CTV ได้สิทธิ์ในการถ่ายทอดสดการประชุม
ตอนนี้นักวิชาการลู่ได้อีกรางวัลที่ ICM ซึ่งทาง CTV ไม่อยากพลาดโอกาสโปรโมตที่ดีแบบนี้แน่นอน
ถึงมันจะไม่ใช่รางวัลเหรียญฟิลด์ แต่มันก็เป็นถึงรางวัล ICM เกียรติระดับสูงสุดที่ได้รับการยอมรับจากทั้งชุมชนคณิตศาสตร์
ทำไมพวกเขาจะไม่อยากแบ่งปันช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นนี้กับประเทศล่ะ?
นักข่าวเกือบเขียนว่ารางวัลคาร์ล เฟรดดริค กอสส์นั้นน่าประทับใจมากกว่ารางวัลเหรียญฟิลด์
แต่พูดตามตรงแล้วคาร์ล เฟรดดริค กอสส์มีความสำเร็จเป็นสิบเท่าของจอห์น ชาร์ล ฟิลด์ ไม่ใช่แค่นั้น รางวัลคาร์ล เฟรดดริค กอสส์ยังเป็นรางวัลแรกที่ทำการมอบ
งั้นถ้าคุณคิดแบบนั้น…
ก็อาจจะเถียงได้ว่ารางวัลคาร์ล เฟรดดริค กอสส์นั้นน่าประทับใจมากกว่า?
แต่ถึงแม้ว่า CTV พยายามที่จะโปรโมตพิธีมอบรางวัล มันก็ไม่ได้รับการตอบรับยิ่งใหญ่
มีเหตุผลเพียงแค่ข้อเดียวเท่านั้น
มันเป็นเพราะว่าคนจีนเบื่อที่จะเห็นนักวิชาการลู่ได้รับรางวัล
มันชัดเจนว่าคนที่ CTV ไม่ได้ค้นพบสิ่งนี้
ในอีกมุมหนึ่ง พวกเขาประเมินความยิ่งใหญ่ของรางวัลนี้มากเกินไป
หลี่โม่กำลังกินอาหารกลางวันกับครอบครัว และทีวีได้ฉายวิดีโอศาสตราจารย์ลู่ได้รับรางวัล หลี่โม่คิดว่านี่เป็นโอกาสที่ดีที่จะบอกความลับที่เขาปิดบังมาสองเดือนให้พ่อแม่ฟัง
เมื่อพ่อของเขา หลี่จง ได้ยินว่าลูกชายของเขาไม่ได้ไปเรียนมหาวิทยาลัยเหยียน เขาไม่อาจเชื่อสิ่งที่ตัวเองได้ฟัง เขาต้องยืนยันกับลูกชายว่าลูกชายไม่ได้พูดล้อเล่น
ช่วงเวลาเงียบงันสั้นๆ ผ่านไป
หลังจากนั้น เขาทุบกำปั้นที่โต๊ะและพูดว่า
“ไอ้เด็กเวร! ใครปล่อยให้แกไปสมัครเรียนที่จินหลิงวะ ทำไมไม่บอกชั้นว่าแกจะไปเรียนมหาวิทยาลัยเหยียน?!”
หลี่โม่ปล่อยตะเกียบจากมือและกระโดดขึ้นจากเก้าอี้
“พ่อ ฟังผมก่อน ฟังผมก่อนสิ!”
“ฟังอะไรวะ! ฉันจะเฆี่ยนแกให้หนักจนแกต้องคลานหนีกลับเข้าท้องแม่ของแกไป!”
หลี่โม่รีบพูดขึ้น “อย่าเลยนะพ่อ”
“หุบปาก!”
เมื่อเดือนก่อนหลี่จงปลื้มใจมาก เมื่อเขาได้ทราบว่าลูกชายได้คะแนนสอบคณิตศาสตร์โอลิมปิกเต็ม คนที่ไม่ทราบเรื่องนี้คิดว่าเขาถูกลอตเตอรี่
ในความเห็นของเขา การได้รางวัลเหรียญทองเป็นการการันตีได้เข้าเรียนมหาวิทยาลัยเหยียน!
ในความเป็นจริง นั่นเป็นสิ่งที่ลูกชายบอกกับเขา
แต่ในตอนนี้…
เขาได้ยินว่าลูกชายจะไม่ไปเรียนมหาวิทยาลัยจินหลิงหรือซุยมู่ แต่กลับเป็นมหาวิทยาลัยจินหลิง!
เลือดของเขากำลังเดือด
“ศาสตราจารย์ลู่อยู่ที่มหาวิทยาลัยจินหลิง!”
“ใครสนใจศาสตราจารย์ลู่ล่ะ? คณิตศาสตร์จะช่วยหาเงินหรือไง? แกจะหมกมุ่นกับคณิตศาสตร์ไปตลอดชีวิตหรือยังไง?!”
“ทำไมจะไม่ได้ล่ะ?”
“ไอ้เด็กเวร ฉันจะไปหยิบเข็มขัดมาฟาด!”
“อย่านะ พ่อ ขอร้อง พ่ออาจจะทำลายนักคณิตศาสตร์ในอนาคต!”
“หยุดพูดได้แล้ว! ยืนอยู่นิ่งๆ!”
การถ่ายทอดสดดำเนินต่อไปในทีวี
ลู่โจวได้รับเหรียญรางวัลจากชิเงะฟุมิและนั่งลง จากนั้นสักพักเป็นรางวัลคณิตศาสตร์ชี้อิง-เฉิน เชิร์น รางวัลลีลาวาทิ และเหรียญฟิลด์เป็นลำดับสุดท้าย
แม้ว่ารางวัลพวกนี้ไม่เกี่ยวกับลู่โจวหรือจีน CTV ก็จับภาพจำนวนหนึ่งของผู้ได้รับรางวัลเป็นการให้เกียรติ
เมื่อหลี่โม่เห็นหญิงสาวบนเวที ตาของเขาเป็นประกายระหว่างที่พูด
“พอดูคนนั้นสิ เวร่า พุลยุย เธอเป็นลูกศิษย์ของลู่โจวจากพรินซ์ตัน!”
สิ่งนั้นเหมือนจะได้ผล
พ่อของเขาหันไปมองดูทีวีด้วยความสงสัย
“ลูกศิษย์?”
หลี่จงมองดูหญิงสาวในทีวีและพูดขึ้น “เธอดูสวยดีทีเดียว…เธอดูไม่เหมือนนักคณิตศาสตร์เสียเลย”
หลี่โม่ถอนหายใจอย่างโล่งอกและพูดว่า “นั่นไม่ใช่สิ่งสำคัญ ผู้ได้รับเหรียญรางวัลฟิลด์คนนี้ถูกสอนโดยศาสตราจารย์ลู่!”
หลี่จงพูดสวน “แล้วยังไง?”
หลี่โม่รีบพูด “ศาสตราจารย์ลู่กำลังจะเป็นอาจารย์ของผม!”
หลี่จงทำเสียงฟึดฟัดและพูดต่อ
“โอเค พูดอวดไปเถอะนะ เขาเป็นนักวิชาการ เขาแทบจะไม่ได้สอน แกคิดว่าเขาจะมีเวลามาสอนแกเหรอ?”
หลี่โม่พูดขึ้น “พ่อ! ผมพูดจริงๆ ผมมีอีเมลของเขา ผมโชว์ให้พ่อดูได้นะ”
หลี่จงพบว่าลูกชายของเขาไม่ได้พูดล้อเล่น เขาขมวดคิ้วและวางเข็มขัดลง
“แกแน่ใจหรือว่านักวิชาการลู่จะมาสอนแกด้วยตัวเองเหรอ?”
หลี่โม่พูดว่า “มันไม่สำคัญหรอกว่าเขาจะสอนผมเองหรือเปล่า ผมไม่ได้ต้องการความช่วยเหลือทุกวัน ผมแค่จะแนะนำผมไปทางที่ถูกต้อง ผมสอนตัวเองได้”
“การได้เป็นศิษย์ของนักวิชาการลู่น่าจะเป็นเรื่องค่อนข้างดี” หลี่จงพยักหน้าและพูดว่า “เขาน่าจะช่วยหางานให้แก”
หลี่โม่พูดว่า “พระเจ้า พ่อ ทำไมพ่อถึงสนแต่เรื่องหางานทำ? พ่อคิดเรื่องความฝันของผมไม่ได้บ้างเหรอ? ชีวิตที่ไร้ความฝันจะมีความหมายอะไร?”
หลี่จงพูดว่า “แล้วแกมีความฝันแบบไหนล่ะ?”
หลี่โม่ยิ้มและจ้องมองทีวี
“ใครจะไปสนเหรียญ IMO…
ผมอยากได้เหรียญที่ใหญ่กว่านั้น!”
…
หลังจากรายชื่อผู้ชนะรางวัลเหรียญฟิลด์ถูกประกาศ ฟอรั่มแมทโอเวอร์โฟลว์ก็เต็มไปด้วยโพสต์พูดคุย
ทุกคนรู้ว่าใครจะได้รางวัลคาร์ล เฟรดดริค กอสส์ไป แต่สาวที่ได้รับรางวัลเหรียญฟิลด์คนใหม่ทำให้ทุกคนอึ้ง
ผู้หญิงคนที่สองที่ได้รางวัลเหรียญฟิลด์!
อายุเพียงแค่ 26 ปี!
เมื่อรวมกับหน้าตาสวยงาม เวร่าได้บดบังผู้ได้รางวัลอีกสามคนโดยสิ้นเชิง
[พระเจ้า! อายุ 26 ปี! หรือว่าเธอแค่เฉียดฉิว?]
[ทำไมคณะกรรมการถึงทำแบบนี้ ผมคิดว่ามันไม่ยุติธรรมสำหรับนักวิชาการที่รอมานานกว่าสิบปี]
[ไม่ต้องสงสัยเลยว่าการพิสูจน์ข้อคาดการณ์ของโคแลทซ์จะคู่ควรกับรางวัล และงานหลักของเธอได้ทำให้วิธีการโครงสร้างกลุ่มของศาสตราจารย์ลู่สมบูรณ์ ฉันคิดว่าการให้รางวัลนี้กับเธอไม่มีอะไรผิดปกติ]
[นี่คือสิ่งที่ฉันคิด แต่เธออายุน้อยเกินไป…แล้วเธอก็เป็นผู้หญิง]
[ไอ้งั่งเอ๊ย เป็นผู้หญิงมันผิดตรงไหน?]
[ผมแค่พูดว่าบางทีเธออาจจะทำอะไรบางอย่างเพื่อให้ตัวเองมาถึงจุดนี้…]
ลู่โจว “…”
คนโง่พวกนี้…
คิดแบบนี้คืออะไรกัน?
เขารู้สึกว่าเมื่อมีนักวิชาการจีนเข้าร่วมฟอรั่มแมทโอเวอร์โฟล์วมากขึ้นเรื่อยๆ มันก็ยิ่งจะคล้ายกับเว่ยป๋อมากขึ้นทุกที
แต่เอาจริงๆ แล้ว ลู่โจวเองก็ไม่คิดว่าเวร่าจะได้รับรางวัลนี้
และเขาก็ไม่คิดว่าเธอจะได้รางวัลในปีนี้
สุดท้ายแล้ว อายุ 26 ปีนั้นถือว่าน้อยมาก
แล้วก็ความสำเร็จด้านวิชาการของเธอแทบจะไม่เข้าเกณฑ์รางวัลเหรียญฟิลด์ เธอไม่ได้สร้างผลลัพธ์ที่ล้ำจนสามารถการันตีรางวัลเหรียญฟิลด์ได้อย่างลู่โจว
หลังจากพิธีมอบรางวัลเสร็จสิ้น คณะโอเปร่าและบัลเลต์ที่ดังที่สุดจากเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กเริ่มการแสดง
ถึงแม้ว่าลู่โจวนั่งใกล้กับเวร่า แต่ทั้งสองไม่มีโอกาสได้พูดคุยกัน
หลังจากการแสดงจบลง เขาเห็นว่าเวร่าหายไปแล้ว
โทรศัพท์ของเขาสั่น
เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูและเห็นว่าเสี่ยวไอส่งข้อความมาหา
[เจ้านายอยากให้หาเบอร์ห้องของเธอให้ไหม?]
ลู่โจว: “ไม่เป็นไร ขอบคุณ”
มันฟังดูเหมือนสิ่งที่สตอล์กเกอร์ชอบทำ
เสี่ยวไอ: [แน่ใจนะ? ดูเหมือนว่าเจ้านายอยากจะคุยกับเธอ ( ́◔‸◔’)]
ลู่โจว: “…ไม่ มันโอเค”
เสี่ยวไอ: [ทำไมล่ะ? ・ω・]
“ฉันไม่มีอะไรจะพูด…”
ลู่โจวถอนหายใจและเกาหัวระหว่างที่พูดว่า “บางครั้ง ฉันก็ไม่รู้ว่าต้องทำอะไร”
…………………………………………………
Related