Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน – บทที่ 1463 บททดสอบของเซี่ยเอ๋อ

ฟางหยวนมองไปที่เซี่ยเอ๋อ

 

นางยังเด็กและงดงาม นางมีดวงตาและเส้นผมสีฟ้า ผิวของนางบอบบางและมีหน้าอกที่อวบอิ่ม นางเป็นหญิงงามอันดับหนึ่งของเผ่ามนุษย์หิมะ

 

แต่ฟางหยวนไม่หวั่นไหวในความงามของนาง ไม่เพียงเท่านั้นเขายังสร้างปัญหาให้นางอีกด้วย “นี่คือความจริงใจของเผ่ามนุษย์หิมะงั้นหรือ?”

 

เซี่ยเอ๋อไม่เข้าใจความหมายของฟางหยวน นางรีบตอบ “ท่านฟางหยวน โปรดอย่าเข้าใจผิด”

 

“ของขวัญเพียงเล็กน้อยแต่เจ้าต้องการแต่งงานกับข้า? เผ่าของเจ้ากำลังฝันหากพวกเขาคิดว่ามันเป็นเรื่องง่ายที่จะได้รับความช่วยเหลือจากพลังการต่อสู้ระดับแปด” ฟางหยวนเย้ยหยัน

 

เซี่ยเอ๋อมึนงง

 

ฟางหยวนกล่าวอย่างชัดเจน นางไม่สามารถยอมรับได้

 

นางยังรู้สึกเขินอายและโกรธแค้นอยู่ในใจ

 

นางเป็นหญิงงามอันดับหนึ่ง นางนำของขวัญมาเพื่อขอแต่งงาน นางก้มศีรษะลงและลดสถานะของตนเอง

 

แต่ฟางหยวนยังดูแคลนนางและเต็มไปด้วยความโลภโดยกล่าวว่าเผ่ามนุษย์หิมะไม่มีความจริงใจ

 

มันจะน้อยไปได้อย่างไร?

 

ของขวัญทั้งหมดล้ำค่ามาก เผ่ามนุษย์หิมะนำพวกมันออกมาจากคลังสมบัติเพื่อฟางหยวนโดยเฉพาะ

 

เดิมทีเซี่ยเอ๋อมีความประทับใจที่ดีต่อฟางหยวนเพราะเขามีพรสวรรค์ที่น่าเหลือเชื่อและมีพลังการต่อสู้ระดับแปด มันเป็นความสำเร็จที่น้อยคนจะทำได้ แต่ตอนนี้ความประทับใจของนางที่มีต่อเขากลับร่วงหล่นลงจนถึงจุดต่ำสุด

 

นางต้องการจากไปแต่ตอนนี้มันไม่ใช่เรื่องของนางเพียงผู้เดียว นางรับภารกิจสำคัญมาจากเผ่า

 

เซี่ยเอ๋อสูดหายใจลึกก่อนถาม “ท่านฟางหยวน ท่านได้รับของขวัญสองชุดแล้ว ข้าแน่ใจว่าท่านเห็นด้วยกับการแต่งงานของเรา หากท่านไม่พอใจของขวัญ ท่านสามารถบอกความต้องการของท่าน ข้าจะนำพวกมันกลับไปพูดคุยกับผู้อาวุโสของเรา”

 

ฟางหยวนเตรียมรายการของขวัญไว้แล้ว เขาส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับเซี่ยเอ๋อทันที

 

“นี่!?” ดวงตาของเซี่ยเอ๋อแทบหลุดออกมาจากเบ้า

 

ความโลภของฟางหยวนน่าตกใจเกินไป

 

“ไม่ใช่เพียงเท่านี้” ฟางหยวนกล่าวต่อ

 

“ท่านยังมีคำขออื่นอีกงั้นหรือ?” การแสดงออกของเซี่ยเอ๋อกลายเป็นไม่น่ามองขณะที่นางพยายามระงับความโกรธ

 

แต่ฟางหยวนไม่สะทกสะท้าน เขากล่าว “หากเผ่าของเจ้าสามารถตอบสนองความต้องการของข้า นั่นเพียงพอแล้ว แต่ตัวเจ้าเองยังไม่ได้แสดงความจริงใจมากพอ”

 

“ความจริงใจของข้า?”

 

ฟางหยวนเงยหน้าขึ้นและยิ้ม “ไม่ใช่ผู้ใดก็ได้ที่สามารถเป็นภรรยาของข้า ภรรยาของฟางหยวน แม้เผ่ามนุษย์หิมะจะแนะนำเจ้า แต่คุณสมบัติของเขาเจ้าจะขึ้นอยู่กับการทดสอบของข้า”

 

“การทดสอบ?” เซี่ยเอ๋อกัดฟันแน่น “โปรดอธิบายให้ข้าฟังด้วย”

 

ฟางหยวนกล่าว “ไปที่ไท่ชิวและรวบรวมวิญญาณให้ข้า เมื่อเจ้าไปที่นั่นจะมีบางคนดูแลเจ้า”

 

เซี่ยเอ๋อรู้สึกปวดใจ อัจฉริยะเช่นนางได้รับการปฏิบัติที่เย็นชาเยี่ยงนี้ได้อย่างไร?

 

แต่เนื่องจากมันเป็นภารกิจของเผ่า นางจึงต้องพยักหน้าตอบรับ

 

เมื่อเห็นเซี่ยเอ๋อออกไป ฟางหยวนเริ่มครุ่นคิด

 

ด้วยวิธีนี้เขาจะสามารถใช้พลังการต่อสู้ของเซี่ยเอ๋อเพื่อประโยชน์ของตนเอง

 

แต่นั่นไม่สำคัญ

 

เป้าหมายของเขาคือการตรวจสอบฝ่ายตรงข้าม

 

ยอมรับของขวัญสองชิ้น แสดงความไม่พอใจ และทดสอบเซี่ยเอ๋อ นี่คือบททดสอบขั้นต่ำที่สุดของเผ่ามนุษย์หิมะ

 

เมื่อพวกเขาต้องการสร้างความสัมพันธ์ผ่านการแต่งงาน พวกเขาก็ต้องมีความมุ่งมั่น

 

ยิ่งพวกเขามุ่งมั่นมากเท่าใด ฟางหยวนก็จะได้รับผลประโยชน์มากเท่านั้น

 

ฟางหยวนไร้ความกังวล

 

การแต่งงานไม่ใช่เรื่องที่จะเกิดขึ้นภายในเวลาอันสั้น ทั้งสองฝ่ายยังไม่คุ้นเคยกัน ฟางหยวนตรวจสอบเผ่ามนุษย์หิมะ เผ่ามนุษย์หิมะก็กำลังตรวจสอบฟางหยวนเช่นกัน

 

แต่ฟางหยวนมั่นใจว่ามันเป็นประโยชน์ต่อเขา

 

การเชื่อมต่อผ่านการแต่งงานไม่ใช่เรื่องสำคัญ

 

ฟางหยวนปัดเป่าความคิดออกไปอย่างรวดเร็วและกลับไปให้ความสนใจกับบ่มเพาะ

 

การบ่มเพาะจิตวิญญาณเป็นเรื่องหนึ่ง การจัดการมิติช่องว่างก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง นอกเหนือจากนั้นฟางหยวนยังใช้แสงแห่งปัญญาเพื่อดัดแปลงท่าไม้ตายของเขา

 

ท่าไม้ตายที่แข็งแกร่งที่สุดของฟางหยวนคือเกราะหวนคืนอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ตอนนี้เขาไม่ได้ดัดแปลงมัน

 

แม้เกราะหวนคืนจะถูกตอบโต้โดยวังสวรรค์ แต่เวลานี้ฟางหยวนยังไม่มีอันตราย เขาอยู่ที่ภาคเหนือและยังอยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา เขามีอาภรณ์วิญญาณ วังสวรรค์ยังไม่สามารถตรวจสอบตำแหน่งที่อยู่ของเขาในเร็ววันนี้

 

นอกจากนั้นการพัฒนาเกราะหวนคืนยังต้องใช้เวลาอีกมาก มันนานเกินไป

 

ฟางหยวนตัดสินใจใช้แสงแห่งปัญญาดัดแปลงท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของราชันภูเขาม่วง

 

เหตุใดเขาถึงเลือกสิ่งนี้?

 

ประการแรก ท่าไม้ตายอมตะของราชันภูเขาม่วงทรงพลังและมีประสิทธิภาพสูงมาก ประการที่สอง ฟางหยวนเป็นปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งปัญญา เขามีคุณสมบัติเพียงพอที่จะดัดแปลงพวกมัน ประการสุดท้าย ฟางหยวนมีวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาที่ถูกทิ้งไว้โดยราชันภูเขาม่วง

 

ค่ายกลวิญญาณแม่น้ำโลหิตสีม่วง เกราะแสงความคิดสีม่วง ความคิดอุกกาบาตเพลิง ความคิดดอกไม้เบ่งบาน แสงแห่งปัญญาสีม่วง หมอกสับสน และอื่นๆอีกมากมาย ราชันภูเขาม่วงใช้วิธีการเหล่านี้เผชิญหน้ากับราชันมังกรแต่ในเวลานั้นเขาไม่ได้อยู่ในสภาพที่ดีที่สุด

 

ขณะเดียวกันราชันมังกรคือผู้ใด?

 

เขาเป็นอาจารย์ของเทพปีศาจบัวแดง เขามีภูมิหลังที่ยิ่งใหญ่และมีพลังการต่อสู้ที่ไม่มีผู้ใดในยุคปัจจุบันที่สามารถเทียบเคียง เขาอยู่บนจุดสูงสุดของระดับแปด!

 

ขณะที่ฟางหยวนกำลังดัดแปลงท่าไม้ตายเหล่านั้น อิงอู๋เซี่ยได้พบกับเซี่ยเอ๋อ

 

“เจ้าคือเซี่ยเอ๋องั้นหรือ?” อิงอู๋เซี่ยถาม

 

เซี่ยเอ๋อเห็นอิงอู๋เซี่ยในร่างเทพธิดาซุ้ยป๋อที่มีรูปร่างบอบบางและดูเด็กกว่านางพร้อมกับผิวขาวราวหิมะในชุดสีเขียวลายดอกไม้

 

กล่าวได้ว่าเทพธิดาซุ้ยป๋องดงามและมีเสน่ห์มาก หากไม่ใช่เพราะสิ่งนี้ นางจะเป็นสนมที่บรรพชนพันเปลี่ยนแปลงชื่นชอบมากที่สุดได้อย่างไร

 

‘ผู้อมตะหญิงผู้นี้คือผู้ใด? นางมีความสัมพันธ์อย่างไรกับฟางหยวน? เผ่าของเราไม่มีข้อมูลนี้และนางคือผู้อมตะระดับเจ็ด!’ เซี่ยเอ๋อเต็มไปด้วยความสงสัยแต่นางยังยิ้ม “ข้าคือเซี่ยเอ๋อ น้องสาวผู้งดงาม ข้าขอทราบชื่อของเจ้าได้หรือไม่?”

 

อิงอู๋เซี่ยขมวดคิ้ว

 

หลังจากได้รับร่างของเทพธิดาซุ้ยป๋อ อิงอู๋เซี่ยค่อนข้างอึดอัดใจ เขาขอให้ฟางหยวนเปลี่ยนร่างของเขา แม้เขาจะกลายเป็นผู้อมตะระดับหก มันก็ยังดีตราบเท่าที่เขายังสามารถบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ

 

“อย่าเรียกข้าว่าน้องสาว เรียกข้าว่าพี่อู๋เซี่ย” อิงอู๋เซี่ยโบกมือ “ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปพบกับพวกเรา นี่คือบททดสอบของท่านผู้นำ แล้วมาดูกันว่าผู้ใดจะได้รับวิญญาณคุณภาพสูงกว่าในช่วงเวลาเดียวกัน”

 

“เข้าใจแล้ว” เซี่ยเอ๋อตอบแต่นางยังมีคำถามอยู่ในใจ

 

นางเดินตามอิงอู๋เซี่ยและคิด ‘หญิงผู้นี้แปลกมาก นางต้องการให้ข้าเรียกว่าพี่งั้นหรือ?”

 

ทั้งสองออกจากแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาและไปถึงไท่ชิวด้วยค่ายกลวิญญาณขนส่ง

 

เซี่ยเอ๋อประหม่ามากเพราะนางรู้ว่าที่นี่คือสถานที่อันตรายที่มีชื่อเสียงของภาคเหนือ

 

ในเวลาเดียวกันนางเริ่มรู้สึกไม่สบายใจต่อการทดสอบ นางเป็นเพียงผู้อมตะระดับหกที่เชี่ยวชาญด้านการตรวจสอบ

 

“มากับข้า เร็วเข้า!”

 

“เวลามีค่า เราต้องใช้ทุกนาทีเพื่อฝึกฝน”

 

อิงอู๋เซี่ยเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น นี่เป็นผลกระทบจากท่าไม้ตายอมตะจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้พุ่งทะยาน

 

เซี่ยเอ๋อรู้สึกว่าอิงอู๋เซี่ยเป็นคนแปลกมาก อิงอู๋เซี่ยอยู่ในรูปลักษณ์ที่งดงามแต่นางกลับทำตัวราวกับเด็กน้อยเอาแต่ใจ

 

“แต่การบินไม่ประมาทเกินไปงั้นหรือ?” เซี่ยเอ๋อรู้สึกกังวล นี่คือไท่ชิว มีสัตว์อสูรที่ดุร้ายอยู่มากมาย อันตรายมีอยู่ทุกหนทุกแห่ง การบินไปอย่างเปิดเผยจะทำให้พวกนางตกเป็นเป้าหมาย

 

ขณะที่บินอยู่บนท้องฟ้า เซี่ยเอ๋อรู้สึกประหม่ามาก นางเกรงว่าจะถูกสัตว์อสูรโจมตี

 

แต่หลังจากบินไปได้สักพัก ความกังวลของนางกลับไม่เกิดขึ้น

 

แท้จริงแล้วความกังวลของนางลดลงแต่ถูกแทนที่ด้วยความตกใจ

 

‘พื้นที่รอบๆค่ายกลวิญญาณขนส่งอยู่ภายใต้การควบคุมของนิกายหลางหยา พวกเขาสำรวจไท่ชิวได้ถึงระดับนี้แล้ว!’

 

‘ดูเหมือนความแข็งแกร่งของนิกายหลางหยาจะเหนือกว่าการประเมินจากเผ่าของข้า’ เซี่ยเอ๋อส่งข้อมูลนี้กลับไปยังเผ่ามนุษย์หิมะทันที

 

“โอ้ ฝูงคชสารมังกร!” เซี่ยเอ๋ออุทาน

 

อิงอู๋เซี่ยรู้สึกประหลาดใจที่ผู้อมตะเผ่ามนุษย์หิมะผู้นี้ค้นพบการคงอยู่ของฝูงคชสารมังกรได้อย่างรวดเร็ว

 

“ท่านผู้นำต้องการฝูงคชสารมังกรเหล่านี้ ไปจับพวกมันกันเถอะ” อิงอู๋เซี่ยเปลี่ยนทิศ

 

เซี่ยเอ๋อไม่แปลกใจเพราะคชสารมังกรอยู่ในรายการของขวัญที่ฟางหยวนต้องการ

 

คชสารมังกรส่วนใหญ่เป็นสัตว์อสูรทั่วไป มีคชสารมังกรเพียงสามตัวที่อยู่ในระดับสัตว์อสูรเดียวดาย

 

อิงอู๋เซี่ยบินลงไปและใช้ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณทำให้ฝูงคชสารมังกรหมดสติไปอย่างรวดเร็ว

 

‘ทักษะน่าประทับใจ’ เซี่ยเอ๋อตกใจเล็กน้อยแต่มีคำถามใหม่เกิดขึ้นในใจของนาง ‘นางปลดปล่อยกลิ่นอายบนเส้นทางแห่งวารีออกมา แต่เหตุใดนางถึงใช้วิธีบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ?’

 

อิงอู๋เซี่ยเก็บคชสารมังกรไว้ในมิติช่องว่างก่อนจะเดินเข้าไปหาเซี่ยเอ๋อ

 

ครู่ต่อมาพวกนางก็พบไห่ลั่วหลัน

 

‘อีกหนึ่งหญิงงาม!’ เซี่ยเอ๋อขมวดคิ้ว

 

นางลอบสังเกต ‘หากเทียบกับอู๋เซี่ย คนผู้นี้เป็นเพียงผู้อมตะระดับหก นางเหมือนกับข้า’

 

เซี่ยเอ๋อลอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก

Reverend Insanity

Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบของวิญญาณซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา! Humans are the spirit of all living beings, Gu are the essence of heaven and earth. With his three views* unrighteous, a demon is reborn. Former days are but an old dream, an identical name is made anew. The story of a time traveller who keeps on being reborn. A unique world that nurtures, refines, and uses Gu. Spring Autumn Cicada, Moonlight Gu, Liquor Worm, Great Qi Golden Light Worm, Slender Black Hair Gu, Hope Gu… And a great demon of the world that acts as his heart pleases! A story of a villain, Fang Yuan who was reborn 500 years into the past with the Spring Autumn Cicada he painstakingly refined. With his profound wisdom, battle and life experiences, he seeks to overcome his foes with skill and wit! Ruthless and amoral, he has no need to hold back as he pursues his ultimate goals. In a world of cruelty where one cultivates using *Gu – magical creatures of the world – Fang Yuan must rise up above all with his own power. Notes : *Gu is a legendary venomous insect, often used in black magic practices. It can take on the form of several insects, usually snakes, crickets, worms etc. *Three views = one’s world view, values of worth, and philosophy on life.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset