

 

ในที่สุดมันก็กลายเป็นจุดแสงจมลงสู่ความมืด

 

ฟางหยวนสูดหายใจก่อนจะเปิดเปลือกตาขึ้น

 

‘ข้าสงสัยว่าผลลัพธ์สุดท้ายของท่าไม้ตายอมตะโชคที่มั่นคงนี้คือสิ่งใด?”

 

ในช่วงเวลาที่ผ่านมาฟางหยวนใช้ท่าไม้ตายนี้เป็นครั้งคราว

 

เขาได้รับท่าไม้ตายอมตะโชคที่มั่นคงนี้มาจากหม่าหงหยุน

 

แน่นอนว่าท่าไม้ตายอมตะโชคที่มั่นคงเป็นส่วนหนึ่งของโชคของสิ่งมีชีวิตทั้งหมดจากมรดกที่แท้จริงของเทพอมตะตะวันเดือด

 

โชคที่มั่นคงเหมาะสมกับฟางหยวนมาก

 

พลังอำนาจของมันคือการทำให้โชคของฟางหยวนไม่เปลี่ยนแปลงและไม่ได้รับอิทธิพลจากปัจจัยภายนอกอย่างง่ายดาย

 

ฟางหยวนกังวลเกี่ยวกับจุดอ่อนของการเชื่อมโยงโชคมาตลอด

 

ท้ายที่สุดแล้วเหตุผลที่เขาเชื่อมโยงโชคกับฮันหลี่ หงอี้ และเย่ฟาน นั่นเป็นเพราะคนทั้งสามเป็นคนโชคดี แต่สิ่งต่างๆเริ่มเปลี่ยนไปหลังจากฟางหยวนได้รับวิญญาณอมตะโชคอึสุนัข นั่นทำให้โชคของเขาเหนือกว่าคนอื่นๆ

 

นี่หมายความว่าฟางหยวนต้องแบ่งปันโชคกับฮันหลี่และคนอื่นๆ

 

สิ่งนี้เป็นอันตรายต่อเขา

 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาใช้ท่าไม้ตายอมตะผลาญวิญญาณระเบิดโชค โชคที่ระเบิดขึ้นจะถูกแบ่งให้กับคนที่เหลือ

 

ในอดีตฟางหยวนไม่มีทางเลือกแต่หลังจากค้นวิญญาณของหม่าหงหยุน เขาพบวิธีแก้ปัญหาแล้ว

 

โชคที่มั่นคงคือทางออก

 

แกนกลางของท่าไม้ตายนี้คือวิญญาณอมตะความดื้อรั้นและวิญญาณอมตะหลักบนเส้นทางแห่งกฎ แต่หลังจากดัดแปลง ฟางหยวนสามารถใช้วิญญาณอมตะความระมัดระวังและวิญญาณอมตะใหญ่เป็นแกนกลางของมัน

 

ฟางหยวนมีวิญญาณอมตะความระวังระวังมานานแล้วขณะที่วิญญาณอมตะใหญ่มาจากราชันภูเขาม่วง

 

ราชันภูเขาม่วงเป็นมนุษย์จิ๋ว หลังจากใช้วิญญาณอมตะใหญ่ ร่างกายของเขาจึงสามารถขยายใหญ่ขึ้นและกลายเป็นผู้อมตะมนุษย์

 

อย่างไรก็ตามความสำเร็จบนเส้นทางแห่งโชคของฟางหยวนไม่ได้อยู่ในระดับปรมาจารย์ ดังนั้นเขาจึงสามารถปรับเปลี่ยนท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งโชคได้เพียงบางส่วนเท่านั้น

 

ท่าไม้ตายนี้มีข้อบกพร่องอยู่บ้าง เมื่อกระตุ้นใช้งาน แม้ฟางหยวนจะไม่ผิดพลาด แต่มันยังมีโอกาสล้มเหลว

 

ฟางหยวนรู้จุดอ่อนนี้แต่เขาไม่สามารถแก้ไขมัน

 

ในอดีต ฟางหยวนต้องการวิญญาณอมตะตัดโชค แต่ตอนนี้กระทั่งเขาจะไม่มีวิญญาณอมตะตัดโชค แต่เขามีท่าไม้ตายอมตะโชคที่มั่นคง มันสามารถปกป้องผลประโยชน์ของเขา

 

พลังอำนาจของท่าไม้ตายอมตะโชคที่มั่นคงไม่สามารถมองเห็น เขาไม่สามารถตรวจสอบเรื่องนี้

 

แต่จากข้อมูล ฟางหยวนรู้ว่าหากคนสองคนอยู่ฝ่ายเดียวกัน โชคของพวกเขาจะรวมกันเป็นหนึ่ง พวกเขาจะพบโชคลาภหรือภัยพิบัติพร้อมกัน

 

อย่างไรก็ตามจากการวิจัยของเทพอมตะตะวันเดือด เขาพบว่าแม้โชคจะรวมกันเป็นหนึ่ง แต่ยังมีความแตกต่างเล็กน้อย

 

บางคนจะได้รับโชคลาภที่มากกว่าและประสบเคราะห์ร้ายที่น้อยกว่า

 

เพราะเหตุใด?

