หนี้สินที่ไอ้พ่อเฮงซวยไร้ประโยชน์นั้นทิ้งไว้ให้มันค่อนข้างมากโขเลยทีเดียว
แล้วอะไรที่อยู่ในซองของ ฮิโตสึบะ ซากุราโกะซัง ที่มันสามารถหักล้างหนี้ทั้งหมดนั้นได้กันนะ?
ผมค่อนข้างสงสัยเลยล่ะ แต่ทากะซังก็รีบเก็บมันเข้าไปในกระเป๋าเสื้อสูทอย่างไว โดยไม่เปิดเผยว่าอะไรที่อยู่ข้างใน?
มันคงจะเป็นพวก “เช็ค” ที่เราเคยเห็นในหนังหรือในละครอะไรทำนองนั้นรึเปล่านะ?
“แล้วนี่คุณยืนยันว่าของในซองนั่นว่ามันสามารถชดเชยหนี้สินที่ไอ้บัดซบ “โยชิสุมิ โคทาโร่” ติดค้างคุณไว้ เรียบร้อยแล้วสินะคะ?”
โว้ว หล่อนเรียกพ่อผมว่า “ไอ้บัดซบ” ต่อหน้าผมเลยแฮะ
แหงแซะงานนี้เขามันไอ้บัดซบของแท้เลย แถม ฮิโตสึบะ ซากุราโกะซัง ดูจะไม่ลังเลที่จะพูดแบบนั้นออกมาเลย นี่เธอรู้จักเขางั้นหรอ?
“อ่า ได้รับยอดคืนจากที่ชั้นให้ไอ้โง่นั้นยืมไปแล้วล่ะ, และนั่นก็ทำให้ชั้นดีใจกับนายด้วยนะ ยูยะ ตัวนายสามารถใช้ชีวิตอย่างถูกต้องได้หลังจากนี้ไปเเล้วล่ะนะ อย่ามีจุดจบแบบไอ้สันขวานนั่นเด็ดขาดล่ะ
“นะ-แน่นอนครับผมไม่มีทางเป็นแบบพ่อผมเด็ดขาดเลย แต่ว่านะทากะซัง นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันครับ? ผมตามไม่ทันแล้ว”
และในขณะที่ผมกำลังลุกลี้ลุกลนอยู่ ลูกสาวของฮิโตสึบะซังก็เข้ามาจับมือพร้อมกับบีบมือของผม จนผมรู้สึกประหลาดใจและจ้องมองไปยังเธอ
ผมเห็นว่าใบหน้าของเธอส่งรอยยิ้มที่แสนอ่อนโยนมา ซึ่งมันทำให้จิตใจของผมสงบลง แต่ในทางกลับกันหัวใจของผมมันกลับเต้นเร็วขึ้นแทน แล้วจะให้ผมไม่ประหม่าได้ยังไงกันเล่า !
ในเมื่อเทพธิดาที่ตัวผมเฝ้าชื่นชม ได้เข้ามาจับมือพร้อมกับส่งยิ้มมาให้ผม
แต่จะว่าไป นี่มือของฮิโตสึบะซังรู้สึกว่ามันจะเย็นกว่าก่อนหน้านี้ที่เธอมาแตะที่หน้าผากของผมก่อนหน้านี้เลยแฮะ? นอกจากนี้ผมคิดว่านี่เธอตัวสั่นเล็กน้อย แถมเหงื่อออกหน่อยๆด้วยงั้นหรอ?
“โยชิสุมิคุง หลังจากเรื่องทำข้อตกลงนี้จบ ชั้นจะเล่าให้นายฟังเองนะ ฉะนั้นไม่ต้องกังวลนะ นายจะไม่มีเรื่องอะไรเสื่อมเสียหรอกจ้ะ”
“งั้น ปล่อยหนุ่มสาวไว้ตรงนี้ หากคุณไม่ว่าอะไร โอมิจิซัง เราเข้าไปนั่งจิบชาสนทนาเกี่ยวกับเหล่าสมาชิกบุคคลผู้ประสบเป็นเหยื่อของ โยชิสุมิ โคทาโร่ กันดีไหมคะ? แน่นอนว่ามีคนอื่นๆทีอยากจะเข้ามาร่วมวงสนทนานี้ด้วยเช่นกันค่ะ”
“ขอปฏิเสธ เห็นได้ชัดเลยว่าหากชั้นเข้าไปยุ่มย่ามกับพวกเธอมากกว่านี้แล้วล่ะก็ คงจบลงโดยการที่ชั้นต้องเจอเรื่องยุ่งยากแน่ๆ พวกเราจะขอตัวกลับล่ะ เฮ้ย พวกแก กลับโว้ย !”
ทากะซัง ตะโกนเรียกทุกคนที่นั่งรออยู่ในห้องนั่งเล่นออกมา
ถึงแม้ว่าพวกเขาจะใส่แว่นกันแดดกันอยู่ก็ตาม แต่ผมก็สัมผัสได้ว่าพวกเขาก็รู้สึกงงงวยกันอยู่ไม่น้อยเลยล่ะ แต่ถึงอย่างนั้นทากะซังก็ไม่ปริปาก อธิบายอะไรและออกจากบ้านไปกับพวกเขา ก่อนที่เขาจะจากไปเขาก็หันหน้ามาแล้วพูดกับผมว่า
“ยูยะ นี่คือจุดสิ้นสุดความสัมพันธ์ระหว่างชั้นกับนาย และ ชั้นไม่อยากจะเห็นหน้านายอีก นั้นแหละคือเหตุผลที่ชั้นเองก็ขออวยพรให้นายมีอนาคตที่ดีก็แล้วกันนะ”
สิ้นคำพูดทากะซัง ก็เดินโบกมือจากไปแล้วก็หายไปกับแสงไฟสลัวๆของตัวเมือง
เขาคงพยายามทำเท่ห์ แต่หารู้ไม่ว่าผมรู้ที่อยู่ของเขาและหากภรรยาเขา ชวนผมไปกินข้าว พวกเราก็ได้เจอหน้ากันอยู่ดี
“ถ้างั้นแม่ก็ด้วยล่ะนะ ที่เหลือฝากลูกด้วยนะ คาเอเดะ”
“ค่ะ ขอบคุณค่ะคุณแม่”
“ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ คาเอเดะ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ที่สำคัญกว่านั้น โยชิสุมิ ยูยะคุง ขอโทษนะจ้ะ ที่ทำให้เธอกลัวน่ะ ไอ้เวรตะไลนั่น……..ไม่สิ อะแฮ่มๆ พ่อของเธอน่ะมาขอให้ชั้นล้างหนี้ทั้งหมดให้เธอน่ะ ดังนั้นแล้ว อย่าได้กังวลเกี่ยวกับอนาคตของเธอเลยนะ มันจะไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้วก็จริง แต่เธอเองก็ยังสามารถใช้ชีวิตในรั้วโรงเรียนมัธยมได้ตามปกตินะจ้ะ”
ผมล่ะสงสัยจริงๆกับไอ้ที่ว่า “มันจะไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว” เนี่ย?
แต่ก่อนที่ผมจะได้ถามเธอ เธอก็ปลีกตัวออกจากบ้านไปก่อนซะอย่างนั้น
ส่วนผมที่ยังกุมมือกับฮิโตสึบะซังอยู่ แต่จะว่าไปนี่มือเธอมันไม่สั่นแรงไปหน่อยรึไงเนี่ย?
แถมขาของเธอเองก็สั่นเป็นเจ้าเข้า
“ปะ-เป็นอะไรรึเปล่า ฮิโตสึบะซัง? เธอสั่นแรงไปแล้วนะ ดูเหมือนเธอจะไม่โอเคเลยนะ”
“พะ-พูดอะไรน่ะ โยชิสุมิคุง ชะ-ชั้นไม่ได้สั่นซักหน่อยนะ………….. ไม่ใช่ว่า ชั้นกลัวที่จะให้นายเห็นว่าชั้นตัวสั่นแค่ไหนที่ได้ยืนประจันหน้ากับตาลุงน่ากลัวๆ ที่ชั้นกวนประสาทเขาเกินไปจนความกลัวมันพุ่งกลับมาหาชั้นตอนที่ชั้นอยู่กับนายลำพังสองคนหรอกนะ และ ชั้นก็ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองกำลังจะแตกเป็นเสี่ยงๆเลยด้วย !”
เธอพูดอย่างไว พร้อมแสดงสีหน้าที่เย่อหยิ่งของเธอ แต่สายตาของเธอนั้นกวาดไปรอบๆ
ร่างกายของเธอสั่นหยั่งกับว่ามีแผ่นดินไหว
อ่า ชัดเจน ว่าตอนนี้เธอดูไม่โอเคเลยสักนิด แต่ผมก็เข้าใจความรู้สึกเธอนะ เพราะในอดีต ผมก็กลัวทากะซังเหมือนกัน
ผมถอนหายใจและเอามือโอบรอบตัวเธอ
“ฮิโตสึบะซัง เดี๋ยวผมเอาชามาเสิร์ฟให้นะ ทำไมเธอไม่ไปห้องนั่งเล่นแล้วนั่งพักสักหน่อยล่ะ? เธอบอกว่าจะเล่าเรื่องทั้งหมดให้ผมฟังนี่นาจริงไหม?”
“อะ-อื้อ แน่นอนจ้ะ ชั้นจะอธิบายให้เธอฟังทุกอย่างพร้อมกับทำข้อตกลง ตอนนี้หนี้ที่พ่อแม่ของนายทิ้งไว้ให้ก็ถูกชำระไปหมดเเล้ว แต่ว่ามีเงื่อนไขอยู่อย่างนึง..”
ห๊ะ? นั่นมันฟังดู……
“เงื่อนไขที่ว่านั่นก็คือ ‘นายจะต้องไปอาศัยอยู่กับชั้น’ ”
ดะ-เดี๋ยวๆ อะไรนะ? อาศัยอยู่ด้วยกัน? นี่ล้อกันเล่นใช่ไหมเนี่ย?
ถ้าเป็นงั้นจริงผมถูกฆ่าแล้วเอาไปหมกป่าแหงๆ โดยไม่ใช่แค่เฉพาะ พวกผู้ชายทั้งโรงเรียน แต่เป็นพวก Fc ของเธอทั่วประเทศนี้นี่แหละ !
“ไม่เป็นไรนะ เดี๋ยวชั้นจะร่ายรายละเอียดให้นายฟังเองจ้า ถ้างั้นเรารีบไปห้องนั่งเล่นกันเถอะเนอะ ยูยะคุง !”
ฮิโตสึบะซัง เรียกชื่อผมด้วยรอยยิ้มราวกับเทพธิดาซึ่งรอยยิ้มของเธอแม่มโครตน่ารักเสียจน ผมอดไม่ได้ที่รู้สึกปลื้มปิติ และ ให้คะแนนรอยยิ้มนี้ 99 เต็ม 100 คะแนน ซึ่งมันก็น่าเศร้านะที่ตอนนี้ขาเธอมันยั่งสั่นเป็นเจ้าเข้าอยู่มันเลยค่อนข้างทำลายเสน่ห์ของเธอไป
เฮ้อ….ไม่งั้นเธอก็คงจะได้ 100 คะแนนเต็มไปแล้วนะเนี่ย