Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน – บทที่ 1568 เจ้าหญิงนิทรากระอักเลือด

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1568 เจ้าหญิงนิทรากระอัก เลือด

 

“ข้าต้องการให้เผ่าเมิ้งอธิบายเรื่องนี้เดี๋ยวนี้! มิฉะนั้นแม้ข้าจะเป็นผู้บ่มเพาะสันโดษ ข้าก็จะไม่ ปล่อยเรื่องนี้ไป!” เจ้าหญิงนิทรามองสองผู้อมตะเผ่าเมิ้งอย่างดุเดือด

 

การสูญเสียของนางคือหายนะอย่างแท้จริง สิ่งนี้ทําให้นางโกรธมากและต้องการคําอธิบายโด ยตรงจากเผ่าเมิ้ง

 

นางไม่เหมือนฟางหยวน ฟางหยวนสูญเสียธุรกิจวิญญาณความเด็ดเดี่ยวแต่เขายังมีแหล่งราย ได้อื่นเช่นธุรกิจปลามังกร ธุรกิจแมงมุมหน้าคน ธุรกิจอสรพิษเพลิง และอื่นๆ

 

สําหรับเจ้าหญิงนิทรา การสูญเสียเข็มศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้เหมือนกับการสูญเสียเสาหลักทางการ เงินของนาง แม้นางจะยังมีเม่นศักดิ์สิทธิ์ แต่นางต้องรอให้หนามของมันงอกขึ้นมาใหม่ นางต้องใช้ ทั้งเวลาและเงินทุนจํานวนมหาศาล

 

เจ้าหญิงนิทรามีแผนการระยะยาว ทุกครั้งที่นางเก็บเกี่ยวเข็มศักดิ์สิทธิ์ นางไม่ได้นําทั้งห มดออกมาแต่จะเหลือไว้บางส่วนเพื่อให้พวกมันเติบโตต่อไป

 

อย่างไรก็ตามหัวขโมยผู้นี้กลับนําเข็มศักดิ์สิทธิ์ไปทั้งหมด เขาไม่ได้ทิ้งไว้แม้แต่ชิ้นเดียว

 

เจ้าหญิงนิทราไม่ได้สูญเสียเพียงเข็มศักดิ์สิทธิ์แต่มันยังส่งผลกระทบต่ออนาคตของนางอีกด้วย

 

น่าเสียดายที่ข้าไม่มีวิธีการย้ายเม่นศักดิ์สิทธิ์เข้าสู่มิติช่องว่างของข้า! การออกไปข้างนอก มัน ไม่ปลอดภัยจริงๆ!” หมัดของเจ้าหญิงนิทราสั่นสะท้าน นางรู้สึกอยากฆ่าตัวตาย

 

แต่ในความเป็นจริงแม้นางจะสามารถเคลื่อนย้ายเม่นศักดิ์สิทธิ์ นั่นก็ยังมีปัญหา

 

ประการแรก นางไม่สามารถควบคุมเม่นศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างสมบูรณ์ หากสัตว์อสูรแรกกําเนิดโจ มตีมิติช่องว่างของนาง นางจะประสบกับความสูญเสียครั้งใหญ่

 

ประการที่สอง หากเจ้าหญิงนิทราเผชิญหน้ากับภัยพิบัติ เจตจํานงสวรรค์จะส่งภัยพิบัติที่ทรงพลังลงมาเนื่องจากการคงอยู่ของเม่นศักดิ์สิทธิ์

 

ประการสุดท้าย เม่นศักดิ์สิทธิ์เป็นไพ่ตายของเจ้าหญิงนิทราที่ทําให้นางสา มารถเอาตัวรอดจากเผ่าเมิ้งและเผ่ามู่หลาน หากนางวางมันไว้ในมิตช่องว่างและเกิดการต่อสู้ขึ้น ในอนาคต นางอาจไม่สามารถปล่อยมันออกมาได้ทันเวลา

 

“เจ้าหญิงนิทราโปรดสงบจิตใจลงก่อน” ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่สองของเผ่าเมิ้งเกลี้ยกล่อมซ้ํา แล้วซ้ําอีก

 

“สงบจิตใจงั้นหรือ? ข้าจะสงบจิตใจลงได้อย่างไร? เจ้าบอกว่ามีการฆาตกรรมเกิดขึ้น เมิ้งตู๋้เสีย ชีวิตในสนามรบ ตกลงว่าข้าควรจะเชื่อเผ่าเมิ้งของพวกเจ้าหรือไม่? ข้าปล่อยให้พวกเจ้าเข้ามาข้าง ในและต้อนรับพวกเจ้าอย่างอบอุ่น พวกเจ้าบอกว่าพบหลักฐานแล้วขณะที่ข้าไม่พบสิ่งใดเลยและ อาศัยเพียงลานสืบสวนของพวกเจ้าเท่านั้น ต่อมามีเบาะแสที่ชัดเจนปรากฏขึ้น แต่พวกมันถูกทิ้งไว้ โดยคนร้ายจริงๆงั้นหรือ? เป็นไปได้อย่างไรที่ลานสืบสวนจะไม่พบเบาะแสหลังจากนั้น?”

 

นางกล่าวขณะที่เหงื่ออันเย็นเยียบไหลลงมาจากหน้าผาก

 

นางพยายามสงบจิตใจลงและมองสองผู้อมตะเผ่าเมิ้งอย่างระมัดระวัง

 

จากนั้นนางก็ปลดปล่อยกลิ่นอายของวิญญาณจํานวนมากออกมาและค่อยๆถอยกลับหลังไปอย่างช้าๆ

 

สองผู้อมตะเผ่าเมิ้งทําได้เพียงเผยรอยยิ้มขมขื่นแต่พวกเขาเข้าใจความคิดของเจ้าหญิงนิทรา

 

ตอนนี้เม่นศักดิ์สิทธิ์สูญเสียหนานไปหมดแล้ว พลังการต่อสู้ของมันตกลงสู่จุดต่ําสุด นั่น หมายความว่าพลังการต่อสู้ของเจ้าหญิงนิทราก็ลดลงเช่นกัน ไม่ตายที่นางเคยใช้ ต่อรองกับสองกองกําลังใหญ่หายไปแล้ว เป็นธรรมดาที่เจ้าหญิงนิทราต้องระวังตัวให้มากขึ้น

 

ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่สองของเผ่าเมิ้งถอนหายใจ “เจ้าหญิงนิทรา หากเรื่องนี้เป็นแผนการของ เผ่าเมิ้งของข้าเพื่อขโมยเข็มศักดิ์สิทธิ์จริงๆ เหตุใดเราต้องกลับมากับเจ้า? หากเราวางแผนร้ายต่อ เจ้า เราควรหลอกล่อให้เจ้าติดอยู่ในเขตแดนอมตะ เจ้าไม่คิดเช่นนั้นหรือ?”

 

เจ้าหญิงนิทราเงียบไปชั่วครู่ก่อนจะเงยหน้าขึ้น “นั่นอาจเป็นเพราะเผ่าเมิ้งของพวกเจ้าเป็น ฝ่ายธรรมะและต้องปฏิบัติตามกฏ ดังนั้นพวกเจ้าจึงไม่สามารถทําร้ายข้าได้โดยตรง ใน ทางกลับกัน ข้าได้ทําข้อตกลงกับเผ่าเมิ้งของพวกเจ้าไว้แล้ว ด้วยเหตุนี้พวกเจ้าจึงวางแผนที่จะ ลดพลังการต่อสู้ของข้าก่อน จากนั้นจึงใช้วาทศิลป์เพื่อหลอกลวงข้า!”

 

สองผู้อมตะเผ่าเมิ้งมองหน้ากันด้วยความขมขื่น

 

คํากล่าวของเจ้าหญิงนิทราไม่สมเหตุสมผล การคิดอย่างรวดเร็วของนางทําให้สองผู้อมตะเผ่า เมิ้งรู้สึกหมดคําพูด

 

“อืม!” เจ้าหญิงนิทรากล่าวต่อ “พวกเจ้าคิดว่าข้าไม่รู้กลอุบายของฝ่ายธรรมะงั้นหรือ? หาก เผ่าเมิ้งของพวกเจ้าไม่อธิบายให้ข้าฟัง เช่นนั้นข้าก็จะขอให้โลกตัดสิน!”

 

“หยุด!” ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่สองของเผ่าเมิ้งตะโกนเสียงดัง ใบหน้าของเขากับเฉิงจือใจก ลายเป็นซีดเผือด

 

แต่มันสายไปแล้ว!

 

เจ้าหญิงนิทราเปิดเผยเรื่องนี้ในสวรรค์สีเหลืองโดยตรง นางรีบแจ้งเผ่ามู่หลานผ่าน การติดต่อของนางเช่นกัน

 

นี่ทําให้ความพยายามในการซ่อนเร้นเรื่องการเสียชีวิตของเมิ้งตู๋้กลายเป็นสูญเปล่า พวกเขาไม่ สามารถหาตัวฆาตกรและยังทําให้เจ้าหญิงนิทราสูญเสียเข็มศักดิ์สิทธิ์กระทั่งถูกเปิดเผยเรื่องราวทั้งหมดในที่สาธารณะ

 

“เจ้า…เจ้าเจ้า” เมิ่งจื่อใจชี้นิ้วไปที่เจ้าหญิงนิทราด้วยดวงตาที่แทบจะสามารถพ่นไฟออกมา

 

ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่สองของเผ่าเมิ้งหน้าซีดขณะที่เขามองเจ้าหญิงนิทราด้วยเจตนาสังหาร

 

เจ้าหญิงนิทราแสดงออกอย่างเฉยเมยแต่ภายในกลับลอยเผยรอยยิ้มขมขื่น

 

ว่าการกระทําของนางได้ทําลายความสัมพันธ์อันดีระหว่างนางกับเผ่าเมิ้งเรียบร้อย แล้ว แต่นางไม่มีทางเลือก

 

นางต้องทําสิ่งนี้

 

ข้อตกลงพันธมิตรใดๆล้วนมีโอกาสถูกทําลายโดยฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเสมอ เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ รุนแรงเกินไป เจ้าหญิงนิทราต้องปกป้องตนเอง

 

แต่นางจะปกป้องตนเองได้อย่างไร?

 

แม้เมิ้งตู๋จะตายแต่เผ่าเมิ้งไม่ใช่สิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษระดับเจ็ดเช่นนางจะสามารถต่อต้าน

 

เจ้าหญิงนิทราเชื่อว่าวิธีที่ดีที่สุดคือการหยิบยืมความแข็งแกร่งของผู้อื่นเพื่อสนับสนุนนาง แม้ เผ่าเมิ้งจะมีเจตนาร้าย พวกเขาก็ต้องยับยั้งชั่งใจ ท้ายที่สุดพวกเขาก็เป็นกองกําลังฝ่ายธรรมะ

 

“เจ้าหญิงนิทรา ณ จุดนี้ คํากล่าวใดๆก็ไร้ความหมายอีกต่อไป แต่ข้าขอบอกเจ้าว่าอย่าได้คิด เช่นนั้น พวกเราถูกหลอกใช้โดยคนร้ายตัวจริง!” ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่สองของเผ่าเมิ้งกล่าวด้วยน้ํา เสียงที่หนักแน่น

 

สถานการณ์ชัดเจนมาก

 

แม้สองผู้อมตะเผ่าเมิ้งจะไม่ใช่ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา แต่พวกเขาก็สามารถสรุปได้ว่าผู้ อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ครั้งนี้ชั่วร้ายมาก ยังไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่เขาบังคับให้เมิ้งตู๋ระเบิดตัวเองได้ อย่างไร แต่เขาตั้งใจทิ้งเบาะแสเอาไว้เพื่อหลอกล่อให้ผู้อมตะเผ่าเมิ้งออกไล่ล่าและบังคับให้เจ้าหญิ งนิทราเดินทางออกไปพร้อมกัน สุดท้ายคนร้ายจึงสามารถขโมยเพิ่มศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดไปได้อย่าง สะดวกสบาย

 

“เผ่าเมิ้งของเราจะอธิบายให้ฟัง!” ก่อนจากไปผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่สองของเผ่าเมิ้งทิ้งประโยคนี้เอาไว้

 

เมื่อผู้อมตะเผ่าเมิงจากไป เจ้าหญิงนิทราก็เริ่มจัดตั้งค่ายกลวิญญาณไว้รอบๆเม่นศักดิ์สิทธิ์

 

เผ่าเมิ้งสูญเสียเบาะแสของคนร้าย ดังนั้นพวกเขาจึงทําได้เพียงเดินทางกลับ

 

แม้พวกเขาจะได้รับเบาะแสบางอย่างในเวลานี้ พวกเขาก็จะสงสัยว่ามันเป็นกับดักของศัตรู หรือไม่

 

ภายในลานสืบสวน เมิ้งจือใจกล่าวด้วยสายตาดุร้าย “คนร้ายผู้นี้ช่างเจ้าเล่ห์นัก เรื่องนี้ถูกเปิด เผยแล้ว พวกเราจะตัดสินว่าเจ้าหญิงนิทราเป็นคนร้ายได้หรือไม่?”

 

ไม่ว่าเจ้าหญิงนิทราจะเป็นคนร้ายหรือไม่ หากเผ่าเมิงโจมตีและฆ่านาง พวกเขาจะสามารถ กู้คืนเกียรติยศและแก้ไขวิกฤตให้กลายเป็นชื่อเสียง นอกจากนั้นพวกเขาอาจยังได้รับเม่นศักดิ์สิทธิ์ อีกด้วย

 

ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่สองของเผ่าเมิ้งถอนหายใจ “ข้าก็คิดเรื่องนี้เช่นกัน แต่ประการ แรก ลานสืบสวนไม่สามารถจัดการเจ้าหญิงนิทราและเม่นศักดิ์สิทธิ์ได้ในระยะเวลาสั้นๆ สถานที่ แห่งนี้อยู่ใกล้กับเผ่ามู่หลาน ไม่มีผู้ใดสามารถรับประกันได้ว่าพวกเขาจะไม่เข้ามายุ่ง ประการที่ สอง เรามีข้อตกลงพันธมิตรกับนางและจะได้รับผลกระทบย้อนกลับที่รุนแรงหากเราโจมตี นางสุดท้ายสถานการณ์ของภาคเหนือไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป”

 

ในปัจจุบันถ้ําสวรรค์นิรันดรปรากฏขึ้นต่อหน้าทุกคน เหยากวงได้รับตําแหน่งราชันใต้ขณะที่ ถ้ําสวรรค์นิรันดรกําลังรวบรวมสมาชิกตระกูลฮวงจินเข้าด้วยกัน ในช่วงเวลานี้ พวกเขาต้องอุทิศตนเพื่อภาคเหนือ

 

อย่างไรก็ตามกองกําลังฝ่ายธรรมะของภาคเหนือคือตระกูลฮวงจิน ดังนั้นมันจึงไม่มีความ จําเป็นต้องรวบรวมพวกเขา ในความเป็นจริงแผนการของถ้ําสวรรค์นิรันดรคือการรวบรวมผู้บ่ม เพาะสันโดษให้เข้าร่วมกับฝ่ายธรรมะ

 

อย่างไรก็ตามแผนนี้ถูกขัดขวางเล็กน้อยเมื่อวังสวรรค์ปลอมตัวเป็นฟางหยวนและสังหารผู้บ่ม เพาะสันโดษที่กําลังจะแต่งงานเข้าสู่กองกําลังฝ่ายธรรมะ

 

แต่ถ้ําสวรรค์นิรันดรยังไม่ยอมแพ้ พวกเขายังพยายามดําเนินการตามแผนเดิม

 

ดังนั้นในฐานะสมาชิกตระกูลฮวงจิน หากเผ่าเมิ้งโจมตีเจ้าหญิงนิทราที่เป็นผู้บ่มเพาะสัน โดษ มันจะเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม พวกเขาจะถูกตรวจสอบและลงโทษโดยถ้ําสวรรค์นิรันดร

 

นี่คือสิ่งที่ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่สองของเผ่าเมิ้งกังวลมากที่สุด

 

ขณะที่สองผู้อมตะเผ่าเมิ้งมุ่งหน้ากลับฐานทัพ ฟางหยวนก็รับกลับเช่นกัน

 

เข็มศักดิ์สิทธิ์นอนอย่างเงียบๆอยู่ในมิติช่องว่างของเขา แน่นอนว่าเขาคือคนร้ายที่อยู่เบื้องห ลังเหตุการณ์ทั้งหมด

 

ฟางหยวนรู้จักเผ่าเมิ้งเป็นอย่างดี และด้วยความสําเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญา เขาได้วาง กับดักที่เรียบง่ายแต่มีประสิทธิภาพ

 

เพิ่มเติมด้วยโชคอันทรงพลังของเขา เจ้าหญิงนิทราจึงถูกบังคับให้ออกไปจากหุบเขาของนาง และทําให้แผนการของฟางหยวนประสบความสําเร็จทันที

 

ผู้อมตะทั่วไปอาจไม่สามารถเข้าใกล้เม่นศักดิ์สิทธิ์ แต่ฟางหยวนมีท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่ คุ้นเคยและสามารถปลอมตัวเป็นเจ้าหญิงนิทราได้อย่างสมบูรณ์ กระทั่งเม่นศักดิ์สิทธิ์จะลืมตาที่ นขึ้น มันก็ยังไม่สงสัย

 

สุดท้ายฟางหยวนจึงสามารถถอนหนานทั้งหมดของมันออกมา

 

จากความทรงจําในชีวิตแรกของฟางหยวน เจ้าหญิงนิทราเป็นหนึ่งในผู้อมตะของภาคเหนือที่ ต่อต้านวังสวรรค์ สําหรับเม่นศักดิ์สิทธิ์ ฟางหยวนไม่สนใจสัตว์อสูรแรกกําเนิดตัวนี้

 

มันจะดีกว่าที่เขาจะปล่อยให้เม่นศักดิ์สิทธิ์อยู่ในมือของเจ้าหญิงนิทราต่อไป เมื่อเม่นศักดิ์สิท ธิ์สร้างหนานขึ้นมาอีกครั้ง เขาก็ยังสามารถกลับมาขโมยมันได้อีกหน!

 

ฟางหยวนไม่รู้สึกผิดแม้แต่ตอนที่เขาฆ่าคนโดยไม่จําเป็นต้องกล่าวถึงการลักทรัพย์

 

“เทพปีศาจปล้นสวรรค์ช่างน่ายกย่องนักที่สามารถสร้างเส้นทางแห่งการโจรกรรมขึ้นมาได้ ฟางหยวนได้ลิ้มรสผลประโยชน์อันหอมหวานและต้องมองเส้นทางแห่งการโจรกรรมในมุมใหม่ทั้งหมด

 

ในการต่อสู้กับเมิ้งตู๋ มือปีศาจปล้นวิญญาณสามารถกําหนดชัยชนะได้ทันที โดยปราศจากสี่ งนี้ ฟางหยวนจะไม่สามารถพรากชีวิตของเมิ้งตู๋ได้อย่างง่ายดาย

 

“ก่อนการปรากฏขึ้นของเส้นทางแห่งการโจรกรรม แม้ผู้อมตะจะต่อสู้กันจนถึงแก่ความ ตาย พวกเขาก็ยังไม่สามารถรับผลประโยชน์จากการต่อสู้ แต่ด้วยการคงอยู่ของเส้นทางแห่งกา รโจรกรรม พวกเขาสามารถได้รับทรัพยากรโดยไม่จําเป็นต้องต่อสู้จนถึงชีวิต ค่าใช้จ่ายลดลง ขณะที่ผลประโยชน์เพิ่มขึ้น ช่างยอดเยี่ยมนัก!

 

โชคไม่ดีที่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาสําหรับการขโมยของ ด้านหนึ่งข้าไม่มีวิญญาณอมตะบนเส้นทาง แห่งการโจรกรรมมากนัก ข้ามีเพียงวิญญาณอมตะจอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ระดับเจ็ด เท่านั้น ในทางกลับกัน ข้าได้เปิดเผยมือปีศาจปล้นวิญญาณไปแล้วที่ทะเลทรา ยตะวันตก หากข้าปล้นชิงไปทั่ว อาจมีบางคนสามารถเชื่อมโยงและอนุมานถึงตัวตนที่แท้จริงของ ข้า”

 

“หลังจากรวบรวมทรัพยาการทั้งหมด ข้าจะรีบกลับไปที่แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาและ หลอมรวมวิญญาณอมตะหมื่นตัวตน

 

แม้ฟางหยวนจะมีวิธีขโมยของแต่เขาไม่สามารถใช้มันได้มากนัก

 

หลังจากทั้งหมดการบ่มเพาะจิตวิญญาณของเขาเป็นเรื่องเร่งด่วนมากกว่า

 

การเพิ่มขึ้นของรากฐานบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณหมายความว่าเขาจะสามารถใช้ประโย ชน์จากท่าไม้ตายอมตะราชันภูตได้มากขึ้น พลังการต่อสู้ของเขาจะพุ่งสูงขึ้น การบ่มเพาะจิตวิญ ญาณพึ่งพาวิญญาณความเด็ดเดี่ยวขณะที่วิญญาณความเด็ดเดี่ยวต้องการวัตถุดิบจากทะเลทราย ผีเขียว ดังนั้นตัวตนของซวนปัจินจึงต้องถูกเก็บไว้เป็นความลับ

 

“โอ้ ถูกต้อง ข้าไม่ยอมให้เรื่องนี้ผ่านไปโดยง่าย” ฟางหยวนหัวเราะคิกคักและเริ่มปล่อยข่าวลือ ออกไปในสวรรค์สีเหลือง เขากล่าวว่าเจ้าหญิงนิทรากําลังโกหก นางวางแผนโจมตีเผ่าเมิ้ง เข็มศักดิ์ สิทธิ์ที่หายไปอยู่กับนาง นางกําลังเตรียมตัวเผชิญหน้ากับภัยพิบัติและก้าวเข้าสู่ระดับที่สูงขึ้น

 

ความจริงถูกบดบังมากขึ้นในขณะนี้ นั่นหมายความว่าฟางหยวนจะปลอดภัยมากขึ้นเช่นกัน

 

สําหรับเจ้าหญิงนิทรา เมื่อนางได้ยินข่าวลือเหล่านี้ นางแทบกระอักเลือดออกมาด้วยความ โกรธและวิตกกังวล

 

แน่นอนว่าสิ่งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับฟางหยวน

 

Reverend Insanity

Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบของวิญญาณซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา! Humans are the spirit of all living beings, Gu are the essence of heaven and earth. With his three views* unrighteous, a demon is reborn. Former days are but an old dream, an identical name is made anew. The story of a time traveller who keeps on being reborn. A unique world that nurtures, refines, and uses Gu. Spring Autumn Cicada, Moonlight Gu, Liquor Worm, Great Qi Golden Light Worm, Slender Black Hair Gu, Hope Gu… And a great demon of the world that acts as his heart pleases! A story of a villain, Fang Yuan who was reborn 500 years into the past with the Spring Autumn Cicada he painstakingly refined. With his profound wisdom, battle and life experiences, he seeks to overcome his foes with skill and wit! Ruthless and amoral, he has no need to hold back as he pursues his ultimate goals. In a world of cruelty where one cultivates using *Gu – magical creatures of the world – Fang Yuan must rise up above all with his own power. Notes : *Gu is a legendary venomous insect, often used in black magic practices. It can take on the form of several insects, usually snakes, crickets, worms etc. *Three views = one’s world view, values of worth, and philosophy on life.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset