Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน – บทที่ 1488 อาชญากรรมถูกเปิดเผย

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1488 อาชญากรรมถูกเปิดเผย

แปลโดย iPAT  

 

หลายวันต่อมา

 

ผู้อมตะผู้หนึ่งบินอยู่เหนือทะเลกระเรียนขาว

 

ชายผู้นี้อยู่ในชุดสีเขียวและมีหน้าตาอ่อนเยาว์ จมูกของเขาแหลม ใบหน้ากว้าง ดวงตาเปล่งประกายราวกับดวงดาวบนท้องฟ้า

 

กลิ่นอายระดับเจ็ดเล็ดลอดออกมาจากร่างกายของเขา ชื่อของเขาคือฉิงเย่จื่อเฉิง เขามีต้นกำเนิดที่ยิ่งใหญ่และเป็นสมาชิกของกองกำลังใหญ่แห่งทะเลตะวันออก ตระกูลฉิงเย่ เขาเป็นทายาททางสายเลือดของผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่ง ฉิงเย่อัน

 

“นี่คือ?” เมื่อเห็นสภาพแวดล้อมที่แห้งแล้งของทะเลกระเรียนขาว การแสดงออกของฉิงเย่จื่อเฉิงก็เปลี่ยนแปลงไป

 

เขาชอบฉินไป่อี้ แม้เขาจะรู้ว่านางชอบผู้หญิง แต่เขายังสามารถยอมรับได้

 

แม้เขาจะยอมรับฉินไป่อี้แต่ฉินไป่อี้ไม่ยอมรับเขา

 

มันเป็นความรักข้างเดียวอย่างสมบูรณ์ ฉินเย่จื่อเฉิงถูกปฏิเสธตั้งแต่เริ่มต้น แต่เขาไม่เคยยอมแพ้ เขาพยายามมาสิบปีแล้ว

 

แม้ฉินไป่อี้จะไม่ชอบเขา แต่นางก็ไม่ต้องการสร้างความขุ่นเคืองให้แก่ตระกูลฉิงเย่ ดังนั้นนางจึงตอบจดหมายของฉิงเย่จื่อเฉิงเสมอแม้จะเป็นลักษณะครึ่งๆกลางๆก็ตาม

 

ฉิงเย่จื่อเฉิงจะเขียนจดหมายบอกรักนางเป็นระยะ แต่ฉินไป่อี้จะตอบเพียงคำเดียวคืออ่านแล้วหรืออืม

 

ฉิงเย่จื่อเฉิงพอใจกับการได้อ่านคำว่า อ่านแล้ว หรือ อืม ของฉินไป่อี้ เขาจะยิ้มไปสามวันเจ็ดวันหลังจากได้รับจดหมายตอบกลับ

 

มนุษย์ไม่ได้ไร้ความรู้สึก กระทั่งผู้อมตะก็ยังมีความต้องการทางเพศและรู้สึกรักใคร่ผู้อื่น

 

แต่เมื่อไม่นานมานี้ เขาไม่ได้รับจดหมายตอบกลับจากนาง

 

ฉิงเย่จื่อเฉิงพยายามติดต่อนางแต่มันล้มเหลวทั้งหมด

 

เขารู้สึกไม่สบายใจและไม่สามารถอดทนรอคอยได้อีกต่อไป ด้วยเหตุนี้เขาจึงเดินทางมายังทะเลกระเรียนขาว

 

เมื่อเห็นสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป คิ้วของฉิงเย่จื่อเฉิงขมวดแน่นทันที

 

ในอดีตทะเลกระเรียนขาวเป็นสถานที่เงียบสงบและมีนกกระเรียนขาวอาศัยอยู่มากมาย แต่ตอนนี้มันกลับไม่เหลือสิ่งใด

 

“เทพธิดาไป่อี้ เจ้าอยู่ที่ใด?” ฉิงเย่จื่อเฉิงรู้สึกกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ เขาเร่งดำลงไปในทะเล

 

เขาเคยมาที่นี่หลายครั้ง แม้ฉินไป่อี้จะไม่ต้อนรับเขา แต่เขามักจะหาเหตุผลมากมายเพื่อมาพบนางเสมอ

 

ครั้งนี้หลังจากลงไปใต้ทะเล ภาพที่เขาเห็นกลับแตกต่างไปจากภาพที่อยู่ในใจของเขาเป็นอย่างมาก

 

รอยแยกใต้สมุทรและซากปรักหักพังทำให้หัวใจของฉิงเย่จื่อเฉิงจมดิ่งลง “ไม่ ที่นี่ถูกปล้น!”

 

หลังจากตรวจสอบ ฉิงเย่จื่อเฉิงเต็มไปด้วยความโกรธ

 

“ผู้ใดช่างกล้าหาญนัก!”

 

“พวกเขากล้าปล้นทะเลกระเรียนขาวของเทพธิดาไป่อี้ ทรัพยากรถูกปล้นชิงไปทั้งหมด!”

 

“เทพธิดาไป่อี้ เจ้าต้องปลอดภัย!”

 

ฉิงเย่จื่อเฉิงคิดถึงคนที่เขารักและรู้สึกหวาดกลัวมาก

 

เขามองไปรอบๆแต่ไม่พบคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับหกวังไป่อี้

 

ฉิงเย่จื่อเฉิงไม่ยอมแพ้ เขาใช้วิธีตรวจสอบอีกครั้ง

 

แต่เขายังไม่พบสิ่งใด

 

ฉินไป่อี้ราวกับหายตัวไปในอากาศ วังไป่อี้ก็เช่นกัน และสิ่งที่แปลกประหลาดกว่านั้นก็คือฉิงเย่จื่อเฉิงไม่พบร่องรอยการต่อสู้ในสถานที่แห่งนี้เลย

 

ฟางหยวนไม่ได้ฆ่าฉินไป่อี้หรือโหยว่ชานที่นี่แต่เป็นทะเลปลามังกร

 

แต่กระทั่งฉิงเย่จื่อเฉิงจะไปที่ทะเลปลามังกร เขาก็จะไม่พบร่องรอยใดๆ

 

วิธีการลบร่องรอยของฟางหยวนยอดเยี่ยมเกินไป นอกจากนั้นเขายังต่อสู้อยู่ในเขตแดนอมตะ

 

ฉิงเย่จื่อเฉิงไม่พบสิ่งใดและรู้สึกสงสัย

 

“เทพธิดาไป่อี้เป็นผู้อมตะระดับเจ็ด ไม่ควรมีผู้ใดสามารถสังหารนางได้อย่างลับๆ เว้นเพียงฝ่ายตรงข้ามจะเป็นผู้อมตะระดับแปด…”

 

“แต่การเคลื่อนไหวของผู้อมตะระดับแปดจะสร้างความโกลาหลครั้งใหญ่ พวกเขาจะสังหารเทพธิดาไป่อี้โดยไม่มีเหตุผลได้อย่างไร?”

 

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ความกังวลของฉิงเย่จื่อเฉิงก็ถูกปัดเป่าออกไป

 

แต่ในไม่ช้าใบหน้าของเขาก็กลายเป็นแข็งทื่อ “อย่าบอกว่าเทพธิดาไป่อี้เบื่อข้าและตัดสินใจย้ายที่อยู่รวมถึงทรัพยากรทั้งหมดของนางงั้นหรือ?”

 

ฉิงเย่จื่อเฉิงคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้แต่เขารู้สึกว่ามันมีความเป็นไปได้ค่อนข้างน้อย

 

ทะเลกระเรียนขาวผลิตทรัพยากรมากมาย แล้วฉินไป่อี้จะละทิ้งมันได้อย่างไร? กระทั่งนางจะพบสถานที่ที่ดีกว่าก็ตาม

 

“เว้นเพียงนางจะพบศัตรูที่ไม่สามารถเอาชนะ เผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่ง นางไม่มีทางเลือกนอกจากต้องยอมแพ้และล่าถอย?”

 

ฉิงเย่จื่อเฉิงคิด

 

แต่ในไม่ช้าเขาก็ส่ายศีรษะ “หากนางพบศัตรูที่แข็งแกร่ง นางต้องขอความช่วยเหลือจากเครือข่าย เพียงนางกล่าวออกมา นางจะได้รับความช่วยเหลือจากผู้คนมากมาย”

 

“เกิดสิ่งใดขึ้นกันแน่? เหตุใดเทพธิดาไป่อี้ถึงหายตัวไปอย่างลึกลับเช่นนี้?”

 

ฉิงเย่จื่อเฉิงขมวดคิ้วลึก

 

เขาไม่คิดว่าฉินไป่อี้จะตาย ประการแรก เขาไม่ต้องการคิดไปในทิศทางนั้น ประการที่สอง ความเป็นไปได้มีน้อยและแปลกประหลาดเกินไป

 

ฉินไป่อี้เป็นคนมีชื่อเสียงของทะเลตะวันออก นางเป็นผู้อมตะระดับเจ็ด ความแข็งแกร่งของนางไม่ธรรมดา

 

เช่นเดียวกับที่ฉิงเย่จื่อเฉิงได้กล่าวเอาไว้ เว้นเพียงมันจะเป็นผู้อมตะระดับแปด

 

แต่ความเป็นไปได้นี้ยิ่งน้อยกว่า

 

ทั้งห้าภูมิภาคสงบสุขมานานเกินไป ฉิงเย่จื่อเฉิงรู้สึกว่าการฆาตกรรมที่โหดร้ายจะไม่เกิดขึ้นและมันจะไม่เกิดขึ้นกับเทพธิดาอันเป็นที่รักของเขาอย่างแน่นอน

 

แต่หลังจากตรวจสอบอย่างละเอียด ฉิงเย่จื่อเฉิงก็ได้ข้อสรุป

 

“ไม่ว่าจะเกิดสิ่งใดขึ้นเทพธิดาไป่อี้ก็ต้องพบปัญหา ข้าต้องตามหาและช่วยนาง!”

 

ทันใดนั้นความคิดเกี่ยวกับวีรบุรุษช่วยชีวิตหญิงงามก็ปรากฏขึ้นในใจของเขา

 

“หากที่นี่ไม่มีเบาะแส ข้าก็จะไปหาผู้อมตะที่อยู่ใกล้ๆและถามพวกเขา” ในไมช้าชื่อโหยว่ชานก็ปรากฏขึ้นในใจของฉิงเย่จื่อเฉิง

 

ทะเลปลามังกรของโหยว่ชานอยู่ไม่ไกลจากทะเลกระเรียนขาว

 

กล่าวได้ว่าพวกนางเป็นเพื่อนบ้านกัน

 

ฉิงเย่จื่อเฉิงเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง เขาออกจากทะเลกระเรียนขาวและเดินทางไปยังทะเลปลามังกรอย่างรวดเร็ว

 

ทะเลปลามังกรอยู่ในสภาพที่เลวร้ายยิ่งกว่าทะเลกระเรียนขาว สถานที่แห่งนี้เคยมีปลามังกรจำนวนนับไม่ถ้วน มันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดแห่งหนึ่งของทะเลตะวันออก แต่ตอนนี้มันกลับว่างเปล่า

 

คลื่นลมพัดมาอย่างไม่รู้สิ้นสุด

 

“เกิดสิ่งใดขึ้น?”

 

“กระทั่งทะเลปลามังกรก็ยังถูกปล้นงั้นหรือ?”

 

ฉิงเย่จื่อเฉิงแสดงออกด้วยความตกใจ

 

ผู้ใดก่อเรื่องนี้?

 

ท้ายที่สุดทั้งโหยว่ชานและฉินไป่อี้ล้วนเป็นผู้อมตะระดับเจ็ด พวกนางไม่อ่อนแอเลย

 

คราวนี้ฉิงเย่จื่อเฉิงไม่เพียงรู้สึกสังสนแต่เขายังรู้สึกหวาดกลัวอีกด้วย

 

เขาตื่นตัวมาก เขาเริ่มตรวจสอบแต่สิ่งที่น่าเศร้าก็คือเขาไม่พบสิ่งใดเลย

 

“เป็นไปได้อย่างไร? เกิดสิ่งใดขึ้นกันแน่? ไม่เพียงเทพธิดาไป่อี้ กระทั่งเทพธิดาโหยว่ชานก็อยู่ในสถานการณ์เดียวกัน เดี๋ยว! ธุรกิจปลามังกรในสวรรค์สีเหลือง!”

 

ร่างของฉิงเย่จื่อเฉิงสั่นสะท้านเมื่อเขาเริ่มเชื่อมโยงสิ่งที่เกิดขึ้นกับสวรรค์สีเหลือง

 

ธุรกิจปลามังกรของโหยว่ชานในสวรรค์สีเหลืองมีชื่อเสียงมาก เป็นธรรมดาที่ฉิงเย่จื่อเฉิงจะคิดถึงเรื่องนี้

 

เขาเร่งส่งสัมผัสศักดิ์สิทธิ์เข้าไปในสวรรค์สีเหลืองและพยายามติดต่อโหยว่ชาน

 

เขาพบกับเจตจำนงของโหยว่ชานแต่นางไม่รู้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้น

 

“โหยว่ชานและเจตจำนงของนางติดต่อกันบ่อยครั้ง ช่วงเวลาของการติดต่อไม่เกินสามวันในแต่ละครั้ง นั่นหมายความว่าในช่วงสามวันที่ผ่านมา นางและเทพธิดาไป่อี้พบกับการโจมตีลึกลับ!”

 

เหงื่อไหลลงมาจากหน้าผากของฉิงเย่จื่อเฉิง

 

ยิ่งเขาสืบสวนมากเท่าใด เขาก็ยิ่งค้นพบความจริงมากเท่านั้น แต่มันเป็นเรื่องที่ทั้งลึกลับและน่าสะพรึงกลัว

 

ไม่ว่าจะเป็นโหยว่ชานหรือฉิงไป่อี้ พวกนางจะไม่เก็บทรัพยากรและวิ่งหนี ทั้งหมดแสดงให้เห็นว่าพวกนางเผชิญหน้ากับภัยคุกคามที่ไม่สามารถก้าวข้าม

 

หัวใจของฉิงเย่จื่อเฉิงเต็มไปด้วยความกังวล

 

“ไม่ ข้าต้องกลับบ้าและขอความช่วยเหลือจากผู้อาวุโสในตระกูล!” ฉิงเย่จื่อเฉิงมองทะเลปลามังกรที่ว่างเปล่าก่อนจะรีบกลับและไม่กล้าอยู่ที่นี่อีกต่อไป

 

ในเวลาเดียวกันอาชญากรที่อยู่เบื้องหลังคดีฆาตกรรมครั้งนี้กำลังบินอยู่ในทะเลทรายตะวันตก

 

หลังจากเดินทางออกจากทะเลตะวันออก ฟางหยวนไม่ได้กลับภาคเหนือแต่เขาเดินทางผ่านภาคใต้และมุ่งหน้ามายังทะเลทรายตะวันตก

 

บนก้อนเมฆ ฟางหยวนกำลังตรวจสอบกำไรที่ได้รับจากทะเลตะวันออก

 

หลังจากสังหารโหยว่ชานและฉินไป่อี้ ฟางหยวนได้รับผลประโยชน์มหาศาล

 

เขาได้รับปลามังกรจำนวนมาก ตอนนี้พวกมันอาศัยอยู่ในทะเลตะวันออกน้อย

 

เขายังได้รับผลึกหินไข่จำนวนไม่น้อย นอกจากนั้นยังมีวิญญาณอมตะระดับหกอีกสองดวง

 

แดนศักดิ์สิทธิ์บนเส้นทางแห่งไม้ของฉินไป่อี้ถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง ฟางหยวนไม่สามารถกลืนกินมัน สำหรับแดนศักดิ์สิทธิ์บนเส้นทางแห่งวารีของโหยว่ชาน มันถูกกลืนกินไปแล้ว

 

แต่กำไรเหล่านี้ยังด้อยกว่าเมืองจิ๋วมาก

 

ในความเป็นจริงตอนนี้เมืองจิ๋วอยู่ในมิติช่องว่างของฟางหยวน!

 

หลังจากไปยังทะเลตะวันออก สิ่งแรกที่ฟางหยวนทำคือไปที่ทะเลไหลเชี่ยวเพื่อย้ายเมืองจิ๋วเข้าสู่มิติช่องว่างจักรพรรดิ จากนั้นเขาถึงไปทะเลปลามังกรเพื่อสังหารโหยว่ชานและฉินไป่อี้

 

แดนศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์พิภพ เมืองจิ๋ว!

 

ฟางหยวนต้องการมันมานานแล้ว แต่ในเวลานั้นวิญญาณอมตะยกภูเขาไม่สามารถย้ายมันได้

 

แต่ตอนนี้ด้วยความช่วยเหลือจากแสงแห่งปัญญา เขาสามารถสร้างท่าไม้ตายอมตะโดยใช้วิญญาณยกภูเขาเป็นแกนกลางเพื่อย้ายเมืองจิ๋ว

 

หลังจากทำงานหนักมาเป็นเวลานาน ในที่สุดเขาก็ประสบความสำเร็จ!

 

Reverend Insanity

Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบของวิญญาณซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา! Humans are the spirit of all living beings, Gu are the essence of heaven and earth. With his three views* unrighteous, a demon is reborn. Former days are but an old dream, an identical name is made anew. The story of a time traveller who keeps on being reborn. A unique world that nurtures, refines, and uses Gu. Spring Autumn Cicada, Moonlight Gu, Liquor Worm, Great Qi Golden Light Worm, Slender Black Hair Gu, Hope Gu… And a great demon of the world that acts as his heart pleases! A story of a villain, Fang Yuan who was reborn 500 years into the past with the Spring Autumn Cicada he painstakingly refined. With his profound wisdom, battle and life experiences, he seeks to overcome his foes with skill and wit! Ruthless and amoral, he has no need to hold back as he pursues his ultimate goals. In a world of cruelty where one cultivates using *Gu – magical creatures of the world – Fang Yuan must rise up above all with his own power. Notes : *Gu is a legendary venomous insect, often used in black magic practices. It can take on the form of several insects, usually snakes, crickets, worms etc. *Three views = one’s world view, values of worth, and philosophy on life.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset