บนภูเขาตงฮันมีวิญญาณความเด็ดเดี่ยวอยู่ทุกหนทุกแห่ง
ฟางหยวนหยิบหินบางก้อนขึ้นมาและใช้วิญญาณความเด็ดเดี่ยวที่อยู่ภายในเสริมสร้างจิตวิญญาณของตนเอง
หลังจากไม่นานจิตวิญญาณของฟางหยวนก็พุ่งขึ้นสู่ระดับห้าล้านคน
ฟางหยวนรู้สึกราวกับมันกำลังจะระเบิด
เขารู้ว่านี่คือขีดจำกัด
ด้วยการใช้หุบเขาเหล่าโปขัดเกลา รากฐานจิตวิญญาณของเขาก็ลดลงมาอยู่ที่ระดับหนึ่งล้านห้าแสนคน
‘หลังจากเสริมสร้างและขัดเกลา จากจิตวิญญาณหนึ่งล้านลดลงมาเหลือห้าแสน’
‘รวมเวลาการผลิตวิญญาณความเด็ดเดี่ยว เวลาฝึกฝนและพักผ่อน ข้าต้องใช้เวลาครึ่งปีเพื่อเข้าถึงระดับสิบล้านคน’
ฟางหยวนประเมินและขมวดคิ้ว
มันช้าเกินไปสำหรับเขา
สิบปี หลังจากสิบปีวังสวรรค์จะสามารถกู้คืนวิญญาณชะตากรรม เมื่อเวลานั้นมาถึง ฟางหวนและนิกายเงาจะหมดสิ้นความหวัง
เขาต้องใช้เวลาครึ่งปีจากเวลาสิบปีเพื่อบรรลุถึงระดับสิบล้านคน นอกจากนี้ยังมีระดับร้อยล้านคนและสูงขึ้นไป
ฟางหยวนไม่พอใจกับความเร็วนี้
‘หากข้าสามารถเพิ่มผลผลิตวิญญาณความเด็ดเดี่ยว ความเร็วในการบ่มเพาะของข้าจะเพิ่มขึ้น’
ผลผลิตวิญญาณความเด็ดเดี่ยวจำกัดการเติบโตของเขา
ภูเขาตงฮันเป็นต้นเงินต้นทองของเขาอย่างไม่ต้องสงสัย แต่มันต้องการดวงวิญญาณที่มีคุณภาพเพื่อสร้างวิญญาณความเด็ดเดี่ยวอย่างไม่รู้สิ้นสุด
ตามข้อตกลงก่อนหน้า วิญญาณความเด็ดเดี่ยวส่วนหนึ่งเป็นของนิกายหลางหยา พวกเขาต้องขายมันเพื่อทำกำไร รายได้ส่วนหนึ่งจะถูกมอบให้ฟางหยวน
แต่ตอนนี้ฟางหยวนต้องใช้วิญญาณความเด็ดเดี่ยวส่วนหนึ่งเพื่อบ่มเพาะจิตวิญญาณ นี่ทำให้รายรับของเขาลดลง
โชคดีที่ธุรกิจปีทำเงินให้เขามากมาย
จากการประเมินของฟางหยวน มันไม่ฉลาดที่จะเจรจากับจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเพื่อขอส่วนแบ่งเพิ่มเพราะนิกายหลางหยาก็ต้องใช้มันพัฒนานิกายหรือหลอมรวมวิญญาณเช่นหัน
พวกเขายังใช้มันในการหลอมรวมวิญญาณให้ฟางหยวน ตอนนี้พวกเขากำลังหลอมรวมวิญญาณหนอนไหมบัวขาวและวิญญาณอมตะอีกสองดวง หนึ่งในนั้นคือวิญญาณอมตะความลับสวรรค์ มันมาจากมรดกของเทพอมตะสวรรค์พิภพ ผู้อมตะเฒ่าม่านเยี่ยนซื่อของนิกายเงาเคยใช้มันเพื่อสร้างท่าไม้ตายอมตะเผยความลับสวรรค์
ท่าไม้ตายนี้สามารถทำนายภัยพิบัติหรือเรื่องลี้ลับต่างๆ
หากนิกายหลางหยาประสบความสำเร็จในการหลอมรวม ฟางหยวนจะสามารถใช้มันเพื่อเปิดเผยความลับสวรรค์ มันจะช่วยให้เขาสามารถก้าวข้ามภัยพิบัติ
‘อย่างไรก็ตามการมอบภารกิจหลอมรวมวิญญาณอมตะให้นิกายหลางหยาทำให้แต้มผลงานของข้าหมดลง ข้าต้องตรวจสอบสิ่งนี้!’
ดังนั้นหลังจากบ่มเพาะจิตวิญญาณ ฟางหยวนเริ่มตรวจสอบภารกิจของนิกายหลางหยา
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาคนปัจจุบันเหมาะสมกับการดูแลนิกายหลางหยามากกว่าจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาคนก่อนหน้า
ตอนนี้นิกายหลางหยามีภารกิจมากมาย ส่วนใหญ่เป็นภารกิจหลอมรวมวิญญาณที่ฟางหยวนมอบให้ ถัดมาก็เป็นการสำรวจไท่ชิว
ตั้งแต่นิกายหลางหยาสามารถจัดตั้งค่ายกลวิญญาณขนส่ง พวกเขาสามารถขุดค้นทรัพยากรออกมาจากไท่ชิว
นี่คือเส้นทางหลักในการพัฒนานิกายหลางหยา
แต่ไท่ชิวเป็นสถานที่อันตราย ผู้อมตะทั่วไปไม่ต้องการเข้าไปแม้จะมีทรัพยากรมากมาย สิ่งสำคัญก็คือผู้อมตะของนิกายหลางหยาชำนาญในการหลอมรวมวิญญาณแต่อ่อนแอด้านการต่อสู้
แม้พวกเขาจะแข็งแกร่งขึ้นแต่ยังมีไม่กี่คนที่สามารถต่อสู้
ดังนั้นเมื่อพวกเขาพบสัตว์อสูรหรือพืชอสูรที่แข็งแกร่ง ผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนจะไม่สามารถทำสิ่งใด
เมื่อเห็นภารกิจเหล่านี้ ฟางหยวนตัดสินใจเลือกภารกิจมากกว่าสิบภารกิจที่ให้ผลตอบแทนสูงสุด
“ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่ง” ฟางหยวนติดต่อจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาผ่านวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูล
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาตอบกลับด้วยความยินดีหลังจากตระหนักถึงความต้องการของฟางหยวน “ฟางหยวน ด้วยความแข็งแกร่งของเจ้า ภารกิจเหล่านี้เป็นเรื่องที่ง่ายดายมาก!”
แต่ฟางหยวนกลับส่ายศีรษะ “นี่คือสิ่งที่ข้าต้องการพูดคุยกับท่าน ข้าต้องการส่งลูกน้องไปจัดการภารกิจเหล่านี้ให้ข้า เรื่องนี้ไม่ขัดต่อกฎของนิกายหลางหยาใช่หรือไม่?”
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยามึนงงเล็กน้อย เขาไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้เมื่อเขาสร้างกฎของนิกาย
กล่าวถึงเรื่องนี้ มันไม่ใช่ช่องโหว่ แต่ผู้อมตะที่รับภารกิจไม่มีสิทธิขอความช่วยเหลือจากบางคนเช่นนั้นหรือ?
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาตอบกลับ “เช่นนั้นเจ้าต้องแน่ใจว่าผู้ใต้บังคับบัญชาเหล่านี้จะไม่ทำร้ายนิกายหลางหยา!”
ฟางหยวนยิ้ม “แน่นอน”
หลังจากพูดคุยกับจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา ฟางหยวนก็นำสมาชิกนิกายเงาออกมา
ไห่ลั่วหลัน อิงอู๋เซี่ย เทพธิดาเมี่ยวหยิน และเทพธิดากระต่ายขาว
ฟางหยวนสามารถใช้งานคนทั้งสี่ได้อย่างเต็มที่
สุดท้ายไป่หนิงปิงก็เข้าร่วมด้วย
จากมุมมองของนาง นางเป็นพันธมิตรของฟางหยวนเพื่อกู้คืนร่างบุรุษโดยการหลอมรวมวิญญาณอมตะกงล้อหยินหยาง
เมื่อนางตระหนักว่าฟางหยวนพึ่งพานิกายหลางหยาเพื่อหลอมรวมวิญญาณ นางเริ่มสนใจนิกายหลางหยาเช่นกัน
น่าเสียดายที่นิกายหลางหยาไม่ไว้ใจคนนอกเช่นไป่หนิงปิง นอกจากนั้นฟางหยวนยังลอบขัดขวางและบังคับให้ไป่หนิงปิงต้องพึ่งพาเขา
นางเป็นพันธมิตร ฟางหยวนไม่สามารถสั่งนาง แต่ฟางหยวนจะละทิ้งพลังการต่อสู้ของนางได้อย่างไร?
ภายใต้การเจรจา ไป่หนิงปิงเชื่อว่าตราบเท่าที่นางสังหารสัตว์อสูรและพืชอสูรมากขึ้น นางจะได้รับแต้มผลงานของนิกายหลางหยาผ่านฟางหยวน เขาจะใช้พวกมันเพื่อช่วยนางหลอมรวมวิญญาณอมตะกงล้อหยินหยาง
หลายวันต่อมา
มิติช่องว่างจักรพรรดิ ภาคเหนือน้อย
เกล็ดหิมะขนาดใหญ่ร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้า
มันมีขนาดเท่ากับฝ่ามือของผู้ใหญ่และเป็นทรัพยากรอมตะระดับหกที่เรียกว่าหิมะเริงระบำ มันเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติและจะไม่ละลายตราบเท่าที่อุณหภูมิยังเย็นในระดับหนึ่ง มันจะลอยอยู่กลางอากาศตลอดเวลา แม้มันจะตกลงบนพื้น มันก็จะลอยขึ้นมาอีกครั้ง
ฟางหยวนตรวจสอบและไม่พบปัญหา ‘ตอนนี้ข้าจัดการของขวัญจากเผ่ามนุษย์หิมะเรียบร้อยแล้ว’
เผ่ามนุษย์หิมะต้องการสร้างสายสัมพันธ์กับฟางหยวนผ่านการแต่งงาน แน่นอนว่าเซี่ยเอ๋อย่อมไม่มามือเปล่า
นางนำของขวัญมามอบให้ฟางหยวน
ส่วนใหญ่คือแก่นแท้บัวหิมะ นี่เป็นทรัพยากรอมตะที่หายากแม้แต่ในสวรรค์สีเหลือง ฟางหยวนเก็บมันไว้ในภาคเหนือน้อย
ต่อมาคือหิมะเริงระบำ มันเป็นเรื่องบังเอิญที่สิ่งนี้เป็นอาหารของวิญญาณอมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของฟางหยวน มันสามารถเป็นอาหารให้กับวิญญาณอมตะถึงห้าครั้ง
ความยากในการให้อาหารวิญญาณอมตะระดับหกแตกต่างจากวิญญาณอมตะระดับแปด
ฟางหยวนไม่ต้องใช้ความพยายามใดๆแต่กลับได้รับหิมะเริงระบำมาอย่างง่ายดาย
นอกจากนั้นยังมีทรัพยากรอีกหลายอย่างที่ไม่มีประโยชน์สำหรับฟางหยวน บางส่วนถูกขายออกไปขณะที่บางส่วนถูกเก็บเอาไว้
‘มันยังน้อยเกินไป หากข้าสามารถหาทรัพยากรได้มากขึ้น มิติช่องว่างของข้าจะพัฒนาได้เร็วขึ้น’
‘เมื่อเผ่ามนุษย์หิมะต้องการแต่งงานกับข้า ของขวัญเท่านี้ยังไม่เพียงพอ’
ฟางหยวนเย้ยหยัน
เขายอมรับของขวัญทั้งหมดแต่ยังไม่ให้คำตอบใดๆแก่เผ่ามนุษย์หิมะ
หลังจากจัดการมิติช่องว่าง ฟางหยวนกลับไปบ่มเพาะจิตวิญญาณของเขาอีกครั้ง
เขาหมกมุ่นอยู่กับการฝึกฝน รากฐานของเขาเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว นอกเหนือจากการบ่มเพาะจิตวิญญาณ เขายังใช้แสงแห่งปัญญาเพื่อดัดแปลงท่าไม้ตายต่างๆ
เขามีท่าไม้ตายมากมาย พวกมันเกี่ยวข้องกับทุกเส้นทาง เขาต้องดัดแปลงท่าไม้ตายที่มีประโยชน์เพื่อยกระดับพลังการต่อสู้ของเขา
ขณะที่ฟางหยวนกำลังบ่มเพาะ สมาชิกนิกายเงากำลังสำรวจไท่ชิวและต่อสู้ ผมที่หกและจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยากำลังหลอมรวมวิญญาณอมตะให้ฟางหยวน กล่าวได้ว่าเกือบทุกคนกำลังยุ่งอยู่กับเป้าหมายของพวกเขา เซี่ยเอ๋อกลายเป็นคนที่กังวลมากที่สุด
หญิงงามเผ่ามนุษย์หิมะผู้นี้ได้รับภารกิจจากเผ่าของนาง แต่ฟางหยวนรับของขวัญเอาไว้โดยไม่แม้แต่จะให้นางเข้าพบ นางรู้สึกพูดไม่ออกและไม่สามารถทำสิ่งใด
เซี่ยเอ๋อขอพบฟางหยวนหลายครั้ง แต่นางเป็นเพียงผู้อมตะระดับหกขณะที่ฟางหยวนมีพลังการต่อสู้ระดับแปด ความแข็งแกร่งของทั้งสองแตกต่างกันมากเกินไป นอกจากนั้นฟางหยวนยังอยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาและปฏิเสธการขอเข้าพบทุกครั้งของนาง
ด้วยเหตุนี้เซี่ยเอ๋อจึงไม่สามารถเข้าพบเขา นางรู้สึกท้อแท้มาก ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความกังวลและความโกรธ
เป็นเพียงเวลานี้ที่เผ่ามนุษย์หิมะส่งจดหมายมาเร่งเร้านางอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เซี่ยเอ๋อรู้สึกมีความหวังมากขึ้น
เนื่องจากเผ่ามนุษย์หิมะเห็นว่าเซี่ยเอ๋อไม่มีความคืบหน้า พวกเขาจึงต้องหารือและสรุปว่าเมื่อฟางหยวนยอมรับของขวัญ นั่นหมายความว่าเขาไม่ปฏิเสธการแต่งงาน แต่เหตุผลที่เขาไม่ให้เซี่ยเอ๋อเข้าพบเป็นเพราะของขวัญยังไม่เพียงพอต่อสถานะอันสูงส่งของเขา
ดังนั้นเผ่ามนุษย์หิมะจึงรวบรวมของขวัญเพิ่มเติมและส่งให้เซี่ยเอ๋อ
“เหตุใดถึงกลายเป็นเช่นนี้?”
“ข้าคือความภาคภูมิใจของเผ่ามนุษย์หิมะ ความงามของข้าได้รับการยอมรับจากสาธารณชน ครั้งนี้ข้าเป็นฝ่ายขอแต่งงานและนำของขวัญมามอบให้เขาแต่มันยังไม่พอให้ข้าได้พบเขาแม้แต่ครั้งเดียว!”
ด้วยอารมณ์อันหนักหน่วงง เซี่ยเอ๋อขอเข้าพบฟางหยวนอีกครั้ง
ในที่สุดฟางหยวนก็ให้นางเข้าพบ
แต่สิ่งที่เขากล่าวกลับเป็นสิ่งที่นางไม่คาดหวัง