Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน – บทที่ 1586 ค่ายกลวิญญาณอมตะผลึกน้ำแข็ง

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1586 ค่ายกลวิญญาณอมตะผลึกน้ำแข็ง

 

กายาแห่งความฝันทั้งสองเข้าสู่มิติช่องว่างจักรพรรดิและพักอยู่ที่สวรรค์สีเขียวน้อย

 

มิติช่องว่างจักรพรรดิมีห้าภูมิภาคและเก้าสวรรค์ ท่ามกลางสวรรค์ทั้งเก้า สวรรค์สีเขียวน้อยได้รับการพัฒนาน้อยที่สุด ดังนั้นฟางหยวนจึงใช้มันเป็นสถานที่เก็บอาณาจักรแห่งความฝัน

 

สมาชิกนิกายเงา อิงอู๋เซี่ย ไห่ลั่วหลัน เทพธิดากระต่ายขาว เทพธิดาเมี่ยวหยิน และไป่หนิงปิงฝึกฝนอยู่ในสวรรค์สีเหลือง

 

การต่อสู้ในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยามีระดับสูงเกินไป ศัตรูล้วนมีพลังการต่อสู้ระดับแปด กระทั่งผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ยังต้องอาศัยค่ายกลวิญญาณในการต่อสู้ เมื่อมันถูกทําลาย พวกเขาก็ไม่สามารถสู้ต่อ

 

ในช่วงเวลาสําคัญฟางหยวนอาจต้องพึ่งพาสมาชิกนิกายเงาเพื่อใช้ค่ายกลวิญญาณทองรอบทิศ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้เข้าร่วมในการต่อสู้ครั้งนี้

 

สําหรับร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของฟางหยวน เขาอยู่ทางเหนือสุดของภาคเหนือน้อย

 

ด้วยหนึ่งความคิด ร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลาจัดวางวิญญาณระดับมนุษย์ดวงสุดท้ายและกระตุ้นใช้ค่ายกลวิญญาณอมตะ

 

ค่ายกลวิญญาณนี้ครอบคลุมพื้นที่หลายสิบตารางกิโลเมตร มีวิญญาณระดับมนุษย์ตั้งแต่ระดับหนึ่งถึงระดับห้าจากทุกเส้นทางแต่วิญญาณส่วนใหญ่เป็นวิญญาณบนเส้นทางแห่งน้ำแข็งและหิมะ แกนกลางของมันเป็นวิญญาณอมตะสองดวงบนเส้นทางแห่งน้ำแข็งที่ฟางหยวนขโมยมาจากผู้อมตะเผ่ามนุษย์หิมะ

 

หนึ่งในแกนกลางของค่ายกลวิญญาณนี้ยังมีทรัพยากรอมตะระดับแปดจํานวนสามชิ้นและผลึกแก่นแท้น้ำแข็งอยู่ด้วย

 

ผลึกแก่นแท้น้ำแข็งแต่ละชิ้นมีขนาดเท่าภูเขา

 

ผลึกแก่นแท้น้ำแข็งจะปลดปล่อยมวลความเย็นออกมาอย่างไม่ต่อเนื่อง

 

เมื่ออากาศเย็นจัด ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งน้ำแข็งและหิมะจะถูกสลักไว้รอบๆ มันจะปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมและทําให้สถานที่แห่งนี้เหมาะสมสําหรับการอยู่อาศัยของมนุษย์หิมะและอสูรหิมะ

 

แผนเดิมของฟางหยวนคือใช้ผลึกแก่นแท้น้ำแข็งเพื่อผลิตอสูรหิมะและสร้างแหล่งรายได้ใหม่

 

ก่อนหน้านี้ฟางหยวนได้รับผลึกแก่นแท้น้ำแข็งหนึ่งชิ้นมาจากการหมั้นหมายกับเซี่ยเอ๋อต่อมา เมื่อเขาสังหารหมู่ผู้อมตะเผ่ามนุษย์หิมะ เขาได้รับผลึกแก่นแท้น้ำแข็งเพิ่มอีกสองชิ้น

 

“ด้วยผลึกแก่นแท้น้ำแข็งทั้งสามชิ้น ขาสามารถผลิตอสูรหิมะได้อย่างง่ายดาย”

 

“ข้าจะตั้งชื่อค่ายกลวิญญาณนี้ว่าค่ายกลวิญญาณอมตะผลึกน้ำแข็ง”

 

ร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของฟางหยวนสังเกตอยู่ชั่วครู่ก่อนจะพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ

 

ร่างหลักกับร่างแยกของฟางหยวนสามารถแบ่งปันระดับความสําเร็จ เมื่อร่างหลักของฟางหยวนกลายเป็นปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งค่ายกล ร่างแยกของเขาก็จะบรรลุระดับเดียวกัน

 

สิ่งนี้แตกต่างจากนิกายเงา ในอดีตเพื่อหลอกลวงเจตจํานงสวรรค์ เทพปีศาจจิตวิญญาณจึงไม่แบ่งปันระดับความสําเร็จทุกเส้นทางให้กับร่างแยกของเขาและมุ่งเน้นไปที่เส้นทางสายใดสายหนึ่งเท่านั้น

 

เมื่อสมาชิกนิกายเงาต่อสู้กับวังสวรรค์ พวกเขาจะไม่ถูกค้นพบว่าเป็นร่างแยกของเทพปีศาจจิตวิญญาณ นี่เป็นเหตุผลที่นิกายเงาสามารถส่งสายลับเข้าสู่วังสวรรค์

 

สําหรับร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของฟางหยวน มันง่ายที่จะถูกเปิดเผย แต่ฟางหยวนไม่ต้องการให้ร่างแยกของเขาออกไปข้างนอกและต่อสู้ แรงจูงใจของเขาแตกต่างจากเทพปีศาจจิตวิญญาณ ร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลามีไว้เพื่อใช้แสงแห่งปัญญาเป็นหลัก

 

ในการอนุมานเรื่องต่างๆ จําเป็นต้องมีความสําเร็จบนเส้นทางสายนั้นๆ ด้วยเหตุนี้ฟางหยวนจึงเลือกวิธีที่เหมาะสมที่สุด

 

ค่ายกลวิญญาณอมตะผลึกน้ำแข็งถูกสร้างขึ้นโดยร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลา จุดประสงค์หลักของมันคือการเปลี่ยนสภาพแวดล้อม

 

แน่นอนว่ามันสามารถเฝ้ามองและควบคุมพื้นที่

 

“น่าเสียดายที่ข้าเป็นปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งค่ายกลไม่ใช่ปรมาจารย์เอก ปรมาจารย์สามารถเลียนแบบเส้นทางสายอื่นขณะที่ปรมาจารย์เอกสามารถใช้ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าตามธรรมชาติ หากข้าเป็นปรมาจารย์เอก ข้าไม่จําเป็นต้องพึ่งพาวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งน้ำแข็งเพื่อสร้างค่ายกล ข้าสามารถใช้เพียงผลึกแก่นแท้น้ำแข็งเพียงอย่างเดียว”

 

ด้วยวิธีนี้ฟางหยวนจะสามารถนําวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งน้ำแข็งทั้งสองดวงไปใช้ในงานอื่น

 

แน่นอนว่าฟางหยวนไม่ขาดแคลนวิญญาณอมตะ ดังนั้นมันจึงไม่ใช่ปัญญา แต่โดยทั่วไปผู้อมตะมักมีวิญญาณอมตะอยู่อย่างจํากัด หากพวกเขาใช้วิญญาณอมตะเพื่อสร้างค่ายกลวิญญาณอมตะ พวกเขาจะไม่สามารถนํามันไปใช้ประโยชน์ในด้านอื่น ด้วยเหตุนี้ระดับความสําเร็จจึงมีความสําคัญ

 

หลังจากสร้างค่ายกลวิญญาณอมตะผลึกน้ำแข็ง ร่างแยกของฟางหยวนก็บินจากไป

 

แม้เขาจะไม่ใช่จิตวิญญาณแผ่นดินที่สามารถเคลื่อนย้ายสถานที่ได้ในพริบตา แต่เขายังสามารถบิน

 

ผ่านไปชั่วครู่ร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลาก็ข้ามผ่านระยะทางหลายร้อยลี้ เขาปกปิดตนเองและมองลงไปบนพื้น

 

กลุ่มมนุษย์หิมะหลายพันคนเคลื่อนที่อยู่ที่นั่น

 

ท่ามกลางพวกเขามีทั้งผู้ใช้วิญญาณและมนุษย์หิมะทั่วไป พวกเขาถูกจับมาจากแดนน้ำแข็งของภาคเหนือโดยฟางหยวน

 

ทาสมนุษย์หิมะนับพันชีวิตที่จะทําตามคําสั่งของเจ้านายหาได้ยากในสวรรค์สีเหลือง อย่างไรก็ตามมนุษย์หิมะกลุ่มนี้มีมาตรฐานสูงกว่าทาสมนุษย์หิมะที่ถูกขายในท้องตลาด โดยเฉพาะเมื่อพวกเขามีสัดส่วนของผู้ใช้วิญญาณมากกว่ามนุษย์หิมะธรรมดา ไม่ใช่เรื่องปกติ หากนําพวกเขาไปขายในสวรรค์สีเหลือง ราคาของพวกเขาจะสูงกว่าทาสมนุษย์หิมะหลายสิบเท่า

 

มนุษย์หิมะเหล่านี้พึ่งย้ายมาอยู่ในมิติช่องว่างจักรพรรดิ พวกเขาทั้งหวาดกลัวและไม่คุ้นเคย

 

ตอนนี้ตัวตนระดับสูงของเผ่ากําลังหารือกันอย่างเข้มข้น

 

ฟางหยวนสังหารผู้อมตะเผ่ามนุษย์หิมะและมนุษย์หินในเขตแดนอมตะ ดังนั้นเรื่องนี้จึงถูกซ่อนเอาไว้ เมื่อเขาจับมนุษย์หิมะเหล่านี้ เขาปลอมตัวเป็นผู้อมตะเผ่ามนุษย์หิมะ ด้วยเหตุนี้สมาชิกเผ่ามนุษย์หิมะจึงไม่ทราบความจริง

 

ท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคย

 

ร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของฟางหยวนกลายเป็นปิงเจาและบินลงมาจากท้องฟ้า

 

ด้วยการใช้วิญญาณบางดวง เขาสร้างพายุหิมะขึ้นบนท้องฟ้าและทําให้หิมะโปรยปรายลงมาอย่างช้าๆ

 

“อา…ผู้อมตะของเผ่าเรา!”

 

“คุกเข่าลงเร็วเข้า! คุกเข่าลงและทักทายนายท่านผู้อมตะ!”

 

“ยินดีต้อนรับนายท่านปิงเจา”

 

มนุษย์หิมะทั้งหมดเร่งคุกเข่าลงและแสดงความเคารพต่อฟางหยวน

 

ร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของฟางหยวนกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ไร้ความรู้สึก “โลกกําลังวุ่นวาย แต่เราอยู่ในสวรรค์ ภูเขาทสามมีหมอกอมตะ เผ่ามนุษย์หิมะของเราไม่จําเป็นต้องเกรงกลัวสิ่งใด”

 

เสียงของเขาไม่ตั้งแต่ทุกคนสามารถได้ยินอย่างชัดเจน

 

“ฟิ้ว”

 

สายลมกรรโชกแรงก่อนที่พายุหิมะจะหยุดลง กลุ่มมนุษย์หิมะเงยหน้าขึ้นและมองเห็นเพียงท้องฟ้าที่ว่างเปล่า ขณะเดียวกันร่างของปิงเขาก็เลือนหายไปพร้อมกับสายลม

 

กลุ่มมนุษย์หิมะตกตะลึง หลังจากตระหนักว่ายิงเจาจากไปแล้ว พวกเขาก็ลุกขึ้นอย่างมีความสุขขณะทบทวนคํากล่าวของเขา

 

ผู้นําเผ่ามนุษย์หิมะคิดก่อนกล่าวกับกลุ่มผู้อาวุโส “ก่อนหน้านี้เรามาที่นี้เนื่องจากคําแนะนําที่คลุมเครือของนายท่านปิงเจา ท่านต้องการให้เรามาที่นี่ ตอนนี้ท่านแสดงตัวออกมาอีกครั้งเพื่อบอกเราว่าภูเขาสามลูกที่อยู่ข้างหน้าสามารถอาศัยอยู่ได้อย่างสงบสุขงั้นหรือ?”

 

หลังจากหารือ ทุกคนเห็นด้วยและเริ่มออกเดินทาง พวกเขาไม่ลังเลอีกต่อไป แม้พวกเขาจะมีเด็กและคนชรารวมอยู่ด้วย แต่การเดินทางของพวกเขาก็เร็วกว่าก่อนหน้า

 

ในการสร้างอสูรหิมะไม่จําเป็นต้องใช้ค่ายกลวิญญาณอมตะผลึกน้ำแข็ง เพียงผลึกแก่นแท้น้ำแข็งก็เพียงพอที่จะให้กําเนิดพวกมันแล้ว

 

แต่ร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของฟางหยวนทุ่มเทความพยายามสร้างค่ายกลวิญญาณอมตะผลึกน้ำแข็งขึ้นเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยของเผ่ามนุษย์หิมะ

 

“ด้วยค่ายกลวิญญาณอมตะผลึกน้ำแข็ง อสูรหิมะและมนุษย์หิมะสามารถอาศัยรวมกันอยู่ที่นี่ ข้าจะไม่แยกทั้งสองเผ่าพันธุ์ออกจากกัน ข้าต้องการให้พวกเขาเผชิญหน้าและต่อสู้เพื่อพัฒนาตนเอง”

 

“การดูแลค่ายกลวิญญาณอมตะผลึกน้ำแข็งไม่ใช่ปัญหาสําหรับวิธีการบนเส้นทางอาหาร แต่ผลึกแก่นแท้น้ำแข็งสามชิ้นจะถูกใช้ไปเรื่อยๆและหมดลงในที่สุด”

 

พลังงานความเย็นที่ผลึกแก่นแท้น้ำแข็งปลดปล่อยออกมาประกอบด้วยร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งน้ำแข็งและหิมะ ร่องรอยของพลังงานแห่งเต้าเหล่านี้จะถูกย้ายไปยังสภาพแวดล้อม สุดท้ายผลึกแก่นแท้น้ำแข็งจะสลายไปอย่างสมบูรณ์

 

อย่างไรก็ตามมันไม่ใช่ปัญหาที่จะเกิดขึ้นเร็วๆนี้ ยังมีเวลาอีกนานก่อนที่ผลึกแก่นแท้น้ำแข็งจะสลายไปจนหมด

 

หลังจากจัดการเรื่องเผ่ามนุษย์หิมะ ร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของฟางหยวนก็ไปพบเผ่ามนุษย์หิมะที่ภาคใต้น้อย

 

ท่ามกลางภูมิภาคทั้งห้า ภาคใต้น้อยมีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางแห่งปฐพี่หนาแน่นที่สุด มันเหมาะสมที่จะเป็นที่อยู่อาศัยของเผ่ามนุษย์หิน

 

กระบวนการลงหลักปักฐานของเผ่ามนุษย์หินง่ายมาก ร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลาใช้วิธีเกือบเหมือนในอดีต

 

ขณะที่ร่างแยกบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของฟางหยวนกําลังจัดการมิตช่องว่างจักรพรรดิ ร่างหลักของเขาอยู่ที่มุมหนึ่งของภาคใต้

 

ที่นี่คือร่องลึกใต้พิภพขนาดใหญ่ มันทั้งลึกและมืดมิด แม้จะเป็นเวลากลางวันแต่มันก็ยังถูกปกคลุมด้วยความมืด

 

มั่นเต็มไปด้วยเงาปีศาจเพราะมันก็คือรอยแยกปล้นเงา

 

ย้อนกลับไปข้าเรียนรู้ค่ายกลวิญญาณทองรอบทิศที่นี้ ข้าใช้กายาแห่งความฝันจํานวนมากเพื่อหยุดการบุกโจมตีของฝ่ายธรรมะ…”

 

ฟางหยวนสังเกตเห็นความเคลื่อนไหว “ฝ่ายธรรมะของภาคใต้จัดตั้งค่ายกลวิญญาณอมตะไว้ที่นี่เช่นกันและมันก็ไม่อ่อนแอ

 

“ผู้ใด? นี่เป็นสถานที่สําคัญของฝ่ายธรรมะ ผู้บ่มเพาะสันโดษไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามา ไปก่อนที่จะเสียใจ!” เสียงของผู้อมตะภาคใต้ดังออกมาจากค่ายกลวิญญาณอมตะ

 

“โอ้?” ริมฝีปากของฟางหยวนม้วนตัวขึ้น เจตนาสังหารพุ่งพล่านอยู่ในดวงตาของเขา “ข้าอยากรู้ว่าเจ้าจะทําให้ข้าเสียใจได้อย่างไร?”

 

“บึม!”

 

ด้วยเสียงระเบิดที่ดังสนั่น เขาเริ่มโจมตีค่ายกลวิญญาณอมตะอย่างรุนแรง

 

Reverend Insanity

Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบของวิญญาณซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา! Humans are the spirit of all living beings, Gu are the essence of heaven and earth. With his three views* unrighteous, a demon is reborn. Former days are but an old dream, an identical name is made anew. The story of a time traveller who keeps on being reborn. A unique world that nurtures, refines, and uses Gu. Spring Autumn Cicada, Moonlight Gu, Liquor Worm, Great Qi Golden Light Worm, Slender Black Hair Gu, Hope Gu… And a great demon of the world that acts as his heart pleases! A story of a villain, Fang Yuan who was reborn 500 years into the past with the Spring Autumn Cicada he painstakingly refined. With his profound wisdom, battle and life experiences, he seeks to overcome his foes with skill and wit! Ruthless and amoral, he has no need to hold back as he pursues his ultimate goals. In a world of cruelty where one cultivates using *Gu – magical creatures of the world – Fang Yuan must rise up above all with his own power. Notes : *Gu is a legendary venomous insect, often used in black magic practices. It can take on the form of several insects, usually snakes, crickets, worms etc. *Three views = one’s world view, values of worth, and philosophy on life.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset