เอาตรงๆ ลู่โจวเหมือนว่าตัวเองอยู่บนรถไฟเหาะ
มันดูเหมือนว่ารถไฟเหาะอยู่ที่จุดสูงสุดแล้วกำลังจะพุ่งลงมา
ลู่โจวลอยอยู่ในความมืดไม่มีที่สิ้นสุดเป็นเวลานาน ทันใดนั้นเขารู้สึกถึงแรงโน้มถ่วงและเห็นแหล่งกำเนิดแสงเบาบาง
เขาค่อยๆ เข้าหาแหล่งกำเนิดแสง
เขาสามารถสัมผัสแหล่งกำเนิดแสดงได้
ลู่โจวครุ่นคิดอยู่ว่าระบบพยายามจะบอกอะไรกับเขา แต่แหล่งกำเนิดแสงนั้นดึงเขาเข้าไปอย่างกะทันหัน ทันใดนั้นทุกอย่างชัดเจนขึ้น
ทั้งการสัมผัส การได้กลิ่น การรับรส…
ประสาทสัมผัสทั้งหมดของเขาถูกกระตุ้นถึงขีดสุด
ความรู้สึกลมพัดแรงทำให้ลู่โจวหรี่ตา และเขาพยายามอยากมากที่จะลืมตาขึ้น…
เขารู้สึกตกใจกับสิ่งที่เขาเห็น “ที่นี่ที่ไหน?!”
ทุกตารางนิ้วของร่างกายลู่โจวช็อกไปหมด เขาไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน
มันเป็นสถานที่แปลกประหลาด
ดินแดนไร้ที่สิ้นสุด ป่าคอนกรีต
หอคอยมินิมอลสีดำดูชั่วร้าย พื้นดินทุกตารางนิ้วถูกคลุมด้วยตึกโลหะสูงระฟ้า และถนนตัดตรงเหมือนไม้บรรทัด
จากมุมมองภายนอก ที่แห่งนี้น่าจะเป็นเมือง
แต่ลู่โจวไม่สัมผัสถึงสิ่งมีชีวิตได้เลย
มันเหมือนกับว่าไม่มีใครเคยอยู่อาศัยที่นี่มาก่อน
ถ้าเขาต้องใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ เขาคงเป็นบ้าได้ในหนึ่งสัปดาห์
มีเหตุผลเพียงแค่ข้อเดียวเท่านั้น
ที่แห่งนี้เป็นเหมือนสุสาน
ดูเหมือนว่าตึกสูงเป็นหลุมศพของแต่ละคน
ด้วยเหตุผลบางประการ สิ่งนี้ทำให้ลู่โจวนึกถึงนิยายเรื่อง ‘รากฐาน’ โดยอสิมอฟ คนส่วนใหญ่อาศัยอยู่ใต้ดินและทำงานในคอกสี่เหลี่ยม พื้นผิวถูกปกคลุมด้วยโรงงานอุตสาหกรรม และโลกไม่ใช่ดาวเคราะห์อีกต่อไป แต่มันกลับกลายเป็นโรงงานขนาดยักษ์
มันไม่ชัดเจนว่าโลกของอสิมอฟนั้นมินิมอลและมีโครงสร้างแบบนี้ แต่ฉากตรงหน้าลู่โจวดูเหมือนภาพจากภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับโลกที่ล่มสลาย..
ลู่โจวไม่มีเวลาให้คิดเยอะ
แรงโน้มถ่วงดึงเขาจากท้องฟ้าตกสู่พื้นดิน
ลู่โจวหลับตาลงและเตรียมตัวแหลกเละคาพื้น
แต่มีแรงต้านแผ่วเบาทำให้เขาลดความเร็วลงในขณะที่เขาเข้าใกล้พื้น
ตาของลู่โจวเบิกกว้างระหว่างที่เขาพูดด้วยความตื่นเต้น
“ต้านแรงโน้มถ่วง?”
“เดี๋ยว ไม่นะ…มันไม่ใช่ความจริง นี่ฉันกำลังพูดอะไรอยู่”
ที่นี่เป็นโลกของจิตใต้สำนึกเขา
ถึงลู่โจวไม่รู้ว่าทำไมระบบทำแบบนี้ มันไม่ได้เปลี่ยนความจริงว่าร่างกายของเขาอยู่บนเตียงนุ่มที่โรงแรมโครินเทียในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
ดังนั้นไม่มีอะไรที่นี่เป็นเรื่องจริง
มันเหมือนกับพวกเกม VR ในภาพยนตร์ไซไฟ เกม VR ที่เป็นไปตามกฎฟิสิกส์น่าจะรู้สึกประหลาด
เท้าของเขาแตะพื้นในที่สุด
ลู่โจวใจเย็นลงเล็กน้อยและมองดูรอบๆ
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้รู้สึกถึงสเกลของวัตถุที่คนสร้างนี้
เขาไม่รู้ว่าตึกพวกนี้ทำจากวัตถุอะไร พวกมันเรียบและสะท้อนแสง โดยไม่มีร่องรอยของความผิดพลาดเลย
“ดีไซน์ประหลาดจัง…”
ลู่โจวเอื้อมมือไปแตะผนังสีดำและทันใดนั้นเขารู้สึกตกใจ
ถึงเขาจะไม่ควรตัดสินวัสดุโดยแค่การสัมผัส สัญชาตญาณของเขาบอกว่าความเนี้ยบระดับนี้ไม่สามารถทำได้ด้วยเทคโนโลยีอุตสาหกรรมสมัยใหม่
เทคโนโลยีนี้ล้ำหน้าเทคโนโลยีปัจจุบันไปหลายร้อยปี
มันไม่ใช่ส่วนที่ชวนอึ้งที่สุด
ภายในสภาวะแรงโน้มถ่วง โครงสร้างเล็กนี้สามารถรักษารูปทรงได้ ถึงมันจะสูงขยายหลายกิโลเมตร…โครงสร้างวิศวกรรมประเภทนี้ไม่มีทางที่จะอยู่บนโลกได้
ตอนนี้ลู่โจวเริ่มรู้สึกว่าสิ่งนี้อาจจะไม่ได้อยู่ในจิตสำนึกของเขา มันอาจจะเป็นสถานที่จริงๆ
สิ่งนี้ที่อยู่ในช่องเก็บของถูกเรียกว่า ‘ความทรงจำวอยด์’ ไม่ใช่ ‘เกมวอยด์’ หรือ ‘ภาพยนตร์วอยด์’ ถึงระบบจะป่วนเขาหลายครั้ง แต่ระบบเองก็ไม่เคยปั่นหัวเขา…
มือของเขาไล้ไปตามพื้นผิวเรียบคล้ายกระจก ทันใดนั้นดูเหมือนว่าเขาไปสัมผัสเข้ากับสวิตช์ล่องหน เมื่อกำแพงโลหะขนาดใหญ่เคลื่อนตัว เปิดเป็นทางเดินออกมาต่อหน้า
ลู่โจวนิ่งไปชั่วครู่
เขานึกได้ว่าไม่มีอะไรจะทำร้ายร่างกายเขาได้ เขาจึงสูดหายใจเข้าลึกและเดินเข้าไปอย่างกล้าหาญ
ตึกมีพื้นที่กว้างขวาง
เส้นโลหะสีดำรูปทรงคล้ายใบดาบเชื่อมเพดานไว้กับพื้น
มีจุดสีน้ำเงินประกายแสงบนเส้นโลหะสีดำ
มันเป็นแหล่งความสว่างเดียวในตึกมืดนี้
ภาพตรงหน้าเขาทำให้ลู่โจวนึกถึงเซิร์ฟเวอร์คอมพิวเตอร์ และจู่ๆ เขานึกอะไรบางอย่างขึ้นได้
บางที…
ตึกนี้คือคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่มีชิปอยู่ข้างใน
‘เมือง’ นี้อาจจะเป็นวงจรไฟฟ้ากับตัวประมวลผลนับไม่ถ้วนบน ‘ดาวเคราะห์’ คอมพิวเตอร์…
ตอนที่เขาบินตกมาจากท้องฟ้า เขาไม่สามารถเห็นขอบเขตของเมืองนี้
“…ฉันไม่อยากคิดเลยว่าข้อมูลประเภทไหนที่ต้องใช้คอมพิวเตอร์ใหญ่ขนาดนี้ในการประมวลผล”
ลู่โจวเดินผ่านแถวใบมีดอย่างระมัดระวัง
ผ่านไปไม่นานเขาเดินเข้าไปถึงห้องส่วนกลางของตึก
ห้องทรงกลมนี้มีเพดานต่ำกว่าทางเข้ามาก มันสูงเพียงไม่กี่เมตร ตรงกลางห้องมีสระน้ำสีน้ำเงินประกายแสง
ลู่โจวเดินไปดูและมองลงที่สระน้ำ เขาเห็นว่าแสงสีน้ำเงินถูกส่องมาจากด้านล่างของสระ มีควันลอยออกมาจากขอบสระน้ำ เขาสามารถบอกได้ว่าสระนี้ตื้นมาก แต่หมอกหนาทำให้เขารู้สึกขนลุก
สัญชาตญาณบอกเขาว่าสระน้ำอาจจะเต็มไปด้วยฮีเลียมเหลวอุณหภูมิต่ำมาก
สำหรับการใช้งานของมัน…
มันน่าจะใช้ลดความร้อนของ ‘ดาบ’ หลายพันเล่มที่อยู่ในตึก
ลู่โจวยืนแถวขอบสระน้ำและเดินไปรอบๆ เขาอยากดูดีไซน์ทางวิศวกรรมและทันใดนั้นเขาสังเกตเห็นบางอย่างที่อยู่ใต้สระน้ำ
“…มีอะไรถูกซ่อนไว้ข้างใต้งั้นเหรอ?”
ลู๋โจวขมวดคิ้วและเอี้ยวตัวลง เขาเห็นลูกบาศก์อยู่ใต้สระ
ทันใดนั้นเขาก็มีความคิดเพี้ยนๆ เกิดขึ้น
‘ควรหยิบไปสักชิ้นไหม?’
ความอยากรู้เอาชนะเขาสำเร็จ
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในหัวของเขา ถึงมันจะเจ็บ แต่มันจะไม่ส่งผลต่อร่างกายจริงๆ
ลู่โจวสูดลมหายใจเข้าลึกแล้วตัดสินใจ เขาใช้ความกล้าทั้งหมดแล้วเอื้อมมือลงไปในฮีเลียมเหลวเย็น
ทันทีที่มือเขาสัมผัสกับของเหลว สระน้ำดูเหมือนว่ามีชีวิตขึ้นมา มันเริ่มขยับอย่างบ้าคลั่ง
“นี่มันซูเปอร์ลิควิด!”
ฮีเลียมเหลวที่ระเหยขึ้นทันทีกลายเป็นชั้นไอระเหยเนื่องจากไลเดนฟรอสต์เอฟเฟคต์ซึ่งปกป้องเขาจากความเย็น แต่เอฟเฟคต์นี้อยู่ไม่นานเท่าไร
ลู่โจวใช้พลังงานทั้งหมดเพื่อทนกับความเย็นที่เจ็บปวดระหว่างที่เขาเอื้อมมือไปหยิบลูกบาศก์จากสระน้ำ
“โอ๊ย!!!”
ลูกบาศก์พ้นออกมาจากของเหลว
ลู่โจวนั่งลงที่พื้น เขามองดูน้ำที่สั่นกระเพื่อมและลูกบาศก์ในมือที่แข็งเย็น เมื่อดูด้วยไฟริบหรี่จากเพดาน เขาเห็นคร่าวๆ ได้ว่าลูกบาศก์นี้มีสีทองและมีพื้นผิวเรียบคล้ายกับกระจก
เขาสามารถได้ยินเสียงหึ่งมาจากลูกบาศก์
ลู่โจวนึกออกได้ในที่สุดว่าเคยเห็นสิ่งนี้จากที่ไหนมาก่อน
แต่ครั้งล่าสุดที่เขาเห็นมันไม่ใช่สีทอง มันเป็นสีดำ…
ทันใดนั้นเขารู้สึกถึงแรงดึงดูดอย่างมหาศาล
มันเหมือนกับว่าทุกอย่างรอบตัวเขากำลังโดนดูดเข้าหลุมดำ…
“ถึงเวลาต้องไปแล้วใช่ไหม?”
ลูกบาศก์สีทองแตกกระจายเป็นล้านชิ้น ในขณะที่ร่างของเขาถูกดูดเข้าหลุมดำ
………………………………………….
Related