เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1518 การปะทะระหว่างคฤหาสน์วิญญาณ (2)
แปลโดย iPAT
หอดอกไม้ร่วงโรยด้อยกว่าวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ ด้วยเหตุนี้กำแพงทิศตะวันตกของหอดอกไม้ร่วงโรยจึงเกิดรูช่องโหว่ขนาดใหญ่
ชิงโจวบังคับวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์เข้าโจมตีด้วยความโกรธอีกครั้ง
ในเวลาเดียวกันแมงมุมเหินก็พยายามเจาะทะลวงเข้าไปในหอดอกไม้ร่วงโรยและทำให้ผู้อมตะตระกูลฟางตกอยู่ในสถานการณ์อันตราย
ในยามคับขันฟางอันเล่ยกรีดร้องและกระตุ้นใช้การโจมตีที่ทรงพลังที่สุดของนางออกมา
ท่าไม้ตายอมตะกล้วยไม้แห่งหุบเขาที่ว่างเปล่า!
คฤหาสน์วิญญาณอมตะทั้งหลังหดเล็กลงกระทั่งมีขนาดเท่ากับของเล่นเด็กไปในพริบตา
มันตกลงบนพื้นทรายและสร้างหลุมขนาดใหญ่ ในขณะเดียวกันดอกกล้วยไม้ก็เติบโตขึ้นบนพื้นผิวของหอดอกไม้ร่วงโรยและส่งกลิ่นหอมกระจายออกไป
วังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์รวมถึงสนมอินทรีย์และอสูรวิญญาณอสรพิษมีปีกรู้สึกราวกับหอดอกไม้ร่วงโรยอยู่ไกลมาก แม้พวกเขาจะเห็นหอดอกไม้ร่วงโรยอยู่ตรงหน้า แต่พวกเขากลับไม่สามารถลดระยะห่างลงได้
ราวกับห้วงมิติถูกขยายออกไป
ฟางอันเล่ยปิดเปลือกตาลงด้วยใบหน้าซีดขาว เหงื่อไหลลงมาจากหน้าผากของนางอย่างต่อเนื่องขณะที่นางกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอย่างไม่หยุดยั้ง
“ยอดเยี่ยม เช่นนั้นข้าจะออกไปจัดการแมงมุมเหิน” ฟางหยวนยกย่องและบินออกไปด้านนอก
ภายใต้ผลกระทบของท่าไม้ตายอมตะกล้วยไม้แห่งหุบเขาที่ว่างเปล่า ฟางหยวนจะปลอดภัยชั่วคราว
คฤหาสน์วิญญาณอมตะแตกต่างจากค่ายกลวิญญาณรูปแบบการต่อสู้โบราณ ภายในคฤหาสน์วิญญาณอมตะ ฟางหยวนไม่สามารถใช้วิธีการของเขา เขาเป็นเพียงผู้สังเกตการณ์เท่านั้น
‘ให้ข้าดูว่าวิญญาณอมตะป้ายคำสั่งอสูรวิญญาณระดับแปดจะแข็งแกร่งกว่าท่าไม้ตายอมตะทาสแปดสิบต่อร้อยของข้าหรือไม่?’
ท่าไม้ตายอมตะทาสแปดสิบต่อร้อย!
นี่เป็นท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งทาสที่พิเศษมาก มันสามารถสะกดข่มทาสสัตว์อสูรที่มีระดับสูงกว่าด้วยกองทัพสัตว์อสูรที่มีระดับต่ำกว่า
แต่แมงมุมเหินตัวนี้อยู่ภายใต้อิทธิพลของวิญญาณอมตะป้ายคำสั่งอสูรวิญญาณระดับแปด
ดังนั้นฟางหยวนจึงต้องการทดสอบพลังอำนาจของทั้งสองวิธี
เมื่อเขากระตุ้นใช้ท่าไม้ตายนี้ ร่างกายของแมงมุนเหินเริ่มสั่น ความเร็วในการเจาะทะลวงคฤหาสน์วิญญาณอมตะของมันลดลงอย่างมาก
“น่าประทับใจ!” ฟางหยุนมีความสุข
จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของฟางเล้งพุ่งสูงขึ้น
ฟางหยวนปลดปล่อยกลิ่นอายที่ทรงพลังออกมา เขากระตุ้นใช้งานท่าไม้ตายอมตะทาสแปดสิบต่อร้อยอย่างสุดกำลัง
แมงมุมเหินต่อสู้อย่างหนักและไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ขณะที่ฟางหยวนกับผีเฒ่าไป่จุนกำลังต่อสู้กัน
ท่าไม้ตายทาสแปดสิบต่อร้อยเป็นท่าไม้ตายอมตะระดับเจ็ด มันไม่สามารถเปรียบเทียบกับวิญญาณอมตะป้ายคำสั่งอสูรวิญญาณระดับแปด แต่พลังอำนาจของท่าไม้ตายนี้ไม่ได้มาจากวิญญาณเพียงอย่างเดียวแต่มันยังขึ้นอยู่กับจำนวนของกองทัพอสูรวิญญาณ
มิติช่องว่างของฟางหยวนมีอสูรวิญญาณอยู่เป็นจำนวนมาก นั่นทำให้พลังอำนาจของท่าไม้ตายอมตะทาสแปดสิบต่อร้อยเพิ่มขึ้นและสามารถต่อสู้กับวิญญาณอมตะป้ายคำสั่งอสูรวิญญาณระดับแปด
สถานการณ์ตกอยู่ในสภาวะชะงักงัน
หอดอกไม้ร่วงโรยอยู่ในหลุมทราย บนท้องฟ้ามีวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ อสูรวิญญาณแรกกำเนิดอสรพิษมีปีก และสนมอินทรีย์ ห่างออกไปมีกองทัพอสูรวิญญาณ อสูรวิญญาณแรกกำเนิดสองตัว และผีเฒ่าไป่จุน
ภายในหอดอกไม้ร่วงโรย ฟางอันเล่ยขมวดคิ้วลึก ร่างของนางสั่นสะท้านขึ้นอย่างรุนแรง
นางต่อต้านกลุ่มศัตรูที่มีพลังการต่อสู้ระดับแปดอย่างเต็มที่แล้ว แต่หอดอกไม้ร่วงโรยไม่สามารถต่อต้านศัตรูจำนวนมากเช่นนี้
‘การต่อสู้ครั้งนี้ข้าเป็นฝ่ายเสียเปรียบ’ ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้นด้วยความเฉลียวฉลาด
เขาไม่ได้ใช้ความแข็งแกร่งทั้งหมด หากเขาทุ่มเทสุดตัว การต่อสู้จะแตกต่างออกไปจากนี้
อย่างไรก็ตามหากฟางหยวนประมาทและเปิดเผยเกราะหวนคืน ตัวตนของเขาจะถูกค้นพบและจะเป็นผลเสียต่อแผนการของเขา
‘ข้าต้องปิดบังตัวตนของข้าและแก้ไขวิกฤตนี้ แต่ข้าควรทำอย่างไร? หือ?’ ทันใดนั้นฟางหยวนกลับรู้สึกถึงบางสิ่ง
เขาเห็นแมงมุมเหินหยุดสั่น มันตกเป็นทาสของฟางหยวนขณะที่พลังอำนาจของวิญญาณอมตะป้ายคำสั่งอสูรวิญญาณระดับแปดหายไปแล้ว
‘เกิดสิ่งใดขึ้น?’ ฟางหยวนหันหน้ากลับไปและเห็นผีเฒ่าไป่จุนที่อยู่ในระยะไกลพ่นเลือดคำโตออกมา
เหตุผลก็คือผีเฒ่าไป่จุนถึงขีดจำกัดแล้ว แม้เขาจะต้องการดำเนินการต่อแต่เขาไม่มีพลังงานพอที่จะทำได้
การใช้การบ่มเพาะระดับเจ็ดเพื่อควบคุมอสูรวิญญาณแรกกำเนิดสี่ตัวด้วยวิญญาณอมตะป้ายคำสั่งอสูรวิญญาณระดับแปดเป็นภาระหนักเกินไป เขาสามารถอดทนมาได้จนถึงเวลานี้ถือว่ายอดเยี่ยมมากแล้ว
ฟางหยวนหัวเราะ ตอนนี้เขาสามารถกำหราบอสูรวิญญาณแรกกำเนิดแมงมุมเหินได้อย่างสมบูรณ์
“ผู้อาวุโส ยอดเยี่ยมมาก!” ขวัญกำลังใจของฟางหยุนและฟางหเล้งพุ่งสูงขึ้น
ฟางหยวนสามารถจับอสูรวิญญาณแรกกำเนิดแมงมุมเหินเป็นทาส สิ่งนี้อยู่นอกเหนือความคาดหมายของพวกเขาแต่พวกเขาไม่รู้สึกสงสัยใดๆ
ท้ายที่สุดฟางหยวนก็ครอบครองกองทัพอสูรวิญญาณจำนวนมหาศาล มันสามารถทำความเข้าใจได้หากเขาจะสามารถสะกดข่มอสูรวิญญาณแรกกำเนิด
หลังจากได้รับแมงมุมเหิน ฟางหยวนก็สั่งให้มันโจมตีวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์
อสูรวิญญาณแรกกำเนิดตัวนี้ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์แต่ร่างเล็กๆของมันมีข้อได้เปรียบ ภายใต้การควบคุมของฟางหยวน มันมีประโยชน์มาก
อย่างไรก็ตามมันยังเป็นเรื่องยากสำหรับแมงมุมเหิน
ปรากฎว่าท่าไม้ตายอมตะกล้วยไม้แห่งหุบเขาที่ว่างเปล่าไม่ได้แยกแยะศัตรูหรือมิตร มันส่งผลกระทบต่ออสูรวิญญาณแรกกำเนิดของฟางหยวนเช่นกัน
‘ท่าไม้ตายนี้ไม่สามารถควบคุมได้อย่างอิสระงั้นหรือ? ฟางอันเล่ยอาจถึงขีดจำกัดของนางเช่นเดียวกับผีเฒ่าไป่จุน?’ ฟางหยวนรู้สึกกังวล
เป็นเพียงเวลานี้ที่เขารู้สึกถึงบางสิ่ง เมื่อเขาหันหน้ากลับไป เขาก็พบกับคฤหาสน์วิญญาณอมตะสองหลังบินเข้ามา
สนมอินทรีย์กรีดร้องด้วยความตกใจ “นายท่าน เราต้องถอย!”
ในช่วงเวลาสำคัญกำลังเสริมของตระกูลฟางได้มาถึงในที่สุด
“ตาย ตาย ตาย!” ชิงโจวเต็มไปด้วยความโกรธและไม่สามารถคิดอย่างมีเหตุผล มันไม่สนใจสถานการณ์หรือคำพูดของสนมอินทรีย์ มันต้องการฆ่าฟางหยวนเท่านั้น
ใบหน้าของสนมอินทรีย์กลายเป็นซีดเผือดเมื่อเจ้านายของนางปฏิเสธที่จะล่าถอย นางคิดว่านางต้องตายที่นี่ในวันนี้อย่างแน่นอน
เฉินอี้ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของนิกายบัวสวรรค์ที่เฝ้าสังเกตสถานการณ์นี้อย่างลับๆเริ่มกังวลเช่นกัน
‘โอ้ ไม่! กำลังเสริมของตระกูลฟางมาถึงแล้ว พวกมันเป็นคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับเจ็ดกรงสัตว์อสูรและอู่เรือพิพากษา หากคฤหาสน์วิญญาณอมตะทั้งสองทำงานร่วมกับหอดอกไม้ร่วงโรย พวกมันจะสามารถสร้างท่าไม้ตายเขตแดนอมตะเขาวงกตดอกไม้ หากข้าติดอยู่ภายใน ข้าจะไม่สามารถหลบหนี ขณะเดียวกันชิงโจวก็ไม่สามารถควบคุมพลังอำนาจทั้งหมดของวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์’
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เฉินอี้ต้องถอนหายใจอย่างหมดหนทาง ‘ผู้ใดจะคิดว่าภารกิจครั้งนี้ของข้าจะไม่ใช่การกำจัดชิงโจวแต่เป็นการช่วยมัน’
หลังจากนั้นควันสีเขียวก็ลอยขึ้นเหนือศีรษะของเขาและควบรวมเป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์แห่งชะตากรรมอย่างรวดเร็ว
ผลไม้บนต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์แห่งชะตากรรมสั่นไหวขณะที่วังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ปลดปล่อยแสงสีเขียวออกมาอย่างรุนแรง
ภายในวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์ แสงสีเขียวพุ่งเข้าโจมตีชิงโจวจากทุกทิศทาง
ชิงโจวคำรามด้วยความโกรธ เสียงที่แหบแห้งของมันเต็มไปด้วยความโศกเศร้า ความเกลียดชัง ความโกรธ และความขมขื่น
“ตาย ตาย ตาย!”
มันอยู่ในสภาวะบ้าคลั่ง กลิ่นอายของวิญญาณอมตะปะทุออกมาจากร่างของมันและสร้างเป็นท่าไม้ตายอมตะ
“บึม!”
พลังอำนาจอันน่าสะพรึงกลัวระเบิดออกมาและทำให้ประตูวังเมล็ดถั่วศักดิ์สิทธิ์เปิดออก
ชิงโจวคำรามและสามารถมองเห็นโลกภายนอกผ่านช่องประตูดังกล่าว
มันรวบรวมกำลังและพยายามลุกขึ้น คออสรพิษของมันยืดออกขณะที่ลิ้นสีม่วงของมันพุ่งเข้าโจมตีฟางหยวนด้วยความเร็วสูง
รอบๆหอดอกไม้ร่วงโรยได้รับการปกป้องโดยท่าไม้ตายอมตะกล้วยไม้แห่งหุบเขาที่ว่างเปล่า แต่ดาบลิ้นสีม่วงกลับไม่ได้รับผลกระทบจากสิ่งนี้ มันพุ่งตรงมาที่หน้าผากของฟางหยวนอย่างรวดเร็ว
‘ข้าต้องหลบ!’ ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายชั่วร้ายขณะที่เขาหลบเข้าไปในหอดอกไม้ร่วงโรยผ่านรูช่วงโหว่
“ปัง!”
ดาบลิ้นสีม่วงพุ่งทะลวงเข้าไปในหอดอกไม้ร่วงโรยและแทงทะลุหน้าอกของฟางอันเล่ย
ฟางหยุนและฟางเล้งตกตะลึง
ดวงตาของฟางอันเล่ยเบิกกว้าง ร่างกายของนางแข็งทื่อ นางค่อยๆก้มหน้าลงมองหน้าอกของตนเองด้วยความมึนงง
“สหาย!” ฟางหยวนกรีดร้องด้วยความตกใจ
—————–