ทะเลทรายตะวันตก
มันเป็นทะเลทรายที่ไร้จุดสิ้นสุด
ลึกลงไปใต้พื้นทรายมีโลกอีกใบ มันคือเหมืองแร่ขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยแร่ธรรมชาติ
มนุษย์หินมากกว่าแสนคนอาศัยอยู่ที่นี่ในฐานะคนงาน พวกมันขุดหาทรัพยากรทุกประเภทให้กับผู้อมตะ
ที่นี่คือทะเลทรายหมื่นแร่ที่มีชื่อเสียงของทะเลทรายตะวันตก มันอยู่ภายใต้การปกครองของตระกูลซื่อ
นอกจากทรัพยากรระดับมนุษย์ที่ถูกขุดโดยมนุษย์หินยังมีทรัพยากรอมตะที่ผู้อมตะต้องขุดมันขึ้นมาด้วยตัวเอง
ลึกลงไปมีแม่น้ำทองคำขนาดใหญ่ไหลอยู่
เมื่อสวรรค์ทั้งเจ็ดถูกทำลาย เศษชิ้นส่วนของสวรรค์สีเหลืองร่วงหล่นลงสู่พื้นและกลายเป็นแร่ทองคำจำนวนนับไม่ถ้วนที่กระจัดกระจายไปในสถานที่ต่างๆ
สวรรค์สีเหลืองน้อยของฟางหยวนมีลำธารทองคำชนิดนี้อยู่เช่นกัน แต่มันมีขนาดเล็กมาก มันเหมือนมดที่อยู่ท่ามกลางมหาสมุทร
และในแม่น้ำทองคำขนาดใหญ่สายนี้มีค่ายกลวิญญาณถูกจัดตั้งเอาไว้โดยผู้อมตะ
ค่ายกลวิญญาณตรวจสอบแร่ล้ำค่าตลอดเวลาและยังสามารถควบคุมคนงานในเหมืองแร่
“บึม!”
เป็นเพียงเวลานี้ที่เกิดการระเบิดครั้งใหญ่ขึ้นพร้อมกับรอยแตกร้าวของค่ายกลวิญญาณ
ประตูถูกเปิดออกพร้อมกับกลุ่มควันหนาทึบที่พวยพุ่งออกมาจากภายใน
“แค่ก แค่ก” ผู้อมตะเผ่ามนุษย์หินผู้หนึ่งเดินออกมา
หลังจากนั้นหินที่อยู่บนร่างของเขาก็ร่วงหล่นลงและเผยให้เห็นตัวตนที่แท้จริงที่ซ่อนอยู่
แท้จริงแล้วเขาคือผู้อมตะมนุษย์
เขาอยู่ในรูปลักษณ์ของชายวัยกลางคนที่มีรูปร่างหน้าตาธรรมดาแต่ดูเป็นมิตร
ตอนนี้ร่างกายของเขาถูกปกคลุมไปด้วยเขม่าควัน
“การหลอมรวมวิญญาณครั้งที่แปดสิบเก้าล้มเหลว!” ผู้อมตะวัยกลางคนถอนหายใจก่อนจะกระอักเลือดออกมา
ก้อนเลือดที่เขากระอักออกมากลายเป็นอัญมณีทุกประเภทไม่ว่าจะเป็นไข่มุก หยก ทองคำ เงิน และอื่นๆ
หากฟางหยวนอยู่ที่นี่ เขาจะตกใจมากที่เห็นสิ่งนี้ แม้เขาจะรู้เหตุผลที่อยู่เบื้องหลังก็ตาม
สิ่งใดที่ทำให้ผู้อมตะวัยกลางคนมีอาการบาดเจ็บที่แปลกประหลาดเช่นนี้?
ผู้อมตะวัยกลางคนมองอัญมณีที่อยู่รอบๆและไม่รู้สึกประหลาดใจ
เพราะเขารู้ว่าตนเองกำลังทำสิ่งใด เขากำลังหลอมรวมวิญญาณความมั่งคั่ง!
วิญญาณความมั่งคั่งในตำนาน!
มนุษย์คนแรกสร้างมันขึ้นมาด้วยน้ำจากทะเลสาบแห่งชีวิต มือของเขา วิญญาณความกังวล วิญญาณความยากลำบาก วิญญาณความโศกเศร้า วิญญาณสติปัญญา และวิญญาณความโง่เขลา
แต่โดยพื้นฐาน เป็นไปไม่ได้ที่ผู้อมตะวัยกลางคนผู้นี้จะใช้วิธีเดียวกันในการหลอมรวมวิญญาณอมตะดวงนี้
มันไม่เกี่ยวกับข้อเท็จจริงของตำนาน แต่มันมีรายละเอียดมากเกินไป วัสดุเหล่านั้นสูญพันธุ์ไปแล้วในยุคปัจจุบัน
ฟางหยวนมีวิญญาณสติปัญญาระดับเก้า แม้เขาจะยังไม่ได้ปรับแต่งมันก็ตาม
แต่ทะเลสาบแห่งชีวิตไม่ปรากฏในยุคนี้ แล้วเขาจะหาน้ำสีฟ้าจากทะเลสาบแห่งชีวิตมาได้อย่างไร?
แม้มันจะมีอยู่ แล้วเขาจะหามือของมนุษย์คนแรกมาจากที่ใด?
แล้วเหตุใดผู้อมตะวัยกลางคนผู้นี้ยังต้องการหลอมรวมวิญญาณความมั่งคั่ง?
เพราะมนุษย์สามารถดัดแปลงเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณอมตะ
หากวิธีในตำนานไม่สามารถใช้งาน เขาก็ต้องสร้างวิธีใหม่ขึ้นมาด้วยตนเอง
ผู้อมตะวัยกลางคนผู้นี้บ่มเพาะอยู่บนเส้นทางแห่งปฐพีแต่เขาได้รับเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณความมั่งคั่งที่ไม่สมบูรณ์มาโดยบังเอิญ
เขาไม่รู้ว่าผู้ใดทิ้งเคล็ดลับนี้เอาไว้
แต่เมื่อผู้อมตะวัยกลางคนได้รับมันมา เป็นธรรมดาที่เขาจะทดลองหลอมรวมมัน
หากเขาประสบความสำเร็จในการหลอมรวมวิญญาณความมั่งคั่ง เขาจะได้รับทุกสิ่งที่ต้องการไม่ว่าจะเป็นเงิน ทอง หรือทรัพยากรอมตะ
แต่วิญญาณความมั่งคั่งไม่สามารถสร้างรูปแบบชีวิตเช่นพืช สัตว์ มนุษย์ มนุษย์กลายพันธุ์ หรือวิญญาณ
“หากข้ามีวิญญาณความมั่งคั่ง ข้าจะสามารถสร้างธุรกิจที่ทำกำไรมหาศาล ข้าจะสร้างทรัพยากรที่สูญพันธุ์ไปแล้วเพื่อสร้างความมั่งคั่ง ข้าจะสามารถยกระดับการบ่มเพาะของตนเองและเหนือกว่าคนตระกูลซื่อทั้งหมด!”
