“โฮก…”
เสียงคำรามดังขึ้นรอบๆกลุ่มผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขน
ในเวลาเดียวกัน ศีรษะมังกรขนาดใหญ่ก็พุ่งเข้ามาหาพวกเขา
กลิ่นอายที่ทรงพลังและกระแสลมที่กรรโชกแรงทำให้ทุกคนสูญเสียความมั่นใจ
“จบแล้ว!” ผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนสามคนรู้สึกสิ้นหวัง หนึ่งในนั้นนอนอยู่บนพื้น
เมื่อพวกเขารู้สึกว่ากำลังจะตาย เสียงที่เย็นชาก็ดังขึ้น “ไร้ประโยชน์”
ผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนทั้งสามดีใจมากแม้พวกเขาจะถูกดูแคลน พวกเขาตะโกน “เราอยู่ที่นี่ เทพธิดาหนิงปิง ช่วยเราด้วย!”
ในช่วงเวลาคับขัน ร่างสีขาวบินเข้ามาหาพวกเขา มันคือเทพธิดามังกรไป่หนิงปิง
นางก่นเสียงเย็นและยกมือขึ้น
“ครืน…”
กำแพงน้ำแข็งปรากฏขึ้นด้านหน้าผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนทั้งสาม
“บึม!”
แต่มันก็พังทลายลงอย่างรวดเร็วด้วยการพุ่งชนของศีรษะมังกร
กำแพงน้ำแข็งแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
อย่างไรก็ตามไป่หนิงปิงและผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนทั้งสามล่าถอยออกไปแล้ว
ไป่หนิงปิงมองศีรษะมังกรและสร้างชั้นน้ำแข็งขึ้นบนชั้นผิวหนังของมัน นี่ทำให้ความเร็วของมันลดลงอย่างมาก
ไป่หนิงปิงถอนหายใจด้วยความโล่งอก
นางอนุมานแล้วว่าศีรษะมังกรมีความแข็งแกร่งระดับเจ็ดเท่านั้น ด้วยพลังการต่อสู้ของนาง นางสามารถจัดการมันได้อย่างง่ายดาย
แต่…
‘สัตว์อสูรแรกกำเนิดมังกรหมื่นเศียรมีศีรษะมากมาย ข้าพึ่งจัดการไปเพียงหนึ่ง มันยังไม่ถือเป็นสิ่งใด หากศีรษะมังกรอื่นๆเข้าสู่การต่อสู้ ข้าจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบ สองหมัดไม่สามารถแข่งขันกับสี่ฝ่ามือ’
ไป่หนิงปิงมองขึ้นไปบนท้องฟ้าและขมวดคิ้ว
ที่นี่ไม่ใช่ไท่ชิวทั่วไป มันเป็นค่ายกลวิญญาณ
มังกรหมื่นเศียรเป็นสัตว์อสูรแรกกำเนิดบนเส้นทางแห่งค่ายกล มันสามารถสร้างค่ายกลวิญญาณได้เช่นเดียวกับความสามารถทะลวงมิติของอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุด มันเป็นพรสวรรค์ตั้งแต่กำเนิดของสัตว์อสูรแรกกำเนิด
‘ข้าต้องออกจากที่นี่และกลับสู่โลกภายนอก’
‘ข้าหวังว่าอิงอู๋เซี่ยและคนอื่นๆจะสามารถอดทน!’
ในเวลาเดียวกัน ด้านนอกค่ายกลวิญญาณ
กลุ่มของไห่ลั่วหลันบินอยู่บนท้องฟ้าและกำลังเผชิญหน้ากับศีรษะมังกรนับร้อยที่อยู่บนพื้น
การต่อสู้ดำเนินไปอย่างดุเดือดและสร้างเป็นฉากที่ยิ่งใหญ่
ภายในทุ่งหญ้าที่สูงเท่ากับต้นไม้ มังกรหลายร้อยตัวมีรูปลักษณ์ที่แตกต่างกัน บางตัวมีเกล็ดสีทอง บางตัวมีเขาอยู่กลางหน้าผาก บางตัวมีดวงตาสามดวง
แต่ทั้งหมดมีเพียงศีรษะมังกร พวกมันเป็นส่วนหนึ่งของมังกรหมื่นเศียร ร่างกายของพวกมันอยู่ลึกลงไปใต้ดิน ศีรษะมังกรนับหมื่นมีต้นกำเนิดเดียวกัน
ไห่ลั่วหลันบินเป็นวงกลมและใช้ท่าไม้ตายของนางออกมาอย่างต่อเนื่อง
เสียงคำรามของมังกรดังขึ้น พวกมันไม่หลบเลี่ยงแต่ตอบโต้โดยตรง ส่วนใหญ่ส่งลมหายใจมังกรออกมา บางส่วนพ่นพิษ ขณะที่บางส่วนยิงลำแสงออกจากดวงตา
“โดยไม่สนใจศีรษะมังกรที่ไปจัดการไป่หนิงปิง มีศีรษะมังกรระดับเจ็ดจำนวนสามเศียร ที่เหลือเป็นระดับหก”
“เรายังไม่พบวิญญาณอมตะป่าใดๆ แต่ก็ต้องระวังให้ดี”
“อย่าเข้าไปใกล้ มิฉะนั้นพวกเจ้าจะถูกลากเข้าไปในค่ายกลวิญญาณ!”
ไห่ลั่วหลัน อิงอู๋เซี่ย และคนอื่นๆพูดคุยขณะต่อสู้
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาขอความช่วยเหลือจากฟางหยวน เขาต้องยอมรับคำขอนี้ ประการแรก ภารกิจกู้ภัยมีรางวัลตอบแทนมากมาย มันน่าดึงดูดใจ ประการที่สอง ฟางหยวนเป็นผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายหลางหยา เขาไม่สามารถเพิกเฉยต่อสิ่งนี้ มิฉะนั้นมันจะเป็นการละเมิดข้อตกลงพันธมิตร
ดังนั้นฟางหยวนจึงสั่งให้กลุ่มของอิงอู๋เซี่ยช่วยถ่วงเวลาเอาไว้ขณะที่เขากำลังเดินทางไปที่นั่น
แต่กลุ่มของอิงอู๋เซี่ยยังรู้สึกกดดันมาก
“โอ้ ไม่ มันมีมากขึ้นเรื่อยๆ!”
“หากยังเป็นเช่นนี้ มังกรหมื่นเศียรจะตื่นขึ้นอย่างสมบูรณ์ นอกจากเราจะล้มเหลวในภารกิจช่วยชีวิตแต่เรายังจะเสียชีวิตที่นี่!”
“เมื่อใดท่านผู้นำจะมาถึง?”
“เราอยู่ในส่วนลึกของไท่ชิว ค่ายกลวิญญาณขนส่งอยู่ห่างไกล เขาต้องการเวลา ระวัง!”
ขณะสนทนา ศีรษะมังกรระดับเจ็ดก็ปรากฏขึ้นจากใต้ดินและส่งลมหายใจมังกรออกมา
ไห่ลั่วหลันหลบเลี่ยงได้อย่างฉิวเฉียดขณะที่อิงอู๋เซี่ยไตร่ตรองและกล่าวกับเทพธิดากระต่ายขาวรวมถึงเซี่ยเอ๋อ “ถอยไปด้านหลังและช่วยเราจากระยะไกล”
เซี่ยเอ๋อเป็นเพียงผู้อมตะระดับหก นางหวาดกลัวมากและไม่มีความคิดที่จะต่อสู้แม้แต่น้อย
แม้นางจะเป็นอัจฉริยะของเผ่ามนุษย์หิมะ แต่นางไม่สามารถเปรียบเทียบกับไห่ลั่วหลันและคนอื่นๆ นางไม่พยายามเข้าร่วมและเร่งล่าถอยออกไปพร้อมกับเทพธิดากระต่ายขาวทันที
หลังจากนั้นศีรษะมังกรก็เข้าสู่การต่อสู้มากขึ้นเรื่อยๆ
ร่างมังกรหมื่นเศียรเริ่มเคลื่อนไหว ไห่ลั่วหลันและคนอื่นๆถูกปราบปรามอย่างมาก
โชคดีที่มังกรหมื่นเศียรเป็นสัตว์อสูรแรกกำเนิดที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เมื่อมันถือกำเนิดขึ้น มันจะไม่สามารถเคลื่อนที่ แม้มันจะมีศีรษะมังกรจำนวนมาก พวกมันก็ทำได้เพียงปกป้องและขับไล่ศัตรูออกจากอาณาเขตของมันเท่านั้น
แต่ถึงกระนั้นลมหายใจมังกรของมันก็ทรงพลังมาก ไห่ลั่วหลันและคนอื่นๆแทบไม่สามารถต่อต้าน
“สถานการณ์เลวร้ายลงเรื่อยๆ”
“ไป่หนิงปิงยังไม่ออกมา ข้าเกรงว่านางจะไม่สามารถหลบหนีจากกับดักของศัตรู!”
ไห่ลั่วหลันและคนอื่นๆพูดถูก ไป่หนิงปิงกำลังต่อสู้อย่างสิ้นหวังอยู่ภายในค่ายกลวิญญาณเพื่อปกป้องผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนทั้งสาม
แต่ในเวลานี้กลิ่นอายที่ลึกลับกลับแพร่กระจายไปทั่ว
ศีรษะมังกรที่ใหญ่โตกว่าศีรษะอื่นๆโผล่ขึ้นมาอย่างช้าๆ
มังกรหมื่นเศียรตื่นขึ้นอย่างสมบูรณ์แล้ว!
มันสร้างแรงกดดันมหาศาลให้กับกลุ่มผู้อมตะ
“บัดซบ!”
“เราควรทำอย่างไร?”
ขณะที่กลุ่มผู้อมตะลังเล อิงอู๋เซี่ยออกคำสั่ง “เราจะถอย”
พวกเขาเป็นเพียงผู้อมตะระดับหกและระดับเจ็ด แล้วพวกเขาจะต่อต้านพลังการต่อสู้ระดับแปดได้อย่างไร? พวกเขาสามารถเพียงหลบหนีและละทิ้งไป่หนิงปิงรวมถึงผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนทั้งสาม
แต่ในจังหวะนี้ศีรษะมังกรแรกกำเนิดกลับอ้าปากและดูดพวกเขาเข้าไป
อิงอู๋เซี่ยและคนอื่นๆถูกลากเข้าสู่ค่ายกลวิญญาณ
“ศีรษะมังกรแรกกำเนิด!” หัวใจของไป่หนิงปิงสั่นไหว นางมองไปที่กลุ่มของอิงอู๋เซี่ยและถาม “ฟางหยวนอยู่ที่ใด?”
อิงอู๋เซี่ยและคนอื่นๆเผยรอยยิ้มขมขื่น
โชคดีที่ศีรษะมังกรแรกกำเนิดดูดพวกเขาเข้ามาในค่ายกลวิญญาณเท่านั้นและไม่ได้โจมตี
มันมีพลังการต่อสู้ระดับแปด จากมุมมองของมัน ผู้อมตะระดับหกและระดับเจ็ดไม่มีนัยสำคัญ มันไม่จำเป็นต้องต่อสู้
มันปล่อยให้ศีรษะอื่นๆจัดการคนเหล่านี้
ดังนั้นกลุ่มของอิงอู๋เซี่ยจึงถูกบังคับให้เข้าสู่การต่อสู้ที่ยากลำบาก
ตอนนี้แตกต่างจากก่อนหน้า ภายในค่ายกลวิญญาณ ศีรษะมังกรสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างง่ายดาย พวกมันสามารถปรากฏตัวและหายไปได้ทันที
กลุ่มผู้อมตะไม่สามารถออกจากค่ายกลวิญญาณและทำได้เพียงรวมตัวกันต่อสู้อย่างสิ้นหวัง
ในการต่อสู้ ผู้อมตะทั้งหมดได้รับบาดเจ็บ สามผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขน เซี่ยเอ๋อ และเทพธิดากระต่ายขาวแทบไม่สามารถรักษาชีวิต
กลุ่มผู้อมตะของนิกายเงาเริ่มไม่สนใจผู้อ่อนแออีกต่อไป
ผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนคนหนึ่งเป็นคนแรกที่ตาย
เซี่ยเอ๋ออ้าปากค้างขณะที่นางไม่สามารถหลบหนี นางถูกปิดล้อมโดยศีรษะมังกรจำนวนมาก
“ผู้ใดจะคิดว่าข้าจะมาตายที่นี่!” เซี่ยเอ๋อไม่สามารถต่อต้านศัตรู นางทำได้เพียงปิดเปลือกตาลงและรอรับความตายเท่านั้น อย่างไรก็ตามร่างหนึ่งบินเข้ามาและลากนางออกไป
“พวกเจ้ากำลังทำสิ่งใด? เหตุใดต้องให้ข้าออกมากอบกู้สถานการณ์!” ท่ามกลางแรงกดดัน เทพธิดากระต่ายขาวกลายเป็นนางเสือดำอีกครั้ง นางเป็นคนช่วยชีวิตเซี่ยเอ๋อ
เซี่ยเอ๋อมึนงง “เจ้าคือกระต่ายขาวงั้นหรือ?”
“ข้าไม่ได้อ่อนแอเช่นนั้น” นางเสือดำเผยรอยยิ้มเย็นชาและมองเซี่ยเอ๋อด้วยสายตาดูแคลน
เซี่ยเอ๋อรู้สึกพูดไม่ออก
ในที่สุดนางก็เข้าใจ สมาชิกนิกายเงาล้วนเป็นสัตว์ประหลาด หากเปรียบเทียบ นางอ่อนแอที่สุด
ด้วยความช่วยเหลือจากนางเสือดำ สถานการณ์เริ่มเกิดเสถียรภาพ
แต่ช่วงเวลาที่ดีมักอยู่ไม่นาน ศีรษะมังกรเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ
กลุ่มผู้อมตะทำได้เพียงป้องกันตัวแต่ไม่สามารถหลบหนี
ความหวังเดียวของพวกเขาอยู่ที่ฟางหยวน
แต่ฟางหยวนจะมาถึงเมื่อใด?
หลังจากต่อสู้มาเป็นเวลานาน พวกเขาคิดว่าฟางหยวนควรจะมาถึงแล้ว แต่ในไม่ช้ากลุ่มผู้อมตะของนิกายเงาก็ตระหนักว่าค่ายกลวิญญาณนี้เกี่ยวข้องกับเส้นทางแห่งกาลเวลา เวลาของที่นี่แตกต่างจากโลกภายนอก
แต่พวกเขาก็รู้สึกว่าศีรษะมังกรเริ่มลดลง
พวกเขาเริ่มสามารถรักษาเสถียรภาพได้อีกครั้ง
“ฟางหยวนต้องมาถึงแล้ว!” หลังจากตระหนักถึงสิ่งนี้ ขวัญกำลังใจของพวกเขาก็พุ่งสูงขึ้น
แต่เซี่ยเอ๋อยังกังวล ‘ข้าสงสัยว่าการต่อสู้ด้านนอกจะเป็นอย่างไร? แม้ฟางหยวนจะมีพลังการต่อสู้ระดับแปด แต่เขาจะสามารถต่อต้านศีรษะมังกรจำนวนมากได้หรือไม่?’
ขณะที่นางกำลังคิดเรื่องนี้ ค่ายกลวิญญาณก็แตกออก ทุกคนกลับสู่โลกภายนอก
“อา…” เมื่อเห็นทิวทัศน์ของโลกภายนอก ช่วยไม่ได้ที่เซี่ยเอ๋อจะอ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ
สนามรบเต็มไปด้วยเลือดและกองซากศพ
รวมถึงฟางหยวนจำนวนนับไม่ถ้วน
“ร่างแยกความคิด” อิงอู๋เซี่ยพึมพำเมื่อตระหนักถึงท่าไม้ตายอมตะของฟางหยวน
ฟางหยวนซ่อนตัวอยู่ในร่างแยกจำนวนนับไม่ถ้วน ศีรษะมังกรแรกกำเนิดไม่รู้ว่าร่างจริงของฟางหยวนอยู่ที่ใด
ความคิดอุกกาบาตเพลิง!
อุกกาบาตเพลิงจำนวนมากพุ่งเข้าปะทะศีรษะมังกรทำให้พวกมันล้มลงบนพื้น
พวกมันคิดที่จะลุกขึ้นแต่ความคิดของพวกมันก็หยุดลงด้วยเปลวเพลิงที่ลุกไหม้ขึ้นในใจ
ความคิดดอกไม้เบ่งบาน!
ดอกไม้จำนวนนับไม่ถ้วนเบ่งบานขึ้นบนศีรษะมังกร
ดอกไม้เหล่านี้เป็นเชื้อเพลิงให้กับเปลวไฟที่ลุกไหม้ขึ้นในใจของพวกมัน
การโจมตีเหล่านี้สามารถกำหราบศีรษะมังกรระดับหกและระดับเจ็ดได้ทันที พวกมันนอนอยู่บนพื้นราวกับไส้เดือนตัวใหญ่
มีเพียงศีรษะมังกรแรกกำเนิดเท่านั้นที่ยังอยู่ แต่เนื่องจากมันไม่สามารถค้นหาร่างจริงของฟางหยวน ดังนั้นแม้มันจะมีพลังการต่อสู้ระดับแปด มันก็ยังไร้ประโยชน์
‘นี่คือพลังอำนาจที่แท้จริงของท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา’ ฟางหยวนลอบถอนหายใจ
เมื่อศีรษะมังกรแรกกำเนิดเห็นกลุ่มของอิงอู๋เซี่ย มันเร่งเปลี่ยนเป้าหมาย
ผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนที่เหลือสองคนกรีดร้อง
ร่างหลักของฟางหยวนโผล่ออกมาและปกป้องพวกเขา
“ระวัง!” เซี่ยเอ๋อตะโกนเมื่อนางเห็นศีรษะมังกรแรกกำเนิดพุ่งชนฟางหยวน
ฟางหยวนบินออกไปแต่เขายังสามารถกลับมาได้อย่างรวดเร็ว
ในทางตรงข้ามศีรษะมังกรแรกกำเนิดกลับปกคลุมไปด้วยเลือด มันอยู่ในสภาพที่น่าสมเพช
เกราะหวนคืน!
สิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องตลก
ด้วยการฉวยโอกาสนี้ กลุ่มผู้อมตะของนิกายเงาสามารถหลบหนีออกไปในระยะที่ปลอดภัย
“แข็งแกร่งมาก!” เซี่ยเอ๋อมึนงงเมื่อเห็นการต่อสู้ของฟางหยวน
ฟางหยวนเป็นฝ่ายได้เปรียบและสามารถกำจัดศีรษะมังกรแรกกำเนิดได้ในที่สุด
“สัตว์อสูรแรกกำเนิดตัวนี้อ่อนแอไปเล็กน้อย” เมื่อการต่อสู้สิ้นสุดลง ฟางหยวนกวาดตามองศีรษะมังกรแรกกำเนิดที่ถูกตัดออกจากร่างรวมถึงศีรษะมังกรอีกนับไม่ถ้วนที่นอนอยู่บนพื้นและถอนหายใจ