Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน – บทที่ 1559 ผู้อมตะระดับเจ็ดอันดับหนึ่ง

บทที่ 1559 ผู้อมตะระดับเจ็ดอันดับหนึ่ง

 

วังสวรรค์

 

ในห้องโถงใหญ่ เทพธิดาจื่อเว่ยเปิดเปลือกตาขึ้นอย่างช้าๆและหยุดอนุมาน นางถอนหายใจ “ความสําเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญาของฟางหยวนช่างน่าทึ่งนัก เขาสามารถป้องกันการอนุมานของข้าได้อีกครั้ง”

 

ผู้อมตะระดับแปดเฉินอี้ที่ยืนอยู่ด้านข้างใช้ท่าไม้ตายอมตะต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์แห่งชะตากรรม ช่วยเทพธิดาจื่อเว่ยอนุมาน แต่ถึงกระนั้นพวกเขาก็ยังล้มเหลว

 

เฉินอี้กล่าวด้วยการแสดงออกที่ซับซ้อน “ท่านหญิงจื่อเว่ย มีบางอย่างที่ข้าต้องรายงานท่าน”

 

“มันคือสิ่งใด?”

 

เฉินอี้เป็นเพียงผู้ช่วยขณะที่เทพธิดาจื่อเว่ยทุ่มเทความสนใจไปที่ฟางหยวนอย่างเต็มที่ ดังนั้นเฉินอี้จึงเป็นคนแรกที่ค้นพบการกระทําของฟางหยวน

 

เขารายงาน “กระดูกซี่โครงสามชิ้นของจักรพรรดินีอสูรสายฟ้ากําลังถูกวางขายอยู่ในสวรรค์สีเหลือง

 

“กระไรนะ!?” การแสดงออกของเทพธิดาจื่อเว่ยเปลี่ยนไปทันที

 

นางเร่งเชื่อมต่อสวรรค์สีเหลืองและเห็นกระดูกซี่โครงสามชิ้นถูกวางขาย มันดึงดูดความสนใจของผู้อมตะจํานวนมาก

 

“เป็นไปได้อย่างไร ปีศาจฟางหยวนมีพลังการต่อสู้ถึงระดับนี้แล้วงั้นหรือ!?”

 

“เห้อ…การเติบโตของเขารวดเร็วเกินไป เขากลายเป็นเจ้าเหนือหัวบนเส้นทางสายปีศาจของรุ่นนี้แล้ว”

 

“ฟางหยวนเป็นปีศาจต่างโลกและใช้วิญญาณกาลเวลาเพื่อกําเนิดใหม่ เขามีข้อได้เปรียบที่ยิ่งใหญ่ในการบ่มเพาะ”

 

“ข้าจํานางได้ นี่คือจักรพรรดินีอสูรสายฟ้าของวังสวรรค์ ผู้ใดจะคิดว่านางจะถูกฟางหยวนปราบปรามจริงๆ!”

 

“จักรพรรดินีอสูรสายฟ้าจิ้งหลาน นี่คือผู้เชี่ยวชาญที่ยิ่งใหญ่ในอดีต นางยังมีชีวิตอยู่อีกขั้นหรือ?”

 

“วังสวรรค์ได้รับการยกย่องว่าเป็นกองกําลังอันดับหนึ่ง พวกเขาพยายามจับฟางหยวนและส่ง ผู้อมตะระดับแปดออกมา แต่ดูสิ่งนี้ ฟางหยวนสามารถเอาชนะขณะที่นางตกอยู่ในสภาพที่น่าสังเวช”

 

เจตจํานงของกลุ่มผู้อมตะวิพากษ์วิจารณ์อย่างไม่รู้จบสิ้น

 

ร่างของเทพธิดาจื่อเว่ยสั่นสะท้านขึ้นด้วยความโกรธ

 

ฟางหยวนไม่เพียงขายกระดูกซี่โครงของจักรพรรดินีอสูรสายฟ้าแต่เขายังใช้วิธีการบางอย่างเพื่อแสดงภาพการต่อสู้ระหว่างเขากับจิ้งหลานอย่างต่อเนื่อง

 

โดยธรรมชาติแล้วเขาเลือกที่จะแสดงภาพในช่วงเวลาที่เขาโจมตีจึงหลานได้สําเร็จเท่านั้น

 

“เราควรรายงานเรื่องนี้กับจักรพรรดินีอสูรสายฟ้าหรือไม่?” เฉินอี้ถาม

 

จิ้งหลานเอาชนะหมื่นมังกรและกําจัดหมอกสับสนด้วยความยากลําบาก แต่เมื่อนางสามารถออกมา ฟางหยวนก็จากไปนานแล้วและไม่ทิ้งร่องรอยใดๆเอาไว้เบื้องหลัง

 

แม้เทพธิดาจื่อเว่ยจะสามารถอนุมานตําแหน่งของฟางหยวนได้ในเวลานั้น แต่พลังการต่อสู้ของจิ้งหลานตกลงอย่างมาก สถานการณ์ของนางค่อนข้างเลวร้าย นางจําเป็นต้องพักรักษาตัวเองชั่วระยะเวลาหนึ่ง

 

เมื่อกําลังเสริมมาถึงในภายหลัง พวกนางก็ออกไล่ล่าฟางหยวนอีกครั้ง

 

น่าเสียดายที่ฟางหยวนอยู่ลึกเข้าไปในกําแพงภูมิภาค แม้จิ้งหลานจะสามารถไล่ล่าต่อไป แต่กําลังเสริมของนางไม่มีวิธีการเดินทางในกําแพงภูมิภาคและต้องหยุดอยู่ที่ขอบนอกของกําแพงภูมิภาคเท่านั้น

 

จิ้งหลานไม่ยินดียอมรับความพ่ายแพ้ ด้วยความอัปยศ นางจึงไล่ล่าฟางหยวนต่อไปโดยไม่พักผ่อน แต่ในเวลานั้นเทพธิดาจื่อเว่ยก็สูญเสียความสามารถในการตรวจจับฟางหยวนไปแล้ว

 

“จื่อเว่ย ปีศาจฟางหยวนอยู่ที่ใด?” จึงหลานตะโกนถามเทพธิดาจื่อเว่ยด้วยความโกรธจัดแต่นางก็ไม่สามารถทําสิ่งใด

 

จิ้งหลานถูกบังคับให้หยุดไล่ล่าแต่นางยังกัดฟันแน่นและต้องการฆ่าฟางหยวนเพื่อลบล้างความอับอายของตน

 

เทพธิดาจื่อเว่ยเงียบไปชั่วขณะก่อนจะแจ้งผลลัพธ์กับจิ้งหลาน

 

“ว่าไงนะ!? เจ้าไม่สามารถค้นหาตําแหน่งของเขางั้นหรือ?” จิ้งหลานไม่พอใจ

“ความสําเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญาของฟางหยวนไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป แต่เขาจะไปที่แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาอย่างแน่นอน เราได้เตรียมการบางอย่างไว้แล้ว แม้เราจะล้มเหลวในครั้งนี้ แต่เราก็ได้กําไรมหาศาลเช่นกัน ไม่เพียงเราจะทําให้เขาสูญเสียพลังงานอมตะจํานวนมาก เรายังบังคับให้เขาเปิดไพ่หลายใบผู้อมตะเช่นเขาจะถูกกําจัดในการต่อสู้เพียงครั้งเดียวได้อย่างไร?” เทพธิดาจื่อเว่ยเกลี้ยกล่อมจิ้งหลาน

 

จิ้งหลานเงียบ

 

ไม่นานหลังจากนั้นนางก็ถอนหายใจยาว นางสงบจิตใจลงแล้ว

 

“ข้าประเมินเขาต่ำเกินไป คนผู้นี้มีพรสวรรค์ที่ไม่น่าเชื่อ เขาคู่ควรที่จะถูกคัดเลือกโดยเจตจํานงสวรรค์และนิกายเงา ครั้งต่อไปที่เราพบกัน ข้าจะไม่ทําพลาดเช่นในครั้งนี้!”

 

จิ้งหลานไม่ใช่คนบ้าระห่ํา หลังจากได้รับการแจ้งเตือน นางก็สามารถสงบอารมณ์และยอมรับความผิดพลาดของตนเองอย่างตรงไปตรงมา

 

“หากเปรียบเทียบกับฟางหยวน มีเรื่องที่น่าอึดอัดใจยิ่งกว่า…” เทพธิดาจื่อเว่ยแจ้งข่าวเกี่ยวกับสวรรค์สีเหลืองกับจิ้งหลาน

 

หัวใจที่พึ่งสงบลงของจิ้งหลานปะทุขึ้นอีกครั้งด้วยความโกรธ

 

“กระไรนะ!? ชายผู้นี้กล้าขายกระดูกซี่โครงของข้าจริงๆงั้นหรือ? ยืม ช่างอุกอาจนัก!”

 

จิ้งหลานเชื่อมต่อสวรรค์สีเหลืองและเห็นกระดูกซี่โครงของนางถูกวางขาย ความโกรธของนางพุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า ดวงตาของนางกลายเป็นแดงก่ำ

 

ไม่นานหลังจากนั้นนางยังเห็นภาพที่แสดงฉากการต่อสู้ที่ฟางหยวนกําลังทุบตีนาง นี่ทําให้นางกัดกรามจนแทบหัก “บัดซบ! เจ้าสารเลวผู้นี้ในอนาคตเมื่อเขาอยู่ในกํามือของข้า ข้าจะถลกหนัก ดังเส้นเอ็น และเลาะกระดูกของเขาออกมา!”

 

“แต่…เด็กเลวผู้นี้นาพวกมันไปวางขายจริงๆ เขาระวังตัวมาก นอกจากนั้นเขายังแสดงภาพ การต่อสู้เพียงบางส่วน ช่างไร้ยางอายจริงๆ”

 

จิ้งหลานสูดหายใจลึกและพยายามสงบจิตใจลง จากนั้นนางก็เริ่มคิด เขาใช้ทรัพยากรมากมายในการต่อสู้ครั้งนี้ รากฐานของเขาได้รับความเสียหายงั้นหรือ? อาจเป็นเพราะเหตุนี้เขาจึงวางขายกระดูกซี่โครงของข้าเพื่อเป็นการชดเชย? ข้าต้องซื้อพวกมันกลับมา!”

 

ด้านหนึ่งจิ้งหลานต้องการซื้อกระดูกซี่โครงเพื่อเชื่อมต่อกลับไป วิธีนี้จะทําให้การฟื้นตัวของนางรวดเร็วขึ้น

 

อีกด้านหนึ่งการปล่อยให้ฉากการต่อสู้และกระดูกซี่โครงของนางอยู่ในสวรรค์สีเหลืองแม้แต่วันเดียวก็จะส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อชื่อเสียงของวังสวรรค์

 

ตั้งแต่อดีตอันไกลโพ้น วังสวรรค์ได้รับการยอมรับจากสาธารณชนว่าเป็นกองกําลังอันดับหนึ่งเสมอมา ตอนนี้ฟางหยวนวางขายกระดูกซี่โครงสามชิ้นของจักรพรรดินีจิ้งหลาน นี่เหมือนกับการตบหน้าวังสวรรค์ครั้งใหญ่

 

ไม่ใช่เรื่องดีที่เทพธิดาอเว่ยจะเคลื่อนไหวเนื่องจากจิ้งหลานเป็นผู้เกี่ยวข้อง

 

จิ้งหลานตระหนักถึงเจตนาของเทพธิดาจื่อเว่ย ดังนั้นนางจึงต้องกลืนความอัปยศและปกปิดตัวตนเพื่อเข้าไปเจรจากับฟางหยวนในสวรรค์สีเหลือง “เจ้าขายกระดูกซี่โครงเหล่านี้อย่างไร?”

 

“เจ้าเป็นผู้ใดกันแน่?”

 

“ข้ามาจากทะเลตะวันออก” จิ้งหลานกัดฟันกล่าว นางไม่เคยคิดว่าจักรพรรดินีอสูรสายฟ้าที่ยิ่งใหญ่จะต้องปกปิดตัวตนเช่นนี้ “ข้าสนใจกระดูกซี่โครงสามชิ้นนี้มาก”

 

เจตจํานงของฟางหยวนหัวเราะ “มีผู้คนมากมายที่สนใจมัน”

 

จิ้งหลานกัดฟันกล่าวต่อ “แต่มีน้อยคนที่จะให้ราคาสูงได้เช่นข้า”

 

ฟางหยวนไม่ได้ทําตามความคาดหวังของนาง เขาไม่แม้แต่จะถามราคาที่นางเสนอและส่ายศีรษะทันที “ไม่ว่าเจ้าจะเสนอราคาเท่าใด ข้าก็ไม่ขาย!”

 

“ไม่ขายงั้นหรือ? หากเจ้าไม่ขาย เจ้าจะนําพวกมันมาวางไว้ที่นี่เพื่อสิ่งใด?” จิ้งหลานโกรธมาก

 

ฟางหยวนเย้ยหยัน “เพื่อความสนุก! เจ้ามีปัญหางั้นหรือ?”

 

“พรวด!”

 

จิ้งหลานหมดความอดทนและอักเลือดออกมาทันที “ฟางหยวน! ข้า จิ้งหลาน จะทําทุกอย่างเพื่อฆ่าเจ้า!”

 

สิบวันต่อมาฟางหยวนก็กลับไปถึงแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา

 

ระหว่างทาง ฟางหยวนใช้ท่าไม้ตายอมตะอาภรณ์ภูตผีตลอดเวลา

 

‘สุดท้ายข้าก็ไม่ต้องใช้อาภรณ์ภูตผีอีกต่อไป’ ฟางหยวนถอนหายใจด้วยความโล่งอกขณะยก เลิกการทํางานของท่าไม้ตายอมตะอาภรณ์ภูตผี

 

“ผู้อาวุโสฟางหยวน ในที่สุดเจ้าก็กลับมาแล้ว!” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาที่ยืนรออยู่เร่งเข้ามาทักทาย

 

แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาถูกรุกรานแต่ฟางหยวนไม่ได้เข้าร่วม แล้วเหตุใดจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาจึงแสดงออกอย่างเป็นมิตรเช่นนี้?

 

เห็นได้ชัดว่ามันเป็นเพราะฟางหยวนวางขายกระดูกซี่โครงของจักรพรรดินีอสูรสายฟ้าในสวรรค์สีเหลือง

 

ฟางหยวนไม่ได้ขายพวกมัน ด้านหนึ่งเป็นการตบหน้าวังสวรรค์ อีกด้านหนึ่งเพราะแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา

 

แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาถูกกลุ่มของฟงจิวเก้อรุกรานและทุบตีอย่างน่าสังเวช นั่นทําให้ขวัญกําลังใจของสมาชิกพันธมิตรมนุษย์กลายพันธุ์ตกต่ําลงอย่างต่อเนื่อง

 

หลังจากทั้งหมดวังสวรรค์เป็นผู้นําเผ่าพันธุ์มนุษย์กําหราบเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์และกดขี่พวกเขามาตลอด

 

ดังนั้นเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์จึงรู้สึกหวาดกลัวเผ่ามนุษย์และต้องซ่อนตัวอยู่ในมุมมืดของโลกใบนี้

 

อย่างไรก็ตามเมื่อฟางหยวนสามารถทุบตีจักรพรรดินีอสูรสายฟ้าและเปิดเผยฉากการต่อสู้ในสวรรค์สีเหลือง มันจึงถือเป็นข่าวดีสําหรับเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ เมื่อข่าวแพร่กระจายออกไป มันก็เหมือนแสงอาทิตย์ที่สาดส่องมายังพวกเขาและปัดเป่าความโศกเศร้าทั้งหมดออกไป

 

“ผู้อาวุโสฟางหยวน ครั้งนี้เจ้าทําได้ดีมาก! ก่อนหน้านี้ข้าพยายามขอยืมมังกรหินแรกกําเนิดจากเผ่ามนุษย์หิน แต่พวกเขาทําตัวคลุมเครือ อย่างไรก็ตามเมื่อข่าวการต่อสู้ของเจ้าถูกเผยแพร่ออกมา ทัศนคติของพวกเขาก็เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยากล่าว “ตอนนี้เจ้ากลับมาแล้ว เราสามารถข่มขู่เผ่ามนุษย์หินเพื่อขอยืมมังกรหิน ในเวลานั้นเราจะมีพลังการต่อสู้ระดับแปดเพิ่มขึ้นและการย้ายแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาก็จะไม่เป็นปัญหา!”

 

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยารู้สึกมีขวัญกําลังใจ

 

แต่ฟางหยวนไม่ได้มองโลกในแง่ดีเหมือนอีกฝ่าย วังสวรรค์ต้องเตรียมการเอาไว้มากมาย มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะย้ายแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา

 

อย่างไรก็ตามมันไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนที่จะอธิบายเรื่องนี้กับจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา

 

ฟางหยวนมองไปยังกลุ่มคนที่อยู่ด้านหลังจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา

 

คนเหล่านี้เป็นผู้อมตะจากพันธมิตรสี่เผ่าพันธุ์ พวกเขาออกมาต้อนรับฟางหยวนด้วยรอยยิ้ม

 

ผู้อมตะเผ่ามนุษย์หิมะปิงหยวนยกย่อง “ผู้อาวุโสฟางหยวนเป็นอัจฉริยะจากสวรรค์ที่แท้จริง กระทั่งจักรพรรดินีอสูรสายฟ้าก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของท่าน การต่อสู้ครั้งนี้ทําให้ท่านกลายเป็นผู้อมตะระดับเจ็ดอันดับหนึ่งของโลกใบนี้!”

 

ปิงหยวนยิ้มกว้าง ฟางหยวนหมั้นหมายกับสตรีเผ่ามนุษย์หิมะ ด้วยเหตุนี้เขาจึงถูกมองว่าเป็นมนุษย์หิมะครึ่งหนึ่ง ปิงหยวนเป็นผู้ริเริ่มแผนการนี้ ดังนั้นยิ่งฟางหยวนแข็งแกร่งเท่าใด นางก็ยิ่งมีความสุขเท่านั้น

 

ก่อนหน้านี้ฟางหยวนและฟงจิวเก้อครอบบัลลังก์อันดับหนึ่งร่วมกัน แต่หลังจากฟางหยวนแสดงฉากการต่อสู้ที่เขาสามารถเอาชนะจักรพรรดินีอสูรสายฟ้า โลกทั้งใบจึงส่งเสียงโห่ร้องด้วยความอัศจรรย์ใจ

 

ฟงจิวเก้อบุกแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาแต่เขาไม่ได้เผยแพร่ฉากเหตุการณ์ดังกล่าวออกไป ด้วยเหตุนี้ชื่อเสียงของฟางหยวนจึงพุ่งทะยานขึ้นเหนือฟงจิวเก้อและได้รับการยอมรับจากสาธารณชนว่าเป็นผู้อมตะระดับเจ็ดอันดับหนึ่งของโลกใบนี้

 

Reverend Insanity

Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบของวิญญาณซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา! Humans are the spirit of all living beings, Gu are the essence of heaven and earth. With his three views* unrighteous, a demon is reborn. Former days are but an old dream, an identical name is made anew. The story of a time traveller who keeps on being reborn. A unique world that nurtures, refines, and uses Gu. Spring Autumn Cicada, Moonlight Gu, Liquor Worm, Great Qi Golden Light Worm, Slender Black Hair Gu, Hope Gu… And a great demon of the world that acts as his heart pleases! A story of a villain, Fang Yuan who was reborn 500 years into the past with the Spring Autumn Cicada he painstakingly refined. With his profound wisdom, battle and life experiences, he seeks to overcome his foes with skill and wit! Ruthless and amoral, he has no need to hold back as he pursues his ultimate goals. In a world of cruelty where one cultivates using *Gu – magical creatures of the world – Fang Yuan must rise up above all with his own power. Notes : *Gu is a legendary venomous insect, often used in black magic practices. It can take on the form of several insects, usually snakes, crickets, worms etc. *Three views = one’s world view, values of worth, and philosophy on life.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset