ในส่วนลึกของทะเลตะวันออก
“ข้าละอายใจนัก เจ้ามาหาข้าที่นี่ แต่ข้ากลับไม่สามารถช่วยเหลือ” ฮัวอันเผยรอยยิ้มขมขื่นให้กับโหยว่ชาน
ทั้งสองกำลังจะแยกทางกัน
โหยว่ชานมาหาฮัวอันเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่ไม่เพียงฮัวอันจะล้มเหลวในการอนุมาน โหยว่ชานยังถูกฟางหยวนจับได้
หลังจากได้ยินคำกล่าวของฮัวอัน โหยว่ชานส่ายศีรษะ นางมองไปที่เส้นผมสีขาวของฮัวอันและกล่าวอย่างจริงใจ “ฮัวอัน อย่ากล่าวเช่นนั้น เจ้าใช้อายุขัยเพื่อช่วยข้าอนุมาน เหตุผลที่เราไม่ประสบความสำเร็จเป็นเพราะฝ่ายตรงข้ามแข็งแกร่งเกินไป”
ฮัวอันพยักหน้า “คู่ต่อสู้ของเจ้าในครั้งนี้ไม่ธรรมดา หากเจ้าต้องการความช่วยเหลือจากข้าในอนาคต โปรดมาหาข้าตราบเท่าที่เจ้าไม่รังเกียจความสำเร็จอันต่ำต้อยบนเส้นทางแห่งปัญญาของข้า”
“ฮ่าฮ่าฮ่า แน่นอน” โหยว่ชานหัวเราะ
ทั้งสองกล่าวคำลาก่อนที่โหยว่ชานจะบินขึ้นสู่ท้องฟ้า
ลมทะเลปะทะใบหน้าและเสื้อผ้าของนาง นางรู้สึกถึงความหนาวเย็นแต่นางยังสงบนิ่งราวกับน้ำแข็ง
‘แม้คู่ต่อสู้จะแข็งแกร่ง แต่ข้าจะไม่ยอมแพ้!’
‘แม้ฮัวอันจะล้มเหลวในการอนุมาน แต่มันไม่ได้หมายความว่าข้าพ่ายแพ้ ถึงเวลาโต้กลับในแบบของข้าแล้ว’
โหยว่ชานตัดสินใจด้วยความมุ่งมั่น
ในไม่ช้าฟางหยวนก็รับรู้ได้ถึงการเคลื่อนไหวของโหยว่ชาน
โหยว่ชานเพิ่มกฎใหม่ในการขายปลามังกร ตราบเท่าที่ลูกค้าซื้อสินค้าจากนาง พวกเขาจะได้รับส่วนลดเป็นเวลาสิบปี ตราบเท่าที่พวกเขาซื้อปลามังกรจากนางติดต่อกันหลายปี พวกเขาจะได้รับส่วนลดที่มากขึ้น
เมื่อนางทำเช่นนี้ สถานการณ์ของนางก็เริ่มดีขึ้น ผู้ซื้อจำนวนมากถูกล่อลวง
วิธีการของโหยว่ชานเป็นประโยชน์ต่อนางอย่างเต็มที่ นางกำลังกลั่นแกล้งฟางหยวนเพราะเขาเป็นคนใหม่ในธุรกจนี้
ฟางหยวนไม่สามารถใช้วิธีเดียวกันกับนาง
นอกจากนั้นโหยว่ชานยังเพิ่มจำนวนสินค้าในสวรรค์สีเหลือง พวกมันกองรวมกันเป็นภูเขา
นางแสดงให้เห็นถึงความมั่งคั่งและรากฐานที่แข็งแกร่งของนางอย่างโจ่งแจ้ง
แน่นอนว่าผลลัพธ์ของมันยอดเยี่ยม
ผู้คนในสวรรค์สีเหลืองล้วนพูดถึงนาง
“โหยว่ชานเป็นผู้ขายอันดับหนึ่ง นางมีปลามังกรมากมาย”
“ผู้ท้าชิงคนนั้นต้องตกตะลึง ไม่ว่าเขาจะเป็นผู้ใดก็มีความแตกต่างระหว่างเขากับโหยว่ชาน”
“โหยว่ชานอยู่ในธุรกิจนี้มานานแล้ว บัลลังก์ของนางไม่ง่ายที่จะโค่นล้ม”
“รอก่อน ข้ารู้สึกว่าผู้ท้าชิงผู้นี้ไม่ง่าย”
กลุ่มผู้อมตะพูดคุยและกำลังรอการตอบสนองจากฟางหยวน
แต่ในเวลาต่อมาฟางหยวนกลับไม่ได้ทำสิ่งใดเลย
ฟางหยวนยังขายปลามังกรของเขาเหมือนเดิมแม้ธุรกิจของเขาจะได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก
‘ความแข็งแกร่งในปัจจุบันของโหยว่ชานเหนือกว่าข้า หากข้าเข้าสู่การแข่งขัน มันจะไม่ฉลาด’ กระทั่งฟางหยวนก็ต้องยอมรับว่ารากฐานของเขาอ่อนแอกว่า
ฟางหยวนพึ่งเพาะเลี้ยงปลามังกรได้ไม่นานขณะที่โหยว่ชานอยู่ในธุรกิจนี้มานานแล้ว นี่คือจุดอ่อนของฟางหยวน เขาไม่สามารถแข่งขันกับนางได้ในเวลานี้
ฟางหยวนอดทนต่อการตอบโต้และยั่วยุของโหยว่ชาน
แต่การนิ่งเฉยของเขากลับทำให้โหยว่ชานรู้สึกประหลาดใจและกังวลเล็กน้อย
ดาบที่อยู่ในฝักน่ากลัวที่สุด หากฟางหยวนตอบโต้ โหยว่ชานจะสามารถตอบสนอง แต่ฟางหยวนกลับปฏิเสธที่จะทำสิ่งใด ดังนั้นโหยว่ชานจึงไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรต่อไป ตอนนี้นางรู้สึกรำคาญและวิตกกังวลในเวลาเดียวกัน
‘ข้าควรโจมตีหรือไม่? ข้าควรบังคับให้เขาตอบสนองหรือไม่?’ โหยว่ชานคิดและตัดสินใจใช้วิธีที่มีเสถียรภาพที่สุด
‘ลืมมันไปซะ สถานการณ์นี้เป็นประโยชน์ต่อข้า ในอีกไม่กี่เดือน ธุรกิจของคู่ต่อสู้จะพังทลายลง เขาจะสูญเสียลูกค้าทั้งหมด’
‘ในสถานการณ์นี้เหตุใดข้ายังต้องกังวล? เขาควรเป็นฝ่ายที่ต้องกังวลไม่ใช่ข้า’
‘ไม่มีความจำเป็นที่จะลงทุนมากเกินไป’ โหยว่ชานคิด
ฟางหยวนสังเกตนางเป็นเวลาสามวันและพบว่านางเริ่มหยุดเคลื่อนไหว
เขาลอบยกย่องนางอยู่ในใจและตระหนักว่านี่เป็นคู่ต่อสู้ที่รับมือได้ยาก
แต่ฟางหยวนไม่วิตก
เขามีวิธีแก้ปัญหาอยู่แล้ว
‘ยิ่งนาน ผลประโยชน์ของข้าก็ยิ่งมากขึ้น ข้าควรรอต่อไป’
เขากำลังพัฒนาธุรกิจปลามังกรแต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาหยุดการบ่มเพาะในด้านอื่นๆ
รากฐานบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณของเขาบรรลุถึงระดับแปดสิบล้านคนแล้ว เขากำลังจะก้าวเข้าสู่ระดับหนึ่งร้อยล้านคน แต่ความล้มเหลวระหว่างการฝึกฝนท่าไม้ตายอมตะได้ส่งผลกระทบต่อรากฐานบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณของเขา
เขายังใช้แสงแห่งปัญญาพัฒนาท่าไม้ตายอมตะแยกวิญญาณอย่างต่อเนื่อง
นอกจากท่าไม้ตายอมตะแยกวิญญาณ ฟางหยวนยังฝึกฝนท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณท่าอื่นๆ
แต่พลังอำนาจของท่าไม้ตายเหล่านี้ลดลงจากท่าไม้ตายฉบับดั้งเดิมของมันเพราะเขาขาดวิญญาณอมตะที่จำเป็น
สิ่งที่ฟางหยวนให้ความสำคัญมากที่สุดในเวลานี้คือวิญญาณอมตะความลับสวรรค์
จนถึงตอนนี้เมื่อฟางหยวนเห็นวิญญาณอมตะดวงนี้ เขายังต้องถอนหายใจกับความโชคดีของตนเองเสมอ
เขาไม่ได้คาดหวังว่าความพยายามในการหลอมรวมวิญญาณครั้งที่สองจะประสบความสำเร็จ
นี่คือวิญญาณอมตะระดับเจ็ด!
เขาโชคดีมากที่มันประสบความสำเร็จ ฟางหยวนรู้สึกเหมือนมันเป็นความฝัน
การหลอมรวมวิญญาณอมตะเป็นเช่นนี้ มันอาจทำให้ผู้อมตะรู้สึกตื่นเต้นเหมือนนั่งรถไฟเหาะ
บางครั้งคนผู้หนึ่งอาจล้มเหลวนับร้อยครั้งโดยไม่ประสบความสำเร็จ แต่บางครั้งพวกเขากลับประสบความสำเร็จในความพยายามเพียงหนึ่งหรือสองครั้ง
ฟางหยวนหลอมรวมวิญญาณมานับครั้งไม่ถ้วน เขาพบความล้มเหลวมามากมายขณะที่เขาโชคดีประสบความสำเร็จในการหลอมรวมวิญญาณอมตะความลับสวรรค์ได้อย่างรวดเร็ว กล่าวได้ว่าการหลอมรวมวิญญาณเป็นเรื่องที่ไม่มีความแน่นอน
มันเป็นการพนัน!
แตกต่างจากวิญญาณอมตะดวงอื่น มีท่าไม้ตายอมตะที่ใช้วิญญาณอมตะความลับสวรรค์เพียงไม่กี่ท่า
นี่เป็นเพราะผู้อมตะเฒ่าม่านเยี่ยนซื่อต้องให้ความสำคัญกับแผนการในภาพรวม เขาไม่มีเวลาคิดค้นท่าไม้ตายใหม่ๆที่ไม่จำเป็น
ท่าไม้ตายที่ล้ำค่าที่สุดของเขาคือท่าไม้ตายอมตะเผยความลับสวรรค์
ท่าไม้ตายนี้สามารถทำนายภัยพิบัติต่างๆที่จะเกิดขึ้นล่วงหน้า มันมีประโยชน์มาก
ตราบเท่าที่มันประสบความสำเร็จ พวกเขาจะสามารถหาวิธีป้องกัน โอกาสที่ผู้อมตะจะประสบความสำเร็จในการก้าวข้ามภัยพิบัติมีสูงมาก
‘หรือบางทีข้าอาจทำธุรกิจเกี่ยวกับเรื่องนี้?’ ฟางหยวนคิด
มีความเป็นไปได้ มันอาจไม่สามารถทำกำไรตลอดทั้งปี แต่ทุกครั้งที่ธุรกรรมเกิดขึ้น มันจะทำกำไรมหาศาล
มีตลาดสำหรับธุรกิจนี้อยู่อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตามหลังจากพิจารณาถึงสถานการณ์ปัจจุบัน ฟางหยวนตัดสินใจละทิ้งความคิดนี้
เพราะเขาไม่ต้องการเปิดเผยการคงอยู่ของวิญญาณอมตะความลับสวรรค์
ศัตรูที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาคือวังสวรรค์
เขามีเวลาสิบปีในการทำลายวิญญาณชะตากรรม
แม้เขาจะก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว แต่มันยังห่างไกลจากเป้าหมายดังกล่าว
ในสถานการณ์นี้ฟางหยวนต้องเก็บวิญญาณความลับสวรรค์ไว้เป็นไพ่ตาย หากเขาทำธุรกิจเกี่ยวกับเส้นทางแห่งปัญญา วังสวรรค์จะสามารถอนุมาน
ฟางหยวนเริ่มฝึกท่าไม้ตายของเขา
ท่าไม้ตายนี้ใช้วิญญาณอมตะความลับสวรรค์เป็นแกนกลาง มันไม่ใช่ท่าไม้ตายอมตะเผยความลับสวรรค์ แต่เป็นท่าไม้ตายอมตะสลายเจตจำนงสวรรค์
ฟางหยวนไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องฝึกท่าไม้ตายอมตะเผยความลับในช่วงนี้
เนื่องจากภัยพิบัติพิภพและภัยพิบัติสวรรค์ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขาอีกต่อไป
สิ่งเดียวที่เขาต้องกังวลคือภัยพิบัติใหญ่
แต่มันยังห่างไกล
ท่าไม้ตายอมตะสลายเจตจำนงสวรรค์เป็นท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งปัญญาที่สามารถกำจัดเจตจำนงสวรรค์
มันถูกสร้างขึ้นโดยผู้อมตะเฒ่าม่านเยี่ยนซื่อแต่เขาไม่ประสบความสำเร็จ มันเป็นท่าไม้ตายที่ไม่สมบูรณ์
ฟางหยวนเรียนรู้เรื่องนี้แต่เขายังรู้สึกยกย่องพรสวรรค์ของผู้อมตะเฒ่าม่านเยี่ยนซื่อ
ด้วยท่าไม้ตายนี้ เจตจำนงสวรรค์จะถูกโจมตีหรือกำจัดทิ้งโดยตรง
แต่มีหลายปัจจับที่ทำให้เขายังห่างไกลจากความสำเร็จ
อย่างไรก็ตามมันไม่ใช่ปัญหาสำหรับฟางหยวน
ความสำเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญาของเขาต่ำกว่าผู้อมตะเฒ่าม่านเยี่ยนซื่อแต่เขามีรากฐานของตนเอง เขามีข้อได้เปรียบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอยู่กับตัว นั่นคือแสงแห่งปัญญา!
วิญญาณสติปัญญาแสดงคุณค่าของมันให้เห็นอีกครั้ง
หลายวันต่อมาฟางหยวนสามารถพัฒนาท่าไม้ตายอมตะสลายเจตจำนงสวรรค์ได้ในที่สุด
เมื่อเขาได้รับท่าไม้ตายนี้ เขาจะใช้มันกับวิญญาณกาลเวลา!