 

เทพอมตะตะวันเดือดตระหนักว่าผู้ที่โชคดีกว่าจะได้รับประโยชน์มากกว่า ผู้ที่โชคดีน้อยกว่าจะพบกับภัยพิบัติที่รุนแรงกว่าและยังแบ่งนำผลประโยชน์ไปให้อีกคน

 

เทพอมตะตะวันเดือดตั้งชื่อความสัมพันธ์นี้ว่าโชคหลักและโชครอง อย่างไรก็ตามฟางหยวนไม่มีวิญญาณอมตะหลักและวิญญาณอมตะรอง

 

แต่ฟางหยวนสามารถแก้ไขโชคของตนเองและสร้างความแตกต่างระหว่างโชคของพวกเขา นั่นทำให้เขากลายเป็นโชคหลัก

 

หลังจากพักผ่อนชั่วครู่ ฟางหยวนเปลี่ยนไปแก้ปัญหาเกี่ยวกับท่าไม้ตายอมตะชำระล้างตัวเอง

 

ในแง่ของเส้นทางแห่งค่ายกล ฟางหยวนมีความมั่นใจมากกว่า ท้ายที่สุดแล้วเขาก็เป็นปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งค่ายกล

 

ด้วยความได้เปรียบของเขา ความก้าวหน้าของเขาในด้านนี้เป็นไปได้อย่างรวดเร็ว

 

ท่าไม้ตายอมตะชำระล้างตัวเองกลายเป็นค่ายกลวิญญาณอมตะ มันอยู่ห่างจากความสำเร็จเพียงไม่กี่ก้าว

 

ความสำเร็จอยู่ใกล้แค่เอื้อมแต่ความกังวลของฟางหยวนคือเขาขาดวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งค่ายกล

 

เขาสามารถยืมวิญญาณอมตะยันต์ค่ายกลจากจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา แต่มันเป็นเพียงวิญญาณอมตะระดับหกขณะที่ค่ายกลวิญญาณอมตะชำระล้างตัวเองเป็นค่ายกลวิญญาณอมตะระดับเจ็ด

 

หากใช้วิญญาณอมตะระดับหกในค่ายกลวิญญาณอมตะระดับเจ็ด โอกาสล้มเหลวจะสูงขึ้น

 

เหตุผลอีกประการก็คือวิญญาณอมตะยันต์ค่ายกลของนิกายหลางหยาบันทึกค่ายกลวิญญาณอมตะเคลื่อนย้ายสถานที่ของนิกายเอาไว้ หากฟาหยวนต้องการใช้มันในค่ายกลวิญญาณอมตะชำระล้างตัวเอง เขาต้องลบข้อมูลเกี่ยวกับค่ายกลวิญญาณอมตะเคลื่อนย้ายสถานที่ออกไป

 

หากเขาประสบความสำเร็จในการจัดตั้งค่ายกลวิญญาณอมตะชำระล้างตัวเอง วิญญาณอมตะยันต์ค่ายกลก็จะบันทึกค่ายกลวิญญาณอมตะชำระล้างตัวเองเอาไว้

 

นี่เป็นปัญหา

 

ค่ายกลวิญญาณอมตะเคลื่อนย้ายสถานที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาของนิกายหลางหยา

 

นิกายหลางหยาต้องพึ่งพาวิญญาณอมตะยันต์ค่ายกลดวงนี้

 

หากฟางหยวนลบข้อมูลเดิมออกไปและบันทึกข้อมูลใหม่ มันก็หมายความว่านิกายหลางหยาจะสูญเสียค่ายกลวิญญาณอมตะเคลื่อนย้ายสถานที่

 

แน่นอนว่าจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาย่อมไม่สามารถยอมรับเรื่องนี้

 

พวกเขาไม่มีวิธีบนเส้นทางแห่งข้อมูลอื่นเพื่อดึงข้อมูลจากวิญญาณอมตะยันต์ค่ายกลออกมาเก็บไว้

 

อย่างไรก็ตามฟางหยวนยังพยายามโน้มน้าวจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาว่าเขาในฐานะปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งค่ายกลสามารถสร้างค่ายกลวิญญาณอมตะเคลื่อนย้ายสถานที่ได้ด้วยตัวของเขาเอง

 

แต่จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยายังรู้สึกลังเล

Reverend Insanity

Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบของวิญญาณซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา! Humans are the spirit of all living beings, Gu are the essence of heaven and earth. With his three views* unrighteous, a demon is reborn. Former days are but an old dream, an identical name is made anew. The story of a time traveller who keeps on being reborn. A unique world that nurtures, refines, and uses Gu. Spring Autumn Cicada, Moonlight Gu, Liquor Worm, Great Qi Golden Light Worm, Slender Black Hair Gu, Hope Gu… And a great demon of the world that acts as his heart pleases! A story of a villain, Fang Yuan who was reborn 500 years into the past with the Spring Autumn Cicada he painstakingly refined. With his profound wisdom, battle and life experiences, he seeks to overcome his foes with skill and wit! Ruthless and amoral, he has no need to hold back as he pursues his ultimate goals. In a world of cruelty where one cultivates using *Gu – magical creatures of the world – Fang Yuan must rise up above all with his own power. Notes : *Gu is a legendary venomous insect, often used in black magic practices. It can take on the form of several insects, usually snakes, crickets, worms etc. *Three views = one’s world view, values of worth, and philosophy on life.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset