เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1502 ขาดแคลนดวงวิญญาณ
แปลโดย iPAT
ทะเลทรายตะวันตก ภายในค่ายกลวิญญาณของตระกูลถัง
ฟางหยวนนั่งไขว้ขาปิดเปลือกตาอยู่บนพื้น
เขากำลังตรวจสอบจิตวิญญาณของตนเอง รากฐานบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณของเขาลดลงมาถึงระดับหนึ่งล้านแล้ว
‘เมื่อข้าผ่านฉากแรก รากฐานบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณของข้าตกลงจากระดับสิบล้านสู่ระดับหนึ่งล้าน แต่หลังจากผ่านฉากที่สอง มันตกลงจากระดับเก้าสิบล้านมาถึงระดับหนึ่งล้าน!’
ฟางหยวนเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างทั้งสองฉาก
ฉากที่สองยาวนานกว่าฉากแรก ความรุนแรงในการกัดกร่อนจิตวิญญาณของมันก็เหนือกว่าอย่างมาก
ผู้อมตะที่ไม่มีรากฐานบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณจะไม่สามารถอดทนต่อการกัดกร่อนชนิดนี้ พวกเขาจะไม่สามารถแม้แต่จะผ่านฉากแรก
สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงความยากลำบากในการสำรวจอาณาจักรแห่งความฝันของเทพปีศาจปล้นสวรรค์ได้อย่างชัดเจน ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ความพยายามตลอดหลายปีของถังฟางหมิงไม่ต่างจากการใช้ก้อนหินทุบกำแพงเหล็ก
‘แต่ถังฟางหมิงยังสามารถหลอมรวมวิญญาณระดับมนุษย์บนเส้นทางแห่งความฝัน คนผู้นี้มีพรสวรรค์ที่น่าทึ่ง’
ฟางหยวนคิดถึงชีวิตแรกของตน ในเวลานั้นถังฟางหมิงสามารถสร้างท่าไม้ตายอมตะผนึกความฝัน
ก่อนหน้านี้ฟางหยวนคิดว่าถังฟางหมิงได้รับความช่วยเหลือจากนิกายเงา แต่ตอนนี้เขารู้สึกว่ามันเกิดจากพรสวรรค์และความพยายามของถังฟางหมิงเอง
ในฉากแรกอาณาจักแห่งความฝันของเทพปีศาจปล้นสวรรค์ทำให้ความสำเร็จบนเส้นทางแห่งการโจรกรรมของฟางหยวนก้าวเข้าสู่ระดับปรมาจารย์
ในฉากที่สองเขากลายเป็นกึ่งปรมาจารย์เอก
‘ข้าอยู่ห่างจากระดับปรมาจารย์เอกเพียงไม่กี่ก้าว’ ฟางหยวนตระหนักถึงสิ่งนี้
‘หากข้าผ่านฉากต่อไป ข้าจะบรรลุระดับปรมาจารย์เอกอย่างแน่นอน’ กระทั่งฟางหยวนก็ไม่สามารถรักษาความสงบเมื่อคิดถึงเรื่องนี้
มีความแตกต่างอย่างมากระหว่างระดับปรมาจารย์และปรมาจารย์เอก
ระดับปรมาจารย์ทำให้พวกเขาสามารถใช้เส้นทางของตนเลียนแบบเส้นทางสายอื่น ตัวอย่างเช่นไห่ฟานที่สามารถสร้างท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาที่ส่งผลกระทบเช่นเดียวกับท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งข้อมูล
ระดับปรมาจารย์เอกทำให้พวกเขาเข้าใจแก่นแท้ของเส้นทางสายนั้น ตัวอย่างเช่นนางมารผลาญสวรรค์ที่เป็นปรมาจารย์เอกบนเส้นทางแห่งไฟหรือปีศาจอมตะเซี่ยหูที่เป็นปรมาจารย์เอกบนเส้นทางแห่งหิมะ
นางมารผลาญสวรรค์มีความอ่อนไหวอย่างมากต่อร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งไฟ นางสามารถเพิ่มร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งไฟเข้าไปในทรัพยากรอมตะและทำให้ฟางหยวนล้มเหลวในการหลอมรวมวิญญาณโดยที่เขาไม่รู้ตัว
ปีศาจอมตะเซี่ยหูสามารถแยกส่วนท่าไม้ตายอมตะทุกประเภท ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน เขาสามารถรื้อถอนท่าไม้ตายเขตแดนอมตะเพื่อจัดการผู้อมตะจากวังสวรรค์ได้อย่างรวดเร็ว
ปรมาจารย์เอกบนเส้นทางแห่งค่ายกลสามารถใช้ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าจากสิ่งแวดล้อมเพื่อจัดตั้งค่ายกลวิญญาณอมตะโดยใช้วิญญาณอมตะและวิญญาณระดับมนุษย์เพียงไม่กี่ดวง
เหนือกว่าระดับปรมาจารย์เอกคือระดับปรมาจารย์สูงสุด
มันคือจุดสูงสุดของระดับความสำเร็จ หากฟางหยวนกลายเป็นปรมาจารย์สูงสุดบนเส้นทางแห่งการโจรกรรม เขาจะเข้าใจทุกสิ่งเกี่ยวกับเส้นทางสายนี้
กล่าวได้ว่าปรมาจารย์สูงสุดสามารถถอดรหัสทุกสิ่งเกี่ยวกับเส้นทางสายนั้น
ปรมาจารย์สูงสุดสามารถคิดค้นและสร้างเส้นทางสายใหม่ให้กับโลกใบนี้
โดยปกติแล้วการบรรลุระดับปรมาจารย์ต้องใช้เวลาหลายร้อยปี ในชีวิตแรกของฟางหยวน เขาเป็นปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งเลือด
ปรมาจารย์เอกมักใช้เวลาสะสมความสำเร็จหลายพันปี ส่วนใหญ่เป็นผู้อมตะระดับแปดที่จะบรรลุถึงระดับนี้
สำหรับปรมาจารย์สูงสุด มันไม่ใช่เพียงการสะสมรากฐาน แต่มันยังเกี่ยวข้องกับพรสวรรค์และความสามารถตามธรรมชาติของคนผู้นั้น โดยปราศจากพรสวรรค์และความสามารถตามธรรมชาติ แม้ผู้อมตะจะมีชีวิตถึงหมื่นปี พวกเขาก็ไม่สามารถบรรลุถึงระดับปรมาจารย์สูงสุด
ระดับปรมาจารย์สูงสุดหายากมากมาตั้งแต่อดีต
นอกจากผู้อมตะระดับเก้า มีตัวละครในตำนานที่บรรลุระดับปรมาจารย์สูงสุดน้อยมาก ตัวอย่างเช่น ปรมาจารย์สูงสุดบนเส้นทางแห่งการหลอมรวม บรรพชนผมยาว เฒ่าสายฟ้าเทียนหนาน และผู้อมตะเฒ่ากงเจีย
‘ระดับปรมาจารย์และปรมาจารย์เอกสามารถบรรลุถึงได้โดยพึ่งพาอาณาจักรแห่งความฝัน แต่ระดับปรมาจารย์สูงสุดไม่สามารถได้รับจากอาณาจักรแห่งความฝัน’ ฟางหยวนเข้าใจเรื่องนี้
มันชัดเจนมาก
ปรมาจารย์สูงสุดจำเป็นต้องบุกเบิกเส้นทางสายใหม่จากความว่างเปล่าา ขณะที่อาณาจักรแห่งความฝันเป็นมรดกจากคนรุ่นก่อน ดังนั้นความสำเร็จขั้นสูงสุดที่อาณาจักรแห่งความฝันสามารถมอบให้จึงถูกจำกัดอยู่ในระดับปรมาจารย์เอกเท่านั้น
‘เมื่อข้าบรรลุระดับปรมาจารย์เอกบนเส้นทางแห่งการโจรกรรม แม้ข้าจะสำรวจอาณาจักรแห่งความฝันต่อไป ความสำเร็จของข้าก็จะไม่เพิ่มขึ้น’
นี่คือจุดที่ทำให้ฟางหยวนและตระกูลถังสามารถสร้างความร่วมมือ
อาณาจักรแห่งความฝันของเทพปีศาจปล้นสวรรค์ใหญ่โตเกินไป ท้องของฟางหยวนมีขีดกำจัด เมื่อเขากินจนอิ่ม ส่วนที่เหลือก็จะเป็นของตระกูลถัง
ตระกูลถังยินดีร่วมมือกับฟางหยวนหลังจากเข้าใจเหตุผลข้อนี้อย่างชัดเจน
หากอาณาจักรแห่งความฝันของเทพปีศาจปล้นสวรรค์เล็กกว่านี้ ฟางหยวนจะกินมันทั้งหมด แล้วตระกูลถังจะร่วมมือกับเขาเพื่อสิ่งใด?
ในช่วงเวลานี้ฟางหยวนกำลังเตรียมความพร้อมสำหรับการสำรวจอาณาจักรแห่งความฝันของเทพปีศาจปล้นสวรรค์ครั้งต่อไป
เขาบ่มเพาะจิตวิญญาณเป็นหลัก
แต่เขายังแบ่งเวลาสอนความลับเกี่ยวกับเส้นทางแห่งความฝันให้กับถังฟางหมิง
ถังฟางหยวนได้รับข้อมูลที่มีประโยชน์มากมาย
แม้ฟางหยวนจะให้ความรู้เพียงผิวเผิน แต่มันก็เหมือนประภาคารที่คอยนำทางให้กับถังฟางหมิง
ก้าวแรกมักยากที่สุดเสมอ
เมื่อผ่านก้าวแรก ก้าวต่อไปจะง่ายและรวดเร็วขึ้น
นอกจากการทำตามข้อตกลงพันธมิตร ฟางหยวนยังจัดเตรียมสิ่งต่างๆสำหรับอนาคต เขากำลังเลียนแบบกลยุทธ์ของเทพปีศาจจิตวิญญาณในการส่งเสริมกองกำลังของทั้งสี่ภูมิภาคเพื่อต่อสู้กับวังสวรรค์
ยี่สิบวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว
รากฐานบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณของฟางหยวนก้าวเข้าสู่ระดับสิบล้านอีกครั้ง
‘ฉากที่สามต้องยากกว่าฉากที่สอง จิตวิญญาณระดับสิบล้านคนยังไม่ปลอดภัย’ หลังจากไตร่ตรอง ฟางหยวนตัดสินใจบ่มเพาะจิตวิญญาณต่อไปโดยมีเป้าหมายอยู่ที่ระดับหนึ่งร้อยล้าน
หากรากฐานบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณไม่เพียงพอ ดวงวิญญาณของเขาจะถูกกัดกร่อนและสูญสลายไปในที่สุด เขาจะตายแม้ร่างกายจะยังอยู่ก็ตาม
‘ข้าควรคิดค้นท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งความฝันที่ช่วยลดการกัดกร่อนจิตวิญญาณของอาณาจักรแห่งความฝันหรือไม่?’
ฟางหยวนคิดแต่เขาก็ปฏิเสธมันอย่างรวดเร็ว
ความสำเร็จบนเส้นทางแห่งความฝันของฟางหยวนอยู่ในระดับสามัญเท่านั้น มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะอนุมาน ดังนั้นลืมมันไปซะ
ในปัจจุบันมีเพียงวิธีเดียวสำหรับฟางหยวน นั่นคือการบ่มเพาะจิตวิญญาณถึงระดับหนึ่งร้อยล้าน
แต่แผนการนี้กลับพบอุปสรรคในไม่ช้า
เขาขาดวิญญาณความเด็ดเดี่ยว!
ฟางหยวนวางภูเขาตงฮันไว้ในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยารับผิดชอบในการผลิตวิญญาณความเด็ดเดี่ยว
แต่วิญญาณความเด็ดเดี่ยวไม่ได้เกิดจากความว่างเปล่า มันต้องการดวงวิญญาณของสิ่งมีชีวิต
ยิ่งดวงวิญญาณมีปริมาณและคุณภาพสูงเท่าใด ภูเขาตงฮันก็ยิ่งผลิตวิญญาณความเด็ดเดี่ยวได้มากเท่านั้น
นี่คือปัญหา
ดวงวิญญาณมีไม่เพียงพอที่จะผลิตวิญญาณความเด็ดเดี่ยวได้ตามความต้องการของฟางหยวน
ก่อนหน้านี้ฟางหยวนสั่งให้สมาชิกนิกายเงาสำรวจไท่ชิวและฆ่าสัตว์อสูร ด้วยวิธีนี้วิญญาณความเด็ดเดี่ยวจึงถูกผลิตขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก
แต่ตอนนี้สมาชิกนิกายเงาอยู่กับฟางหยวนขณะที่ดวงวิญญาณในคลังของนิกายหลางหยาถูกใช้จนหมดในช่วงเวลาไม่กี่วันที่ผ่านมา
ฟางหยวนคิดและตระหนักว่ามันจะดีกว่าที่เขาจะรวบรวมวัตถุดิบจากบริเวณใกล้เคียงมากกว่าการกลับไปที่ไท่ชิว
ทะเลทรายตะวันตกคล้ายคลึงกับภาคเหนือที่ขนาดอันกว้างใหญ่ไพศาลของมัน
ทะเลทรายตะวันตกเป็นสถานที่พิเศษและเหมาะสมกับฟางหยวน
‘โหยว่ชานตายแล้ว ธุรกิจปลามังกรของข้ายึดครองสวรรค์สีเหลืองทั้งหมด ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าจะไม่มีผู้ใดที่สามารถแข่งขันกับข้าได้’
ฟางหยวนตั้งใจใช้กำไรจากธุรกิจนี้เพื่อจัดการมิติช่องว่างจักรพรรดิและไม่ใช้มันซื้อดวงวิญญาณ
การซื้อดวงวิญญาณถือเป็นความสูญเสีย
หลังจากคิดได้เช่นนี้ฟางหยวนก็แจ้งถังฟางหมิงเกี่ยวกับสถานการณ์โดยสังเขป จากนั้นเขาก็ออกจากค่ายกลวิญญาณไปพร้อมกับสมาชิกนิกายเงา