ผู้อมตะวัยกลางคนต้องการวิญญาณความมั่งคั่งเป็นอย่างมาก เขาไม่เคยบอกเรื่องนี้กับคนนอก
คนผู้นี้คือซื่อจง
ตระกูลซื่อเป็นกองกำลังฝ่ายธรรมะของทะเลทรายตะวันตก
ซื่อจงมีสถานะที่น่าอึดอัดใจในตระกูลซื่อ แม้เขาจะเป็นผู้อมตะระดับเจ็ด แต่เขาถูกกีดกันโดยผู้อมตะของตระกูล
มีเหตุผลทางประวัติศาสตร์สำหรับเรื่องนี้ บิดาของซื่อจงทรยศต่อตระกูลและสร้างความเสียหายครั้งใหญ่ให้กับพวกเขา ความเสียหายที่เกิดขึ้นนอกจากทรัพยากรยังรวมถึงชีวิตของผู้อมตะอีกด้วย
ซื่อจงไม่เคยได้รับการดูแลที่ดีจากตระกูล
เขาถูกตระกูลส่งตัวมาดูแลทะเลทรายหมื่นแร่แห่งนี้
สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยทรัพยากร แต่มันมีอาณาเขตติดกับกองกำลังอื่นที่เป็นศัตรูของตระกูลซื่อ กล่าวได้ว่าชีวิตของซื่อจงตกอยู่ในอันตรายขณะที่เขาไม่สามารถทำกำไรเพราะค่ายกลวิญญาณของที่นี่จะตรวจสอบเขาอย่างเข้มงวด
ในความเป็นจริงแม้ค่ายกลวิญญาณจะไม่ตรวจสอบเขา ซื่อจงก็ไม่มีความคิดที่จะทำสิ่งใด หากเขาถูกค้นพบ สถานการณ์ของเขาจะเลวร้ายยิ่งขึ้น
“พื้นฐานของการบ่มเพาะคือการจัดการมิติช่องว่าง โดยปราศจากทรัพยากร ไม่ว่าพลังการต่อสู้จะสูงเพียงใด มันก็เป็นเรื่องชั่วคราวเท่านั้น มันเหมือนกับการสร้างตึกสูงโดยโครงสร้างที่ทำจากทราย” ซื่อจงเข้าใจเรื่องนี้เป็นอย่างดี แม้มันจะยากลำบาก แต่เขาไม่เคยยอมแพ้และทำงานอย่างหนักเสมอ
นอกเหนือจากความยากลำบาก ซื่อจงยังต้องลงทุนด้วยทรัพยากรทั้งหมดของตนเองเพื่อหลอมรวมวิญญาณความมั่งคั่ง
“ความล้มเหลวแปดสิบเก้าครั้งทำให้ข้าเหลือมนุษย์ไม่เพียงพอ” ซื่อจงรักษาอาการบาดเจ็บของตนเองและตรวจสอบคลังทรัพยากรของเขา เขาตระหนักว่ามนุษย์ที่เป็นวัสดุในการหลอมรวมเหลือไม่พอที่จะหลอมรวมวิญญาณครั้งต่อไป
ซื่อจงเป็นผู้อมตะฝ่ายธรรมะแต่เขากลับใช้มนุษย์ในการหลอมรวมวิญญาณ กล่าวได้ว่าการกระทำของเขาไม่ต่างจากปีศาจที่ชั่วร้าย
แต่ตราบเท่าที่เขาเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับและไม่ทิ้งหลักฐานใดๆเอาไว้เบื้องหลัง เขาจะไม่พบปัญหา
ซื่อจงระวังตัวมาก เขาจะไม่ยอมให้ผู้ใดพบเบาะแสเกี่ยวกับการกระทำของเขา ทาสมนุษย์เหล่านี้ล้วนมาจากสวรรค์สีเหลือง นี่เป็นการซื้อขายทาสที่ปลอดภัย
“ข้าใช้มนุษย์แทนน้ำจากทะเลสาบแห่งชีวิตและมือของมนุษย์คนแรก แต่มันยังไม่พอ ข้าต้องเพิ่มวิญญาณอายุยืนหรือไม่?”
ซื่อจงพิจารณา
เขามีวิญญาณอายุยืนอยู่ในมือแต่เขาไม่กล้าใช้มัน
“ตำนานกล่าวว่าแม้วิญญาณสติปัญญาจะไม่เสียสละตนเองเหมือนวิญญาณความโง่เขลาแต่มันก็เป็นส่วนหนึ่งในการหลอมรวมวิญญาณ ข้าไม่มีวิญญาณสติปัญญา แต่ขาสามารถใช้วิญญาณบนเส้นทางแห่งปัญญาดวงอื่นแทนที่มัน”
วิญญาณความกังวล วิญญาณความยากลำบาก วิญญาณความโศกเศร้า ซื่อจงมีวิญญาณระดับมนุษย์เหล่านี้ทั้งหมด พวกมันหาได้ไม่ยาก
เขาสามารถหลอมรวมวิญญาณความโง่เขลาขึ้นมาได้ด้วยตนเอง
“อย่างไรก็ตามหลังจากนี้เคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณจะสมบูรณ์มากขึ้นเรื่อยๆ” หลังจากอาการบาดเจ็บได้รับการรักษา ซื่อจงถ่มน้ำลายเลือดลงบนพื้น
เลือดของเขายังกลายเป็นอัญมณีเช่นเดิม