เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1491 เด็กหนุ่มผู้น่าสงสาร
แปลโดย iPAT
อิงอู๋เซี่ย ไห่ลั่วหลัน เทพธิดากระต่ายขาว และเทพธิดาเมี่ยวหยินออกมาจากมิติช่องว่างของฟางหยวน
“ต่อไปข้าจะสำรวจอาณาจักรแห่งความฝัน” ฟางหยวนหันกลับมากล่าวกับถังฟางหมิง
หัวใจของถังฟางหมิงสั่นสะท้านขึ้นแต่ในไม่ช้าเขาก็เข้าใจความหมายของฟางหยวนและเผยรอยยิ้มขมขื่น “เทพธิดาโปรดตามข้ามา”
ค่ายกลวิญญาณถูกควบคุมโดยถังฟางหมิงแต่ตอนนี้เขาต้องสละส่วนหนึ่งของการควบคุมให้กับสมาชิกนิกายเงา
นี่เป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงพันธมิตรระหว่างฟางหยวนกับตระกูลถัง
เมื่อฟางหยวนสำรวจอาณาจักรแห่งความฝัน ดวงวิญญาณของเขาจะออกจากร่างและเข้าสู่อาณาจักรแห่งความฝัน เขาจะไม่สามารถปกป้องร่างกายของตนเอง
นั่นเป็นสถานการณ์ที่ค่อนข้างอันตราย
ดังนั้นฟางหยวนจึงต้องนำสมาชิกนิกายเงาออกมาเพื่อปกป้องร่างกายของเขา
ค่ายกลวิญญาณนี้ไม่สามารถปล่อยให้คนนอกควบคุม สมาชิกนิกายเงาต้องเข้าควบคุมมันด้วยตนเอง
ด้วยวิธีนี้ไม่ว่าจะเป็นนิกายเงาหรือตระกูลถัง พวกเขาจะมีอำนาจอยู่ในมือและไม่สามารถทำเรื่องเลวร้ายต่อร่างกายของฟางหยวน
ฟางหยวนมักทำสิ่งต่างๆด้วยความระมัดระวังอย่างเต็มที่เสมอ
หลังจากสมาชิกนิกายเงาเข้าควบคุมครึ่งหนึ่งของค่ายกลวิญญาณ ฟางหยวนก็เริ่มการสำรวจอาณาจักรแห่งความฝัน
ถังฟางหมิงเฝ้ามองโดยไม่กะพริบตา
‘นี่เป็นจุดสำคัญ!’ เขาต้องการเก็บเกี่ยวความรู้จากฟางหยวนให้ได้มากที่สุด
แต่จุดสำคัญใดที่เขาสามารถเรียนรู้จากการเฝ้ามองฟางหยวน?
‘ข้าอยู่ที่ใด?’ ฟางหยวนเข้าสู่อาณาจักรแห่งความฝันขณะที่วิสัยทัศน์ของเขาเปลี่ยนแปลงไป
เขาพบว่าตนเองอยู่ในร่างของเด็กหนุ่มที่สวมชุดผ้าขี้ริ้ว
เขาอยู่ในกระโจมที่เรียบง่าย เพียงลมพัดผ่านเบาๆ มันก็สั่นสะเทือนอย่างง่ายดาย
“ฉั๊ว!”
“บัดซบ! คนผู้นี้ไม่เพียงทุบตีข้า แต่เขายังฉีกกระโจมของข้าด้วย!” ร่างเด็กหนุ่มที่ฟางหยวนเข้าสวมบทบาทกัดฟันพึมพำ
หลังจากนั้นเขาก็ก้มลงดูเสื้อผ้าที่สกปรกและขาดรุ่งริ่งของตนเอง หน้าอกของเขายังเต็มไปด้วยบาดแผลสีม่วง เขาดูน่าสงสารมาก
เด็กหนุ่มยกมือขึ้นสัมผัสบาดแผนบนร่างกายของตนและรู้สึกถึงความเจ็บปวด
“ผู้ใดจะคิดว่าผู้ยิ่งใหญ่ เบน เจสัน เช่นข้าจะจบลงในโลกที่ไร้สาระและกลายเป็นเด็กอีกครั้ง นอกจากนั้นข้ายังถูกรังแกโดยเด็กคนอื่นๆ นี่มันมากเกินไปแล้ว!”
“โลกใบนี้ช่างไร้สาระ มนุษย์ควบคุมวิญญาณเพื่อรับพลังลึกลับ นี่มันฝันร้ายชัดๆ!”
“เห้อ…หากนี่เป็นความฝัน เหตุใดข้ายังไม่ตื่นหลังจากผ่านไปนับสิบปี?” เด็กหนุ่มกล่าวขณะที่ฟางหยวนฟังคำกล่าวเหล่านี้และรู้สึกหัวใจสั่นไหว
เขาได้ยินความลับมากมาย เทพปีศาจปล้นสวรรค์เป็นปีศาจต่างโลกเช่นเดียวกับฟางหยวน
‘ชื่อเดิมของเทพปีศาจปล้นสวรรค์คือ เบน เจสัน นั่นหมายความว่าในอาณาจักรแห่งความฝันนี้ ข้ากำลังสวมบทของเทพปีศาจปล้นสวรรค์! แต่ตอนนี้เขายังเป็นเพียงเด็กมนุษย์ เขายังไม่ได้เริ่มต้นการบ่มเพาะ’ ฟางหยวนตระหนักถึงจุดนี้
เป็นเพียงเวลานี้ที่เด็กหนุ่มพึมพำ “แต่โชคดีที่ตระกูลจะเปิดอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์ในคืนนี้ เมื่อข้าเข้าไป ข้าจะสามารถปลุกทะเลวิญญาณและเริ่มบ่มเพาะ ข้าจะกลายเป็นผู้ใช้วิญญาณ”
“ข้าหวังว่าพลังนี้จะทำให้ข้าสามารถหลบหนีจากที่นี่และกลับบ้านเกิดของข้า!”
เด็กหนุ่มกล่าวด้วยความรู้สึกเจ็บปวด เขากัดฟันยืนขึ้นและเดินออกจากกระโจม
ฟางหยวนเป็นเหมือนเจตจำนงที่แฝงตัวอยู่ในร่างของเด็กหนุ่มผู้นี้และเฝ้ามองเขาแต่ไม่สามารถควบคุมร่างกายของเขา
นี่เป็นสถานการณ์ที่หายากแม้แต่สำหรับฟางหยวน
หลังจากทดลองด้วยทุกวิธีและล้มเหลวทั้งหมด ฟางหยวนทำได้เพียงเฝ้ามองในฐานะผู้สังเกตการณ์ขณะที่อาณาจักรแห่งความฝันยังดำเนินต่อไป
เด็กหนุ่มออกจากกระโจน
ฟางหยวนมองเห็นโอเอซิสสีเขียวภายใต้แสงจันทร์
มันเป็นเวลากลางคืน ดวงจันทร์กลมโตลอยอยู่บนท้องฟ้า
โอเอซิสแห่งนี้มีขนาดเล็ก มีทะเลสาบเล็กๆอยู่ตรงกลางและรายล้อมไปด้วยกระโจมมากมาย
กระโจมเหล่านี้มีขนาดและสีสันที่แตกต่างกัน บางหลังเป็นสีเทา บางหลังเป็นสีขาว สีเหลือง สีทอง หรือสีม่วง
ยิ่งกระโจมมีสีสันสดใสและมีขนาดใหญ่เท่าใด สถานะของผู้ครอบครองก็ยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น
เด็กหนุ่มมองไปข้างหน้าด้วยสายตาชื่นชมก่อนจะหันกลับไปมองกระโจมของตนเอง
กระโจมของเขาเล็กและน่าเกลียดมาก มันเต็มไปด้วยเขม่าสีดำและมีรูอยู่มากมาย
เด็กหนุ่มขมวดคิ้วและถอนหายใจ “หลังจากคืนนี้ ข้าจะไม่อยู่ในสถานที่ที่เลวร้ายนี้อีกต่อไป”
หลังกล่าวจบคำเขาก็เดินตรงไปยังจุดศูนย์กลางของโอเอซิส
ระหว่างทาง เด็กหลายคนเดินออกมาจากกระโจมที่อยู่รอบๆ การแสดงออกของพวกเขาแข็งทื่อและไม่มีผู้ใดกล่าวสิ่งใดออกมา
วันนี้เป็นวันสำคัญที่สุดในชีวิตของพวกเขา ตามธรรมเนียมของทะเลทรายตะวันตก เด็กทุกคนต้องแสดงความเคารพและไม่พูดคุยโดยไม่จำเป็น
ผู้ใดพูดมากเกินไปหรือแสดงอารมณ์มากเกินไป ไม่ว่าจะเป็นความสุขหรือความเศร้า พวกเขาจะทำให้พิธีกรรมแปดเปื้อนและจะถูกลงโทษอย่างรุนแรงจนถึงขั้นเนรเทศ
หากพวกเขาถูกเนรเทศออกไป เด็กเหล่านั้นต้องตายอย่างแน่นอน
ความรุนแรงของบทลงโทษเห็นได้ชัดเจน
เด็กจำนวนมากเดินไปรวมตัวกันที่ใจกลางโอเอซิส
ระหว่างทางเด็กหนุ่มได้พบกับกลุ่มเด็กที่ทุบตีเขาเช่นกัน
เด็กเหล่านั้นทั้งสูงและดูแข็งแกร่ง ร่างกายของพวกเขาสูงใหญ่กว่าเด็กทั่วไป เสื้อผ้าที่พวกเขาสวมใส่ก็ดูราคาแพงกว่าอย่างเห็นได้ชัด นี่แสดงให้เห็นความภูมิหลังที่ไม่ธรรมดาของพวกเขา
เด็กเหล่านั้นไม่กล่าวสิ่งใดแต่ยังส่งสายตาดุร้ายและยั่วยุ
เด็กหนุ่มพ่นลมหายใจออกมาโดยไม่รู้ตัว
ต่างฝ่ายต่างจ้องมองกันกระทั้งไปถึงทะเลสาบกลางโอเอซิส
วิญญาณแห่งความหวังอาศัยอยู่บนต้นอ้อที่อยู่รอบๆทะเลสาบแห่งนี้
สิ่งนี้ทำให้ฟางหยวนนึกไปถึงพิธีเผยลิขิตสวรรค์บนภูเขาชิงเหมา
แม้พิธีการของทะเลทรายตะวันตกจะแตกต่างจากภาคใต้ แต่ทั้งสองภูมิภาคก็ใช้วิญญาณแห่งความหวังเพื่อปลุกทะเลวิญญาณคล้ายคลึงกัน
เด็กเดินเข้าไปที่ทุ่งต้นอ้อขณะที่วิญญาณแห่งความหวังบินออกมาด้วยความตกใจ
ทะเลวิญญาณถูกปลุกขึ้นทีละคน บางคนกังวล บางคนเศร้า บางคนมีความสุข และบางคนรู้สึกหดหู่ สำหรับมนุษย์ธรรมดา พรสวรรค์เป็นสิ่งกำหนดความสำเร็จในชีวิตของพวกเขา
บรรยากาศในพิธีเผยลิขิตสวรรค์ของภาคใต้ค่อนข้างร้อนแรงแต่บรรยากาศของทะเลทรายตะวันตกกลับเคร่งเครียดและเงียบสงบ
แม้พวกเขาจะรู้สึกอย่างไร พวกเขาก็ต้องควบคุมตนเองเอาไว้ ใบหน้าของพวกเขาอาจดูบิดเบี้ยวและสามารถหลั่งน้ำตา แต่พวกเขาไม่สามารถส่งเสียงใดๆออกมา
ในไม่ช้าก็ถึงคราวของเทพปีศาจปล้นสวรรค์วัยเยาว์
เขาแทบไม่สามารถอดทนรอ เขาเดินเข้าไปที่ต้นอ้อเมื่อได้รับอนุญาต
แต่พรสวรรค์ของเขาอยู่ในนภาที่สี่เท่านั้น มันเป็นระดับต่ำสุด พรสวรรค์นภาที่สี่มีพลังวิญญาณเพียงสิบถึงสามสิบส่วนอยู่ในทะเลวิญญาณ คนกลุ่มนี้มักเป็นได้เพียงผู้ใช้วิญญาณระดับหนึ่ง มีไม่กี่คนที่สามารถก้าวเข้าสู่ระดับสอง
ผู้ใช้วิญญาณที่มีพรสวรรค์ระดับนี้กล่าวได้ว่าไร้ศักยภาพและไร้อนาคต
สถานะของพวกเขาจะถูกจัดให้อยู่ในจุดต่ำสุด
“เป็นไปได้อย่างไร? ข้ามีพรสวรรค์นภาที่สี่ได้อย่างไร!?” เด็กหนุ่มกรีดร้อง
“หุบปาก!” ผู้ใช้วิญญาณที่รับผิดชอบจับเด็กหนุ่มและปิดปากเขา
เด็กหนุ่มดิ้นรนอย่างหนักก่อนจะถูกฝ่ายตรงข้ามใช้ฝ่ามือกระแทกที่ต้นคอ
เด็กหนุ่มหมดสติไปทันที
วิสัยทัศน์ของฟางหยวนก็มืดมิดลงเช่นกัน
เขาพบว่าตนเองไม่สามารถทำสิ่งใด กระทั่งท่าไม้ตายอมตะคลี่คลายความฝันก็ไม่มีผล
‘ยิ่งอาณาจักรแห่งความฝันใหญ่โตเท่าใด พลังอำนาจของท่าไม้ตายอมตะคลี่คลายความฝันก็ลดลงเท่านั้น อาณาจักรแห่งความฝันนี้พิเศษมาก ท่าไม้ตายอมตะคลี่คลายความฝันไม่ส่งผลกระทบใดๆทั้งสิ้น’
ฟางหยวนประเมิน
เขาทดลองอีกครั้งและยังไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น เขาต้องรอคอยต่อไปอย่างช่วยไม่ได้